สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับรายงานสถานการณ์อุทก
ภัยในพื้นที่ภาคเหนือ สรุปได้ดังนี้ ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มใน  5  จังหวัด
ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย ลำปาง น่าน และแพร่ ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนใน 23 อำเภอ
129 ตำบล 749 หมู่บ้าน 39,460 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 72 คน สูญหาย  56  คน  โดยจังหวัดที่ได้รับความเสีย
หายมากที่สุดคือ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีผู้เสียชีวิต 63 คน มีน้ำท่วมในพื้นที่กว้างรวม 5 อำเภอ มีการตัดกระแสไฟฟ้า
ทั้งจังหวัด ทำให้ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ซึ่งมีผู้ป่วยใน 540 คน  โรงพยาบาลท่าปลา 30 คน  และ
โรงพยาบาลลับแล 34 คน ขาดกระแสไฟฟ้า ขาดน้ำมัน และเครื่องปั่นไฟ ขาดอาหารในการประกอบเลี้ยงผู้ป่วย
และเจ้าหน้าที่  นั้น   เบื้องต้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ได้มีบัญชาให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา  รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข) สั่งการให้โรงพยาบาลพุทธ
ชินราช จังหวัดพิษณุโลก  เป็นแม่ข่ายในการสนับสนุนเครื่องปั่นไฟ  น้ำมันเชื้อเพลิง  อาหารผู้ป่วย  และยาตำรา
หลวง พร้อมทั้งรับส่งต่อผู้ป่วยจากจังหวัดอุตรดิตถ์โดยสำรองเตียงไว้ จำนวน  100  เตียง  นอกจากนี้ ยังได้มอบ
หมายให้หัวหน้าสำนักตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าทีมจากส่วนกลางลงพื้นที่เพื่อสำรวจความ
เสียหาย ให้การสนับสนุนและประสานงานระหว่างพื้นที่ประสบภัยกับส่วนกลางและรายงานสถานการณ์ให้ส่วน
กลางทราบเป็นระยะ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน ห้องสมุด 1
หลัง โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดตาก จากที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบประมาณ
รายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549  จำนวน 46,272,800 บาท  เป็น 52,700,000 บาท  และขยายระยะเวลาก่อหนี้
ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2549  รายการก่อสร้างอาคาร
เรียน ห้องสมุด 1 หลัง และอาคารหอพัก 1 หลัง  โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  จังหวัดตาก  จาก
เดิมตั้งแต่ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550  ขยายเป็นปีงบประมาณ  พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551  โดยรายละ
เอียดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียน ห้องสมุด
1 หลัง และอาคารหอพัก 1 หลัง โรงพยาบาลพิจิตร  จังหวัดพิจิตร  จากเดิมที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549  จำนวน 46,272,800 บาท  เป็นจำนวน  49,300,000  บาท  รวมทั้งให้
ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจากเดิมตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อัตราการฆ่าตัวตายปี 
2548 เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญจะต้องแก้ไขและป้องกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง  โดยอาศัย
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อไม่ให้อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการจัดหา antitoxin สำหรับ
รักษาผู้ป่วยโรค botulism ในเหตุการณ์อาหารเป็นพิษจากหน่อไม้ปี๊ปที่จังหวัดน่าน  โดยกรมควบคุมโรคได้ดำเนิน
การประสานจัดหา antitoxin ได้รวม 93 หลอด  ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก National Laboratory Center ประเทศ
อังกฤษ จำนวน 20 หลอด จากศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา จำนวน 50 หลอด  จากกระทรวงสาธารณ
สุข แรงงานและสวัสดิการสังคมของประเทศญี่ปุ่น จำนวน  23 หลอด  และที่กรมควบคุมโรคจัดซื้อเอง จำนวน 10
หลอด ทั้งนี้ ได้มีการให้ยาดังกล่าวแก่ผู้ป่วย รวม  90  ราย ประมาณ  5  ถึง  7  วัน หลังจากได้รับพิษจากหน่อไม้
ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการดีขึ้น และหายดีเรียบร้อยทุกคน  สำหรับสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป คือ จัดตั้งคลังสำรองยาที่
จำเป็นแต่หาได้ยากและมีคลังสำรองยาดังกล่าวในระดับประเทศ (national strategic stock pile) รวมทั้งประสาน
คลังสำรองยาในระดับภูมิภาคร่วมกับองค์การอนามัยโลก   จัดทำฐานข้อมูลให้ทุกประเทศทราบถึงการเบิกยาดัง
กล่าว และจัดระบบการติดต่อสื่อสารภายใน และเครือข่ายกับต่างประเทศ  รวมถึงสถานทูตไทยในประเทศที่เกี่ยว
ข้อง  โดยมีหมายเลขของผู้ประสานงานที่สำคัญของประเทศและของสถานทูตต่าง ๆ  เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะ
สามารถประสานงานโดยตรงได้ทันที

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรี
เอเปคว่าด้วยการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ (APEC  Ministerial  Meeting  of  Avian  and  
Influenza Pandemics) เมื่อวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2549 ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  โดย
ที่ประชุม ฯ ได้มีการอนุมัติแผนปฏิบัติการเอเปค เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัด
นกและการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ (APEC Action Plan on the Prevention  and  Response  Avian  and
Influenza  Pandemics) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคหรือ
การดำเนินงานความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจอื่นๆ เพื่อพัฒนามาตรการการป้องกันเตรียมความพร้อมและผล
กระทบจากไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น โดยแผนปฏิบัติการฯ ได้ประกาศเจตจำนงของ
สมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคที่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน 5 ด้าน คือ ความร่วมมือและการประสานงานพหุ
ภาคีต่อปัญหาไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่  (Multi-sectoral  cooperation  and  coordination  on
Avian  and  Pandemic  Influenza)  การสร้างแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศและแนวทางการปฏิบัติร่วมในการสื่อสาร
ความเสี่ยง  (Establishing best  practices  and  common  approaches  to  risk  communication)  การลด
ผลกระทบทางลบจากไข้หวัดนกต่อการเกษตรและการค้า  (Mitigating negative effects of  avian  influenza
on agriculture and trade)  การดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจ  การค้า  รวมทั้ง
งานบริการสาธารณะที่จำเป็นได้อย่างต่อเนื่อง  (Working  with  the  private  sector  to  help  ensure  con
tinuity of business, trade and essential  services)  และการสร้างเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับ
นานาชาติ  (Strengthening  regional  and  international  cooperation)  ทั้งนี้ ที่ประชุม ฯ  ได้เสนอให้คณะ
ทำงานเฉพาะกิจด้านสาธารณสุขเอเปค  (APEC Health Task  Force :  APEC  HTF)   รายงานความก้าวหน้า
ของการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค (SOM)  ในปี พ.ศ. 2550

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับ
สูง  โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2547  งบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักย
ภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ  เพื่อจัดหารถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง จำนวน  31  คัน ใน
วงเงิน 62 ล้านบาท ได้ดำเนินการจัดซื้อ จำนวน 8 ครั้ง ทำการจัดซื้อแยกเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง 2 ชิ้น เป็นการ
เฉพาะ ใช้งบประมาณคันละ 1,758,163.79 บาท ได้รับการส่งมอบเครื่องมือแพทย์ระดับสูงครบถ้วนแล้ว  และ
ได้ทำการส่งมอบรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง จำนวน  31  คัน  ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วน  สามารถใช้งานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เมื่อ
วันที่ 8 พฤษภาคม 2549

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายปราชญ์ บุณย
วงศ์วิโรจน์ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง  (นักบริหาร 11)  สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2549 ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม
คณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

         คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายทวีเกียรติ
บุญยไพศาลเจริญ ให้ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ 10 วช) สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2548  ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้
ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการกายอุปกรณ์เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ  ตามพระราชบัญญัติ
การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ  กำหนดให้สาขาการกายอุปกรณ์เป็นสาขา
การประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 5(5) และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน
การต่อไปได้ โดยรับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้กำหนดคำนิยาม  "การกายอุปกรณ์"  รวม
ทั้งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการกายอุปกรณ์ให้มีความชัดเจน  เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสาขา
วิชาชีพอื่น และการกำหนดหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการดังกล่าวตามร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ ให้กำหนดหลัก
เกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานสากลโดยสามารถนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับประเทศไทย ไปประกอบการพิจารณา
ด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางสุนันท์ จำรูญ 
ให้ดำรงตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์การแพทย์  10  ชช  ด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ชีววิทยา)
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2549  ซึ่งเป็นที่มีคุณสมบัติครบ
ถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอโครงประชุมวิชาการนานาชาติประจำปี 
รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล   และอนุมัติในหลักการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการจัดการประชุมวิชาการนานา
ชาติประจำปี  รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล  ในปี พ.ศ. 2550  และปีต่อ ๆ  ไปเป็นเงินปีละประมาณ 2 ล้านดอล
ลาร์สหรัฐ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขประสานในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป  ทั้งนี้  ให้รับความ
เห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้ประสานกับหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง  เช่น  สำนักงานกองทุน
สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพ  และร่วมสนับสนุนงบประมาณอีกทางหนึ่ง   รวมทั้ง
ความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
และเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และของประเทศไทย ควรจัดประชุมเป็น
ประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยมหิดลต้องวาง
แผนเตรียมการในด้านต่าง ๆ เพื่อให้การจัดการประชุมแต่ละครั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสามารถจูงใจนัก
วิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม และให้หน่วยงานหรือองค์กร
ระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดประชุม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

            สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการประชุมเรื่องไข้
หวัดนก ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) กับ Dr.David Nabarro,
UN System Influenza Coordinator  เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2549  โดยผลการประชุมได้มีการหารือถึงการ
แก้ปัญหาโรคไข้หวัดนกตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ โดย Dr.Nabarro และคณะ เห็นว่ารัฐบาลไทยควร
ติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะไม่มีการระบาดในสัตว์ปีกหรือมีผู้ป่วย พร้อมทั้งสนับสนุนส่ง
เสริมการศึกษาหาความรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาหลักวิทยาศาสตร์  เนื่องจากเป็นโรคใหม่  และมีการเปลี่ยน
แปลงรวดเร็ว  และขยายการประสานงานในระดับประเทศและในภูมิภาค  ตลอดจนเร่งรัดการเตรียมความ
พร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ (Influenza  Pandemic) โดยควรมีการซ้อมทั้งในระดับ
ประเทศ และระดับจังหวัด และส่งเสริมเรื่อง Biosecurity ในด้านปศุสัตว์

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการประชุมการเตรียมความพร้อม
แก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก และการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่  ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนอกและใน
กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2549 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำหรับสาระสำคัญ
ของการประชุม ฯ  ได้มีการหารือถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนกและความเสี่ยงของการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัด
ใหญ่โดยสถานการณ์โรคไข้หวัดนกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547  จนถึงปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วยใน 9 ประเทศ  196  ราย
เสียชีวิต 110 ราย เฉพาะ 3 เดือนแรกของปีนี้มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่จาก 7 ประเทศ รวม 52 ราย และคาดว่า
จะมีรายงานผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นตลอดปีนี้ ในส่วนของประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยรวม 22 ราย เสียชีวิต  14  ราย
และตั้งแต่ต้นปีนี้มีรายงานผู้ป่วยปอดบวมหรือไข้หวัดใหญ่ที่ทำการสอบสวนรวม 904 ราย จาก 63 จังหวัด  จน
ถึงขณะนี้ยังไม่มีพบผู้ป่วยไข้หวัดนกรายใหม่แต่ยังไม่สามารถวางใจได้  ส่วนความก้าวหน้าในการดำเนินงานป้อง
กันควบคุมโรคไข้หวัดนก   และการเตรียมพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่   จะดำเนินการตามแผน
ยุทธศาสตร์ชาติใน 6 ด้านคือ การเฝ้าระวังควบคุมโรค การบริการทางการแพทย์  การช่วยเหลือชุมชน  การจัด
หาเวชภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์  การให้สุขศึกษาและประชาสัมพันธ์  การบูรณาการด้านบริหารจัดการ   และการ
เตรียมซ้อมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับจังหวัด ระดับส่วนกลาง และระดับชาติ ใน
การนี้  ประธานที่ประชุมได้มีข้อสั่งการ เช่น ให้กรมควบคุมโรคพิจารณามาตรการที่ด่านกรมควบคุมโรคตามท่า
อากาศยานนานาชาติ สำหรับผู้เดินทางที่มาจากเขตการระบาดของโรคไข้หวัดนก/ไข้หวัดใหญ่ให้องค์การเภสัช
กรรม และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ติดตามการดื้อยาต้านไวรัส   กับให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
และกรมการแพทย์รับผิดชอบการจัดสร้างห้องแยกโรค และขอความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการในการเฝ้า
ระวังโรคและการให้สุขศึกษาในโรงเรียน เป็นต้น

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้าน
การแพทย์และสาธารณสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2549  ระหว่างวันที่ 7-16 เมษายน 2549  รวม
10  วัน  โดยให้บริการ EMS (เฉพาะอุบัติเหตุจราจรอย่างเดียว) ในระดับต่าง ๆ ดังนี้ ให้บริการผู้บาดเจ็บขั้น
สูง (ALS) จำนวน 1,715 ครั้ง ให้บริการผู้บาดเจ็บขั้นพื้นฐาน (BLS) จำนวน 2,579 ครั้ง และให้บริการการ
แพทย์ฉุกเฉินระดับตำบล (FR) จำนวน  571  ครั้ง หรือ  57  ครั้ง/วัน  สำหรับข้อมูลผู้บาดเจ็บรุนแรงในโรง
พยาบาลขนาดใหญ่ (ระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติ (Injury Surveillance-IS) ประกอบด้วยข้อมูลการ
บาดเจ็บรุนแรงในทุกกลุ่มอายุ มีผู้บาดเจ็บรุนแรงที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (จากการรักษาเบื้อง
ต้น ณ ห้องฉุกเฉิน) พบว่าตายประมาณ 2.7% (นับเฉพาะผู้ป่วยที่รอดชีวิตเมื่อมาถึงโรงพยาบาล) ยังมีผู้บาด
เจ็บอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องเข้ารับการรักษาต่อในหอผู้ป่วย ซึ่งยังไม่ทราบผลการรักษา  และข้อมูลการบาดเจ็บ
รุนแรงในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีจำนวนเด็กบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุจราจรที่มารับการรักษาของฉุกเฉิน
ของโรงพยาบาล 15%  โดยเป็นอุบัติเหตุจากการใช้รถจักรยานยนต์  (ผู้ขับขี่และโดยสาร)  จำนวน 547 คน
(61 คน/วัน)

             สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับนโยบายการป้องกันและแก้
ไขปัญหาเอดส์ในเยาวชนระดับอุดมศึกษา ตามมติที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2549 โดย
มีประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้ ประเด็นที่ 1 การเข้าถึงถุงยางอนามัย ส่วนใหญ่เห็นควรให้มีจุดบริการถุงยางอนามัย
ในสถานศึกษา  แต่บางส่วนมีเห็นว่าขัดต่อวัฒนธรรมที่ดีงาม และกระทบต่อความรู้สึกของผู้ปกครอง  ประเด็นที่ 2
การเรียนการสอนหลักสูตรเพศศึกษา ควรบรรจุหลักสูตรเพศศึกษา/ทักษะชีวิตในการเรียนการสอนในระดับอุดม
ศึกษ าหรือสอดแทรกการสอนเพศศึกษาทุกรายวิชาที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม  ประเด็นที่  3  การรณรงค์ให้
ความรู้ สร้างเสริมแนวคิด/สร้างค่านิยมในการป้องกันเอสด์ในโอกาสต่าง ๆ เช่น  วันรับน้อง/วันปฐมนิเทศ วันรับ
ปริญญา เป็นต้น และประเด็นที่ 4 หน่วยงาน และผู้บริหาร  ต้องเห็นความสำคัญในการพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้
เรื่องเอดส์ และให้ความร่วมมือสร้างเครือข่าย บ้าน วัด โรงเรียน หอพักนักศึกษาและผู้ปกครอง

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งว่าที่ร้อยตรีฉลอง
ทองแผ่ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน  10  ชช  (ด้านแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข)
กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2549
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์  ทั้งนี้  ตามมาตรา  7  แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่อง
และการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข  เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุข
เสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 โดยมีสาระ
สำคัญคือ  เพิ่มการยอมรับความเท่าเทียมกันสำหรับประเทศคู่ค้าที่มีมาตรการที่ทำให้มั่นใจว่าอาหารนั้นมี
ความปลอดภัยตามมาตรการที่ประเทศไทยถือปฏิบัติ    และตัดการกำหนดให้อาหารทุรุ่นต้องมีหนังสือรับ
รอง โดยในการนำเข้าให้เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาสามารถใช้ดุลยพินิจในการสุ่มตรวจ  และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  และดำเนินการต่อไปได้  โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของ
กระทรวงเกษตรที่เห็นควรมีความชัดเจนในการประเมินอาหารว่าชนิดใดมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากขึ้นอยู่กับ
การประเมินความเสี่ยงของอันตรายแต่ละชนิดในอาหาร  และข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ  ไป
ประกอบการพิจารณาด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายชาตรี บานชื่น เป็นกรรมการอื่น
ในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนนายวิชัย เทียนถาวร ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี
มีมติ  (11 เมษายน 2549)  เป็นต้นไป  ทั้งนี้  ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ
การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการจัดตั้งสถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาตินเรนทรเป็นองค์การมหาชน  แต่โดยที่การจัดตั้งองค์การมหาชนต้องนำเสนอ ก.พ.ร. พิจารณา
ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี   ประกอบกับเรื่องดังกล่าวมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา เช่น โครงสร้างอัตรากำลัง
และงบประมาณ  รวมทั้งความในร่างพระราชกฤษฎีกาบางมาตรา เช่น ร่างมาตรา 33  อาจไม่สอดคล้องกับข้อ
กฎหมาย และพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การมหาชนอื่น  จึงให้สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมผู้แทนหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องโดยให้เชิญผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาร่วมพิจารณา  และให้นำความเห็นของส่วน
ราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา
ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60
ปี ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเป็นเรื่องนโยบายที่มีผลผูกพันคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จึงให้กระทรวงสาธารณสุข
นำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณา