คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายเกรียงศักดิ์ เวที
วุฒาจารย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่  14  มิถุนายน  2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราช
กฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางยุพา ลีลาพฤทธิ์
ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยา  10  ชช  ด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์และการ
ใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข  ย้อนหลังไปตั้งแต่
วันที่ 17 พฤษภาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกา
ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนางสายพิณ
ตั้งครัชต์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์  10  วช  ด้านเวชกรรม  สาขารังสีวิทยา  กลุ่มบริการเฉพาะทาง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548  ซึ่งเป็น
วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ
การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนางสายพิณ
ตั้งครัชต์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์  10  วช  ด้านเวชกรรม  สาขารังสีวิทยา  กลุ่มบริการเฉพาะทาง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548  ซึ่งเป็น
วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ
การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (ฝ่าย
สาธารณสุข การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ของบประมาณหมวดเงินอุดหนุนทั่วไป ในการดำเนินงานผลิตพยาบาล จำนวน  1,500  คนต่อปี  เป็นระยะ
เวลา  10  ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2558 เป็นเงินทั้งสิ้น  1,728  ล้านบาท  (ค่าใช้จ่ายเท่ากับ 28,800
บาทต่อคนต่อปี)  และให้สำนักงาน ก.พ. รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ  เกี่ยวกับการ
สนับสนุนงบประมาณเพื่อผลิตบุคลากรทางด้านพยาบาลตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เกิดจากการขาด
แคลนหากไม่มีสิ่งจูงใจให้บุคลากรที่จบการศึกษาเหล่านี้อยู่ในประเทศต่อไป ก็จะเป็นการสูญเสียทั้งกำลังคน
และงบประมาณ  สำนักงาน ก.พ. ควรหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ที่จะกำหนดอัตรา
ข้าราชการไว้รองรับบุคลากรกลุ่มนี้ด้วย  ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป  ในการนี้  คณะรัฐมนตรีเห็นว่า  การ
ผลิตบุคลากรทางด้านสาธารณสุขของประเทศควรจะครอบคลุมทั้งด้านความต้องการ  (Demand)  และการ
ผลิต  (Supply)  ตลอดจนการจูงใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในสาขาต่าง  ๆ  โดยให้กระทรวง
สาธารณสุขเป็นเจ้าภาพพิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง   รวมไปถึงส่วนราชการอื่นของรัฐที่มีหน่วย
งานด้านสาธารณสุขในสังกัด และสถาบันการศึกษาของเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากำหนดแผนและแนว
ทางการผลิตบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้เหมาะสม และครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ได้แก่  ด้านความต้อง
การของบุคลากร    โดยพิจารณาถึงความต้องการเพื่อการปฏิบัติงานภายในประเทศทั้งในหน่วยงานของรัฐ
และของเอกชน   รวมตลอดถึงเพื่อการไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ   และเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเฉพาะ
ที่เกี่ยวข้องซึ่งกำลังขยายตัว เช่น การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยและคนชรา  เป็นต้น  และด้านการผลิตบุคลา
กร    โดยพิจารณาถึงความสามารถในการผลิตของทั้งหน่วยงานภาครัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  และ
หน่วยงานอื่น  ๆ   รวมตลอดถึงการผลิตบุคลากรของสถาบันการศึกษาเอกชน  ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ครอบ
คลุมถึงประเด็นการกำหนดคุณภาพมาตรฐาน    และการรับรองหลักสูตรและบุคลากรที่ผ่านการศึกษาจาก
สถาบันดังกล่าวด้วย สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่าย ควรพิจารณาสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐซึ่งมีทั้งใน
ส่วนที่ต้องใช้จากงบประมาณทั้งหมด การให้ทุนการศึกษาเต็มจำนวน หรือเพียงบางส่วน ตามความต้องการ
ของรัฐ หรือความสมัครใจและความสามารถในการจ่ายของผู้เรียน

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอโครงการกระจายแพทย์
หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน  โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) พิจารณาทบทวนในรายละเอียดอีก
ครั้งหนึ่งร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานหรือสถาบันของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยว
ข้องกับการผลิตและการใช้บุคลากรทางการแพทย์ โดยให้หารือรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียร
ไทย) ด้วย เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการและ
ความสามารถในการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ในภาพรวมของประเทศทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน แล้ว
นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะ
รัฐมนตรี  คณะที่ 5 (ฝ่ายสาธารณสุข การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ในการประชุมครั้ง
ที่ 4/2548 วันที่  18  กรกฎาคม  2548 ที่เห็นว่า การกำหนดเงื่อนไขการชดใช้ทุนสำหรับแพทย์ที่สำเร็จ
การศึกษาจากโครงการนี้  ควรปรับเงื่อนไขการใช้ชดใช้ทุนให้เหมาะสมและเข้มงวดมากยิ่งขึ้น  โดยกำหนด
ให้ต้องปฏิบัติงานชดใช้ทุนเป็นระยะเวลา 12 ปี หรือ  2  เท่าของระยะเวลาการศึกษาตลอดหลักสูตร  และ
กรณีผิดสัญญาต้องชดใช้เป็นเงิน  2  เท่า ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อคนที่รัฐสนับสนุนตลอดโครงการ ฯ และ
ความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการผลิตบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเติม ควรเปิดให้สถาบันการศึกษา
เอกชนที่มีความพร้อมสามารถผลิตบุคลากรได้โดยตรง  โดยภาครัฐควรพิจารณากำหนดรายละเอียดหลัก
เกณฑ์  ตลอดจนมาตรฐานขั้นต่ำ  และการรับรองคุณภาพของการดำเนินการ หรือของบุคลากรที่จบการ
ศึกษา ให้สถาบันการศึกษาเอกชนได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  และในการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา เข้า
ร่วมโครงการ ฯ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการผลิตแพทย์เพื่อให้ปฏิบัติงานในภูมิลำเนา  ควรมีการทดสอบ
ทัศนคติและความตั้งใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ฯ   ในการที่จะต้องกลับไปปฏิบัติงานในภูมิลำเนาด้วยความ
เสียสละและอุทิศทุ่มเท เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย   นอกจากนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ
รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า  ควรจะพิจารณาจ้างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่เกษียณ
อายุราชการไปแล้ว แต่ยังมีสุขภาพแข็งแรง และมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นแพทย์อาวุโสหรือที่ปรึกษา
อาวุโสให้แก่แพทย์ในโรงพยาบาล  หรือสถาบันทางการแพทย์อื่น ๆ  หรือไม่ประการใด  ไปประกอบการ
พิจารณาด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ
กรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายประเวศ วะสี นายสมชัย ฤชุพันธุ์
นายวิจารณ์ พานิช นายเกษม วัฒนชัย นายดำรงค์ บุญยืน นายภิรมย์ กมลรัตนกุล และนายสุวิทย์วิบุลผล
ประเสริฐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (18 กรกฎาคม 2548) เป็นต้นไป  ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 
แห่งพราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการคณะ
กรรมการบริหาร และศูนย์อำนวยการบริหารยุทธศาสตร์เมืองไทยแข็งแรงตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ "รวม
พลังสร้างสุขภาพ เพื่อคนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง" ดังนี้ คณะกรรมการอำนวยการยุทธศาสตร์เมือง
ไทยแข็งแรง (คอม.) มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์เมืองไทย
แข็งแรง  (คบม.)   มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข   เป็นประธานกรรมการ   และศูนย์อำนวยการ
บริหารยุทธศาสตร์เมืองไทยแข็งแรง  ในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข   (ศอม.)   มีปลัดกระทรวง
สาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ ทั้งนี้ ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการและเลขานุการ และ
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรองปลัด
กระทรวงวัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมายเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามความเห็นของกระทรวงศึก
ษาธิการ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ
กรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข จำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายประเวศ วะสี  นายสมชัย ฤชุพันธุ์
นายวิจารณ์ พานิช นายเกษม วัฒนชัย นายดำรงค์ บุญยืน นายภิรมย์ กมลรัตนกุล และนายสุวิทย์ วิบุลผล
ประเสริฐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (18 กรกฎาคม 2548) เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 
แห่งพราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเบี้ย
ประชุมและประโยชน์ตอบแทนประธานกรรมการ  รองประธานกรรมการ  กรรมการ  และอนุกรรมการสถาบัน
วิจัยระบบสาธารณสุข  พ.ศ. ....  และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ
รัฐมนตรี คณะที่ 3 ตรวจพิจารณา โดยให้ร่างระเบียบ ฯ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1  กรกฎาคม  2548  เป็นต้น
ไป  และให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีการออกระเบียบในเรื่องนี้เป็น "ระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี" ไม่น่ากระทำได้ เนื่องจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขมิได้มีสถานะเป็นส่วนราชการ แต่
โดยที่พระราชบัญญัติสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พ.ศ. 2535   ได้มีบทบัญญัติเฉพาะในมาตรา  10  กำหนด
ให้การได้รับเบี้ยประชุมเป็นไปตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด จึงอาจปรับเปลี่ยนชื่อระเบียบให้ถูกต้องและ
เหมาะสมยิ่งขึ้น  รวมทั้งมีข้อสังเกตกรณีการมีผลใช้บังคับของร่างระเบียบ ฯ การได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์
ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการฯ การได้รับเบี้ยประชุมของประธานอนุกรรมการ ฯ
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน  ไปพิจารณาด้วย  แล้วดำเนินการต่อไปได้  และให้สถาบันวิจัยระบบ
สาธารณสุขรับข้อสังเกตตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง  ฯ   ในการกำหนดวงเงินรวมค่าใช้
จ่ายด้านบุคลากรไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินอุดหนุนประจำปี ไปดำเนินการต่อไปด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูประบบ
สุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อเสนอของสำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญ
คือ  ขยายการทำงานของคณะกรรมการและสำนักงานออกไปอีก 2 ปี  (ถึง 8 สิงหาคม 2550)  และให้ส่งคณะ
กรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  3  ซึ่งมีพันตำรวจตรี ยงยุทธ
สาระสมบัติ  เป็นประธานกรรมการตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้  และอนุมัติในหลักการให้สำนักงบ
ประมาณจัดสรรงบประมาณหมวดอุดหนุนทั่วไปให้ตามความจำเป็น  โดยให้สำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพแห่ง
ชาติขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ
อุดหนุนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 จำนวน  29,733,350  บาท  เพื่อพัฒนาองค์กรวิชาชีพ  3  องค์กร
ได้แก่ แพทยสภา ทันตแพทยสภา  และสภาเภสัชกรรม  ทั้งนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปประสานกับองค์
กรวิชาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้รวมถึงสภาการพยาบาลด้วยเพื่อจัดทำข้อมูลรายรับรายจ่ายและความต้อง
การการสนับสนุน เพื่อให้องค์กรวิชาชีพดังกล่าวสามารถดำเนินบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรที่
เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านจริยธรรม และในด้านความรู้ความสามารถในวิชาชีพ แล้วขอตกลง
ในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม และสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
และดำเนินการต่อไปได้

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายทนงค์  วัฒน
ประสาน ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัยกรรม โรงพยาบาล
วชิระภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ
การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดให้การขออนุญาตผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย  การขอต่ออายุใบอนุญาต
ผลิตอาหาร และการขออนุญาตย้ายสถานที่ผลิตหรือสถานที่เก็บอาหารต้องผ่านการตรวจประเมินเกี่ยว
กับวิธีการผลิต เครื่องมือ  เครื่องใช้ในการผลิตและการเก็บรักษาอาหารตามหลักเกณฑ์ที่เลขาธิการคณะ
กรรมการอาหารและยาประกาศกำหนด รวมทั้งกำหนดให้ยื่นคำขอดังกล่าวในสถานที่อื่นได้ตามที่เลขาธิ
การคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกำหนด และให้ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ 5 ชั้น  โรงพยาบาลเพชรบูรณ์  (งานส่วนที่เหลือ)  จำนวน
1 หลัง ได้ในวงเงิน 89,790,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546
จำนวน  31,936,000  บาท ที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและผูกพันงบประมาณราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550  อีกจำนวน 57,854,000 บาท  เนื่องจากรายการก่อสร้าง
ดังกล่าวมีวงเงินค่าก่อสร้างสำหรับงานส่วนที่เหลือและจะจัดจ้างใหม่  จำนวน  89,790,000  บาท  รวมกับวง
เงินค่างานที่ผู้รับจ้างเดิมรับไปแล้วจำนวน  11,328,500  บาท  รวมค่าก่อสร้างทั้งสิ้น  101,118,500  บาท
ซึ่งอยู่ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่มีระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเกินกว่าที่คณะรัฐมนตรี
อนุมัติไว้  จึงให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูก
พันข้ามปีงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาว่าจ้าง  รวมทั้งดำเนินการเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อ
สร้างอาคารดังกล่าวในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากผู้รับจ้างรายเดิมตามสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างตามสัญญาด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกัน
สุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547-31 มีนาคม 2548 ในภาพรวมสรุปได้ดัง
นี้ ความครอบคลุมการมีหลักประกันสุขภาพ พบว่าประชาชนไทยมีหลักประกันสุขภาพ รวมทั้งสิ้น 60.21 ล้านคน
จากประชากรทั้งประเทศ  62.99  ล้านบาท  ส่วนการเข้าถึงบริการสุขภาพ  ประชาชนผู้มีสิทธิประกันสุขภาพถ้วน
หน้าใช้บริการผู้ป่วยนอก  23.93  ล้านครั้ง  และใช้บริการผู้ป่วยใน  1.628  ล้านคน  รวมทั้งการให้บริการบนพื้น
ฐานการจัดบริการให้กับประชาชน  มีการบริการส่งเสริมด้านทันตกรรม 0.79 ล้านครั้ง  การรักษาทางทันตกรรม
2.937 ล้านครั้ง การวางแผนครอบครัว 0.275 ล้านครั้ง การเยี่ยมบ้าน 0.221 ล้านครอบครัว สำหรับการพัฒนา
ระบบเพื่อการเข้าถึง ในปี พ.ศ. 2548 มีการพัฒนาระบบต่าง ๆ เช่น การพัฒนาศูนย์ประสานการส่งต่อผู้ป่วย การ
พัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ  เป็นต้น  ด้านสถานการณ์คุณภาพบริการ ประกอบด้วย ด้านการจัดการเรื่อง
ร้องเรียนเกี่ยวกับงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  มีการรับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 17,198 เรื่อง  ดำเนินการ
แล้วเสร็จ 16,574 เรื่อง ด้านการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล  มีจำนวนโรงพยาบาลผ่านการรับรองว่ามีระบบการ
จัดการความเสี่ยงในโรงพยาบาล 601 แห่ง  ผ่านการรับรองว่ามีการประกันคุณภาพและการพัฒนาคุณภาพอย่าง
ต่อเนื่อง 32 แห่ง และการผ่านรับรองคุณภาพมาตรฐาน Hospital Accreditation (HA) 113 แห่ง  และการจ่ายเงิน
ช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้รับบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547-31 มีนาคม 2548 จำนวน 79 ราย เป็นเงิน 5.795
ล้านบาท และจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547-31 มีนาคม 2548 มีจำนวนผู้
ให้บริการที่ร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ฯ 38 ราย  เข้าหลักเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ฯ  29  ราย  และได้มีการ
จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 0.77 ล้านบาท ในส่วนของการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ได้แก่  การ
โอนเงินไปยังหน่วยบริการทางการแพทย์และการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้กับหน่วยบริการ นอก
จากนี้ ยังมีงานสำคัญ ๆ  ของงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้แก่ โครงการ "U Volunteer" การปฏิรูปคุณ
ภาพบริการ การจัดตั้งสำนักงานสาขาภูมิภาค และการเข้าถึงบริการในกรณีอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวง
สาธารณสุขเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรปในโครงการ Health Care Reform 
Project โดยสหภาพยุโรป  (The European Commission-EU)  ได้ให้เงินช่วยเหลือโครงการดังกล่าว เป็น
จำนวน EUR 5,000,000

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายพรเทพ
ศิริวนารังสรรค์  ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช  (ด้านสาธารณสุข)  กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2547  และนางศรีวรรณา พูล
สรรพสิทธิ์  ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช  (ด้านเวชกรรม)  กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง  สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2548  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่ง
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายพรเทพ
ศิริวนารังสรรค์  ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช  (ด้านสาธารณสุข)  กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2547  และนางศรีวรรณา พูล
สรรพสิทธิ์  ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช  (ด้านเวชกรรม)  กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง  สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2548  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่ง
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548