ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 569 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 11361 - 11380 จากข้อมูลทั้งหมด 124011 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11361 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติให้มีการรับรองเอกสารสำหรับการประชุม Global Forum for Food and Agriculture (GFFA) ครั้งที่ 12 และการประชุม Berlin Agriculture Minister's Conference ครั้งที่ 12 | กษ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้มีการรับรองเอกสารสำหรับการประชุม Global Forum for Food and Agriculture (GFFA) ครั้งที่ ๑๒ และการประชุม Berlin Agriculture Minister''s Conference ครั้งที่ ๑๒ รวม ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างเอกสารแถลงการณ์ (First draft GFFA Communique 2020) มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมย์ในการส่งเสริมการดำเนินการและนโยบายที่เกี่ยวข้องด้านการค้าสินค้าเกษตร การค้าพหุภาคี การพัฒนาห่วงโซ่อาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรที่ครอบคลุมและยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมความปลอดภัยอาหารและความมั่นคงทางอาหาร และ (๒) เอกสาร FAO-Concept Note for an International Digital Council for Food and Agriculture มีสาระสำคัญเพื่อนำเสนอการจัดตั้ง International Digital Council for Food and Agriculture ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและให้คำแนะนำเชิงนโยบายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลสำหรับระบบอาหารและการเกษตรในการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัยและความยั่งยืน โดยเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวจะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนามในการประชุม Berlin Agriculture Minister''s Conference ครั้งที่ ๑๒ ในวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของเอกสารทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11362 | ขอความเห็นชอบในหลักการการเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) | ดศ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท โทรคมนาคม) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ย่าน ๗๐๐ MHz ๑๘๐๐ MHz ๒๖๐๐ และ ๒๖ GHz ตามเงื่อนไขประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่เกี่ยวข้อง และเห็นชอบให้คณะกรรมการ บมจ. กสท โทรคมนาคม และคณะกรรมการ บมจ. ทีโอที เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบให้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่และอนุมัติงบประมาณให้เป็นไปตามเงื่อนไขประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้อง โดยให้พิจารณาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม รวมทั้งความสอดคล้องกับแผนธุรกิจและนโยบายของ บมจ. กสท โทรคมนาคม และ บมจ. ทีโอที และในกรณีที่เป็นผู้ชนะการประมูลก็ให้สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการประมูลดังกล่าว ซึ่งมีกรอบะระยเวลาจำกัดตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าในอัตราที่กำหนด และการลงทุนเบื้องต้นตามภาระผูกพัน เป็นต้น สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในส่วนที่เหลือนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่ต้องชำระภายในกำหนด และการลงทุนในโครงการตามภาระผูกพันในระยะต่อไป ให้รัฐวิสาหกิจนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการดำเนินการต่อไป โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบ/กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำกับดูแลแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวนัที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง กรอบและงบประมาณของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖) อย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในขั้นตอนการพิจารณาการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่และการอนุมัติงบประมาณของคณะกรรมการ บมจ. กสท โทรคมนาคม และ บมจ. ทีโอที ควรพิจารณาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ดังกล่าว โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง และการดำเนินงานตามแผนธุรกิจ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11363 | (ร่าง) แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 - 2570 กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | อว | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาระบบอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้สอดคล้องและบูรณาการกัน เพื่อให้เกิดเป็นพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมในลักษณะต่อเนื่องหลายปี (Multi-year) โดยกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด ความสำเร็จ และมีการบริหารจัดการโปรแกรมในลักษณะของแพลตฟอร์มที่มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ส่ง (ร่าง) แผนดังกล่าวให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ๒. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวมทั้งสิ้น ๑๐,๒๕๐ ล้านบาท และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๓. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รวมทั้งสิ้น ๔๗,๑๙๒ ล้านบาท และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๔. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11364 | มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์ และสามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันทีเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ประกาศใช้บังคับ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11365 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย สำหรับรายการงบประมาณซึ่งจะต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณ และมีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป | มท | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๕ หน่วยงาน ๑๐ โครงการ วงเงิน ๒๑,๓๓๒.๙๕๙๕ ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยจัดลำดับความสำคัญของโครงการตามความเหมาะสมจำเป็น ตามวงเงินงบประมาณประจำปีเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปประกอบการดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11366 | ขออนุมัติการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวนรวม ๗ รายการ (ภายใต้โครงการ จำนวน ๕ โครงการ) วงเงินรวม ๔,๐๖๕.๐๗๓๘ ล้านบาท โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดลำดับความสำคัญของโครงการตามความเหมาะสมจำเป็นตามวงเงินงบประมาณประจำปีเสนอสำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชนที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11367 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางรำไพ เกียรติอดิศร และนายไพบูลย์ อัศวธนบดี) (นางรำไพ เกียรติอดิศร) | สธ | 14/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางรำไพ เกียรติอดิศร ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. นายไพบูลย์ อัศวธนบดี ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลมหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11368 | สรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 26 | นร | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๒๖ (The 26th Meeting of Mekong River Commission Council) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๕-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเห็นว่าจำเป็นต้องเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบกับปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นอย่างมาก ๒. หัวหน้าคณะผู้แทนไทยได้กล่าวถึงความจำเป็นในการดำเนินความร่วมมือของคณะกรรมาธิการฯ ในการตอบสนองต่อประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความรุนแรงของปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศลุ่มน้ำโขงที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงโดยรวม ซึ่งไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหาภายใต้หลักการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ การส่งเสริมความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศคู่เจรจา (จีนและเมียนมา) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ รวมทั้งการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอื่น ๆ ๓. ที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติยุทธศาสตร์การจัดการภัยแล้ง (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการฯ เสนอ โดยกองทุนรวมญี่ปุ่น-อาเซียนให้การสนับสนุนงบประมาตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีกรอบแนวทางการดำเนินงาน ๕ ประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การตรวจสอบดัชนีภัยแล้ง (๒) การพยากรณ์ภัยแล้งและการเตือนภัยล่วงหน้า (๓) การสร้างขีดความสามารถบุคลากร (๔) มาตรการบรรเทาผลกระทบ และ (๕) การแบ่งปันและการเผยแพร่ข้อมูล ๔. ที่ประขุมฯ มีมติอนุมัติแผนปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๔ ของคณะกรรมาธิการฯ ตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการฯ เสนอ ซึ่งเป็นแผน ๒ ปี เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมล่วงหน้าด้านงบประมาณและกิจกรรมการดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่านของการเริ่มแผนกลยุทธ์สำนักงานคณะกรรมาธิการฯ ฉบับใหม่ที่จะเริ่มในต้นปี ๒๕๖๔ (MRCS Strategic Plan พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘) ๕. ที่ประขุมฯ รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลงกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนำโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบางเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้า ๖. ที่ประชุมฯ รับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานสำนักงานคณะกรรมาธิการฯ เช่น ความสำเร็จและการปิดโครงการการจัดการน้ำแบบบูรณาการ (Mekong Integrated Water Resources Management Project) ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับหุ้นส่วนการพัฒนาและคู่เจรจา การเตรียมการจัดทำยุทธศาสตร์ลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๓) และการจัดทำยุทธศาสตร์องค์กร (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘) เป็นต้น ๗. หุ้นส่วนการพัฒนาและองค์กรความร่วมมือในภูมิภาคได้เสนอการพัฒนาและการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การจัดทำรายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำโขงครอบคลุมพื้นที่ตอนบนและตอนล่าง และการสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกนำประเด็นพลังงานทดแทนบรรจุไว้ในแผนพลังงานของประเทศ และการสนับสนุนให้มีการแบ่งปันข้อมูลระดับน้ำ ปริมาณน้ำ และตะกอนในพื้นที่ต้นน้ำและท้ายน้ำแบบใกล้เวลาจริงในทุกฤดูกาล เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11369 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | ทส | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแผนที่หมายเลข ๑/๒ ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับแผนที่ดังกล่าว ระบุหมายเลขทางหลวงไม่ตรงกับข้อมูลของกรมทางหลวง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวต่อไปด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11370 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุทธิลักษณ์ เอื้อจิตถาวร และนางสาวพัชรา เพ็ชรทวี) | นร10 | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้
๑. นางสุทธิลักษณ์ เอื้อจิตถาวร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. นางสาวพัชรา เพ็ชรทวี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11371 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย พ.ศ. .... | ยธ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดค้าน การถอดถอน การสิ้นสภาพ และการเพิกถอนผู้ไกล่เกลี่ย รวมทั้งวิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำขอ การพิจารณาการมีคำสั่ง และการให้ผู้ไกล่เกลี่ยคนอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ไกล่เกลี่ยผู้ซึ่งถูกคัดค้าน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11372 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ จังหวัดเชียงใหม่ (นายเซบัสทีอัน - ยุสทุส ชมิท) | กต | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเซบัสทีอัน-ยุสทุส ชมิท (Mr. Sebastian-Justus Schmidt) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง และแพร่ สืบแทน นายฮาเกิน เอ.เว เดียร์คเซิน (Mr. Hagen E.W. Dirksen) ซึ่งเกษียณอายุในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11373 | ร่างพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อกำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการสามารถจัดการศึกษาสายอาชีวศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตรประกาศนียบัตรเตรียมอาชีวศึกษาได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่เด็กและเยาวชนในการศึกษาต่อจากระดับประถมศึกษาตามความสนใจและความถนัดของตน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11374 | สรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ 14 | กษ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ ๑๔ [The Fourteenth Session of the Conference of the Parties (COP14) to the United Nations Convention to Combat Desertification (UNCCD)] จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒-๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน (นางสาวเบญจพร ชาครานนท์) เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยในการเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในบริบทที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฯ การพัฒนาการดำเนินงานการจัดการทรัพยากรที่ดิน (Land Degradation Neutrality : LDN) และการพัฒนาวิขาการ นโยบาย และการเผยแพร่ความรู้ การเตรียมการประเมินผลการดำเนินงานในช่วงกลางของแผนยุทธศาสตร์ของอนุสัญญาฯ ปี ๒๕๖๑-๒๕๗๓ แผนการดำเนินงานของอนุสัญญา ระยะ ๔ ปี (๒๕๖๓-๒๕๖๖) การพัฒนากระบวนการสื่อสารข้อมูล คุณภาพ และรูปแบบของรายงานที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ และการร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินโครงการ Decision Support for Mainstreaming and Scaling up of Sustainable Land Management (DS-SLM) ร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO) รวมถึงประเด็นสำคัญที่กรมพัฒนาที่ดินจะประสานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการที่สำคัญ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11375 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ....) | มท | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (อำเภอเมืองบึงกาฬ) พื้นที่บริเวณที่ ๒ (อำเภอปากคาด) พื้นที่บริเวณที่ ๓ (อำเภอบุ่งคล้า) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (อำเภอโซ่พิสัย) พื้นที่บริเวณที่ ๕ (อำเภอพรเจริญ) พื้นที่บริเวณที่ ๖ และพื้นที่บริเวณที่ ๗ (อำเภอเซกา) ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต ในพื้นที่บริเวณที่ ๑ (ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๒ และพื้นที่บริเวณที่ ๓ (ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๔ (ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต) พื้นที่บริเวณที่ ๕ ถึงพื้นที่บริเวณที่ ๑๐ (ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11376 | รายงานผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | กษ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในนโยบายด้านการเกษตร และการซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว สินค้าปศุสัตว์ ผลไม้ไทย เป็นต้น การเยี่ยมชมตลาดรูปแบบร้านค้าปลีกแนวใหม่ “HEMA” (เหอหม่า) ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตติดแอร์ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบที่ผสมผสานการซื้อขายสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้แก่ การจัดทำพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านการตรวจสอบกักกันผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ส่งออกจากไทยไปจีน และการลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชในการนำเข้ารำสกัดน้ำมัน และกากเนื้อในเมล็ดปาล์มจากไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11377 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเรือและขนาดเรือ และลักษณะของสิ่งที่จะบรรทุกสำหรับเรือสนับสนุนการประมง พ.ศ. .... | คค | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเรือและขนาดเรือ และลักษณะของสิ่งที่จะบรรทุกสำหรับเรือสนับสนุนการประมง พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช ๒๔๘๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทและขนาดของเรือ และลักษณะของสิ่งที่จะบรรทุกหรือให้การสนับสนุนสำหรับเรือสนับสนุนการประมงเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการกองเรือไทยที่เกี่ยวข้องกับการประมงและเป็นมาตรการสนับสนุนการป้องกันการทำประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11378 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... | ดศ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอขอแก้ไขระยะเวลาในการสรรหาประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในร่างข้อ ๓ วรรคสอง จากเดิม “ ...ให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการสรรหาครบถ้วนตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ...” เป็น “ ...ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน ...” และแก้ไขระยะเวลาในการเปิดรับสมัครบุคคลที่สมควรได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในร่างข้อ ๔ วรรคสอง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเปิดรับสมัคร จากเดิม “ระยะเวลาหกสิบวัน” เป็น “ระยะเวลาสามสิบวัน” ๒. อนุมติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำรงตำแหน่งแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขร่างข้อ ๓ วรรคสอง และร่างข้อ ๔ วรรคสอง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น การกำหนดขั้นตอนการพิจารณาบัญชีรายชื่อการรับสมัครบุคคลเพื่อให้คณะกรรมการทาบทามบุคคล เพื่อรับเลือกเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมได้อีก ควรดำเนินการในขั้นตอนรับสมัครบุคคลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น การพิจารณาเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการสรรหา ควรมีข้อกำหนดให้เลือกผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบทุกด้าน และการกำหนดระยะเวลากรณีประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้เริ่มดำเนินการภายใน ๙๐ วัน ควรลดระยะเวลาลงเหลือ ๓๐ วัน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ได้ภายใน ๙๐ วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องใช้ระยะเวลาเป็นอย่างมาก ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ นั้น อยู่ในระหว่างที่มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประธานรัฐสภา ซึ่งส่งผลให้การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา ๙๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11379 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2560 | คค | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน และงบกระแสเงินสด ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินแล้วมีความเห็นว่า งบการเงินของ กปถ. แสดงฐานะการเงินโดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังประกาศใช้ โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะประกอบการตรวจสอบงบการเงินบางประการ สำหรับรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน กปถ. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อเสนอแนะให้ผู้บริหาร กปถ. ดำเนินการแก้ไขความเสี่ยงในการบริหารจัดการลูกหนี้ค่าหมายเลขทะเบียนรถ การประมวลผลข้อมูลบัญชีและการเงิน การอนุมัติโครงการตามกรอบวงเงิน ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินตามโครงการที่ได้รับการอนุมัติ และการติดตามผลจากการตรวจสอบงบการเงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมนำรายงานในเรื่องนี้ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อรัฐสภาได้รับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11380 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... | กษ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ และเพิ่มเติมให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติมีอำนาจมอบหมายหน่วยงานอื่นออกใบอนุญาตดังกล่าวได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....