ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 67 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1321 - 1340 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1321 | ผลการประชุมปฏิบัติการเรื่องแนวทางการพัฒนาการศึกษาของชาติ | ศธ | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พิ้นฐานรายงานผลการประชุมปฏิบัติการเรื่องแนวทางการพัฒนาการศึกษาของชาติ ระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2548 ณ โรงแรมโซฟิเทล จังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณรวมทั้งสิ้น 150 คน จากจังหวัดต่าง ๆ วัตถุประสงค์ของการประชุมเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา ของการจัดการศึกษา และแสดงความต้องการแนวทางในการพัฒนาการศึกษาของชาติ และของภูมิภาคใน เรื่องของหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน การพัฒนาครู สถานศึกษา และแนวทางการบริหารจัดการ ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกำหนดแนวทางในการ พัฒนายุทธศาสตร์ของการพัฒนาการศึกษาของชาติและภูมิภาค โดยผลการประชุมเป็นที่น่าพอใจ ผู้เข้า ร่วมประชุมส่วนใหญ่ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการศึกษาที่เป็นประ โยชน์ต่อการวางแผนยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และในการประชุมได้มีการ กล่าวถึงเรื่องสำคัญๆ ได้แก่ การส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน การสร้างและซ่อมแซมอาคาร เรียนเพื่อทดแทนอาคารที่ชำรุด และรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู การพัฒนาด้านคุณภาพของหลักสูตรปฐมวัย การดูแลเด็กยากจน ด้อยโอกาส และผู้พิการเป็นพิเศษ เรื่อง การขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 และเรื่องถ่ายโอนสถานศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
|
||||||||||||||||||||||||
1322 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับ "ยุทธศาสตร์การผังเมืองของประเทศไทย | สสป | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การผังเมืองของประเทศไทย และรับทราบตาม ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย อาทิ ข้อ เสนอให้ย้ายภารกิจด้านนโยบายผังเมืองจากกระทรวงมหาดไทยไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การกำหนด นโยบายและการกำกับดูแลด้านผังเมือง และการจัดทำผังภาคสามารถกระทำได้ด้วยกลไกทางด้านงบประมาณ และการควบคุมทางกฎหมาย บรรลุผลตามเป้าหมายของรัฐและเป็นอิสระจากงานด้านปฏิบัติ เห็นว่า การวาง และจัดทำผังเมืองมี 2 ระดับ คือ ผังระดับนโยบาย ได้แก่ ผังประเทศ ผังภาค ผังอนุภาค และผังระดับปฏิบัติ ได้แก่ ผังเมืองรวมจังหวัด ผังเมืองรวมระดับเมืองหรือชุมชน ผังเมืองเฉพาะและผังอื่น ๆ ซึ่งการดำเนินงานทั้ง 2 ระดับมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในเชิงพื้นที่เป็นลำดับชั้น ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ทั้งในเชิงการกำหนด นโยบาย การกำกับดูแล และการปฏิบัติ หากแยกภารกิจทั้ง 3 ด้านออกจากกันจะทำให้กรอบแนวทางการ พัฒนาพื้นที่ในผังทุกระดับขาดการบูรณาการ เกิดความซ้ำซ้อนและสูญเสียงบประมาณ ประกอบกับระบบการ วางผังเมืองในเชิงสากลต้องอยู่ในระบบเดียวกันทั้งกระบวนการ จึงเห็นควรดำรงสถานะเป็น "หน่วยงานระดับ กรม" และขณะที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายภารกิจ จึงเห็นควรให้ภารกิจดังกล่าวอยู่กับกระทรวงมหาดไทยไป ก่อน และข้อเสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความต่อเนื่องของพื้น ที่เมือง ดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองรวมที่มีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ต้น โดยมีรายละ เอียดของแผนผังและข้อกำหนด (Zoning) อย่างครบถ้วนและถูกต้องนั้น เห็นว่า การดำเนินการวางและจัดทำ ผังเมืองรวม ประชาชนและกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในกระบวนการวางผังเมืองอยู่แล้วตาม พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 และได้พยายามส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และกลุ่มองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าใจและมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอที่จัดให้มีกฎหมายที่ เหมาะสมกับการเพิ่มรายได้ของท้องถิ่น เช่น ภาษีทรัพย์สิน การประเมินพิเศษ รวมทั้งแหล่งที่มาของรายได้ อื่น ๆ สำหรับการดำเนินการให้เป็นไปตามผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ เป็นต้น โดยให้กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงานเพื่อรายงานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1323 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การกระจายอำนาจการจัดการการศึกษาสู่ท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของประชาชน | สสป | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง การกระจายอำนาจการจัดการการศึกษาสู่ท้องถิ่นและการมีส่วน ร่วมในการจัดการศึกษาของประชาชน โดยมีความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นปัญหาต่าง ๆ อาทิ ภาครัฐยัง ขาดความชัดเจนในภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งเสริมให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน และองค์กรทางสังคม มีส่วนร่วมจัด การศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎกระทรวงเพื่อรองรับระบบการจัดการศึกษาโดยบุคคล ครอบครัว และองค์กร อื่นยังไม่ประกาศใช้ รวมทั้งการให้มีครู 2 ระบบ คือ ข้าราชการครูเดิมยังคงเป็นข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิ การ ในขณะที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่รับเข้าใหม่จะเป็นบุคคลในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดตั้งกองทุนพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การจัดตั้งสภาการศึกษาของท้องถิ่น การยกเลิกการผูก ขาดการจัดทำสื่อการเรียนการสอน และการกระจายครูและบุคลากรที่มีคุณภาพสู่ท้องถิ่นโดยการกำหนดโควตา ให้อยู่ในตำแหน่งกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาหรือกรรมการสถานศึกษา เป็นต้น และรับทราบตามที่กระทรวง ศึกษาธิการเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ และเห็นชอบให้ กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณา ดำเนินการต่อไป โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อรายงานให้ สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1324 | รายงานการดำเนินการฟื้นฟู พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบธรณีพิบัติภัย ครั้งที่ 4 | นร | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เสนอดังนี้ รับทราบรายงาน
การดำเนินการของ อนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการอำนวยการฟื้นฟูและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่ง แวดล้อมและชุมชนพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย ในคราวประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 โดยที่ประชุมได้มีมติรับทราบผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการประสานความ ร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 ผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการประเมินความเสียหายด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย ณ วันที่ 26 มกราคม 2548 และผลการดำเนินการของคณะทำ งานประสานชุมชนและประชาสังคม เพื่อจัดทำแผนพัฒนาและฟื้นฟูนิเวศชุมชน ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 และให้ยกเว้น การดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจนกว่าการปฏิบัติ ภารกิจเร่งด่วนจะเสร็จสิ้น เนื่องจากการดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาทรัพยากรแหล่งน้ำ โดยเฉพาะเรื่องน้ำ อุปโภคบริโภค และน้ำสะอาดในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย เป็นการดำเนินการเฉพาะกิจและต้องดำเนินการ อย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการฟื้น ฟูและพัฒนาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค รวมทั้งจัดหาน้ำสะอาดในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัย และให้กรมทรัพยา กรน้ำบาดาล ดำเนินการโครงการ/กิจกรรม เพื่อสำรวจ จัดหาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ตั้งของโรงเรียน และ ชุมชนที่สร้างใหม่ จัดหา ซ่อมแซม ปรับปรุงในพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการในช่วงแรก รวมทั้งให้เร่ง สำรวจ ฟื้นฟู และจัดหาแหล่งน้ำ จำนวน 2 โครงการ ภายใต้กรอบโครงการ/กิจกรรม ตามอนุมัติมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 ระยะเร่งด่วน ในส่วนที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกรอบโครงการ/กิจกรรมที่ได้รับ อนุมัติตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ภายใต้คณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไข ปัญหาจากธรณีพิบัติภัยใน 6 จังหวัดภาคใต้ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติในหลักการ และให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการ ฯ ต่อไป สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงาน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ/กิจกรรม ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานก่อน หากจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมให้ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการ ทั้งนี้ เพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนกับการดำเนินการตามแผนงานปกติ และเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||
1325 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 24 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 -24 กุมภาพันธ์ 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 62 จังหวัด 600 อำเภอ 55 กิ่งอำเภอ 4,503 ตำบล 43,623 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,279,527 ครัวเรือน 8,339,670 คน แยกเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด พื้นที่การ เกษตรเสียหาย 13,251,741 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,942,541 ไร่ พืชไร่ 2,962,393 ไร่ พืชสวน 346,807 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,537,780,440 บาท ด้านการให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อ การเกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว รวมเป็น เงินทั้งสิ้น 716,113,238 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 541,991,214 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 117,435,302 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 56,686,722 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1326 | รายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 9) | มท | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาไทยรายงานสรุปความเสียหายและการให้ความช่วย
เหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 9) ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2547 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2548 สรุปได้ดังนี้ พื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2548) มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติ รวม 25 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 95 ตำบล 412 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,550 คน 12,480 ครอบครัว เสียชีวิต 5,395 คน (คนไทย 1,925 คน คนต่างประเทศ 1,953 คน) บาด เจ็บ 8,457 คน (คนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน) สูญหาย 2,965 คน (คนไทย 2,023 คน คนต่างประเทศ 942 คน) และเด็กกำพร้าที่บิดาหรือมารดาหรือผู้อุปการะเดิมเสียชีวิต มีจำนวนทั้งสิ้น 882 คน ความเสียหายต่อทรัพย์สินประกอบด้วย บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 6,824 หลัง (เสียหายทั้งหลัง 3,615 หลัง เสียหายบางส่วน 3,209 หลัง) พื้นที่การเกษตรเสียหายคิดเป็นมูลค่า 8,496,214.75 บาท พื้นที่เพาะ เลี้ยงสัตว์น้ำและเครื่องมือประมง เสียหายคิดเป็นมูลค่า 1,757,453,403 บาท ปศุสัตว์เสียหายคิดเป็นมูลค่า 17,625,605 บาท สถานประกอบการเสียหายคิดเป็นมูลค่า 12,852,617,712 บาท ความเสียหายด้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับความเสียหายทั้งด้านสภาพชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำ จืด แนวปะการัง และเกิดสภาพดินเค็มในบางพื้นที่ ในด้านการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต สามารถ ยืนยันได้แล้ว (Identified) 1,870 ศพ (ไทย 1,471 ศพ ต่างชาติ 399 ศพ) ญาติรับศพไปแล้วเป็นคนไทย 1,260 คน คนต่างชาติ 280 คน และยังยืนยันไม่ได้ (Unidentified) 2,873 ศพ (ไทย 1 ศพ ต่างชาติ 1,279 ศพ ระบุไม่ได้ 1,593 ศพ) ส่วนการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลศพคนต่างชาติ ณ สุสานไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ขณะนี้มีศพคนต่างชาติคงเหลือเพื่อตรวจพิสูจน์ 1,487 ศ พ สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้มีการจ่าย เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548) รวมเป็นเงิน 283,704,356 บาท จ่ายเงินช่วย เหลือชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2548) รวมเป็นเงิน 232,796,143 บาท และจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยจากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนัก นายกรัฐมนตรี 100,000,000 บาท และจากกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น 83,810,000 บาท นอก จากนี้ ยังมีผลการดำเนินการช่วยเหลือในส่วนอื่นๆ อาทิ การจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย อยู่ระหว่าง จัดหาพื้นที่ที่เหาะสมเพื่อก่อสร้างบ้านถาวร 281 หลัง และประชาชนผู้ประสบภัยขอรับเงินชดเชย 30,000 บาท เพื่อก่อสร้างบ้านเอง 178 หลัง การฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดระเบียบ ชายหาด ในส่วนของการทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักผัง ขยะมูลฝอย การบูรณะฟื้นฟูโครงสร้างพื้น ฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงาา รวมทั้งการยุติการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่น ยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือของศูนย์ ฯ ในด้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่ดำเนิน การเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจัดระบบการบริหารจัดการมอบให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามภารกิจอำนาจหน้าที่แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
1327 | หลักเกณฑ์การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานส่วนตำบลเป็นกรณีพิเศษ | นร | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอแนวทางการเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานส่วนตำบล เป็นกรณีพิเศษ ตามผลการประชุมร่วมระหว่างสำนักงาน ก.พ. กับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงาน ก.พ.ร. ดังนี้ การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนขององค์การบริหารส่วนตำบลขนาดใหญ่ (ที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป) ให้คงใช้แนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2544 สำหรับพนักงานส่วนตำบล ในอบต. ขนาดเล็ก ให้คณะกรรมการกลางองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลงาน ของ อบต. โดยให้มีตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (Key Performance Indicator) ในด้านต่างๆ ตามที่กระทรวงมหาด ไทยได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี และกำหนดให้ อบต. ที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 6 คนลงมาซึ่งมีผลงานดีเด่น ตามหลักเกณฑ์การประเมินผลงานที่คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบลกำหนด มีโควตาการเลื่อนขั้น เงินเดือนเป็นกรณีพิเศษทั้งปี 2 ขั้นได้ 1 คน โดย อบต. ที่มีพนักงานจำนวน 1-5 คน ให้เลื่อนได้ปีเว้นปี และ อบต. ที่มีพนักงานจำนวน 6 คน ให้เลื่อนได้ทุกปี ทั้งนี้ ให้ใช้งบประมาณของ อบต. ที่ได้รับโควตาเลื่อน ขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษในการเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าว โดยเมื่อรวมงบประมาณการเลื่อนขั้นเงินเดือน กับรายจ่ายด้านเงินเดือน ค่าจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 40 ของงบประมาณ รายจ่ายประจำปี ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
|
||||||||||||||||||||||||
1328 | การแก้ไขปัญหาหมู่บ้านภัยแล้งกรณีเร่งด่วน | ทส | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็น วงเงิน 823,980,000 บาท เพื่อให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการแก้ไขปัญหาหมู่บ้านภัยแล้ง เป็นกรณีเร่งด่วน โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ ทุกแห่งที่มีความพร้อมในด้านบุคลากรและเครื่องมืออุปกรณ์ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง กลาโหม (หน่วยทหารพัฒนาและทหารช่าง) เป็นต้น เพื่อร่วมดำเนินการ โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน ของกิจกรรมและการดำเนินงานให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงแล้วดำเนินการให้เต็มศักยภาพ โดยให้ขอตกลง ในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณต่อไป รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ประสานและเร่งรัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆ ให้ความร่วมมือและรับผิดชอบ ในการบูรณะฟื้นฟู บำรุงรักษาบ่อน้ำบาดาล อ่างเก็บน้ำ และเครื่องสูบน้ำ อันเป็นภารกิจที่หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องได้ถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจาย อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น |
||||||||||||||||||||||||
1329 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการนำเงินเหลือจ่าย/เงินที่ลดได้มาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจและการจัดสรรเงินรางวัลจากการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | กค | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการนำเงิน เหลือจ่าย/เงินที่ลดได้มาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจ และการจัดสรรเงินรางวัลจากการประหยัดงบประมาณในการจัด ซื้อจัดจ้าง โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งผลการประเมินผลการดำเนินงานของส่วนราชการให้กระทรวงการ คลังทราบภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดำเนินการจัดสรรเงินดังกล่าวให้ส่วนราชการนำไปใช้จ่ายเพื่อการ พัฒนาบุคลากรและหรือพัฒนาองค์กรได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2541 เพื่อให้กระทรวงการคลังอนุมัติการกันเงินงบประมารเหลือจ่ายไว้เบิกเหลื่อม ปีรายการเพื่อพัฒนาบุคลากรและหรือรายการเพื่อพัฒนาองค์กร สำหรับการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบ ประมาณเหลือจ่าย ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณถือปฏิบัติตามนัยข้อ 25 ของระเบียบว่าด้วย การบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2546 และให้โอนเปลี่ยนแปลงเงินงบประมาณเหลือจ่ายที่ได้รับอนุมัติให้กัน เงินเป็นรายการใด ๆ ไปเพื่อพัฒนาบุคลากรและหรือเพื่อพัฒนาองค์กรโดยไม่ต้องขอทำความตกลงกับสำนัก งบประมาณ และแจ้งกรมบัญชีกกลางเพื่อเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ส่วนกรณีมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ หรือวงเงินงบประมาณเหลือจ่ายเพื่อนำมาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจ มอบให้กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณากำหนดตามความเหมาะสม และสำหรับกรณีที่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นจะนำแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการนำเงินเหลือจ่ายดังกล่าวมาจัดสรรเป็นสิ่งจูงใจมาอนุโลมใช้ นั้น ให้ กระทรวงมหาดไทยพิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อหาแนวทางในการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมิน ผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลัก Good Governance ก่อน แล้วรายงานให้คณะ รัฐมนตรีทราบ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ควรประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดสรรเงินเหลือจ่าย/เงินที่ลดหรือ ประหยัดเพื่อเป็นสิ่งจูงใจและเงินรางวัลให้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุก ภาคส่วนได้ร่วมมือกันบริหารงบประมาณของหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยจะต้องมีกลไกและ หลักเกณฑ์ในการควบคุม ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานอย่างเหมาะสมด้วย เช่น การ กำหนดราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1330 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 17 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 -17 กุมภาพันธ์ 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 61 จังหวัด 587 อำเภอ 57 กิ่งอำเภอ 4,363 ตำบล 38,703 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,967,860 คน 2,189,251 ครัวเรือน แยกเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด ภาคตะวันออก 8 จังหวัด และภาคใต้ 6 จังหวัด พื้นที่การ เกษตรเสียหาย 13,133,982 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,876,221 ไร่ พืชไร่ 2,945,500 ไร่ พืชสวน 312,261 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,514,823,634 บาท การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการ เกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 663,951,937 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 491,529,040 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 115,766,175 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 56,656,722 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1331 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 8) | มท | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่น
ดินไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 8) จนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2548 มีพื้นที่ประสบภัยรวม 25 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 95 ตำบล 412 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,550 คน 12,480 ครอบครัว จำนวนผู้เสียชีวิต 5,395 คน (คนไทย 1,911 คน คนต่างประเทศ 1,953 คน ไม่สามารถระบุได้ 1,531 คน) บาดเจ็บ 8,457 คน (คนไทย 6,065 คน คนต่างประเทศ 2,392 คน) สูญหาย 2,991 คน (คนไทย 2,032 คน คนต่างประเทศ 959 คน) บ้านเรือนเสียหาย 6,824 หลัง แยกเป็นเสียหายทั้งหลัง 3,615 หลัง เสียหาย บางส่วน 3,209 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหายคิดเป็นมูลค่า 8,496,214.75 บาท พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และ เครื่องมือประมงเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1,757,453,403 บาท ด้านปศุสัตว์เสียหายคิดเป็นมูลค่า 17,625,506 บาท สถานประกอบการเสียหายคิดเป็นมูลค่า 12,852,617,712 บาท ส่วนความเสียหายด้านสิ่งสาธารณ ประโยชน์ ได้แก่ ท่าเทียบเรือ สะพาน ถนน ท่อระบายน้ำ พนัง/เขื่อน ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และอื่น ๆ ได้รับความเสียหายประเมินในขั้นต้นประมาณ 1,060.74 ล้านบาท และความเสียหาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลสำรวจพบความเสียหายทั้งด้านสภาพชายหาด ป่าชายเลน ป่าไม้ แหล่งน้ำจืด แนวปะการัง และเกิดสภาพดินเค็มในบางพื้นที่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย การ จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย (จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2548) เป็นเงิน 281,690,056 บาท การจ่ายเงิน ช่วยเหลือชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548) เป็นเงิน 214,597,868 บาท การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (จนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548) จำนวน 4,221 ราย เป็นเงิน 83,590,000 บาท และการจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบภัย (บ้านพักถาวร) จังหวัดพังงา อยู่ ระหว่างก่อสร้าง 760 หลัง จังหวัดระนอง ก่อสร้างแล้วเสร็จ 65 หลัง จังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างก่อสร้าง 81 หลัง จังหวัดกระบี่ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 8 หลัง จังหวัดตรัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 19 หลัง และจังหวัดสตูล ราษฎร ขอรับเงินชดเชย 30,000 บาท เพื่อก่อสร้างบ้านเอ ง จำนวน 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการให้ ความช่วยเหลือในส่วนของการทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย การบูรณะฟื้นฟูโครงสร้าง พื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผลการติดตามให้ความช่วยเหลือและกำหนดมาตรการฟื้นฟูแก่ผู้ ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1332 | แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพและความสามารถ
ในการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มเติม เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความพร้อม ที่จะดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับถ่ายโอน รวมทั้งใช้จ่ายเงินที่ได้รับการจัดสรรให้แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิฉะนั้น การที่รัฐบาลจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น อาจก่อให้เกิดปัญหาในด้าน การดำเนินกิจการบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น และอาจจะนำไปสู่ปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบได้ง่าย จึงขอมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณากำหนดแนวทาง การดำเนินการที่เหมาะสม แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1333 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวสำหรับบุคลากรท้องถิ่นที่ได้รับเงินเดือนค่าจ้างจากงบประมาณรัฐ | นร | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธาน
กรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็น เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวสำหรับครูผู้ดูแลเด็กที่เป็นบุคลากรซึ่งถ่ายโอนมาจากส่วนราชการ และครูอัตรา จ้างในโรงเรียนเทศบาลที่ได้รับค่าจ้างจากเงินอุดหนุนของรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 คนละ 1,000 บาทต่อเดือน โดยให้สำนักงบประมาณประสานกับกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) เพื่อพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งเงินงบประมาณและวงเงินงบประมาณที่จะใช้เพื่อการนี้ แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1334 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 - 3 กุมภาพันธ์ 2548) | มท | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 557 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 4,265 ตำบล 38,387 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,380,453 คน 2,133,610 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตร เสียหาย 13,281,498 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 10,011,104 ไร่ พืชไร่ 2,958,742 ไร่ พืชสวน 311,652 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,570,089,969 บาท ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการ เกษตร รวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 488,923,764 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 347,096,108 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 88,688,656 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 53,139,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1335 | รายงานสรุปผลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ (ครั้งที่ 6) | มท | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดิน
ไหวและคลื่นยักษ์ ณ จังหวัดภูเก็ต รายงานสรุปข้อมูลความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครั้งที่ 6 ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 ในส่วนของพื้นที่ประสบภัยและความเสียหาย พื้นที่ประสบภัยพิบัติ บริเวณพื้นที่ ชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตก 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และ สตูล รวม 24 อำเภอ/กิ่งอำเภอ 83 ตำบล 332 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 59,561 คน 14,266 ครอบครัว จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 5,393 คน บาดเจ็บรวม 8,457 คน รับแจ้งสูญหายรวม 3,062 คน เด็กกำพร้า ที่บิดาหรือมารดาหรือผู้อุปการะเดิมเสียชีวิตรวม 848 คน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 6,728 หลัง พื้นที่การ เกษตร เสียหายคิดเป็นมูลค่า 8,380,360.75 บาท ด้านประมง เสียหายคิดเป็นมูลค่า 1,730,861,458 บาท ด้านปศุสัตว์ เสียหายคิดเป็นมูลค่า 17,625,605 บาท รวมทั้งด้านสถานประกอบการ เสียหายคิดเป็นมูลค่า 12,852,617,712 บาท รวมมูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินเกี่ยวกับการประกอบอาชีพประมาณ 14,609.48 ล้านบาท สิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายประเมินในขั้นต้นประมาณ 1,053.85 ล้านบาท ส่วนการ ตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคลผู้เสียชีวิต โดยยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์ (Tsunami) มีจำนวน 5,393 คน สามารถยืนยันพิสูจน์ตัวบุคคล หรือญาติยืนยันแล้ว จำนวน 1,861 ศพ ยังยืนยันไม่ได้ 2,882 ศพ ได้ขนย้ายศพ จากวัดบางม่วง และวัดย่านยาว ไปยังสุสานไม้ขาวแล้วรวม 1,556 ศพ สำหรับด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้ จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 259,736,695 บาท การจ่ายเงินช่วยเหลือชาวประมง และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมเป็นเงิน 196,549,293 บาท การจัดบ้านพักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน พื้นที่ 3 จังหวัด ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ การก่อสร้างบ้านพักถาวรในพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด ข้อมูลสำรวจ ความต้องการ มียอดรวมทั้งสิ้น 2,896 หลัง การช่วยเหลือซ่อมเรือผู้ประสบภัย จังหวัดกระบี่ ซ่อมเครื่องยนต์ เรือหางยาวแล้วเสร็จ 168 เครื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 13 เครื่อง การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการราย ย่อย รวมเป็นเงิน 83,110,000 บาท นอกจากนี้ ได้ดำเนินการฟื้นฟูจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง และการจัดระเบียบชายหาดใน 4 ภารกิจ ได้แก่ การทำความสะอาดขนย้ายซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย การจัด ระบบสาธารณูปโภค/สาธารณูปการ โครงสร้างพื้นฐานและอาคารสิ่งก่อสร้าง การจัดระเบียบชายหาด และ การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวจัดทำภูมิทัศน์ชายหาด ส่วนกรมที่ดินได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เอกสารสิทธิ ชำรุด สูญหาย และทำการรังวัดปูเขตที่ดินที่หลักเขตสูญหาย ตลอดจนช่วยเหลือการจัดที่ดิน วางผังในการก่อ สร้างบ้านพักถาวรให้แก่ผู้ประสบภัย ส่วนจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ อยู่ระหว่างการพิจารณาเร่งรัดการจัด ระเบียบที่ดินร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้ประสบภัย
|
||||||||||||||||||||||||
1336 | แนวทางการปฏิบัติสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการเลือกตั้ง | มท | 01/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการปฏิบัติสำหรับข้าราชการและเจ้า
หน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยได้จัดตั้งศูนย์สนับสนุนและประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทรวงมหาดไทย เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและประสานการปฏิบัติกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งได้เน้น ย้ำการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครองตามบทบาทอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบทุกระดับ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 3 ระยะคือ ก่อนวันเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง และหลังวันเลือกตั้ง ตามมาตรการ ต่าง ๆ ได้แก่ มาตรการด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ความสำคัญของบัตร ประจำตัวประชาชน มาตรการเข้มงวดในการวางตัวเป็นกลาง มาตรการประชาสัมพันธ์ "ข้าราชการวางตัวเป็น กลาง เป็นตัวอย่างที่ดี ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง" มาตรการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด มาตรการศูนย์สนับสนุนและ ประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมาตรการในการเฝ้าระวังเลือกตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
1337 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2548) | มท | 01/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 29 มกราคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 552 อำเภอ 54 กิ่งอำเภอ 4,249 ตำบล 38,053 หมู่ บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,312,468 คน 2,098,517 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 13,020,259 ไร่ แยกเป็นนาข้าว 9,813,411 ไร่ พืชไร่ 2,896,557 ไร่ พืชสวน 310,291 ไร่ มูลค่าความ เสียหายประมาณ 6,523,528,206 บาท การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้ง แจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค และเร่งรัดได้ให้จังหวัดที่ประสบภัยใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการป้องกันและแก้ไข ปัญหาความแห้งแล้งไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 411,672,582.88 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของ จังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 291,598,639 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเงิน 76,985,443.88 บาท และงบประมาณอื่น ๆ เช่น งบจังหวัด CEO เป็นเงิน 43,088,500 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1338 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 13 มกราคม 2548) | มท | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่าย
พลเรือนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547-13 มกราคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 55 จังหวัด 543 อำเภอ 53 กิ่งอำเภอ 4,322 ตำบล 38,502 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,272,739 คน 2,011,509 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 11 จังหวัด และภาคตะวัน ออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 12,576,338 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 9,744,168 ไร่ พืชไร่ 2,591,809 ไร่ พืชสวน 240,061 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,409,057,884 บาท การ ให้ความช่วยเหลือได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรรวมทั้งแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบ ประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 311,184,725.88 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉิน ทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 206,343,036 บาท งบฉุกเฉินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น 76,985,443.88 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 27,856,246 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1339 | รายงานผลการติดตามการดำเนินงานปัญหา อุปสรรค การใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (ตุลาคม 2546 - มีนาคม 2547) | นร | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการติดตามการใช้
จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานเพิ๋มเติม ณ วันสิ้นปี งบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยเงินอุดหนุนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภทได้รับประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รวมทั้งสิ้น 79,136.94 ล้านบาท (ไม่รวมเงินอุดหนุนเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ พ.ศ. 2547) โดยมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 65,049.33 ล้านบาท จำแนกตามส่วนราชการ ได้ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับจัดสรร 1,791.82 ล้านบาท เบิกจ่าย 1,195.57 ล้านบาท กรมส่งเสริมการปก ครองท้องถิ่น ได้รับจัดสรร 66,066.13 ล้านบาท เบิกจ่าย 56,753.84 ล้านบาท กรุงเทพมหานคร ได้รับ จัดสรร 9,982.48 ล้านบาท เบิกจ่าย 6,552.85 ล้านบาท และเมืองพัทยา ได้รับจัดสรร 1,296.51 ล้าน บาท เบิกจ่าย 547.07 ล้านบาท ส่วนปัญหาอุปสรรคที่ทำให้มีการเบิกจ่ายเงินล่าช้า ได้แก่ ปัญหาจากการ เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น เนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 มีการเลือกตั้งคณะผู้บริหารและสมาชิกสภา ท้องถิ่นหลายแห่ง และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองผลการ เลือกตั้งไม่ครบทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาท้องถิ่นเพื่อพิจารณาอนุมัติร่างข้อบัญญัติงบประมาณประจำ ปีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น เช่น สภาพพื้นที่ก่อสร้างบางแห่งมีปัญหาภูมิประเทศซึ่งเป็นอุปสรรคทำให้การก่อสร้างและการเบิกจ่าย เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นล่าช้า และปัญหาความเข้าใจของบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องวัตถุประสงค์ของเงินอุดหนุน ทั่วไป เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1340 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธี
การรับบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดอัตราและวิธีการรับ บำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยกำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพไม่เกิน 15 เท่าของบำนาญ รายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และในการขอรับบำเหน็จดำรงชีพให้ขอรับได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม- 31 ธันวาคม ของทุกปี ส่วนกรณีผู้รับบำนาญออกจากราชการโดยต้องหาว่ากระทำผิดวินัยหรืออาญาก่อนออก จากราชการจะขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้เมื่อคดีถึงที่สุดและมีสิทธิรับบำนาญ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ เมื่อร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราช การส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 7) พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
.....