ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 78 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 1541 - 1560 จากข้อมูลทั้งหมด 10241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1541 | "การขยายระยะเวลาแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติและยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และมลพิษหมอกควัน" และ "แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และมลพิษหมอกควัน พ.ศ. 2556 - 2562 ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ" | มท | 01/11/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบในหลักการตามที่คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ขยายระยะเวลาแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ จาก “พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๙” เป็น “พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๖๒” ๑.๒ อนุมัติให้ขยายระยะเวลายุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และมลพิษจากหมอกควัน จาก “พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๙” เป็น “พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๒” ๑.๓ เห็นชอบแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และมลพิษหมอกควัน พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๒ ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ มีกรอบระยะเวลาการดำเนินการ ๗ ปี มีหน่วยงานร่วมบูรณาการทั้งสิ้น ๔๔ หน่วยงาน แผนงาน/โครงการ จำนวน ๑๕๓ แผนงาน/โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๑๐,๓๘๐.๖๒๑๗ ล้านบาท เป้าหมายของแผน ประกอบด้วย การจัดการไฟป่า ลดพื้นที่ไฟไหม้ป่าให้เหลือเพียงไม่เกินปีละ ๓๐๐,๐๐๐ ไร่ จัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรทดแทนการเผาในพื้นที่อย่างน้อยปีละ ๖๐๐,๐๐๐ ไร่ และลดการเผาขยะมูลฝอยในที่โล่งโดยจัดให้มีการกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักวิธีและปลอดภัยไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของจังหวัดทั้งหมด และมีการใช้ประโยชน์มูลฝอยไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๓๐ ของปริมาณมูลฝอยที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ๑.๔ เห็นชอบให้กระทรวง กรม องค์กร และหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และมลพิษหมอกควัน ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของงบประมาณให้ดำเนินการตามแผนฯ จำนวน ๑๐,๓๘๐.๖๒๑๗ ล้านบาท หากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อไปดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น สำหรับในปีต่อไปให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าในการจัดทำแผนเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย ไฟป่า การเผาในที่โล่ง และหมอกควันนั้น ควรมุ่งเน้นไปที่สาเหตุของปัญหาและการป้องกันที่จะมีผลในระยะยาว เช่น การปลูกป่า การสร้างความชุ่มชื้น และการสร้างแนวป้องกันไฟ เป็นต้น และปรับปรุงแผนฯ ในระยะยาว โดยให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการป้องกันอัคคีภัยและหมอกควันในพื้นที่ของแต่ละชุมชนเอง เช่น การให้ชุมชนบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรแทนการเผาโดยนำไปใช้ประโยชน์อื่น หรือการกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี เป็นต้น ไปพิจารณาปรับปรุงแผน และรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียต่อการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน และควรประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนทุกภาคส่วนให้เกิดความตื่นตัวในการป้องกันตนเอง ดำเนินการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการภัยจากอัคคีภัย ไฟป่า การเผาในที่โล่ง และหมอกควันอย่างเป็นระบบ และการสนับสนุนงบประมาณอย่างเพียงพอที่สามารถปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายได้ตามกิจกรรม/โครงการที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
1542 | การขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย - กัมพูชา | มท | 29/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการดำเนินการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา จาก เวลา ๐๗.๐๐-๒๐.๐๐ น. เป็น ๐๖.๐๐-๒๒.๐๐ น. จำนวน ๔ แห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้เพียงพอและสอดคล้องกับการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว และหากไม่เพียงพอให้ดำเนินการเพื่อขออัตรากำลังเพิ่มใหม่ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติของทางราชการต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการขยายระยะเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนถาวรทั้ง ๕ แห่ง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงปริมาณการค้าและการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรออกไปจะกระทบกับการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการจัดสรรการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน นอกจากนี้ เห็นควรประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประเมินผลจากการขยายเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนถาวรดังกล่าวเป็นระยะ และรายงานผลให้คณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่านแดนได้รับทราบ และพิจารณาวางแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
1543 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (นายทวี นริสศิริกุล) | มท | 29/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายทวี นริสศิริกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
1544 | กำหนดให้ปี พ.ศ. 2557 เป็นปีแห่งการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยภายใต้หัวข้อ "อัคคีภัยป้องกันได้ แค่ใส่ใจไม่ประมาท" | มท | 22/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นปีแห่งการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยภายใต้หัวข้อ “อัคคีภัยป้องกันได้ แค่ใใส่ใจไม่ประมาท” ๑.๒ กำหนดกิจกรรมในการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑.๒.๑ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมและการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยเมื่อต้องเผชิญกับอัคคีภัย รวมถึงความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์และระบบเตือนภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน อาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์การค้า โรงมหรสพ ฯลฯ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ๑.๒.๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอัคคีภัยด้านต่าง ๆ แก่สาธารณชนผ่านสื่อในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ๑.๒.๓ จังหวัดทุกจังหวัดจัดสัปดาห์รณรงค์การป้องกันอัคคีภัยเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการป้องกันอัคคีภัย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะในสถานศึกษาและสถานประกอบการต่าง ๆ ๒. ให้ปรับแก้ไขหัวข้อการรณรงค์ จากเดิม “อัคคีภัยป้องกันได้ แค่ใส่ใจไม่ประมาท” เป็น “อัคคีภัยป้องกันได้ ต้องใส่ใจไม่ประมาท” ๓. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ไปดำเนินงานตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๔. ให้ กปภ.ช. รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๔.๑ ควรวางระบบการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนในการวางแผนการดำเนินงานและประสานงานการป้องกันและแก้ไขอัคคีภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีอาคารสูงและเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา เป็นต้น ทั้งนี้ ควรกำหนดให้มีการซ้อมการเผชิญเหตุการณ์และการช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอ ๔.๒ ควรกำหนดมาตรการการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์การป้องกันและระงับอัคคีภัยของหน่วยงาน องค์กร และสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ และจัดให้มีแผนผังแสดงทางหนีไฟและทางเข้าออกอาคารในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ๔.๓ ปัจจุบันสภาพป่าในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความชื้นน้อยและอากาศแห้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเตรียมความพร้อมในการป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่าที่จะเกิดขึ้นด้วย |
||||||||||||||||||
1545 | การสรุปบทเรียนการจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่ | มท | 22/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปบทเรียนการจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ (The 2nd Asia-Pacific Water Summit : 2nd APWS) ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสรุปบทเรียนการจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำฯ โดยการศึกษาสำรวจข้อมูล ความคิดเห็น และอุปสรรค/ปัญหา ตลอดจนข้อเสนอแนะ เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวทางการปรับปรุงพัฒนาศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่เฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และการจัดการประชุมให้มีประสิทธิภาพในระดับสากล ภายใต้กรอบการวิเคราะห์ ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ด้านการคมนาคมขนส่ง ด้านการบริหารจัดการ และด้านการประชาสัมพันธ์ ๒. ข้อเสนอแนะโครงการเพื่อการพัฒนาศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ๒.๑ การนำผลสรุปบทเรียนการจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำฯ มาวิเคราะห์ศักยภาพการพัฒนาการเป็น Global MICE City ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ตัวแบบคุณลักษณะและองค์ประกอบสู่การพัฒนาสร้างแบรนด์ Chiang Mai MICE City รวม ๕ ด้าน ได้แก่ สภาพแวดล้อมภายนอก (City External Environment) การผลิตของเมือง (City Production) อุตสาหกรรมสนับสนุน (City Supporting Industries) โครงสร้างของเมือง (City Foundation) และภาพลักษณ์ของเมือง (City Image) พบว่า โดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาไปสู่ MICE City อย่างไรก็ตามในด้านที่จังหวัดเชียงใหม่ยังขาดความพร้อมหรือยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอ ควรได้รับการสนับสนุนเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ ๒.๒ การพัฒนาศักยภาพของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เพื่อการพัฒนาไปสู่การเป็น MICE City ในระดับสากล ในด้านการพัฒนาระบบเส้นทางการคมนาคมภายในจังหวัดเชียงใหม่และระหว่างจังหวัดในภาคเหนือตอนบน มีความสำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ซึ่งมีโครงการพัฒนาระบบเส้นทางคมนาคม ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๑๑ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่-แยกรินคำ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๑๒๑ แนวใหม่ สนามกีฬา ๗๐๐ ปี-อำเภอแม่ริม โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดทางแยกทางหลวง ๑๒๑ จำนวน ๘ แห่ง โครงการก่อสร้างทางขนาด ๔ ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข ๑๒๑ โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๑๑๘ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่-อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย และโครงการศึกษาความเหมาะสมทางหลวงวงแหวน รอบ ๔ (แนวใหม่)
|
||||||||||||||||||
1546 | สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ | มท | 22/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การคาดหมายลักษณะอากาศ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม และการให้ความช่วยเหลือ ๑.๑ สภาพอากาศ ในช่วงวันที่ ๒๑-๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ส่วนในช่วงวันที่ ๒๔-๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง ๒-๔ องศาเซลเซียส ๑.๒ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้จัดประชุมรับมอบข้อสั่งการเชิงนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๔ ศูนย์เขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ๑๖ จังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ๒. สรุปสถานการณ์อุทกภัย ข้อมูล ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังระบายไม่ทัน และน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๖ จนถึงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ รวมทั้งสิ้น ๔๗ จังหวัด ๓๖๐ อำเภอ ๒,๒๘๕ ตำบล ๑๘,๖๔๒ หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ ๑,๑๖๒,๑๔๘ ครัวเรือน ๓,๗๘๐,๓๙๐ คน มีผู้เสียชีวิต ๗๖ ราย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ๓,๕๙๔,๖๑๗ ไร่ ถนน ๖,๐๗๘ สาย สะพาน ๒๙๙ แห่ง ท่อระบายน้ำ ๕๒๑ แห่ง ฝาย/ทำนบ ๕๕๓ แห่ง บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ๓๑,๕๒๓ หลัง โรงเรียน ๓๓๒ แห่ง วัด ๔๘๙ แห่ง สถานที่ราชการ ๗๓ แห่ง บ่อปลา/กุ้ง ๔๖,๗๕๘ บ่อ ปศุสัตว์ ๔,๒๒๓,๗๕๘ ตัว ฯลฯ ๓. สรุปสถานการณ์วาตภัย ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดเพชรบุรี เกิดลมกระโชกแรงในพื้นที่หมู่ที่ ๓ ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมืองเพชรบุรี ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๒๘ หลังคาเรือน โดยเสียหายทั้งหลัง ๑ หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ๓ คน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี องค์การบริหารส่วนตำบล ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ๔. สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๕๗ น. เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด ๕.๐ ริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และเวลา ๑๕.๔๒ น. เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด ๖.๐ ริกเตอร์ ความลึก ๑๐ กิโลเมตร บริเวณ Negros สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๕. สรุปสถานการณ์อุบัติภัย และเหตุการณ์สำคัญ ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดตราด เกิดเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์บริเวณถนนสายตราด-คลองใหญ่ กม.ที่ ๒๑-๒๒ บ้านนาเกลือ ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด มีผู้เสียชีวิต ๔ ราย บาดเจ็บ ๓ คน จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านทำดอกไม้ไฟตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลสารภี ตำบลป่าแดด อำเภอสารภี มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย ได้รับบาดเจ็บ ๒ คน และจังหวัดภูเก็ต เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์ชิป สาขาภูเก็ต เลขที่ ๔๖/๕ ถนนเทพกระษัตรี ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าทำการดับเพลิงจนสามารถควบคุมเพลิงได้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
|
||||||||||||||||||
1547 | การมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้ว่าการการประปานครหลวง (นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ) | มท | 22/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป และเห็นชอบการกำหนดเงินเดือน ค่าจ้างหรือผลประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้าง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
1548 | แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน รัชดาภิเษก ของการไฟฟ้านครหลวง | มท | 15/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน รัชดาภิเษก ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เฉพาะที่จะดำเนินการในพื้นที่ถนนสายหลัก ในวงเงินลงทุนรวม ๘,๘๙๙.๕๘ ล้านบาท โดยให้ กฟน. เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณูปโภคทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันในการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดินในคราวเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงานตามแผนฯ เพิ่มความปลอดภัย และปรับสภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม ๑.๒ ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของหน่วยงานอื่นที่เห็นควรให้ กฟน. ทบทวนแผนแม่บทโครงการเปลี่ยนระบบสายอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ปี ๒๕๕๑-๒๕๖๕ ที่จะดำเนินการในอนาคต และประสานกับหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี เป็นต้น เพื่อร่วมกันวางแผนคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญพื้นที่ที่จะดำเนินการปรับปรุงระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดินตามแผนแม่บทฯ ตลอดจนการวางแผนและกำหนดงบประมาณสำหรับการลงทุนดังกล่าวร่วมกัน และให้ กฟน. กำกับดูแลและควบคุมต้นทุนการดำเนินแผนงานฯ อย่างใกล้ชิดและประหยัด รวมทั้งเร่งประสานงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคทั้งของภาครัฐและเอกชนเพื่อบูรณาการในการดำเนินงานนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการตามแผนงานฯ และเพื่อให้สามารถปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ตามแผนที่กำหนดไว้ เป็นต้น ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า ปัจจุบันยังมีหลายพื้นที่ที่มีการติดตั้งระบบสายไฟฟ้าอากาศอยู่ในระดับความสูงที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงเห็นควรให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟน. รับไปพิจารณาปรับแผนงานเพื่อเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นกรณีเร่งด่วน และจากกรณีปัญหากระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่นั้น จึงควรมีการพิจารณาจัดทำแผนเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และจัดทำระบบสำรองเพื่อลดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้น้อยลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
1549 | แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) | มท | 15/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประกอบด้วย ๑๑ โครงการ ๓ แผนงาน วงเงินลงทุนรวม ๑๐๓,๑๓๐ ล้านบาท และการลงทุนด้านการพัฒนาพลังงานทดแทนของบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กรอบวงเงินลงทุนและร่วมลงทุนรวม ๓๒,๗๓๒ ล้านบาท รวมวงเงินลงทุนทั้งสิ้น ๑๓๕,๘๖๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๑.๒ ให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ การคัดเลือกพื้นที่ดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการด้านพลังงานทดแทนอย่างละเอียดรอบคอบ การควบคุมการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดและสอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าในช่วงเวลานั้น ๆ การพิจารณาประเมินแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงครึ่งระยะเวลาดำเนินการตามแผนฯ (Midterm Review) เพื่อให้มีความสอดคล้องและทันกับสถานการณ์การลงทุนในช่วงเวลานั้น ๆ การให้ความสำคัญในการติดตามประเมินผลโครงการลงทุนต่าง ๆ และพิจารณาหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินโครงการในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาทั้งในกรณีการวิจัยพัฒนาต้นแบบ การวิจัยพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการขยายผลการวิจัยไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหารือเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในอนาคตให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้ไฟฟ้า เช่น การกำหนดทางเลือกการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ประหยัดค่าใช้จ่ายของภาคประชาชน การคิดค่าไฟฟ้าแบบเหมารวม (package) ที่เหมาะสม และการใช้พลังงานทางเลือกต่าง ๆ เพื่อรองรับภาวะวิกฤติด้านพลังงานไฟฟ้า เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานที่ผลิตจากพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย เป็นต้น รวมทั้งการปรับโครงสร้างภาษี และการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในอนาคตดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||
1550 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | มท | 15/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เปลี่ยนเขตอำเภอท่าปลากับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อประโยชน์แก่การปกครองและความสะดวกของประชาชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1551 | ร่างระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวครอบครัวของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 และการเรียกบัตรประจำตัวครอบครัวคืน พ.ศ. .... | มท | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวครอบครัวของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ และการเรียกบัตรประจำตัวครอบครัวคืน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยบัตรประจำตัวทายาทผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวทายาทคืน พ.ศ. ๒๕๑๔ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1552 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสตูล พ.ศ. .... | มท | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสตูล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลพิมาน บางส่วนของตำบลคลองขุด และบางส่วนของตำบลควนขัน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
1553 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นางสาวปราณี นันทเสนามาตร์) | มท | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวปราณี นันทเสนามาตร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
1554 | การรับรองร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติ | มท | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยเรื่อง การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติ ที่จะมีการรับรองในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๒๓ (23rd ASEAN Summit) ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม ระหว่างวันที่ ๙-๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านการจัดการภัยพิบัติ ภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response : AADMER) และแผนงานการจัดการภัยพิบัติภายใต้กรอบ AADMER พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||
1555 | สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ | มท | 08/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๑-๗ ตุลาคม ๒๕๕๖) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การคาดหมายลักษณะอากาศ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม และการให้ความช่วยเหลือ ๑.๑ สภาพอากาศ ในช่วงวันที่ ๗-๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง ๒-๓ เมตร และในช่วงวันที่ ๑๐-๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ๑.๒ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๕ ศูนย์เขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ๑๓ จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ๒. สรุปสถานการณ์อุทกภัย ข้อมูล ณ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังระบายไม่ทัน และน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๖ จนถึงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ รวมทั้งสิ้น ๓๘ จังหวัด ๒๗๖ อำเภอ ๑,๗๑๖ ตำบล ๑๓,๗๗๙ หมู่บ้าน ๙๓๘,๔๓๕ ครัวเรือน ๓,๐๙๖,๒๐๒ คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ๓,๑๕๒,๐๘๓ ไร่ ถนน ๕,๓๙๗ สาย สะพาน ๒๙๙ แห่ง ท่อระบายน้ำ ๔๒๖ แห่ง ฝาย/ทำนบ ๕๑๙ แห่ง บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ๑๕,๖๑๐ หลัง โรงเรียน ๒๒๕ แห่ง วัด ๓๙๙ แห่ง และสถานที่ราชการ ๕๗ แห่ง ๓. สรุปสถานการณ์วาตภัย ระหว่างวันที่ ๑-๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดนราธิวาสเกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส รวม ๔ ตำบล ๙ หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย ๑๖๙ หลัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ๘๔๕ คน โรงเรียนปอเนาะ ๑ แห่ง และเสาไฟฟ้า ๓๐ ต้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแล้ว ๔. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ข้อมูล ณ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดที่ยังคงมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ได้แก่ จังหวัดตาก บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม ๑๔ อำเภอ ๑๑๒ ตำบล ๑,๒๔๑ หมู่บ้าน และจังหวัดที่ยังคงมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง) ได้แก่ จังหวัดแพร่ ๑ อำเภอ รวม ๒ ตำบล ๑๘ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๓๖๕ ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร ๑๑,๔๔๐ ไร่ ๕. สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ ๑-๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๕.๒๘ น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด ๒.๕ ริกเตอร์ บริเวณตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๒๑.๓๗ น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด ๒.๙ ริกเตอร์ บริเวณสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ห่างจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ ๒๘ กม. และวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๓๘ น. เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด ๖.๖ ริกเตอร์ บริเวณทะเลโอคอตสค์ ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ๖. สรุปสถานการณ์อุบัติภัย และเหตุการณ์สำคัญ ระหว่างวันที่ ๑-๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดเหตุรถยนต์กระบะบรรทุกคนงานเสียหลักชนต้นไม้ บริเวณถนนสาย ๒๑๙ มหาสารคาม-บุรีรัมย์ กม.ที่ ๒๑๕-๒๑๖ บ้านโนนสวรรค์ ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน มีผู้เสียชีวิต ๑๖ ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส ๘ คน จังหวัดสมุทรสาคร เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารโรงงานผลิตเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิกและกระเบื้องบุผนัง ของบริษัทไทยอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัดกระเบื้องไทย ตั้งอยู่เลขที่ ๗๕ หมู่ที่ ๓ ถนนเศรษฐกิจ ๑ ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน และจังหวัดตราด เกิดเหตุหินถล่มลงมาทับเส้นทางสัญจรไป-มา บริเวณทางโค้งก่อนถึงหาดทรายขาว ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด อำเภอ ตำรวจท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเกาะช้าง ดำเนินการนำหินที่ถล่มลงมาออกจากเส้นทางเรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||
1556 | สรุปยอดจำหน่ายงาน "ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" | มท | 01/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปยอดจำหน่ายงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ๑-๓ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งการจัดงานดังกล่าวได้รับความสำเร็จและการตอบรับจากประชาชนผู้เข้าชมงาน และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เป็นอย่างดียิ่ง โดยมียอดการจำหน่ายสินค้า จำนวน ๘๒๐,๔๖๑,๑๐๕ บาท มีผู้เข้าชมงาน ๓๙๓,๒๗๓ คน ประกอบด้วย
๑. ประเภท OTOP ๓-๕ ดาว ยอดจำหน่าย ๖๖๔,๙๐๙,๘๕๕ บาท ๒. ประเภท OTOP เพื่อสุขภาพ ยอดจำหน่าย ๑๒,๔๕๗,๗๑๘ บาท ๓. ประเภท ศอ.บต. ยอดจำหน่าย ๔,๔๘๙,๔๑๔ บาท ๔. ประเภท OTOP ชวนชิม ยอดจำหน่าย ๒๓,๖๗๖,๙๕๖ บาท ๕. ประเภท สมาคมคนพิการ ยอดจำหน่าย ๓,๖๗๗,๔๐๐ บาท ๖. ประเภท OTOP ฮาลาล ยอดจำหน่าย ๕,๔๑๕,๔๐๐ บาท ๗. ประเภท ศิลปาชีพ ยอดจำหน่าย ๑๐,๐๑๒,๗๗๖ บาท ๘. ประเภท OTOP (KBO) ยอดจำหน่าย ๑๑,๖๙๗,๖๐๓ บาท ๙. ประเภท OTOP ของขวัญของฝาก ยอดจำหน่าย ๘๔,๑๒๓,๙๘๓ บาท
|
||||||||||||||||||
1557 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ) | มท | 01/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖๖,๕๔๙,๙๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||
1558 | สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ | มท | 01/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ ๒๔-๓๐ กันยายน ๒๕๕๖) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การคาดหมายลักษณะอากาศ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม และการให้ความช่วยเหลือ ๑.๑ สรุปการคาดหมายฝน ในช่วงวันที่ ๓๐ กันยายน-๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ ๒-๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และด้านตะวันออกมีฝนลดลง แต่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ๑.๒ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก คลื่นลมแรง และลมกระโชกแรง ๒. สรุปสถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ ๑๗-๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังระบายไม่ทัน และน้ำล้นตลิ่ง มีพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งสิ้น ๓๒ จังหวัด ๒๓๔ อำเภอ ๑,๔๐๒ ตำบล ๑๑,๒๑๙ หมู่บ้าน ๘๑๗,๘๕๖ ครัวเรือน ๒,๘๐๔,๐๘๕ คน มีผู้เสียชีวิต ๒๓ ราย ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๒๕ จังหวัด ๒๒๕ อำเภอ ๑,๓๘๕ ตำบล ๑๑,๑๕๘ หมู่บ้าน ๘๑๗,๒๙๐ ครัวเรือน ๒,๘๐๒,๕๑๒ คน อพยพ ๔,๔๑๖ ครัวเรือน ๑๕,๒๕๔ คน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา พะเยา และแม่ฮ่องสอน ๓. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ จังหวัดที่ยังคงมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม ๑๔ อำเภอ ๑๑๒ ตำบล ๑,๒๔๑ หมู่บ้าน และจังหวัดที่ยังคงมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง) จำนวน ๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ ๑ อำเภอ (อำเภอลอง) รวม ๒ ตำบล ๑๘ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๓๖๕ ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร ๑๑,๔๔๐ ไร่ ๔. สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ ๒๔-๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๒.๕๕ น. เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด ๖.๓ ริกเตอร์ บริเวณหมู่เกาะ Kermadec ประเทศนิวซีแลนด์ วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๓๔ น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด ๖.๖ ริกเตอร์ บริเวณประเทศปากีสถาน วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.๒๙ น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด ๗.๕ ริกเตอร์ ความลึก ๔๒ กม. บริเวณประเทศปากีสถาน และวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๒๓.๔๒ น. เกิดแผ่นดินไหวบนบก ขนาด ๗.๑ ริกเตอร์ บริเวณประเทศเปรู ๕. สรุปสถานการณ์อุบัติภัย และเหตุการณ์สำคัญ ระหว่างวันที่ ๒๔-๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ จังหวัดลำพูน เกิดเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งข้ามช่องทางเดินรถไปชนกับรถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง หน้าปั๊มแก๊สแยกบ้านร่องส้าว-บ้านม้า หมู่ที่ ๒ ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน มีผู้เสียชีวิต ๖ ราย ได้รับบาดเจ็บ ๓ คน และจังหวัดพิษณุโลก เกิดเหตุรถไฟบรรทุกหิน ขบวนที่ ๑๓๐๕ ชนกับรถยนต์กระบะ บริเวณจุดตัดข้ามทาง หมู่ที่ ๗ ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๒ คน
|
||||||||||||||||||
1559 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ | มท | 24/09/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ กันยายน ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ แทนรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ๒. แต่งตั้งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๑ ในคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ แทนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ๓. แต่งตั้งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสันติ พร้อมพัฒน์) เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ ๒ ในคณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ แทนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร)
|
||||||||||||||||||
1560 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร) | มท | 24/09/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ (วิศวกรสำรวจทรงคุณวุฒิ) กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....