ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 6 จากทั้งหมด 14 หน้า แสดงรายการที่ 101 - 120 จากข้อมูลทั้งหมด 268 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
101 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 5/2564 | นร. | 20/04/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่
๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
การรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒)
การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร
และการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในการระบาดระลอกเมษายน
๒๕๖๔ (๓) แผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (๔)
การจัดหาหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ของสำนักงานประกันสังคม
(๕) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน
และ (๖) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
102 | สรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2564 | นร.10 | 30/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
และได้มีประเด็นข้อสั่งการสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่ารับไปดำเนินการ
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาข้อเสนอแนวทางการขับเคลื่อน กระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
รวมถึงการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของประชาชน
ภายใต้บริบทการบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลดลง
และเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว ทั้งนี้
ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงาน
และการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ด้วย ๒.
ให้ทุกส่วนราชการจัดทำวิดีทัศน์นำเสนอผลงานของหน่วยงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชนเกี่ยวกับผลงานและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน
ทั้งนี้ วิดีทัศน์ควรมีรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ
ทันยุคสมัยและให้มีการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ๓.
ให้ทุกส่วนราชการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงาน
การอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดยอาจพิจารณาสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความรู้
ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ๔.
ให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนตามที่ได้รับการประสานจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยความรวดเร็ว ๕. ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาจัดส่งข้อมูลให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ
ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยเคร่งครัด ๖.
ให้ทุกส่วนราชการให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมจิตอาสา
โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ๗.
ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อาทิ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เตรียมแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นองค์รวมภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น อาทิ ภัยแล้ง ปัญหาน้ำทะเลหนุน ๘.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตร
อาทิ (๑) การสร้างห้องเย็นเพื่อให้สามารถจัดเก็บสินค้าทางเกษตรได้นานขึ้น (๒)
การควบคุมความสมดุลระหว่างความสามารถในการเพาะปลูกพืชผล สินค้าทางการเกษตร
และความต้องการผลผลิตทางการเกษตร (๓)
การนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ในการควบคุมปริมาณการใช้น้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชพันธุ์แต่ละชนิดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำลง และ (๔) การสนับสนุนความรู้
สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
เพื่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเหมาะสมตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๙.
ให้กระทรวงมหาดไทยสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจใหม่แบบองค์รวม
หรือ Bioeconomy, Circular Economy and Green Economy (BCG) ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเชิงพื้นที่
เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำนโยบายดังกล่าวไปพิจารณาประกอบการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ ต่อไปด้วย ๑๐. ให้สำนักงาน ก.พ.
จัดทำข้อเสนอรูปแบบการจ้างงานที่หลากหลาย
รวมถึงแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนและการจัดสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อดึงดูด
จูงใจ และรักษาไว้ซึ่งกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถให้อยู่ในระบบราชการ ๑๑. ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการสรรหา
สอบคัดเลือก
และบรรจุแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐเพื่อทดแทนอัตราว่างจากการเกษียณอายุและอัตราตั้งใหม่ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วแต่ยังไม่ได้มีการบรรจุแต่งตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้
เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำของประชาชนและบรรเทาผลกระทบของการว่างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๔
๑๒.
ให้ทุกส่วนราชการกวดขันและเข้มงวดในการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานทุกระดับให้เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
เพื่อลดโอกาสในการทุจริตประพฤติมิชอบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
103 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2564 | นร.11 | 30/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยที่ประชุมได้รับทราบเรื่องที่สำคัญ
ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุด เป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๔
ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจ
แนวทางการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและดึงดูดการลงทุน
ความคืบหน้าการดำเนินการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และพิจารณาแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
104 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 4/2564 | นร.04 | 23/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) การรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
คราวที่ ๑๑ (๓) การปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร (๔)
แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 (๕) การกำหนดประเภทและระยะเวลากักกันตัวในสถานกักกันตัว
(๖) แผนการดำเนินการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในภาพรวมในปี ๒๕๖๔ (๗)
แนวทางการจัดกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ และ (๘) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
105 | ให้รวบรวมข้อมูลความต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | นร. | 16/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
เป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับข้อเท็จจริงของความจำเป็นเร่งด่วน
สภาพปัญหาของพื้นที่และกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมข้อมูลความต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙
ของทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙
ของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยด่วน
และให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในภาพรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
รวมทั้งให้ติดตามและปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ให้เป็นปัจจุบันด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
106 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 35 ล้านโดส | สธ. | 02/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๓๕ ล้านโดส
กรอบวงเงินจำนวน ๖,๓๘๗,๒๘๕,๙๐๐ บาท
และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ กรอบวงเงิน
๖,๓๘๗,๒๘๕,๙๐๐ บาท สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๓๕ ล้านโดส
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด
19 ในประเทศไทย รวมทั้งกำกับติดตามการดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างโปร่งใส
และตรวจสอบได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงมีประสิทธิภาพสูงสุด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||
107 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ
เรื่อง การศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร
โดยกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า
รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่มีความถูกต้องตามหลักวิชาการ และได้ให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่าง
ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหรือดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(โควิด 19) อยู่หลายประเด็น เช่น
การยกระดับอนามัยส่วนบุคคล และการสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง
(รวมถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้ถึงสถานการณ์และปฏิบัติตนได้เหมาะสมกับความเสี่ยง)
การแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เวชภัณฑ์ และทรัพยากรทางสาธารณสุขที่สำคัญ
การพัฒนาฐานข้อมูลและแอปพลิเคชันเพื่อการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรค
หรือเพื่อการติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยทั่วไป
การดูแลสุขภาพและภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์
และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษา
โดยมาตรการเหล่านี้กระทรวงสาธารณสุขจะได้นำไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้มีการพิจารณาดำเนินการมาตรการต่าง
ๆ เพิ่มเติม ซึ่งแม้ว่าจะเป็นมาตรการที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้อย่างขัดเจน
แต่ก็มีความสอดคล้องกับหลักการหรือข้อสังเกตหลายประเด็นที่กล่าวถึงตามรายงาน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
108 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 3/2564 | นร. | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ
(๒)
การดำเนินการให้เป็นไปตามข้ออนุมัติของนายกรัฐมนตรีตามการเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (๓) การเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียและคณะ
(๔)
การพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
คราวที่ ๑๐ (๕) การปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรสำหรับการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม
(๖) แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 และ (๗) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
109 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 24 (The 24th GMS Ministerial Conference) | นร.11 | 23/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
๖ ประเทศ ครั้งที่ ๒๔ (The 24th GMS
Ministerial Conference) โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายถาวร เสนเนียม) เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล
เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ซึ่งการประชุมมีหัวข้อหลัก คือ “มุ่งปูทางเพื่อการบูรณาการที่เพิ่มขึ้น
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อความยั่งยืนและความเจริญมั่งคั่งในอนุภูมิภาค GMS” และมีผลการประชุมที่สำคัญ
เช่น รัฐมนตรี ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงได้รับรองแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS
ครั้งที่ ๒๔ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๓
พฤศจิกายน ๒๕๖๓ และรับทราบรายงานของการประชุมเวทีหารือต่าง ๆ รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
(นายถาวร เสนเนียม) ได้มีข้อเสนอต่อที่ประชุมฯ เพื่อเน้นย้ำเจตนารมณ์ของไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
การพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-๑๙ และการพัฒนาความเชื่อมโยงทางด้านกฎระเบียบในอนุภูมิภาค
GMS และมอบหมายหน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุม
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงานที่เห็นควรผลักดันให้ประเทศสมาชิก GMS เร่งใช้ประโยชน์จากระบบการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่มีอยู่ภายใต้กรอบอาเซียน
อาทิ ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window)
ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (ASEAN Wide Self-Certification)
เป็นต้น รวมถึงเร่งพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
110 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) | สธ. | 02/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายละเอียดการดำเนินงานจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองซื้อล่วงหน้า (AstraZeneca) ในส่วนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ๑.๒ อนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ วงเงิน
๒,๗๔๑,๓๓๖,๐๐๐ บาท ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า
(AstraZeneca) ในส่วนที่กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข
เกี่ยวข้อง ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
111 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 2/2564 | นร. | 02/02/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒)
ความคืบหน้าการจัดหาและการเตรียมความพร้อมการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน
(๔) การดำเนินการให้เป็นไปตามข้ออนุมัติของนายกรัฐมนตรีตามการเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
(๕)
แนวปฏิบัติในการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ และ (๖) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
112 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) เพิ่มเติม | สธ. | 19/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑
เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ที่ขอปรับกรอบงบประมาณโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca)
จากวงเงิน ๖,๐๔๙.๗๒ ล้านบาท เป็นวงเงิน ๖,๒๑๖.๒๕ ล้านบาท
โดยเพิ่มงบประมาณในส่วนการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัท
AstraZeneca จาก ๒,๓๗๙.๔๓๐,๖๐๐ บาท เป็น ๒,๕๔๕.๙๖๐,๖๐๐ บาท
เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับค่าภาษีมูลค่าเพิ่มในการดำเนินงานดังกล่าว ๑.๒ อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อจ่ายเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม วงเงิน ๑๖๖,๕๓๐,๐๐๐ บาท
ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย
โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
113 | ผลการประชุมทางไกลระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 10 | กต. | 12/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมทางไกลระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี
ครั้งที่ ๑๐ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นการร่วมกันกำหนดแนวทางความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี
และความร่วมมือของประเทศสมาชิกในอนาคต
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมให้การรับรองถ้อยแถลงของประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี
ครั้งที่ ๑๐ และแผนปฏิบัติการความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ค.ศ.
๒๐๒๑-๒๐๒๕ ซึ่งถ้อยแถลงฯ และแผนปฏิบัติการฯ
มีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓
โดยมีการเพิ่มประเด็น (๑)
ความสำคัญของการเปิดตลาดการค้าและการลงทุนเพื่อความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานในและนอกภูมิภาค
(๒) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางรถไฟ และท่าเรือในอนาคต (๓) การเพิ่มรายละเอียดโครงการภายใต้กองทุนความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี
รอบที่ ๔ (๔)
การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาค และ
(๕) การสนับสนุนความร่วมมือเพื่อเข้าถึงวัคซีนและการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
114 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 1/2564 | นร.04 | 05/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่
๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
ข้อกำหนดและประกาศที่เกี่ยวข้อง (๒) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ
(๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน
(๔) ความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโรคโควิด-19 เพิ่มเติม (๕)
ความคืบหน้าการจัดการแข่งขันแบดมินตัน BWF World Tour (๖)
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๙) (๗) ความคืบหน้าการตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าว และ (๘) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
115 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | สธ. | 05/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบโครงการเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จำนวน
๔,๖๖๑,๑๑๖,๒๐๓ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกใหม่
รวมทั้งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงาน/โครงการอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
116 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 16/2563 | นร. | 29/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๖/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ
และมาตรการด้านสาธารณสุข กรณีการแพร่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ
จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ฯลฯ และแนวชายแดน (๒)
ความคืบหน้าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 (๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
กรณีการแพร่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ฯลฯ และแนวชายแดน (๔)
มาตรการเพื่อบรรเทาและช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
(๕) มาตรการและแนวทางการใช้แอปพลิเคชันเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (๖)
การเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ของโควิด-19 (๗)
มาตรการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๔ (๘) ความเหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติ
และ (๙) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
117 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 15/2563 | นร. | 22/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๕/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) ความคืบหน้าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโรคโควิด-19
(๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน (๔) การดำเนินการให้เป็นไปตามข้ออนุมัติของนายกรัฐมนตรีตามการเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (๕) ร่างเอกสารข้อเสนอการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือช่องทางพิเศษของฝ่ายไทย
(Special Arrangement) (๖) การรายงานความคืบหน้าแอปพลิเคชัน
Thailand Plus (๗) การให้ความช่วยเหลือจากบัญชี
“สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) (๘) การบูรณาการการบริหารสำหรับการป้องกัน
ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และ (๑๐)
ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
118 | ผลการประชุมทางไกลเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศสมาชิกและคู่เจรจาสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดียว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) การรับมือ ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วน | กต. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมทางไกลเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศสมาชิกและคู่เจรจาสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดียว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ภายใต้หัวข้อ “การรับมือ ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วน”
เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยที่ประชุมฯ ได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมฯ
ซึ่งมีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๑๙
พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยได้มีการเพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับโควิด-๑๙ และประเด็นอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) การแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
และชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก (๒) การสนับสนุนด้านเทคนิค การเงิน
หรือมาตรการที่เหมาะสมแก่ประเทศสมาชิก โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม
และรายย่อย และกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ (๓) การส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยในการพัฒนาวัคซีนและยารักษาโรค
ตลอดจนการเข้าถึงวัคซีนและยาอย่างเท่าเทียมกัน (๔) การยกระดับความร่วมมือเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือคนชาติของประเทศสมาชิกที่อาศัย
ทำงานและศึกษา ในประเทศสมาชิกสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดียด้วยกัน (๕)
การกระชับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน
โดยการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียโดยเฉพาะความเชื่อมโยงทางทะเล
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การอำนวยความสะดวกการค้าทางทะเล รวมถึงพิธีการด้านศุลกากร
และ (๖) การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายเสรีของสินค้าที่จำเป็น รวมถึงอาหาร เวชภัณฑ์
และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
119 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 53 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | กต. | 01/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ครั้งที่ ๕๓ และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๙-๑๒ กันยายน
๒๕๖๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมและร่วมหารือเกี่ยวกับการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลัง
ค.ศ. ๒๐๒๕ และการทบทวนแผนงานประชาคมอาเซียนทั้ง ๓ เสา
การหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) โดยย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส
การจัดทำมาตรฐานวิธีปฏิบัติของอาเซียนสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
และการใช้ประโยชน์จากกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙ การหารือเกี่ยวกับบทบาทของอาเซียนในการสนับสนุนการพัฒนาในอนุภูมิภาคต่าง
ๆ ในอาเซียน รวมทั้งการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
และความสัมพันธ์กับภาคีภายนอกอาเซียน และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
120 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 14/2563 | นร.04 | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๔/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) ความคืบหน้าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโรคโควิด-19
(๓) การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน (๔)
รายงานความคืบหน้าการดำเนินมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมาย (๕)
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๘) (๖) การขยายเวลาในการปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ
ในเวลาภายหลัง ๒๒.๐๐ น. (๗) การขยายเวลาปิดสถานบันเทิง สถานบริการ
ให้เป็นไปตามเวลาปกติของแต่ละกิจการตามที่กฎหมายกำหนด (๘) การเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในการประชุม
การอบรม การสัมมนา การจัดนิทรรศการ การจัดแสดงสินค้า การจัดเลี้ยง งานพิธี หรือการจัดกิจกรรมต่าง
ๆ (๙) การเพิ่มจำนวนผู้ชมการแสดงคอนเสิร์ต ดนตรี การแสดงนาฏศิลป์ และโรงภาพยนตร์
(๑๐) การกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับสถานที่กักกันตัวในรูปแบบ Area
Quarantine (๑๑) การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวบริเวณชายแดนเข้ารับการกักกันตัวใน
Organizational Quarantine เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
และ (๑๒) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|