ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 14 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 268 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | รายงานผลการพิจารณาแผนระดับที่ 3 (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561) | นร11 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบัญชีรายชื่อแผนระดับ ๓ (ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๑) ที่ผ่านกระบวนการพิจารณาแล้ว จำนวน ๕ แผน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ร่างแผนพัฒนาด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงวัฒนธรรม ๒. แผนแม่บทด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และแผนปฏิบัติการโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ระยะที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๑ ฉบับปรับปรุงและขยายระยะเวลาดำเนินงาน ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) กระทรวงศึกษาธิการ ๓. ร่างแผนยุทธศาสตร์วัคซีน ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงสาธารณสุข ๔. แผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทยในระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงแรงงาน ๕. แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงแรงงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... | สว | 24/10/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งเห็นควรแก้ไขปรับปรุงเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติให้เพียงพอต่อการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านวัคซีน ควรพิจารณาให้มีการขยายกำลังการผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์ให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ สำหรับการตั้งคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติหรือของคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติควรพิจารณาให้มีตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะต้องพิจารณาเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วย ส่วนการดำเนินการเพื่อจัดหาวัคซีนมาใช้ภายในประเทศควรคำนึงถึงคุณภาพและความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจและการได้รับประโยชน์ด้านอื่น ๆ ประกอบกัน และควรกระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ตลอดจนควรต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการจัดทำนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติต่อไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | สธ | 19/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน จำนวน ๑๐ โครงการ ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๖๓) ซึ่งดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการคลังเก็บวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาค และโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตวัคซีนป้องโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ ๒. โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๗ โครงการ แบ่งเป็น (๑) โครงการที่ดำเนินงานได้สำเร็จตามตัวชี้วัด จำนวน ๕ โครงการ เช่น โครงการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ทรัพยากรชีวภาพทางการแพทย์เพื่องานวิจัยพัฒนาด้านวัคซีน โครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านวัคซีน โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนอย่างเป็นระบบ เป็นต้น และ (๒) โครงการที่การดำเนินงานยังมีความล่าช้า ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จำนวน ๒ โครงการ เช่น โครงการวิจัยพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกสู่ระดับอุตสาหกรรมในประเทศ ๓. โครงการที่ผู้รับผิดชอบขอยุติการดำเนินงาน จำนวน ๑ โครงการ คือ โครงการขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันวัณโรคเพื่อรองรับการจำหน่าย UNICEF
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | ร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2561) | นร | 12/06/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | รายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2560 | อื่นๆ | 17/04/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (๑) ประชากรผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ๔๘.๘๐ ล้านคน ลงทะเบียนแล้ว ๔๘.๑๑ ล้านคน (ร้อยละ ๙๙.๙๓) (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐) (๒) คุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข มีหน่วยบริการขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย หน่วยบริการปฐมภูมิ ๑๑,๕๗๘ แห่ง หน่วยบริการประจำ ๑,๓๒๕ แห่ง และหน่วยบริการรับส่งต่อ ๑,๓๓๒ แห่ง (๓) การคุ้มครองสิทธิ รับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ และประสานส่งต่อผู้ป่วยผ่านช่องทางต่าง ๆ ๗๖๔,๘๘๗ เรื่อง ช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการ ๖๖๑ คน (๔) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาจากท้องถิ่น มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น ๗,๗๓๖ แห่ง จากทั้งหมด ๗,๗๗๖ แห่ง และ (๕) การสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติทุกคน ทุกสิทธิสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลเอกชนนอกคู่สัญญา โดยไม่ต้องถูกถามสิทธิและไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ๒. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน เช่น ความต้องการรับบริการสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อความแออัดของหน่วยบริการ ความเสมอภาคในการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ต้องขัง และพระภิกษุ ความแตกต่างระหว่างระบบการประกันสุขภาพภาครัฐ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและเทคโนโลยีใหม่ ๆ (วัคซีน ยาใหม่ บัญชีนวัตกรรม) ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ เป็นต้น ๓. รายงานทางการเงินประจำปี ๒๕๖๐ ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐) มีค่าใช้จ่ายรวมสูงกว่ารายได้รวม เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการให้บริการสาธารณสุขสูงกว่างบประมาณที่ได้รับจากค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ และค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง รวมทั้งจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการรักษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินรายการโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนกในระดับอุตสาหกรรมตามมาตรฐาน GMP ขององค์การอนามัยโลก | สธ | 30/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินรายการโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ในระดับอุตสาหกรรมตามมาตรฐาน GMP ขององค์การอนามัยโลก หมวดงบลงทุน ค่าควบคุมงานก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ในระดับอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก จำนวน ๑,๓๔๘,๒๓๘.๒๐ บาท โดยใช้เงินรายได้ขององค์การเภสัชกรรม ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรกำกับดูแลการบริหารโครงการฯ ให้เป็นไปตามแผนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายขององค์การเภสัชกรรมในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด เพื่อให้โรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก ในระดับอุตสาหกรรมตามมาตรฐาน GMP ขององค์การอนามัยโลกสามารถเปิดทำการได้ทันภายในปี ๒๕๖๓ ตามแผนที่กำหนดไว้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้มีผู้รับผิดชอบการดำเนินโครงการฯ ที่คลาดเคลื่อนและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (จำนวน 7 คน 1. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ฯลฯ) | อื่นๆ | 26/12/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ รวม ๗ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางสาวยุพิน ลาวัณย์ประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายสมชัย จิตสุชน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางธีรนารถ จิวะไพศาลพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายอำนวย กาจีนะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | สธ | 11/04/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จำนวน ๑๐ โครงการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการที่เป็นไปตามเป้าหมาย และตัวชี้วัดตามแผนที่กำหนด จำนวน ๕ โครงการ ได้แก่ โครงการจัดเตรียมคลังเก็บวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาค โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ โครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านวัคซีนโดยหน่วยงานกลางแห่งชาติด้านวัคซีน โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนอย่างเป็นระบบ และโครงการวิจัยพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกสู่ระดับอุตสาหกรรมในประเทศ ๒. โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ มีความก้าวหน้าแต่ช้ากว่าแผน จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ทรัพยากรชีวภาพทางการแพทย์เพื่องานวิจัยพัฒนาด้านวัคซีน และโครงการวิจัยพัฒนาวัคซีนไข้สมองอักเสบจีอีชนิดเชื้อเป็นโดยใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม ๓. โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ด้วยงบประมาณของหน่วยงานผู้รับผิดชอบ จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่ โครงการเตรียมความพร้อมโรงงานผลิตวัคซีนระดับกึ่งอุตสาหกรรมมาตรฐาน GMP และโครงการผลิตวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนและการผลิตวัคซีนผสมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และตับอักเสบ ๔. ชะลอการดำเนินโครงการ และเลื่อนกำหนดการดำเนินงาน ๑ โครงการ คือ โครงการขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันวัณโรคเพื่อรองรับการจำหน่าย UNICEF
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสัตว์ควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. .... | กษ | 10/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสัตว์ควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้แมวเป็นสัตว์ควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยโรคพิษสุนัขบ้า และกำหนดช่วงอายุและระยะเวลาในการฉีดวัคซีน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสาระสำคัญของกฎกระทรวงดังกล่าวแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง และกำหนดมาตรการหรือแนวทางควบคุมให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าตามกำหนดให้เป็นไปตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. ๒๕๓๕ อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคและแพร่โรคพิษสุนัขบ้าสู่มนุษย์ที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | ร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... (แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎหมาย) | สธ | 20/12/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ และให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๕ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ตัดบทบัญญัติเกี่ยวกับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรและการจัดเก็บเงินบำรุงสถาบันจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบตามร่างมาตรา ๑๖ (๓) และร่างมาตรา ๒๓ ออก และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณ อาทิ การพิจารณารูปแบบการออกกฎหมายในการจัดเก็บภาษีในลักษณะกฎหมายภาษีโดยตรง การกำหนดรายได้สูงสุดของเงินบำรุงสถาบันฯ และให้มีการทบทวนทุก ๕ ปี รวมทั้งแก้ไขถ้อยคำในร่างพระราชบัญญัติฯ เช่น คำนิยาม คุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เสนอ ๓. อนุมัติเป็นหลักการว่าการเสนอร่างกฎหมายในเรื่องใดไม่ให้มีบทบัญญัติกำหนดให้จัดเก็บรายได้จากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายเกี่ยวกับสุราและยาสูบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (นายมานิต ธีระตันติกานนท์) | สธ | 31/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แทนนายธวัช สุนทราจารย์ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙) เป็นต้นไป และให้มีวาระเท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามอย่างต่อเนื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย | สธ | 26/04/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๙ โดยมีวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้มาลาเรีย ภายในปี ๒๕๖๗ (ค.ศ. ๒๐๒๔)” และแผนปฏิบัติการกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ คือ (๑) การเร่งรัดกำจัดการแพร่เชื้อมาลาเรียในประเทศไทย (๒) การพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม มาตรการ และรูปแบบที่เหมาะสม ในการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย (๓) การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายระดับประเทศ และระดับนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนงานกำจัดโรคไข้มาลาเรีย และ (๔) การส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพในการดูแลตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้มีการพัฒนายาหรือวัคซีนตัวใหม่ โดยรัฐบาลสนับสนุนทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดมาลาเรียให้หมดไปจากประเทศไทย รวมทั้งควรมีมาตรการส่งเสริมและพัฒนาวัคซีนให้สามารถควบคุมการเกิดโรคไข้เลือดออกด้วย และควรมีการพิจารณากำหนดตัวชี้วัดให้ครอบคลุมมาตรการที่สำคัญภายใต้แผนปฏิบัติการฯ โดยเฉพาะประเด็นการกำจัดเชื้อมาลาเรียดื้อยา การผลักดันนโยบาย/กลไกระดับประเทศ ระหว่างประเทศ และแนวชายแดนให้เกิดแนวทางการทำงานร่วมกัน สำหรับการจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ควรมีลักษณะเป็นงบประมาณแบบบูรณาการเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดสรรงบประมาณและส่งเสริมให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนยุทธศาสตร์ฯ ไปใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความประหยัดและคุ้มค่า ตลอดจนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558 | สธ | 08/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน ภายใต้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ รวมทั้งสิ้น ๑๔ โครงการ ประกอบด้วย (๑) โครงการที่ประสบผลสำเร็จตามตัวชี้วัดที่กำหนด จำนวน ๕ โครงการ (๒) โครงการที่สำเร็จตามตัวชี้วัดแต่มีความล่าช้าเนื่องจากปัญหาและอุปสรรค จำนวน ๒ โครงการ และ (๓) โครงการที่ชะลอ หรือยุติการดำเนินงาน จำนวน ๗ โครงการ ทั้งนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ทบทวนโครงการต่าง ๆ ตามวาระแห่งชาติด้านวัคซีน และปรับเปลี่ยนหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวม ๑๐ โครงการ รวมทั้งอยู่ระหว่างการทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 26/01/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และกำหนดให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ รวมถึงมีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติในการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ ตลอดจนแผนแม่บทการพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีนของประเทศไทย รวมทั้งการเบิกจ่ายอัตราเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนอื่น ๆ ของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และผู้เข้าร่วมประชุมฯ ควรกำหนดให้ชัดเจนด้วยว่าให้ใช้จ่ายจากงบประมาณของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | โครงการ "ส่งความสุขปีใหม่ 2559 จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์" | กษ | 15/12/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ “ส่งความสุขปีใหม่ ๒๕๕๙ จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘-๑๕ มกราคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีกิจกรรม ดังนี้
๑. การลดรายจ่ายในครัวเรือนเกษตรกร ได้แก่ การยกเว้นค่าเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และลดดอกเบี้ยค่าเช่าที่ดินแก่เกษตรกรในเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน และการปล่อยสัตว์น้ำในแหล่งน้ำสาธารณะทั่วประเทศ ๒. การป้องกันโรคจากสัตว์เลี้ยงสู่ประชาชน โดยบริการตรวจสุขภาพสัตว์และฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุนัขและแมวฟรี ๓. การเปิดสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เกษตรให้เยี่ยมชมฟรี เช่น ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในการดูแลของกรมประมง ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น จังหวัดเชียงราย ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเชียงราย (ดอยวาวี) จังหวัดเชียงราย ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จังหวัดเชียงใหม่ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน | สธ | 15/12/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่ ๒๕๕๙ สำหรับประชาชนจากกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. โครงการเสริมภูมิคุ้มกันเด็กไทยด้วยวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดเพื่อเป้าหมายกวาดล้างโปลีโอให้หมดไปจากโลก ๒. โครงการมอบแขนขาเทียมให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ ๓. โครงการของขวัญผู้สูงอายุ “สังคมไทยห่วงใยผู้สูงวัย เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้ โดยทีมหมอครอบครัว” ๔. โครงการพัฒนาการดูแลสุขภาพพระสงฆ์-สามเณร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | สรุปภารกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระหว่างการเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 68 | สธ | 09/06/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปภารกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระหว่างการเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ ๖๘ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ ๖๘ มีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การเตรียมการเฝ้าระวังและรับมือต่อปัญหาโรคโปลิโอ การเกิดเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ แผนปฏิบัติการระดับโลกว่าด้วยวัคซีน (Global Vaccine Action Plan) และแผนงบประมาณองค์การอนามัยโลก ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวในที่ประชุมถึงประเด็นที่ไทยได้ดำเนินการหลักประกันสุขภาพให้แก่ผู้รอพิสูจน์สิทธิพิสูจน์สัญชาติเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพพื้นฐานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตในประชากรกลุ่มเหล่านี้ รวมทั้งได้อภิปรายร่วมกับผู้แทนรัฐบาลของประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเร่งให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล ความสำเร็จโปรแกรมการสร้างภูมิคุ้มกันของไทย และความก้าวหน้าการดำเนินการตามแผนการทศวรรษความปลอดภัยทางท้องถนน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับที่สามกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และไทย เพื่อสนับสนุนความต่อเนื่องในการสร้างความร่วมมือด้านการควบคุมและเฝ้าระวังโรคติดต่อในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและผู้นำด้านสุขภาพระดับโลก โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ การช่วยเหลือเนปาลในการส่งทีมแพทย์ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยฟื้นฟูสถานพยาบาลที่เสียหาย ความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับอิหร่าน การพัฒนาการให้บริการสุขภาพของสิงคโปร์และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันในการสร้างความยั่งยืนทางระบบการเงินการคลังในรูปแบบต่าง ๆ การส่งเสริมสุขภาพแรงงานข้ามชาติและการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและไทย การจัดประชุมระดับโลกว่าด้วยกิจกรรมทางกายที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ การเพิ่มประเด็นความร่วมมือกิจกรรมทางกายในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การอนามัยโลก และความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การโยกย้ายถิ่นแห่งสหประชาชาติในการเร่งการสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มผู้โยกย้ายถิ่นและชาวต่างด้าวในไทย เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | การให้ความช่วยเหลือเนปาลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว | กต | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินการเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เนปาล โดยปัจจุบันภารกิจด้านการกู้ภัยได้สิ้นสุดลงแล้ว และรัฐบาลกำลังมุ่งที่จะดำเนินการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และได้ขอให้คณะช่วยเหลือและกู้ภัยจากต่างชาติ (รวมทั้งไทย) เดินทางกลับประเทศ โดยรัฐบาลเนปาลจะประเมินความต้องการความช่วยเหลือด้านแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุขให้ต่างประเทศทราบก่อนที่จะขอความช่วยเหลือต่อไป สำหรับสิ่งของที่เนปาลยังคงประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือเป็นลำดับต้น ๆ ได้แก่ ที่พักพิงที่มีหลังคา อาหาร สุขอนามัย เสื้อผ้า ยา วัคซีนป้องกันโรคติดต่อ วัสดุก่อสร้าง ยาฆ่าเชื้อ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ในส่วนของเงินบริจาค รัฐบาลเนปาลจะนำเงินบริจาคทั้งหมดเข้าบัญชีกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของนายกรัฐมนตรีเนปาล (Prime Minister’s Disaster Relief Fund : PMDRF) ๑.๒ อนุมัติให้มีการดำเนินการรับบริจาคเงินจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และรับบริจาคสิ่งของจนถึงวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ๑.๓ อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยจังหวัดและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพิจารณาตามความเหมาะสมในการดำเนินการจัดจำหน่ายสิ่งของบริจาคในรายการที่เห็นสมควร เพื่อจัดส่งรายได้ไปช่วยเหลือแทน สำหรับสิ่งของบริจาครายการที่ไม่สามารถจัดจำหน่ายได้ หรือมีข้อจำกัดในการจำหน่าย ให้จัดเก็บไว้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศต่อไป โดยให้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริจาคทราบก่อน ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับกรณีที่จะให้มีการจัดจำหน่ายสิ่งของบริจาคในรายการที่เห็นสมควร เพื่อจัดส่งเงินรายได้ไปช่วยเหลือแทน รวมทั้งสิ่งของบริจาครายการที่ไม่สามารถจัดจำหน่ายได้ หรือมีข้อจำกัดในการจำหน่าย ให้จัดเก็บไว้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศนั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ ให้กระทรวงสาธารณสุขส่งทีมปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะภัยพิบัติ ชุดที่ ๔ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาและด้านสาธารณสุขปฏิบัติภารกิจที่ประเทศเนปาลเป็นเวลา ๒ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย สำหรับงบประมาณในการดำเนินการ ให้กระทรวงสาธารณสุขใช้จ่ายจากวงเงินที่เหลือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการต่างประเทศได้รับจัดสรรไว้แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือคนไทยในประเทศเนปาลและการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศเนปาลในกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว) ทั้งนี้ หากไม่เพียงพอให้กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | ขออนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญในกองทุนหรือเงินทุนในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 31/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ดังนี้
๑. อนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญในกองทุนหรือเงินทุนในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ แบ่งเป็น ๑๐ กลุ่ม คือ ๑.๑ กรณีโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐที่ไม่ประสบความสำเร็จ ๑.๒ กรณีประสบภัยพิบัติหรือภัยธรรมชาติ ๑.๓ ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ๑.๔ หนี้ขาดอายุความ ๑.๕ หนี้ค้างชำระเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑๐ ปีขึ้นไป ๑.๖ หนี้ที่ไม่สามารถติดตามทรัพย์เพื่อดำเนินการบังคับคดีได้ ๑.๗ เกษตรกรผู้ยืมเงินเสียชีวิต สาบสูญ หาตัวไม่พบ หรือละทิ้งถิ่นที่อยู่ ๑.๘ เกษตรกรผู้กู้ยืมเงินพิการ ทุพพลภาพ วิกลจริต หรือเจ็บป่วยเรื้อรัง ๑.๙ ลูกหนี้ผู้กู้ยืมเงินมีรายได้น้อยหรือไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ๑.๑๐ หนี้สินของเกษตรกรผู้กู้ยืมเงินมาจำนวนต้นเงินกู้ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจากการดำเนินการฟ้องร้องจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรกำหนดหนี้ต้นเงินคงค้างไว้ในจำนวนที่เท่ากัน คือ ไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท และกำหนดให้กองทุนหรือเงินทุนภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ข้อมูลหนี้คงค้าง ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ เป็นกรอบในการสำรวจลูกหนี้เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรที่เข้าข่ายได้รับสิทธิในการพิจารณาจำหน่ายหนี้เป็นสูญตามหลักเกณฑ์ของโครงการ รวมทั้งให้คงอำนาจการจำหน่ายหนี้เป็นสูญของกองทุนหรือเงินทุนในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีหรือกระทรวงการคลัง นอกจากนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะผู้กำกับดูแลกองทุนหรือเงินทุนเร่งจัดทำแผนปรับปรุง/พัฒนาการดำเนินงานระยะเวลา ๓ ปี ของทุนหมุนเวียนในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย เงินทุนหมุนเวียนในการผลิตพันธุ์ปลา พันธุ์กุ้ง และพันธุ์สัตว์น้ำอื่น ๆ เงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตวัคซีนจำหน่าย เงินทุนหมุนเวียนยางพารา เงินทุนหมุนเวียนในการผลิตเชื้อไรโซเบียม เงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตและขยายพันธุ์พืช และกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | โครงการของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนของกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 30/12/2557 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ และโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โดยการให้บริการรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ฝังรากฟันเทียมได้ จำนวน ๘๐๔ ราย ส่วนการให้บริการฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ ผู้ที่สูญเสียฟันตั้งแต่ ๑๖ ซี่ขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วยที่สูญเสียฟันทั้งปาก ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ บริการใส่ฟันเทียมได้ จำนวน ๑,๐๗๘ ราย ๒. โครงการรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบและหัด เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ โดยการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ ให้บริการได้ จำนวน ๓,๗๕๕,๑๐๗ คน ส่วนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคหัด มีกำหนดดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน ๒๕๕๘ ๓. โครงการทีมหมอประจำครอบครัว หรือจัด Family care Team เพื่อดูแลประชาชนทุกกลุ่มวัย โดย (๑) จัดทีมหมอครอบครัวเพื่อรับผิดชอบประชากรในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง อัตราส่วนหมอครอบครัว ๑ คน ต่อประชากร ๑,๒๕๐ คน ปัจจุบันดำเนินการแล้วที่ ๓๐,๐๐๐ ทีม (๒) พัฒนาอำเภอต้นแบบที่มีความพร้อมในการดำเนินการโดยมีการกระจายในทุกจังหวัด ทุกเขต ปัจจุบันมีจำนวน ๒๕๐ แห่ง สามารถเป็นพี่เลี้ยงหรือต้นแบบให้กับอำเภออื่น ๆ ได้ และ (๓) พัฒนาทีมแกนนำระดับเขต จำนวน ๑๒ เขต เพื่อให้เป็นพี่เลี้ยงที่ปรึกษาในการดำเนินการทีมหมอครอบครัว ๔. โครงการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ได้อบรมผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน (Care Manager) จำนวน ๗๑ ราย และในระดับพื้นที่อบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน (Care Giver) เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพและปัญหาติดเตียงในชุมชนในกลุ่ม ๒๐ จังหวัดนำร่อง จำนวน ๑๖๑ ราย ๕. โครงการ “สาธารณสุขรวมใจ มอบโลกสดใส เทิดไท้องค์ราชัน” โดยตรวจคัดกรองและผ่าตัดต้อกระจก ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ สามารถผ่าตัดต้อกระจกรวมทั้งสิ้น จำนวน ๔๕๓ ดวง โดยเป็นชนิดบอด จำนวน ๒๙๗ ดวง และ Low vision จำนวน ๑๕๖ ดวง ๖. โครงการจัดตั้งหน่วยดูแลแบบประคับประคองและดูแลระยะสุดท้าย หรือจัดตั้ง Palliative care unit ในโรงพยาบาล มีเป้าหมายตั้งหน่วย/แผนกดูแลประคับประคองในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๘
|
.....