ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 76 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 1501 - 1520 จากข้อมูลทั้งหมด 10241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1501 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (จำนวน 37 ราย 1. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ฯลฯ) | มท | 16/09/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓๗ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทดแทนผู้ที่โอนไปรับราชการสังกัดส่วนราชการอื่น และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช ๓. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมที่ดิน ๔. นายกฤษฎา บุญราช ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมการปกครอง ๕. นายธำรงค์ เจริญกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดสงขลา ๖. นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายพินิจ หาญพาณิชย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดสมุทรปราการ ๘. นายวันชัย สุทธิวรชัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายเสริม ชัยณรงค์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดอุบลราชธานี ๑๐. นายวิชิต ชาตไพสิฐ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายธานี สามารถกิจ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดระยอง ๑๒. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓. นายกำธร ถาวรสถิตย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดขอนแก่น ๑๔. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดชัยนาท ๑๕. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดสระบุรี ๑๖. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดเชียงใหม่ ๑๗. นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดตาก ๑๘. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๙. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดร้อยเอ็ด ๒๐. นายสุวิทย์ สุบงกฎ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๑. นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒๒. นายธงชัย ลืออดุลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครราชสีมา ๒๓. นายเสรี ศรีหะไตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดบุรีรัมย์ ๒๔. นายวินัย บัวประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดพัทลุง ๒๕. นายสามารถ ลอยฟ้า ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดจันทบุรี ๒๖. นายไมตรี อินทุสุต ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๒๗. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดภูเก็ต ๒๘. นายสุรพล แสวงศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดราชบุรี ๒๙. นายชโลธร ผาโคตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดสิงห์บุรี ๓๐. นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดกาญจนบุรี ๓๑. นายวิเชียร จันทรโณทัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดชัยภูมิ ๓๒. นายระพี ผ่องบุพกิจ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครสวรรค์ ๓๓. นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดพิษณุโลก ๓๔. นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนนทบุรี ๓๕. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓๖. นายเดชรัฐ สิมศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดสตูล ๓๗. นายนพวัชร สิงห์ศักดา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดอุดรธานี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1502 | ขอความเห็นชอบหลักการเกี่ยวกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (นร 0503/12274) | มท | 16/09/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๒ ฉบับ ของกระทรวงมหาดไทย ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และให้เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1503 | อนุมัติดำเนินการงานบริหารจัดการน้ำ ของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามแผนงานงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2557 | มท | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการงานบริหารจัดการน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๕๘๑ โครงการ วงเงิน ๑,๘๕๐,๓๕๓,๖๓๑ บาท ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวงมหาดไทย จากงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน ๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และจากงบประมาณโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประชาชนในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย รายการค่าใช้จ่ายในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑,๔๕๐,๓๕๓,๖๓๑ บาท ไปเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อ ๑.๑ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณ ๒. งบประมาณสำหรับการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ แล้วเร่งรัดดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1504 | โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2557 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 02/09/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบการดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาปี ๒๕๕๗ ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน ๒๓ โครงการ กรอบวงเงินลงทุนรวม ๕,๒๑๘.๓๓๖ ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการที่ใช้เงินรายได้ของ กปภ. จำนวน ๒ โครงการ และโครงการที่ใช้เงินงบประมาณและเงินรายได้ จำนวน ๒๑ โครงการ ตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยแหล่งเงินและรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณสำหรับโครงการที่ขอรับเงินงบประมาณประจำปีจากภาครัฐ จำนวน ๒๑ โครงการ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ดังนี้ ๑.๑ โครงการซึ่งเป็นรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ แล้ว จำนวน ๗ โครงการ วงเงินลงทุน ๑,๑๑๖.๒๑๗ ล้านบาท ๑.๒ โครงการซึ่งเป็นรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่ได้เสนอตั้งงบประมาณไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ แล้ว จำนวน ๔ โครงการ วงเงินลงทุน ๖๔๐.๐๕๐ ล้านบาท ๑.๓ โครงการที่ยังไม่มีแหล่งเงินรองรับ จำนวน ๑๐ โครงการ วงเงินลงทุน ๑,๘๙๖.๕๖๖ ล้านบาท เห็นควรให้ กปภ. พิจารณาแหล่งเงินลงทุนจากเงินรายได้ของ กปภ. เป็นลำดับแรกก่อน หรือขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ทั้งนี้ เห็นควรให้ กปภ. พิจารณาเร่งรัดการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ได้รับจัดสรรไว้ให้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโครงการที่จะได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งพิจารณาในเรื่องของความคุ้มค่าจากการลงทุนทางด้านการเงิน โดยการควบคุมค่าใช้จ่ายการผลิตและเพิ่มรายได้จากการให้การบริการ และลดอัตราน้ำสูญเสียให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสามารถในการลงทุนของ กปภ. และลดภาระของภาครัฐในการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการลงทุนในโครงการก่อสร้างระบบประปาต่อไป ๒. ให้ กปภ. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอโครงการเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็วเพื่อให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด การพิจารณาแนวทางการจัดการน้ำประปาอย่างมีระบบเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างทั่วถึงและเพียงพอ และการปรับอัตราค่าน้ำประปาใหม่ ควรกำหนดอัตราที่สะท้อนต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ให้ กปภ. เร่งรัดการดำเนินการโครงการเพื่อการพัฒนาปี ๒๕๕๗ ดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยยึดหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้ รวมทั้งให้สอดคล้องกับแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1505 | แผนการลงทุนหลัก โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2557 (เพิ่มเติม) ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 26/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแผนการลงทุนหลัก โครงการเพื่อการพัฒนา ปี ๒๕๕๗ (เพิ่มเติม) ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน ๔ โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขารังสิต โครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาเกาะสมุย โครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาหาดใหญ่-สงขลา และโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาปทุมธานี วงเงินลงทุนรวม ๑๐,๘๓๑.๒๑๘ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๗ โดยให้ กปภ. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการจัดการน้ำประปาอย่างมีระบบเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างทั่วถึงและเพียงพอ การเร่งจัดทำแผนแม่บทการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำดิบให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเพื่อรองรับการขาดแคลนน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาอย่างยั่งยืน การเร่งจัดทำแผนแม่บทการลดน้ำสูญเสียให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการแรงดันน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประปาและการบริหารต้นทุนการผลิต การจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE ) การเสนอแผนการใช้น้ำล่วงหน้าทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้กรมชลประทานเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาวางแผนการจัดสรรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การพิจารณาหาแหล่งน้ำดิบที่มีปริมาณน้ำเพียงพอตลอดปี การจัดหาแหล่งเก็บกักน้ำสำรองไว้เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาความเค็มและน้ำเสียในแผนการลงทุนโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขารังสิต และสาขาปทุมธานี การประสานในเรื่องน้ำต้นทุนและการจัดสรรน้ำกับกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุย รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้กำหนดตามแผนการลงทุนหลักฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินโครงการส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่น้อยที่สุด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. เนื่องจากผลประกอบการของ กปภ. ยังมีความไม่แน่นอนด้านรายได้ รวมทั้งการขึ้นราคาค่าน้ำประปาจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค ดังนั้น จึงให้ กปภ. เร่งดำเนินการปรับปรุงการบริหารจัดการของ กปภ. ทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบการผลิต ระบบท่อส่งน้ำ และระบบการจ่ายน้ำ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ รวมตลอดถึงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญหาอัตราน้ำสูญเสียสูง ปัญหาน้ำประปากร่อยในบางพื้นที่ ซึ่งควรพิจารณานำเอาระบบหมุนเวียนน้ำ (Recycle) มาใช้ ปัญหาการจ่ายน้ำให้กับผู้ขอใช้น้ำที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นผู้บุกรุกปลูกสร้างที่อยู่อาศัยทำให้เรียกเก็บค่าน้ำประปาจากผู้ใช้ไม่ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ กปภ. จัดทำเป็นแผนปฏิบัติงานประจำปีให้ชัดเจนเพื่อดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1506 | ขออนุมัติกู้เงินในประเทศเพื่อลงทุนในโครงการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | มท | 19/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบให้การไฟฟ้านครหลวงกู้เงินในประเทศเพื่อการลงทุนในโครงการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๒ แผน วงเงิน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ได้แก่ แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๑๐ ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๔ (ฉบับปรับปรุง) และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๑๑ ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1507 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับงานที่ทำเป็นโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 19/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกู้เงินในประเทศ เพื่อเป็นเงินลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๗ โครงการ วงเงิน ๘,๘๓๙.๒๑๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๑ วงเงิน ๓.๒๗๕ ล้านบาท ๒. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๒ วงเงิน ๖๗.๔๘๙ ล้านบาท ๓. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๘ ส่วนที่ ๒ วงเงิน ๒๖๕.๔๔๘ ล้านบาท ๔. โครงการก่อสร้างและปรับปรุงเสริมระบบจำหน่าย ระยะที่ ๗ วงเงิน ๑,๔๖๔.๐๔๘ ล้านบาท ๕. โครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร้าว เกาะนาคาใหญ่ จ. ภูเก็ต และเกาะพระทอง จ. พังงา) วงเงิน ๒๒.๗๙๐ ล้านบาท ๖. โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบจำหน่าย วงเงิน ๑,๙๔๑.๐๐๐ ล้านบาท ๗. โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ๑๑๕ เควี (วงจรที่ ๓) ไปยังเกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี วงเงิน ๗๙.๓๗๖ ล้านบาท ๘. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๑ วงเงิน ๖๙๙.๓๖๒ ล้านบาท ๙. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๒ วงเงิน ๒๓๓.๐๒๒ ล้านบาท ๑๐. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๓ วงเงิน ๕๙๐.๐๐๖ ล้านบาท ๑๑. โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๔ วงเงิน ๕๗๘.๕๘๑ ล้านบาท ๑๒. โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ ๓ วงเงิน ๑,๖๘๖.๗๑๐ ล้านบาท ๑๓. โครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะกูด, เกาะหมาก จ. ตราด) (ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๘) วงเงิน ๖๑๙.๐๒๔ ล้านบาท ๑๔. โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะพงัน จ. สุราษฎร์ธานี วงเงิน ๑๗๔.๔๕๐ ล้านบาท ๑๕. โครงการพัฒนาการอ่านหน่วยด้วยระบบอัตโนมัติ (Automatic Meter Reading : AMR) ระยะที่ ๒ วงเงิน ๒๑๔.๖๓๔ ล้านบาท ๑๖. โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ วงเงิน ๑๐๐.๐๐๐ ล้านบาท ๑๗. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ วงเงิน ๑๐๐.๐๐๐ ล้านบาท |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1508 | การดำเนินการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา | มท | 19/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. โดยที่การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของประเทศเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโครงการกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในลักษณะโครงการนำร่องเพื่อเป็นรูปแบบของการดำเนินการกำจัดขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยให้ใช้ที่ราชพัสดุ จำนวน ๓๗๒ ไร่ ๒ งาน ๒๙ ตารางวา ที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในความครอบครองขององค์การสุรา กรมสรรพสามิต สำหรับดำเนินโครงการดังกล่าว และให้ดำเนินการขอใช้ที่ราชพัสดุตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ในส่วนของงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการฯ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ แผนงานพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน ผลผลิตส่วนราชการมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ ภายในกรอบวงเงิน ๓๗๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการดังกล่าวข้างต้นตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการฯ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นก่อนดำเนินการก่อสร้าง การควบคุมการกำกับการดำเนินงานกำจัดขยะมูลฝอยให้เป็นไปตามสุขลักษณะการจัดการขยะมูลฝอยทั่วไป การควบคุมกำกับการขนส่งเพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งและปัญหาขยะมูลฝอยตกหล่นระหว่างทาง การติดตามตรวจสอบ กำกับดูแลการดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยทั้งระบบตั้งแต่การเก็บ ขน กำจัด และการเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบเป็นระยะ การจัดเวทีประชาคม ชี้แจงประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการดูแลและควบคุมมลพิษในพื้นที่โครงการ ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการลดปริมาณขยะและแก้ไขปัญหาขยะอย่างถูกวิธี การจัดตั้งคณะกรรมการในการติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังการดำเนินงาน ที่มีองค์ประกอบจากทุกภาคส่วน การพิจารณาความจำเป็นในการขอยกเว้นมิให้นำบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่ออาศัยอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามความจำเป็นต่อไป การควบคุม กำกับ ดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานในการขนย้ายขยะเก่าและก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะแห่งใหม่ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การพิจารณาออกกฎระเบียบรองรับเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และมาตรฐานการคัดแยก การเก็บรวบรวม ขนส่ง และวิธีการกำจัดที่ถูกต้อง ทั้งขยะมูลฝอยของชุมชน ขยะอันตราย และขยะติดเชื้อ รวมทั้งมาตรฐานสัญญาจ้างเอกชนในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอย เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานให้ถูกต้องเหมาะสม ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการจัดตั้งโรงกำจัดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศเพื่อให้มีโรงกำจัดขยะมูลฝอยเพียงพอที่จะรองรับปริมาณขยะมูลฝอยของทุกจังหวัด และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งประเภทและขนาดของโรงกำจัดขยะมูลฝอยตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ด้วย ๔. ให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการการบริหารจัดการเกี่ยวกับขยะมูลฝอยอย่างครบวงจรให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวมตลอดถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1509 | ขอความเห็นชอบให้ดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 5 รายการ | มท | 13/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ จำนวน ๕ รายการ วงเงิน ๒๙,๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค และค่าถอนคืนเงินค่าปรับ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ (เรื่อง การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน อันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท) รวม ๓ รายการ จำนวน ๒๔,๕๘๒,๓๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยขอให้ตรวจสอบค่าสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้นจริงและมียอดค้างชำระ เนื่องจากค่าสาธารณูปโภคที่ขออนุมัติในครั้งนี้เป็นประมาณการค่าใช้จ่ายจนถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๗ สำหรับค่าถอนคืนเงินค่าปรับจะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. ๒๕๕๐ ก่อน แล้วจึงขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1510 | การเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และการดำเนินโครงการเกี่ยวกับความมั่นคงหรือความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน (ขอความเห็นชอบให้ดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 9 รายการ) | มท | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้พิจารณาเกี่ยวกับการเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และการดำเนินโครงการเกี่ยวกับความมั่นคงหรือความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ลงมติว่า
๑. ในการเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการดำเนินโครงการใด ๆ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องและสำนักงบประมาณตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความพร้อมของการดำเนินโครงการให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อมิให้เกิดปัญหาการไม่สามารถดำเนินโครงการได้จริงในภายหลังด้วย ๒. ในกรณีที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องมีแผนงาน/โครงการหรือได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการใด ๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคงและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง (เช่น คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-พม่า คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-มาเลเซีย ของฝ่ายไทย เป็นต้น) ทราบโดยเร็วในโอกาสแรกเพื่อใช้ประโยชน์ในการประสานงานและการเจรจาในเวทีการเจรจาที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1511 | ขออนุมัติโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการให้บริการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (กลุ่มแรงงานต่างด้าว) | มท | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการให้บริการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (กลุ่มแรงงานต่างด้าว) ภายในกรอบวงเงิน ๑๔๕,๗๘๗,๒๒๐ บาท ตามที่ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ แผนงานรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผลผลิตการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน งบรายจ่ายอื่น จากรายการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจชายแดน เป็นรายการโครงการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการให้บริการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (กลุ่มแรงงานต่างด้าว) ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมการปกครองเป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการ และกรมการปกครองเป็นหน่วยดำเนินการเบิกจ่ายแทนสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยถือประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1512 | ขอความเห็นชอบให้ดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 รายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 9 รายการ (การเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และการดำเนินโครงการเกี่ยวกับความมั่นคงหรือความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน) | มท | 05/08/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติในหลักการให้ยกเลิกรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเดิม ๙ รายการ วงเงิน ๔๘๑,๖๔๓,๐๐๐ บาท ตามเหตุผลและความจำเป็นที่ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ไปเป็นรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ที่ยังคงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ จำนวน ๖ รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๒๓,๖๔๓,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๓๓,๕๔๖,๕๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๑๙๐,๐๙๖,๕๐๐ บาท และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการและขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๑.๒ สำหรับกรณีที่จะขออนุมัติโอนงบประมาณไปดำเนินรายการปีเดียวที่มีวัตถุประสงค์ต่างกันในรายการเครื่องทดสอบแรงดึงเหล็ก จำนวน ๗ เครื่อง วงเงิน ๒๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท และรายการค่าปรับปรุงต่อเติมห้องทดสอบแรงดึงเหล็ก จำนวน ๓ แห่ง วงเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๕,๕๐๐,๐๐๐ บาท นั้น สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับไว้แล้ว ซึ่งหากไม่เพียงพอ ก็เห็นสมควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ จากรายการที่มีงบประมาณเหลือจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่เป็นรายการปีเดียวมาดำเนินการตามรายการดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ส่วนโครงการตรวจสอบและกำหนดวิธีการซ่อมแซมวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย จำนวน ๙,๙๕๐,๐๐๐ บาท ขอให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยใช้จ่ายจากกรณีการยกเลิกรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณดังกล่าวข้างต้นตามขั้นตอนต่อไป ๒. คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีความเห็นเพิ่มเติมว่า ๒.๑ ในการเสนอขอตั้งและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการดำเนินโครงการใด ๆ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องและสำนักงบประมาณตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความพร้อมของการดำเนินโครงการให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อมิให้เกิดปัญหาการไม่สามารถดำเนินโครงการได้จริงในภายหลังด้วย ๒.๒ ในกรณีที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องมีแผนงาน/โครงการหรือได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการใด ๆ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคงและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง (เช่น คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-พม่า คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-มาเลเซีย ของฝ่ายไทย เป็นต้น) ทราบโดยเร็วในโอกาสแรกเพื่อใช้ประโยชน์ในการประสานงานและการเจรจาในเวทีการเจรจาที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1513 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมจำนวน 6 ฉบับ ต่อไปอีกหนึ่งปี) | มท | 29/07/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปีเพิ่มขึ้น จำนวน ๖ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยยกเว้นในส่วนของการขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๒ เนื่องจากสิ้นสุดการใช้บังคับแล้ว จึงไม่อาจขยายระยะเวลาบังคับใช้ได้ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ติดตาม เร่งรัด สนับสนุนท้องถิ่นในการวางและจัดทำผังเมืองรวมให้แล้วเสร็จ ก่อนที่ผังจะหมดอายุการบังคับใช้ลง เพื่อให้ผังเมืองรวม จำนวน ๖ ฉบับดังกล่าว มีการใช้บังคับอย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดช่องว่างให้มีการอนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดทำผังเมืองรวมได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการกรณีการขอขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมไม่ทันภายในกำหนดเวลา (รวมถึงกรณีกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๒) ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาในระหว่างที่ยังไม่มีกฎกระทรวงใช้บังคับ แล้วเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกรณีที่ดินหรือที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ถูกใช้บังคับผังเมืองรวมและการปรับปรุงแก้ไขผังเมืองรวม ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินที่มีอยู่เพื่อการอยู่อาศัย ทำมาหากิน หรือประกอบธุรกิจต่อไปได้ และให้ชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1514 | การก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ 2 | มท | 22/07/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ ๒ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ ๒ ระหว่างเมืองพัทยากับกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ โดยขอทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้แล้ว จำนวน ๖๘,๓๔๖,๓๐๐ บาท และได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้แล้ว จำนวน ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๓๗๘,๙๕๓,๗๐๐ บาท ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1515 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นายอัครเดช เจิมศิริ) | มท | 15/07/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนายอัครเดช เจิมศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ข้าราชการดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1516 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 (กระทรวงมหาดไทย) (นายวิทยา ผิวผ่อง) | มท | 15/07/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายวิทยา ผิวผ่อง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อไปอีกเป็นครั้งที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ (เกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ กรณีการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาข้างต้นเป็นเรื่องที่ค้างการพิจารณาก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งข้าราชการดังกล่าวเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการปฏิบัติราชการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การบริหารราชการของจังหวัดมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1517 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการจัดส่งนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย (ระยะที่ 9) พ.ศ. 2557 - 2561 | มท | 08/07/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการจัดส่งนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย (ระยะที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑ วงเงิน ๓๖,๕๙๐,๐๐๐ บาท และสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่กำลังศึกษาต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๐๐ คน ในวงเงิน ๓,๘๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รองรับแล้ว ภายใต้แผนงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมการปกครอง และสำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ เกี่ยวกับการบูรณาการโครงการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) เร่งดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นจำนวนผู้จบการศึกษา การประกอบอาชีพหลังจบการศึกษา และประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงพัฒนาการดำเนินโครงการต่อไป และให้รายงานผลการประเมินให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบด้วย ๓. ให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการในการดำเนินการและประสานงานกับประเทศ/องค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลนักศึกษา/นักเรียนไทยที่ได้รับทุนการศึกษาจากต่างประเทศ ทั้งในส่วนที่ได้รับทุนของรัฐบาลที่ให้ต่อรัฐบาล และส่วนที่ได้รับทุนโดยตรงจากภาคเอกชนและองค์กรต่างประเทศเพื่อดำเนินการให้เหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1518 | สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย | มท | 06/05/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๐๘ น. จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ขนาด ๖.๓ ริกเตอร์ ความลึก ๗ กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และได้เกิดแผ่นดินไหวตามมา (Aftershock) อีกหลายครั้ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเสนอ และที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) เสนอเพิ่มเติมว่า สถานการณ์แผ่นดินไหวเกิดจากรอยเลื่อนพะเยา ซึ่งเป็นการเลื่อนตามแนวนอน ความรุนแรงของสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด ๖.๑-๖.๓ ริกเตอร์ ถือได้ว่าเป็นความรุนแรงสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยในปี ๒๕๓๗ ได้เกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ขนาด ๕.๓ ริกเตอร์ การเกิดแผ่นดินไหวตามมา (Aftershock) จะเกิดขึ้นประมาณ ๓-๔ วัน โดยมีความรุนแรงไม่เกิน ๕ ริกเตอร์ สำหรับผลจากการเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวจะทำให้เกิดหลุมยุบจำนวนมากโดยเฉพาะบริเวณถ้ำหินปูน จึงควรเร่งสำรวจพื้นที่ที่อาจเกิดหลุมยุบ บ้านเรือนที่ปลูกสร้างในพื้นที่สูง สถานที่ราชการ และเส้นทางคมนาคม ซึ่งอาจเกิดปัญหาดินถล่มได้ ๒. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการสำรวจความเสียหาย การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และการแก้ไขปัญหาหรือผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว ทั้งนี้ การใช้งบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหวในระยะเร่งด่วน ให้พิจารณาใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1519 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 (กระทรวงมหาดไทย) (นายวิทยา ผิวผ่อง) | มท | 22/04/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายวิทยา ผิวผ่อง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อไปอีกเป็นครั้งที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ (เกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้มีผลดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๘๑ (๑) แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1520 | แต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (นายสมชาย โรจน์รุ่งวศินกุล) | มท | 22/04/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งนายสมชาย โรจน์รุ่งวศินกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในอัตราค่าตอบแทนคงที่เดือนละ ๔๕๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า กรณีนี้ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความเห็นชอบก่อน ตามมาตรา ๑๘๑ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แจ้งว่า การที่คณะรัฐมนตรีจะแต่งตั้งนายสมชาย โรจน์รุ่งวศินกุล เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ความเห็นชอบก่อน ตามมาตรา ๑๘๑ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
|
.....