ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 417 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8321 - 8340 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8321 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 258 - 283/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 181 - 206/2564 ระหว่าง นายสนั่น เพ็งกระจ่าง ที่ 1 กับพวกรวม 28 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6) เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๒๕๘-๒๘๓/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๑๘๑-๒๐๖/๒๕๖๔ ระหว่าง
นายสนั่น เพ็งกระจ่าง ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๘ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖)
เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
และความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
โดยศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง และต่อมาผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8322 | การปรับลดพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 19 กันยายน 2564) | นร.08 | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
มาบังคับใช้แทน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๔ ๓.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๓.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
และร่างประกาศ เรื่อง
ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอกาบัง
จังหวัดยะลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8323 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราการจ่ายเงินสมทบของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน ในกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบที่รัฐบาลจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับบุคคลซึ่งสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน ในกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | รง. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้นำร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาในคราวเดียวกัน
ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราการจ่ายเงินสมทบของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน
ในกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดอัตราเงินสมทบที่ผู้ประกันตนต้องจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม
ตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นระยะเวลา ๖ เดือน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบที่รัฐบาลจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับบุคคลซึ่งสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน
ในกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดอัตราเงินสมทบที่รัฐบาลต้องจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคมฯ เป็นระยะเวลา ๖ เดือน ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสม
ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคม
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต
ตามนัยของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8324 | การยกเว้นอากรศุลกากรและภาษีสรรพสามิต สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) | กค. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ
สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นของตามพิกัดประเภทใด
ซึ่ง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.)
นำเข้ามาเพื่อใช้ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมฯ สำหรับโครงการ c]t-2
และของที่จะได้รับการยกเว้นอากรจะต้องมีหนังสือรับรองจากผู้อำนวยการ สทอภ. ว่านำมาใช้สำหรับโครงการระบบดาวเทียมฯ
โครงการ THEOS-2 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ๒. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจพร้อมระบบภาคพื้นดินและระบบแอปพลิเคชันภูมิสารสนเทศ
สำหรับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นสินค้าตามพิกัดประเภทใด
ซึ่ง สทอภ. นำเข้ามาเพื่อใช้ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมฯ สำหรับโครงการ THEOS-2 ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ร่างประกาศกระทรวงการคลังรวม ๒ ฉบับ
มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๕ ๓. ให้หน่วยงานของรัฐที่จะดำเนินโครงการต่าง
ๆ ต่อไปในอนาคต ขอรับจัดสรรงบประมาณให้ครอบคลุมค่าภาษีและอากรโดยครบถ้วน
เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารนโยบายการคลังและภาษีอากรของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8325 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เพิ่มเกณฑ์อายุเด็กในกรณีที่เด็กกระทำความผิดอาญา)(สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร) | นร. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๔
มิถุนายน ๒๕๖๔ เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8326 | ขอให้พิจารณาประกาศพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบสรุปผลการประเมินพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
ประกอบการพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.
๒๕๕๑ ประกอบด้วย สถิติและสถานการณ์การก่อเหตุรุนแรงในภาพรวมของอำเภอกาบัง
จังหวัดยะลา ผลการประเมินความพร้อมของศูนย์ปฏิบัติการอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ผลการประเมินความพร้อมของกำลังประจำถิ่น
ผลการประเมินความพร้อมของกำลังประชาชน ผลการประเมินการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ทัศนคติของประชาชนต่อการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่อำเภอกาบัง
จังหวัดยะลา และเหตุผลความจำเป็นในการประกาศให้พื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณจักร ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒.
เห็นชอบร่างประกาศ และร่างข้อกำหนด รวม ๔ ฉบับ
ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ร่างประกาศ เรื่อง
พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๒.๒ ร่างประกาศ เรื่อง
การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๒.๓ ร่างประกาศ เรื่อง
กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๒๑
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๔ ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8327 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายอภิชาติ ดำรงไทย และนางปิยะดา ประเสริฐสม) | สธ. | 15/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายอภิชาติ ดำรงไทย นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม
สาขาจิตเวช) โรงพยาบาลสวนปรุง กรมสุขภาพจิต ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาจิตเวช) สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓ ๒. นางปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนัก [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(ทันตแพทย์) ระดับสูง] สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) กรมอนามัย
ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8328 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การพัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ
สภาผู้แทนราษฎร ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานและข้อสังเกต
เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนากลไกภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แนวทางการพัฒนาความพร้อมด้านเส้นทางคมนาคม
แนวทางการพัฒนาสื่อและช่องทางการประชาสัมพันธ์
แนวทางการกำหนดสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ แนวทางการกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทน
และนาวทางการท่องเที่ยวยุค New Normal ที่เห็นว่า ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในประเด็น “สร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว”
เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐)
โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
การพัฒนาระบบคมนาคม
ต้องคำนึงความสะดวกและความเชื่อมโยงของรูปแบบการคมนาคมในระบบต่าง ๆ
โดยต้องดำเนินการให้เชื่อมโยงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
การกำหนดแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการให้พัฒนาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวควรควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงในพื้นที่ท่องเที่ยว
การให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการต้องพิจารณากำหนดระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ที่แน่นอนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมในระยะยาวได้
และกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการบูรณะเส้นทางคมนาคมสายหลักในการเดินทางสู่ภาคใต้
คือทางหลวงหมายเลข ๔ และ ๔๑ เริ่มต้นจาก อำเภอปราณบุรี
จังหวัดประจวบคิรีขัน์-อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๘
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8329 | แผนปฏิบัติการภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561 - 2565 ฉบับทบทวน และแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด | นร.11 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนปฏิบัติการภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ฉบับทบทวน
และแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบูรณาการนโยบายการพัฒนาภาคเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ทั้ง ๖ ภาค ประกอบด้วย แผนปฏิบัติการภาคเหนือ
แผนปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แผนปฏิบัติการภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร
แผนปฏิบัติการภาคตะวันออก แผนปฏิบัติการภาคใต้และภาคใต้ชายแดน จำนวน ๕๐๕ โครงการ วงเงินงบประมาณ
๖๓,๕๙๕.๗๖ ล้านบาท ๒. เห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ฉบับทบทวน จำนวน ๗๖ จังหวัด และ ๑๘ กลุ่มจังหวัด โดยให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดนำความเห็นและข้อเสนอแนะของฝ่ายเลขานุการฯ
ไปทบทวนและปรับปรุงแผนเพื่อให้มีความสมบูรณ์ในระยะต่อไป เช่น (๑)
ควรนำเสนอข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
สังคม และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้มีความสอดคล้องกับข้อมูลปัจจุบันมากที่สุด
(๒) ควรจัดลำดับความสำคัญของปัญหาและความต้องการของประชาชน
พร้อมทั้งระบุพื้นที่เป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน และ (๓)
ควรกำหนดตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับเป้าหมายและประเด็นการพัฒนา
พร้อมทั้งกำหนดค่าฐานเพื่อให้สามารถกำหนดค่าเป้าหมายที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้ ๓. เห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวน ๗๖ จังหวัด และ ๑๘ กลุ่มจังหวัด
ประกอบด้วย (๑) สนับสนุนภายในกรอบวงเงิน จำนวน ๑,๓๐๓ โครงการ งบประมาณ ๒๙,๐๘๕.๘๒ ล้านบาท (๒)
สนับสนุนเกินกรอบวงเงิน จำนวน ๔๕๔ โครงการ งบประมาณ ๑๓,๗๙๖.๕๑ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8330 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2564 | ศอบต. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑)
เรื่องเพื่อทราบ (๑ เรื่อง) ได้แก่ ความคืบหน้าการช่วยเหลือและการพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) (๒) เรื่องเพื่อพิจารณา (๔ เรื่อง) ได้แก่ ๑. การแก้ไขการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
๒. การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความยั่งยืน ๓.
ข้อเสนอการแก้ไขปัญหาสุขภาวะและภาวะโภชนาการต่ำของเด็กเล็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ ๔. ขอทบทวนมติ กพต. เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เรื่อง แผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8331 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 | กค. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นจริง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
ยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะ
ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8332 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 | ทส. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8333 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องจักรกลสำหรับรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง | นร.14 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๔๒๖.๔๗๒
ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องจักรกลสำหรับรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
รวม ๒๔ รายการ จำนวน ๓๒ เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่เร็ว
ขับด้วยระบบโฮดรอลิค ขนาด ๒๔ นิ้ว ขนาด ๓๐นิ้ว และขนาด ๔๒ นิ้ว ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8334 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564) | ปสส. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ ซี่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ พิธีสารแก้ไขข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๓
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๔
รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๔
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการวิปรัฐบาล สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8335 | การขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในคนต่างด้าวที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 | รง. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการการขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ในคนต่างด้าวที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ ดังนี้ (๑) ขยายระยะเวลาให้คนต่างด้าวดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 การประกันสุขภาพ จากเดิมภายในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ เป็นวันที่ ๑๓
กันยายน ๒๕๖๔ (๒) ขยายระยะเวลาให้กลุ่มคนต่างด้าวที่ลงทะเบียนไม่มีงานทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
(ทร. ๓๘/๑) จากเดิมภายในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ เป็นวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ (๓)
ขั้นตอนอื่นตามที่กำหนดไว้ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๔ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๔
ไว้ดำเนินการตามที่แนวทางที่กำหนดเดิม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นว่า “คนต่างด้าวที่ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เรียบร้อยแล้ว และได้รับผลการตรวจ
ที่แสดงว่าไม่เป็นผู้ติดเชื้อ ก่อนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
การตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่
2019 พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งยังไม่เข้ารับการตรวจสุขภาพและซื้อประกันสุขภาพ จะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 อีกครั้ง” ไปพิจารณาด้วย ๒. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓
(ฉบับที่ ..) และร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่
..) รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้กระทรวงแรงงานเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการนำคนต่างด้าวเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป
เพื่อให้การดำเนินงานขึ้นทะเบียนคนต่างด้าวให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา
และหลังสิ้นสุดระยะเวลาการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษแล้ว
ให้หน่วยงานความมั่นคงดำเนินการตรวจสอบปราบปราม จับกุมดำเนินคดี
คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8336 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 2/2564 | นร.11 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ครั้งที่๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ โดยที่ประชุมได้รับทราบเรื่องที่สำคัญ
ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจ
ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจ และพิจารณาแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของจังหวัดนำร่องในไตรมาสที่
๓ และไตรมาสที่ ๔ ของปี ๒๕๖๔ มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8337 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2564) และครั้งที่ 2 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2564) | นร.04 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๑ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔) และครั้งที่ ๒
(ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔) ซึ่งสรุปรายงานดังกล่าวเป็นการรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก
เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การทะนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค
เป็นต้น และนโยบายเร่งด่วน เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน การปรับปรุงระบบสวัสดิการคุณภาพชีวิตของประชาชน
มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม การยกระดับศักยภาพของแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ ๒๑
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8338 | การกำกับดูแลสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) | นร. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
นับเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารและสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
ที่มีความสะดวกรวดเร็วและเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
อย่างไรก็ดี
ปรากฏว่าข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่อยู่ในสังคมออนไลน์บางส่วนเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือเป็นข้อมูลปลอม (Fake news) ก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายแก่ผู้เกี่ยวข้อง
หรือต่อบุคคล เอกชน และภาครัฐ รวมทั้งสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนสับสน
ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งวุ่นวายในสังคมได้
สมควรที่จะมีการจัดระเบียบและกำกับดูแลการนำเสนอหรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับเรื่องนี้ไปศึกษาและพิจารณาดำเนินการ
โดยให้นำแนวทางของประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาประกอบการศึกษาและพิจารณาด้วย
แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8339 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 19/2564 | นร.11 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติและรับทราบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
ได้แก่ โครการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้พระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม จำนวน ๓ โครงการ ของกรมการแพทย์ กรมอนามัย และกรมสุขภาพจิต
กระทรวงสาธารณสุข
ข้อเสนอแผนงาน/โครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ของกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการ กรณีโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนของจังหวัดยโสธร
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าเพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8340 | ข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) | นร.10 | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ
จำนวน ๑๐,๐๐๐ อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) และอนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๒,๒๕๔,๓๒๐,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)
ตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
โดยให้สำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๓๐/๑๑๑๐๘ ลงวันที่ ๑๗
พฤษภาคม ๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เกี่ยวกับการจ้างงานตามกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเฉพาะกิจที่ได้รับการจัดสรรที่กำหนดให้ส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรรายงานผลการจ้างงาน
ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
พร้อมทั้งสภาพปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจให้สำนักงาน
ก.พ. ภายในวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ มีระยะเวลาสั้นเกินไป ส่วนราชการอาจดำเนินการไม่ทันตามระยะเวลาที่กำหนด
จึงควรขยายระยะเวลาจนถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ อีกทั้งแนวทางฯ ดังกล่าว
เป็นการบรรเทาปัญหาการว่างงานระยะสั้นเพียง ๑ ปี
ควรมีแนวทางในการแก้ปัญหาในระยะกลาง และระยะยาวต่อไป
และเพื่อให้การจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจมีความคุ้มค่ามากที่สุด ควรกำหนดผลผลิตและผลลัพธ์ในการทำงานของพนักงานราชการให้ชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันนโยบายรัฐบาลดิจิทัลและนโยบาย BCG Economy แทนที่จะให้พนักงานราชการเฉพาะกิจนี้ทำงานปกติประจำ (routine) ซึ่งไม่มีมูลค่าเพิ่มต่อการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจมากนัก
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |