ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 85 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 1681 - 1700 จากข้อมูลทั้งหมด 3506 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1681 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนโรงพยาบาลชลประทาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ไปเป็นโรงพยาบาลชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | สธ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาโอน
โรงพยาบาลชลประทาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ไปเป็นโรงพยาบาลชล ประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ โอนกิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้ สิทธิ ภาระผูกพัน ข้าราชการ ลูกจ้าง ตำแหน่ง และอัตรากำลัง ของโรงพยาบาลชลประทาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ไปเป็นโรงพยาบาล ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กระทรวงศึกษาธิการ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการโอนโรงพยาบาลชลประทานดังกล่าว ไม่ ควรกระทบต่อการให้บริการประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปพิจารณา ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอเปลี่ยนประเภทตำแหน่งข้าราช การพลเรือนสามัญในโรงพยาบาลชลประทาน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณ สุข ที่โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบัน อุดมศึกษา โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2542 และมติคณะกรรมการ กำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจ โดยคำนึงถึงขวัญกำลังใจของแพทย์และบุคลากรที่ได้รับผลกระทบในเรื่อง ต่าง ๆ เช่น เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องโอนโรงพยาบาล สิทธิประโยชน์และค่าตอบแทน เป็นต้น เนื่องจาก ได้มีการโอนโรงพยาบาลจากสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาครั้งหนึ่งแล้ว และโดยที่แพทย์ และทันต แพทย์ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศยังมีจำนวนน้อย ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายประกันสุข ภาพถ้วนหน้า และกระทรวงแรงงานมีนโยบายให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมใช้สิทธิในการรักษาฟัน ด้วย ดังนั้น จึงให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ รับไปพิจารณาแนวทางการผลิตแพทย์และ ทันตแพทย์ให้มีจำนวนเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลประชาชนด้วย |
|||||||||||||||||||||
1682 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาตินเรนทร (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... และขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี | สธ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการจัดตั้งสถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาตินเรนทรเป็นองค์การมหาชน แต่โดยที่การจัดตั้งองค์การมหาชนต้องนำเสนอ ก.พ.ร. พิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี ประกอบกับเรื่องดังกล่าวมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา เช่น โครงสร้างอัตรากำลัง และงบประมาณ รวมทั้งความในร่างพระราชกฤษฎีกาบางมาตรา เช่น ร่างมาตรา 33 อาจไม่สอดคล้องกับข้อ กฎหมาย และพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การมหาชนอื่น จึงให้สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมผู้แทนหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องโดยให้เชิญผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาร่วมพิจารณา และให้นำความเห็นของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเป็นเรื่องนโยบายที่มีผลผูกพันคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จึงให้กระทรวงสาธารณสุข นำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณา |
|||||||||||||||||||||
1683 | กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รับแต่งตั้งให้เป็น WHO Collaborating Center for Strengthening Quality System in Health Laboratory | สธ | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า สำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาระบบคุณภาพและรับรองห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้รับการพิจารณา จากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) แต่งตั้งให้เป็นศูนย์กลางความร่วมมือ WHO Collaborat ing Center for Strengthening Quality System in HealthLaboratory เป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 มกรา คม 2549 เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
1684 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสุชาติ หาญไชยพิบูลย์กุล) | สธ | 16/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายสุชาติ หาญไชย
พิบูลย์กุล ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช ด้านเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบัน ประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติ ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||
1685 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. .... | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่าง กฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอจดทะเบียนสิทธิ การสอบสวนและการพิจารณาวินิจฉัย การออกหนังสือ สำคัญแสดงการจดทะเบียนสิทธิ รวมทั้งการอนุญาตและเพิกถอนการอนุญาตให้ใช้สิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์ แผนไทย และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และรับทราบผลการ พิจารณาร่างกฎกระทรวง ฯ ของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ในประเด็นการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญากรุงปารีส (Paris Convention) โดยเห็นว่า อนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม (Paris Conven tion for the Protection of Industrial Property) เป็นการกำหนดหลักการเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาห กรรมซึ่งเป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นใหม่ ประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีจะต้องถือปฏิบัติ ทรัพย์สินอุตสาหกรรมที่ได้รับการคุ้ม ครองตามอนุสัญญากรุงปารีส ซึ่งได้แก่ สิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร การออกแบบอุตสาหกรรม เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการแข่งขันอันไม่เป็นธรรม สำหรับร่างกฎกระทรวง ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เป็นการจดทะเบียนการเป็นเจ้าของภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นทรัพย์สินอุตสาหกรรม ตามที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา ฯ นอกจากนี้ อนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการคุ้ม ครองทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมมุ่งเน้นการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม (industrial property) ในเรื่องสิทธิ บัตร อนุสิทธิบัตร แบบอุตสาหกรรม เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้า และสิ่งบ่งชี้แหล่ง กำเนิด ส่วนร่างกฎกระทรวง ฯ มีวัตถุประสงค์ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข และการดำเนินการ ขอจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการ แพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542
|
|||||||||||||||||||||
1686 | ผลการดำเนินการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารในช่วงเทศกาลปีใหม่ | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการดำเนินการประชา
สัมพันธ์เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในการบริโภค อาหารแก่ผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคตระหนักและระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาทิเช่น การแนะนำ ผู้บริโภคให้อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ โดยสังเกตวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้น และได้ติดตั้งตู้รับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพถึงชุมชน ซึ่งดำเนินการแล้วจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ตลาด กลางแฮปปี้แลนด์ ตลาดเยาวราช ตลาดใหม่บางแค ตลาดมีนบุรี และตลาดแม่สาย จังหวัดเชียงราย
|
|||||||||||||||||||||
1687 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" รอบ 3 เดือน ปีงบประมาณ 2549 (1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 48) | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรายงานความก้าวหน้าผลการ
ดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" รอบ 3 เดือน ปีงบประมาณ 2549 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2548) สรุปดังนี้ ด้านความครอบคลุมการมีหลักประกันสุขภาพสามารถดำเนิน การให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันครอบคลุมประชาชนกว่า 60.61 ล้านคน หน่วยบริการ คู่สัญญาปี พ.ศ. 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,114 แห่ง แยกเป็นหน่วยบริการสังกัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ภาครัฐ/เอกชน จำนวน 961 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่นกว่า 183 แห่ง หน่วยบริการรับส่งต่อในระดับตติยภูมิใน การบริการรับส่งต่อผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคหัวใจ และอุบัติเหตุ/เจ็บป่วยฉุกเฉินกว่า 78 ศูนย์ เข้าร่วมให้บริการ ทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ประชาชน โดยมีการกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้านการส่ง เสริมคุณภาพและมาตรฐานหน่วยบริการ ได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานโรงพยาบาลใน ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2548 และในปี พ.ศ. 2549 ยังมีโครง การอื่น ๆ ที่สำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาข้อเสนอกลไกการพัฒนาและรับรองคุณภาพหน่วยบริการปฐมภูมิ การ จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศและวิเคราะห์ข้อมูลด้านคุณภาพ เป็นต้น สำหรับความคืบหน้าในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญในปี พ.ศ. 2549 อาทิ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบริการผู้ให้บริการ การดำเนินงานของศูนย์ ประสานงานส่งต่อผู้ป่วย และศูนย์ประสานงานส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุ/เจ็บป่วยฉุกเฉินในการช่วยประสานงานหา เตียงให้ผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นอกจากนั้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ระบบหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้ายังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบบริการ ตติยภูมิเฉพาะด้าน การจัดทำแผนแม่บทและพัฒนาเครื่องมือในการพัฒนาควบคุมกำกับคุณภาพโรงพยาบาล การตรวจประเมินคุณภาพการดูแลผู้ป่วยใน ตลอดจนการดำเนินงานร่วมกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และ สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพในการร่วมกันพัฒนาและบริหารระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราช การซึ่งมีการร่วมมือเป็นอย่างดี
|
|||||||||||||||||||||
1688 | การศึกษาการดื้อยา Oseltamivir (Tamiflu) ของไวรัสไข้หวัดนก A/H5N1 ในผู้ป่วยที่แยกได้ในประเทศไทย 2547 - 2548 | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
เกี่ยวกับสรุปผลการศึกษาวิจัยการดื้อยาของเชื้อไข้หวัดนก โดยได้นำเชื้อไข้หวัดนกที่แยกได้จากผู้ป่วยในประเทศ ไทย จำนวน10 สายพันธุ์ มาศึกษาการดื้อยาต่อ Oseltamivir ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมโดยวิธี Microneutra lization และ Enzyme linked immunosorbent assay ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานและพัฒนาโดย Dr.Robert G.Webster และคณะจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการศึกษาไม่พบการดื้อยาของเชื้อไข้หวัดนก A/H5N1 กับยา Oseltamivir หรือ Tamiflu ที่ได้รับจากองค์การเภสัชกรรม
|
|||||||||||||||||||||
1689 | รายงานสถานการณ์โรคและมาตรการการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก และ โรคมือ เท้า ปาก | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับสถานการณ์โรคและมาตร
การการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก และโรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot and Mouth Disease) โดยสถาน การณ์โรคไข้หวัดนกในคน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 มีนาคม 2549 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือปอด บวมอยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก จาก 61 จังหวัด จำนวน 695 ราย และจากการสอบสวนโรคไม่พบผู้ ป่วยยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดนกรายใหม่ สำหรับมาตรการป้องกัน ได้มีการจัดสัมมนาวิชาการโรคไข้หวัดใหญ่ ปี พ.ศ. 2549 เรื่อ Influenza Inter-Pandemic Preparedness Plan Episode III ณ จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มพูนเรื่องไข้หวัดนกทั้งด้านสถานการณ์และความก้าวหน้าทางวิชาการ รวมทั้งนโยบายเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot and Mouth Disease) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 1 มีนาคม 2549 มีรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 147 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตโดยพบที่ จังหวัดลำปาง และจังหวัดน่าน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดทำการเฝ้า ระวังโรคดังกล่าวอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องเป็นประจำแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
1690 | การดำเนินงานด้านการป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน | สธ | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับสรุปผลการดำเนินงาน
ด้านการป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน โดยได้จัดประชุมเพื่อระดมสมองนักวิชาการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน กับกลุ่มเยาวชนจากหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 27 คน เพื่อทบทวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนที่ผ่านมา และวางแนวทางการทำงานเกี่ยวกับเยาวชนในอนาคตข้างหน้า ส่วนสถานการณ์ปัญหาเอดส์ในกลุ่มเยาวชนมี การแพร่ระบาดไปสู่ครอบครัวและวัฒนธรรมทางเพศของเยาวชนเปลี่ยนไป เช่น ค่านิยมการมีกิ๊ก เยาวชนมอง ดูว่าเป็นเรื่องเท่ห์ สื่อลามกที่แพร่สู่เยาวชนง่ายขึ้นและมากขึ้น โดยผู้ใหญ่เข้าไปไม่ถึงและตามไม่ทัน ซึ่งสอด คล้องกับข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่สำรวจพบว่า มีการรับรู้เรื่องเพศจาก สื่อลามกมากขึ้น สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่าประชากรกลุ่มอายุ 15-19 ปี พบสัดส่วนอัตรา การป่วย 53 ต่อ 1 แสนในเพศชาย และอัตราการป่วย 38 ต่อ1 แสนในเพศหญิง ในกลุ่มอายุ 20-24 ปี เพศ ชาย 55 ต่อ 1 แสน และเพศหญิง 59 ต่อ 1 แสน ซึ่งสูงและยังพบว่าอัตราการป่วยสูงแต่มารับบริการน้อย ใน การนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้มีการเร่งรัดการขยายโครงการที่มุ่งกลุ่มเยาวชน/วัยรุ่น ภายใน 2-3 ปี ให้มีการ รณรงค์การสร้างความตระหนักในการป้องกันเอดส์ที่ต่อเนื่อง การสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน นอกจาก นี้ ควรให้มีคณะทำงานในเรื่องหลักสูตรโดยเฉพาะโดยกระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติ กรรมศาสตร์และทางด้านสังคมมาร่วมพิจารณาและควรตั้งภายใต้คณะอนุกรรมการประสานแผน โดยมีอธิบดี กรมควบคุมโรคเป็นประธาน เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
1691 | การแต่งตั้งข้าราชการ | สธ | 02/03/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
สามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ ก.พ. ได้รับคำประเมิน ผลงานครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้ นายทวีสุข พันธุ์เพ็ง ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 10 ชช (ด้านส่งเสริม สุขภาพ) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2548 นายชนินทร์ เจริญพงศ์ ดำรงตำแหน่งนักวิชาการ อาหารและยา 10 ชช ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่ วันที่ 21 ตุลาคม 2548 นายประเวช ตันติพิวัฒนสกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช ด้านเวชกรรม สาขาจิต เวช กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่ วันที่ 30 กันยายน 2548 และนางวิไล พัววิไล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 |
|||||||||||||||||||||
1692 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดฉลากและเอกสารกำกับวัตถุออกฤทธิ์ หรือคำเตือนหรือข้อควรระวังการใช้วัตถุออกฤทธิ์ที่ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุวัตถุออกฤทธิ์ที่ผลิต พ.ศ. .... | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการ
กำหนดฉลากและเอกสารกำกับวัตถุออกฤทธิ์ หรือคำเตือนหรือข้อควรระวังการใช้วัตถุออกฤทธิ์ที่ภาชนะ หรือหีบห่อบรรจุวัตถุออกฤทธิ์ที่ผลิต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการกำหนดฉลากและเอกสาร กำกับวัตถุออกฤทธิ์ หรือคำเตือน หรือข้อควรระวังการใช้วัตถุออกฤทธิ์ให้เหมาะสม สอดคล้องกับข้อมูล ทางวิชาการ และไม่เป็นอุปสรรคแก่การส่งออก เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตวัตถุออก ฤทธิ์ของประเทศ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1693 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตร
ประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำ ตัวและบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับ ข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 48 บัญญัติให้มีอำนาจในการออกกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ในร่างกฎ กระทรวงที่เสนอมานี้ได้กำหนดนอกเหนือจากที่พระราชบัญญัติ ฯ ให้อำนาจไว้ เช่น กำหนดอำนาจผู้ออกบัตร วิธียื่นคำขอมีบัตร และการส่งคืนบัตร เป็นต้น ซึ่งน่าจะเป็นการกำหนดเกินกรอบอำนาจของกฎหมายแม่บท บัญญัติไว้หรือไม่ ไปพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1694 | ขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างอาคารบริการ 12 ชั้น โรงพยาบาลสมุทรสาคร | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เสนอเปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้างโรงพยาบาลสมุทรสาคร จาก อาคารบริการ 6 ชั้น เป็นอาคารบริการ 12 ชั้น วงเงินค่าก่อสร้าง 526,000,000 บาท โดยให้ใช้จ่ายจาก เงินงบประมาณเดิม จำนวน 106,845,000 บาท และใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลและบริจาคสมทบ จำนวน 419,155,000 บาท สำหรับงบประมาณในส่วนของงบประมาณค่าก่อสร้างเดิม จำนวน 106,845,000 บาท นั้น ให้เป็นไปตามความเห็นของผู้แทนสำนักงบประมาณ ดังนี้ ปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2548 จำนวน 13,389,000 บาท ปี พ.ศ. 2549 ที่ตั้งเงินไว้ จำนวน 10,261,000 ล้านบาท และผูกพันปีต่อ ๆ ไป จำนวน 77,195,000 บาท และให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้เรียกร้องค่า เสียหายจากบริษัท ไตรยูเนียน จำกัด ผู้ประกวดราคาได้แต่ดำเนินงานไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง ไปดำเนิน การต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1695 | ความก้าวหน้าในการนำการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการนำ
การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกรมควบคุมโรคได้นำบริการชุดสิทธิประโยชน์ การดูแลรักษาผู้ ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัส เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ส่วนการจัดบริการที่คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ ได้แก่ การตรวจวินิจฉัยภาวะการติดเชื้อ HIV ในกลุ่มประชากรบางกลุ่ม การติดตามผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ การบริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรพื้นฐาน การ บริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรดื้อยาและการติดตามเยี่ยมบ้าน และดำเนินงานร่วมกับหน่วยงาน NGO และผู้ติด เชื้อ ทั้งนี้ ในระยะก่อนการดำเนินการเต็มรูปแบบ กรมควบคุมโรคได้จัดทำโครงการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ด้วยยาต้านไวรัสตามระบบเดิมของกรมควบคุมโรค (โครงการ NAPHA) ในระยะ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (ตุลาคม 2548-มีนาคม 2549) และ สปสช. ได้สนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน 522,106,973 บาท นอกจากนี้ ได้มีการประชุมหารือยกร่างบันทึกความเข้าใจเรื่อง การดำเนินโครงการบริการผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี และผู้ป่วยเอดส์อย่างครบวงจร และกำลังพิจารณาเตรียมการแผนงาน/โครงการ เพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งได้มีการเจรจาขอลดราคายาและราคาน้ำยา ซึ่งผู้แทนจำหน่ายยาและน้ำยาได้นำข้อเสนอไปพิจารณา
|
|||||||||||||||||||||
1696 | การขอขยายระยะเวลาการดำเนินการและปรับแผนพัฒนาอาจารย์ในโครงการพัฒนาอาจารย์ของวิทยาลัยสังกัดกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ การขยายระยะเวลาการดำเนินการ และปรับแผนการพัฒนาอาจารย์ในโครงการพัฒนาอาจารย์ของวิทยาลัย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2542-2549 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2540 เป็นสิ้น สุดการดำเนินการในปี พ.ศ. 2556 สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนัก งบประมาณ และให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ มีข้อสังเกตว่า การคัดเลือกผู้รับทุนไป ศึกษาต่อควรเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ และเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุยังน้อย และการจัดสรรทุนควร จัดสรรให้ตรงกับผู้ที่อยู่ในสายงานที่ปฏิบัติจริง นอกจากนี้ โครงการพัฒนาอาจารย์ของสถาบันพระบรมราช ชนก เป็นการผลิตอาจารย์สาขาพยาบาลในโอกาสต่อไป ควรเพิ่มการจัดสรรทุนให้อาจารย์สาขาแพทย์ด้วย พร้อมทั้งขอให้พิจารณาประเด็นการสังกัดของอาจารย์ในภาพรวมด้วย |
|||||||||||||||||||||
1697 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 | สธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้
สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรค ศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดย มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ที่ได้รับปริญญาในสาขาอื่นซึ่งปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก หรือผู้ซึ่งมีความรู้และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกมาแล้วไม่น้อย 5 ปี ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีหัวใจและ ทรวงอกรับรองมีสิทธิขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1698 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน ผู้ป่วยหนัก ผ่าตัด และคลอด ของโรงพยาบาลบางจาก จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอาคารผู้ป่วยใน ผ่าตัดและคลอด | สธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณ
สุข ดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน ผ่าตัด และคลอด จำนวน 1 หลัง ของโรงพยาบาลบางจาก จังหวัด สมุทรปราการ ตามแบบเลขที่ 9792/ก พร้อมเอกสารเลขที่ ข. 18/ก.พ./48 ในวงเงิน 62,550,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 12,350,000 บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2550 อีกจำนวน 50,200,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||
1699 | การดำเนินการตามยุทธศาสตร์สร้าง คนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง (Healthy Thailand) | สธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการดำเนินการตามยุทธศาสตร์
สร้างคนไทยแข็งแรง เมืองไทยแข็งแรง (Healthy Thailand) และให้ส่วนราชการเห็นความสำคัญในเรื่อง นี้ โดยเข้าร่วมประชุมในคณะกรรมการต่าง ๆ หรือมอบหมายผู้แทนที่มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับ แผนงาน กำลังคน และงบประมาณเข้าร่วมด้วย
|
|||||||||||||||||||||
1700 | แผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ (พ.ศ. 2549 - 2552) ตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐด้านสาธารณสุข | สธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่าย
สาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาศาสตร์) ที่มีมติดังนี้ อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณ สุขเสนอกรอบแผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ (พ.ศ. 2549 - 2552) ประกอบด้วย 3 แผนงาน 28 โครงการ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 100,427.693 ล้านบาท ตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ ภาครัฐด้านสาธารณสุข สำหรับประเด็นการผลิตแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพที่เพิ่มขึ้นตามแผนการลงทุน ฯ การพิจารณาทบทวนมาตรการด้านพันธะสัญญาปฏิบัติงานชดใช้ทุนของแพทย์ และกรณีการชดใช้เงินแทน การปฏิบัติงานชดใช้ทุน ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และอนุมัติกรอบวงเงินงบ ประมาณรายปี เพื่อดำเนินการแผนการลงทุนเสริมสร้างโครงสร้างสาธารณสุขแห่งชาติ ฯ (พ.ศ .2549 - 2552) ฯ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปประกอบการดำเนินการด้วย และให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปศึกษาความเหมาะสม และเป็นไปได้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนิน การโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีศักยภาพทางการเงิน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-payment) เพื่อให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ต่อไป โดยจะต้องไม่กระทบกับผู้ป่วยที่มีรายได้น้อย และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้รองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปศึกษา และกำหนดแนวทางการผลิตบุคลากรสาธารณสุขทั้งในสายวิชา ชีพและสายบริหารในระยะยาวเพื่อให้มีจำนวนบุคลากรเท่าที่จำเป็นแต่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และ ได้รับเงินเดือนและผลตอบแทนที่คุ้มค่าโดยอาจจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้น เพื่อดำเนิน การในเรื่องนี้ต่อไป |
.....