รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 50 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 981 - 1000 จากข้อมูลทั้งหมด 1084 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
981
การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ ค.ศ. 2000
วว
23/06/2541
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. ให้จัดตั้งคณะกรรมการประสานงานการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ ปี ค.ศ. 2000 โดยมีรองนายก
รัฐมนตรี (ประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ) เป็นประธานกรรมการ และกรรมการ
ร่วมอีก 28 คน มีอำนาจหน้าที่ประสานงานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของกระทรวง ทบวง หน่วยงานอิสระ
และรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวง ดำเนินงานเรื่องการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ ปี ค.ศ. 2000
2. ให้กระทรวง ทบวง หน่วยงานอิสระ และรัฐวิสาหกิจ รายงานผลการดำเนินงานการประเมิน
และการแก้ไขต่อคณะกรรมการ ฯ ทุก 2 เดือน และให้ดำเนินการงานตามนโยบายและแนวทางที่คณะ
กรรมการ ฯ จัดทำขึ้น กับให้กำหนดให้มีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดสรรทรัพยากรของ
หน่วยงานเพื่อดำเนินการในการแก้ปัญหา
3. ให้กระทรวง ทบวง หน่วยงานอิสระ และรัฐวิสาหกิจ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ฯ ตาม
ความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อให้การดำเนินงานการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
982
การดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2541
นร
16/06/2541
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปัญจะ เกสรทอง) ประธานคณะกรรม
การนโยบายป่าไม้แห่งชาติรายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2541 เกี่ยว
กับการป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ สรุปได้ว่า จังหวัดส่วนใหญ่ยังไม่มีการพิจารณา
กำหนดแผนป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายป่าไม้ที่เป็นรูปธรรม การปฏิบัติงานยังไม่ประสบ
ความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากการละเลยของผู้บริหารที่ขาดความรับผิดชอบ
983
ผลการพิจารณาวงเงินเบิกจ่ายลงทุนเพิ่มเติมของรัฐวิสาหกิจ
นร
26/05/2541
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เกี่ยวกับผลการ
พิจารณาวงเงินเบิกจ่ายลงทุนเพิ่มเติมของรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
1. ให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการบังคับกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจที่
ไม่สามารถกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 โดยรวม
ไว้ในมาตรการปรับลดโบนัสและเงินตอบแทนรูปแบบต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจปี 2541 ที่กระทรวงการ
คลังกำลังจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี
2. เห็นชอบการจัดสรรวงเงินที่ได้รับผ่อนคลายตาม LOI ฉบับที่ 3 จำนวน 20,800 ล้านบาท
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ รวมทั้งวงเงินเบิก
จ่าย (ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการปิโตรเลียม
แห่งประเทศไทย (ปตท.) เมื่อได้รับการผ่อนคลายจาก IMF ตาม LOI ฉบับที่ 4 ที่กระทรวงการคลังจะ
นำเสนอคณะรัฐมนตรี
3. ให้ สศช. รับไปพิจารณาแผนการลงทุนระยะต่อไป ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.)
โดยพิจารณาวงเงินลงทุน ระยะเวลาดำเนินการ และการเบิกจ่ายแต่ละปี เพื่อมิให้เป็นภาระและกระทบ
ต่อการลงทุนของรัฐวิสาหกิจอื่น
984
การปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
รส
19/05/2541
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะ
รัฐมนตรี เรื่อง การปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการ
ปรับปรุงมาตรฐานของสิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียวกับ
ทางราชการ และได้มีการออกประกาศของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าวแล้ว สำหรับรัฐวิสาหกิจ
ที่ได้รับอนุมัติสิทธิประโยชน์สูงกว่ามาตรฐานไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเจรจากับพนักงานเพื่อปรับลด
ด้วย
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
นร
ยืนยันมติ (5677/2541)
2
นร
ยืนยันมติ (5678/2541)
3
รส
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (676/2541)
985
ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ...
สว
21/04/2541
รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการรัฐสภาเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา
ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดให้ตรากฎหมายสำหรับผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ต้องเสียสิทธิตามที่
กฎหมายบัญญัติไว้ และมอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาเพื่อศึกษาเตรียมความพร้อมสำหรับ
การดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
986
กระทู้ถามที่ 039 เรื่อง ปัญหาการใช้บัตรสุขภาพ
สผ
07/04/2541
เห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 039 เรื่อง ปัญหาการใช้บัตรสุขภาพ ของร้อยโท กุเทพ ใสกระจ่าง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ โดยสาระสำคัญคือ กำหนดนโยบายให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับ
ให้ความสำคัญในการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่ถือบัตรสุขภาพ (บัตรประกันสุขภาพ) และให้ผู้บริหารสถาน
พยาบาลทุกระดับปรับปรุงวิธีการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ และมอบ
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
987
การปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
กค
31/03/2541
1. เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นไปตาม
หลักเกณฑ์เดียวกับข้าราชการ โดยให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมไปปรับปรุงประกาศคณะ
กรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือ
เจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตรและค่าช่วยเหลือการ
ศึกษาของบุตร ลงวันที่ 12 กันยายน 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพร้อมกับแก้ไขมติคณะกรรมการ ฯ
ซึ่งได้เคยอนุมัติในเรื่องดังกล่าวให้กับรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปแล้ว ให้สอดคล้องกับการปรับปรุง
สวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 และ 31
มีนาคม 2541 ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป
2. ให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งควบคุมการใช้จ่ายสวัสดิการรักษาพยาบาลให้
เป็นไปโดยประหยัด และให้ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจเจรจากับพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เพื่อปรับลด
สวัสดิการรักษาพยาบาลทำนองเดียวกับของข้าราชการ
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการระยะสั้นให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่
1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้กระทรวงการคลังทราบด้วย
988
สรุปผลการประชุมชี้แจงมาตรการป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สลค)
นร
17/03/2541
รับทราบสรุปผลการประชุมชี้แจงมาตรการป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการเป็นกรรมการ
รัฐวิสาหกิจ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2541 ตามคำกล่าวเปิดการประชุมชี้แจงของนายกรัฐมนตรี
และคำบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ กับอนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ถือปฏิบัติและดำเนิน
การ ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. การแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ให้ส่วนราชการต้น
สังกัดและรัฐวิสาหกิจตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนโดยไม่ขัดกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ โดย
เฉพาะคุณสมบัติที่จะต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียหรือดำเนินธุรกิจที่แข่งขันกับรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ และให้
รับรองความครบถ้วน ถูกต้อง ตามแบบฟอร์มประวัติที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด
2. ให้กรรมการรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามจรรยาบรรณของกรรมการ ฯ ตามที่กระทรวงการ
คลัง เสนอ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ถือเป็นแนวปฏิบัติแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541
อย่างเคร่งครัด โดยให้รายงานผลการประชุมและผลการปฏิบัติหน้าที่ให้ต้นสังกัดทราบทุกครั้ง, จัด
ระบบการตรวจสอบภายในระหว่างกรรมการด้วยกันเองแจ้งเวียนประวัติกรรมการรัฐวิสาหกิจหรือเมื่อ
มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ฯ ให้คณะกรรมการ ฯ ทราบด้วย,
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ รวมทั้งจะต้องไม่ใช้ความลับทรัพย์
สินหรือเงินทุนของรัฐวิสาหกิจไปในทางมิชอบ และไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันหรือ
เป็นการแข่งขันกับรัฐวิสาหกิจนั้น การลงมติจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ คำนึงถึงผล
กระทบที่อาจเกิดจากมตินั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และให้กรรมการ ฯ ที่มา
จากบุคคลภายนอกปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ตามแบบที่ ป.ป.ป.
กำหนด ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและพ้นจากตำแหน่ง
3. ให้กระทรวงการคลังรับเป็นเจ้าของเรื่อง จัดให้ประธานกรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ
ได้ร่วมประชุมกันเป็นระยะ ๆ โดยสม่ำเสมอ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพัฒนารัฐวิสาหกิจให้มี
ความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
4. ให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งตรวจสอบ และรวบรวมมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุก ๆ
สัปดาห์ เพื่อแจ้งที่ประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทราบ และใช้ประกอบการตัด
สินใจหรือลงมติในเรื่องต่าง ๆ
5. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30
ธันวาคม 2540 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกร่างกฎหมายที่มีบทบัญญัติในทางป้องกันเกี่ยวกับ
การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อใช้เป็นกฎ
หมายกลางสำหรับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดยให้ครอบคลุมถึงข้าราชการให้แล้วเสร็จ และนำเสนอคณะ
รัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน
989
รายงานการศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ฉบับที่ 1
สว
17/03/2541
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
ของประเทศ ฉบับที่ 1 ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหา ฯ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ
และมอบให้กระทรวง ทบวง กรม รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ
ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่อง
ของระบบเศรษฐกิจของประเทศ การสร้างเสถียรภาพของเงินบาท การกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ
และการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย (Confidence building measures) สำหรับการทุจริตซึ่งเป็น
สาเหตุที่สำคัญของการเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยซึ่งจะต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยมาตรการต่าง ๆ
ดังนี้
1. ตั้งคณะกรรมการศึกษาและป้องกันการทุจริต (anti - corruption commission)
2. ให้มีความโปร่งใสและให้สาธารณะตรวจสอบโครงการการจัดซื้อภาครัฐบาลได้
3. ให้มีกลไกประชาพิจารณ์ (public hearing) กับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการเงินและการคลัง และสถา
บันการเงินภาคเอกชน
4. ดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดี กับผู้บริหารสถาบันการเงินที่ทุจริตทั้งภาครัฐและเอกชนอย่าง
จริงจังและรวดเร็ว
990
ร่างพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. ....
กค
24/02/2541
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้ส่ง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับ
ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย ดังนี้
1. มาตรการทางด้านภาษีจะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เกิดการใช้ที่ดินว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ เปิด
โอกาสให้เกษตรกรที่ยากจนได้มีโอกาสมีที่ทำกินโดยไม่ต้องเข้าไปบุกรุกทำกินในที่ดินของรัฐ ดังนั้น ในร่าง
มาตรา 10/7 กรณีที่ดินว่างเปล่าหรือไม่มีการใช้ที่ดินตามควรแก่สภาพที่ดิน สมควรเก็บภาษีในอัตราก้าว
หน้า เช่น เก็บเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าทุกปีจนกว่าจะได้ใช้ที่ดินนั้นตามสมควรแก่สภาพที่ดินสำหรับมาตรการรอง
รับ กรณีนี้เจ้าของที่ดินอาจนำมาให้รัฐเช่าเพื่อนำไปให้เกษตรกรที่ยากจนเช่าทำกินหรือเจ้าของที่ดินอาจนำ
ไปให้เกษตรกรเช่าโดยตรง
2. เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม มีมาตรฐานและไม่ลักลั่นกัน สมควรต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ใน
การพิจารณาว่า กรณีใดเป็นการใช้ที่ดินตามควรแก่สภาพที่ดินแล้วหรือไม่และสภาพที่ดินแต่ละประเภท เช่น
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะมีการใช้ตามควรแก่สภาพที่ดินอย่างไร ซึ่งควรแตกต่างจากที่ดินประเภทอื่น ๆ เช่น
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย และต้องคำนึงถึงศักยภาพของที่ดินตามความเป็นจริงประกอบด้วย นอกจากนี้จะมี
แนวทางดำเนินการอย่างไร เมื่อเกิดกรณีที่เจ้าของที่ดินยังไม่พร้อมที่จะใช้ตามควรแก่สภาพของที่ดินนั้นเป็น
การชั่วคราว และประสงค์จะทำประโยชน์ในภายหน้า แต่อาจเกิดปัญหาขัดแย้งกับผู้เช่าหรือรัฐ ทั้งนี้ จะ
สมควรให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์
ดังกล่าวจะเป็นการเหมาะสมหรือไม่
3. หลักการสำคัญประการหนึ่งของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ การเพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่น
ดังนั้น จึงสมควรกำหนดให้ท้องถิ่นสามารถพิจารณาลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีได้ตามความเหมาะสมใน
กรณีที่ท้องถิ่นเห็นสมควรเพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนในท้องถิ่นของตน
4. การกำหนดให้ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินมีหน้าที่ชำระภาษีค้างรวมทั้งปีสุดท้ายไม่เกิน 2 ปี
ร่วมกับผู้ค้างชำระภาษีตามมาตรา 17/3 นั้น ข้อกำหนดดังกล่าวจะเป็นธรรมหรือไม่เพราะหนี้ภาษีเป็นหนี้
บุริมสิทธิอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหน้าที่ร่วมกันนั้นมีความหมายเพียงใด
5. ตามร่างมาตรา 22/5 ให้อำนาจผู้บริหารท้องถิ่นเปรียบเทียบปรับได้นั้น จะทำให้เกิดปัญหา
อย่างไรหรือไม่ เนื่องจากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ที่กำหนดมี
อำนาจเปรียบเทียบปรับได้เช่นกัน
6. สำหรับชื่อร่างพระราชบัญญัติจะสมควรเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับหลักการและ
เหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งมุ่งจะจัดเก็บภาษีจากการถือครองอสังหาริมทรัพย์หรือไม่
991
วาระการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล (หารือกรณีการบริหารงานของคณะกรรมการสุขาภิบาล)
นร
17/02/2541
รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 5) เกี่ยวกับเรื่อง
วาระการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล การบริหารงานของคณะกรรมการสุขาภิบาล และแนวทาง
ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ตามที่สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เสนอ 1. บทบัญญัติมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล
พ.ศ. 2537 มิได้บังคับให้กระทรวงมหาดไทยต้องจัดตั้งสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
หากแต่กำหนดหลักการณ์ว่าถ้าจะจัดตั้งสภาตำบลเป็น อบต. สภาตำบลนั้นต้องมีรายได้ไม่รวมเงินอุดหนุน
ในปีงบประมาณที่ล่วงมาติดต่อกันสามปีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
ก็อาจจัดตั้งเป็น อบต. ได้ โดยทำเป็นประกาศของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น การจัดตั้งสภาตำบล เป็น อบต.
จึงเป็นดุลพินิจของกระทรวงมหาดไทยที่จะพิจารณาว่า สภาตำบลที่เข้าหลักเกณฑ์แห่งใดสมควรจัดตั้งเป็นองค์
การบริหาร 2. บทบัญญัติมาตรา 335 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติรองรับเฉพาะกรณี
ของสมาชิกหรือผู้บริหาร อบต. ซึ่งเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารโดยตำแหน่งและดำรงตำแหน่ง ดังกล่าวอยู่ในวัน
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ให้คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกซึ่งมาจาก
การเลือกตั้งของสภา อบต. แต่เมื่อกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาอบต. หรือผู้บริหารโดยตำแหน่งของ อบต.
ต้องพ้นจากตำแหน่งกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านไปตามกฎหมายว่า ด้วยลักษณะปกครองท้องที่ บุคคลที่เข้ามาดำรง
ตำแหน่งกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแทนตำแหน่งที่ว่าง หลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงไม่
ใช่บุคคลที่ได้รับการยกเว้นให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกซึ่งมาจาก
การเลือกตั้งของสถา อบต. ตามมาตรา 335 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและไม่อาจเป็นสมาชิก
หรือผู้บริหารโดยตำแหน่งของ อบต. แทนได้
992
วาระการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล (หารือปัญหาเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537)
นร
17/02/2541
รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 5) เกี่ยวกับ
เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2535 ตาม
ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ ดังนี้
1. บทบัญญัติมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.
2537 มิได้บังคับให้กระทรวงมหาดไทยต้องจัดตั้งสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
หากแต่กำหนดหลักเกณฑ์ว่าถ้าจะจัดตั้งสภาตำบลเป็น อบต. สภาตำบลนั้นต้องมีรายได้ไม่รวมเงิน
อุดหนุนในปีงบประมาณที่ล่วงมาติดต่อกันสามปีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท เมื่อเข้า
หลักเกณฑ์ดังกล่าวก็อาจจัดตั้งเป็น อบต. ได้ โดยทำเป็นประกาศของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น
การจัดตั้งสภาตำบล เป็น อบต. จึงเป็นดุลพินิจของกระทรวงมหาดไทยที่จะพิจารณาว่า สภาตำบล
ที่เข้าหลักเกณฑ์แห่งใดสมควรจัดตั้งเป็นองค์การบริหาร
2. บทบัญญัติมาตรา 335 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติรองรับเฉพาะ
กรณีของสมาชิกหรือผู้บริหาร อบต. ซึ่งเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารโดยตำแหน่งและดำรงตำแหน่ง
ดังกล่าวอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ให้คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระการดำรง
ตำแหน่งของสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งของสภา อบต. แต่เมื่อกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นสมาชิก
หรือผู้บริหารโดยตำแหน่งของ อบต. ต้องพ้นจากตำแหน่งกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านไปตามกฏหมายว่า
ด้วยลักษณะปกครองท้องที่ บุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแทนตำแหน่งที่ว่าง
หลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงไม่ใช่บุคคลที่ได้รับการยกเว้นให้อยู่ใน
ตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งของสภา อบต.
ตามมาตรา 335 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและไม่อาจเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารโดย
ตำแหน่งของ อบต. แทนได้
993
การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค
มท
16/12/2540
เห็นชอบการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปา
ส่วนภูมิภาคชุดใหม่ ดังนี้
1. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ
2. นายกิตติ อยู่โพธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ
3. นายวรวิทย์ เลิศลักษณา อธิบดีกรมโยธาธิการ กรรมการ (โดยตำแหน่ง)
4. นายดำรงค์ บุญยืน อธิบดีกรมอนามัย กรรมการ (โดยตำแหน่ง)
5. นางลีนา เจริญศรี รองอธืบดีกรมธนารักษ์ กรรมการ (ผู้แทน กค.)
6. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการพิเศษประจำกรม กรรมการ
สำนักงานอัยการสูงสุด
7. นายสุรชัย สุขศรีวงศ์ นักธุรกิจ กรรมการ
8. ศาสตราจารย์บวรศักดิ์ คณะบดีคณะนิติศาสตร์ กรรมการ
อุวรรณโณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9. นายโกวิท ภูตะคาม ผู้บริหารเครือโรงพยาบาล กรรมการ
พญาไท
10. นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร ผู้อำนวยการกองโครงการ กรรมการ
พื้นฐาน การท่าอากาศยาน
กระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ
994
การประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาล
นร
09/12/2540
รับทราบเรื่อง การประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2540 โดยนายก
รัฐมนตรีและคณะ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (นายศุภชัย พานิชภักดิ์) รัฐมนตรีว่าการกระ
ทรวงการคลัง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) และผู้อำนวยการ
สำนักงบประมาณ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ซึ่งได้ประชุมชี้แจง
นโยบายของรัฐบาลแก่ผู้บริหารระดับสูงของทุกกระทรวง ทบวง ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย
ปลักกระทรวง ทบวง และผู้บริหารระดับสูงเทียบเท่าปลัดกระทรวง ประมาณ 40 คน ดังนี้
1. ชี้แจงภาพรวมที่สำคัญของนโยบายรัฐบาล
2. นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา
3. นโยบายเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนและระยะปานกลาง
4. นโยบายประหยัด
5. การแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่
6. การปฏิรูประบบราชการ ส่วนราชการต่าง ๆ
7. การใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ
8. การบริการประชาชนของส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ
9. พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
10. การให้รัฐมนตรีทุกท่านเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ
995
หนังสือแจ้งความจำนงขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการและการเงิน ฉบับที่ 2
กค
25/11/2540
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ และ เงื่อนไขการขอความช่วยเหลือ
จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ตามหนังสือแจ้งความจำนงขอรับความช่วยเหลือ
ทางวิชาการและการเงิน ฉบับที่ 2 และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งความจำนง ฯ ฉบับที่ 2
ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. การปรับตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค ที่สำคัญ คือ ปรับอัตราการ
ขยายตัวของเศรษฐกิจจากร้อยละ 2.5 เป็นร้อยละ 0.6 ในปี 2540 และ จากร้อยละ
3.5 เป็นร้อยละ 0-1 ในปี 2541 ปรับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ ณ สิ้นปี จากร้อยละ 9.5
เป็นร้อยละ 10 ในปี 2540 และร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 6 ในปี 2541 เงินสำรองระหว่าง
ประเทศ ในปี 2540 อยู่ที่ 23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2541 ปรับจาก 24.5 พันล้าน
เหรียญสหรัฐเป็น 24.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
2. นโยบายการคลัง รัฐบาลไทยจะรักษาการเกินดุลฐานะการคลังภาครัฐบาล
ร้อยละ 1 ของ GDP ในปีงบประมาณ 2541 และได้ดำเนินการตัดลดวงเงินรายจ่าย
งบประมาณปี 2541 และรายจ่ายเหลื่อมปีเพิ่มขึ้นและเสริมมาตรการด้านภาษี เพื่อเพิ่ม
รายได้
3. นโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องดำเนินนโยบายการเงิน
ที่เข้มงวด และกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพ
อัตราแลกเปลี่ยน และรักษาความเชื่อมั่นที่มีต่อสินทรัพย์ทางการเงินของไทย
4. นโยบายด้านต่างประเทศ กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ขยายเพดาน
การกู้ยืมหรือค้ำประกันเงินกู้ต่างประเทศจากเดิม 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ
2541 เพิ่มเป็น 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้รัฐบาลจะยกเลิกข้อจำกัดในการซื้อ
ขาย และกู้ยืมเงินบาท โดยชาวต่างประเทศ และการขายตราสารหนี้และหลักทรัพย์เงินบาท
5. มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน กำหนดให้องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
เสนอผลการพิจารณาแผนการฟื้นฟูของ 58 สถาบันการเงิน ที่ถูกระงับกิจการแก่รัฐมนตรีว่าการ
-กระทรวงการคลัง ภายในวันที่ 25 - 30 พฤศจิกายน 2540 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประกาศเปิดหรือปิด 58 สถาบันการเงินภายในวันที่ 7 ธันวาคม 2540 และให้บรรษัทบริหาร
สินทรัพย์สถาบันการเงิน แต่งตั้งคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2540
สำหรับสถาบันการเงินที่ไม่ถูกระงับกิจการ จะเพิ่มความเข้มงวดของกฎเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อ
และจะทยอยเพิ่มความเข้มงวดให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ภายในปี 2543 และทำตารางการเพิ่มทุน
ของสถาบันการเงินที่มีทุนต่ำกว่ากำหนด ให้เสร็จในปี 2541 รวมทั้งปรับปรุงพระราชบัญญัติล้มละลาย
ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2541
รัฐบาลได้ประกาศการเปิดเสรีให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในสถาบันการเงินได้โดยให้ต่างชาติ
ถือหุ้นข้างมากในสถาบันการเงินไทยได้เป็นเวลา 10 ปี หลังจาก 10 ปี แล้ว ผู้ถือหุ้น จะไม่ถูกบังคับให้
ขายหุ้นที่มีอยู่ แต่ไม่สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ ถ้าสัดส่วนการถือหุ้นยังเกินกว่าร้อยละ 49
6. การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การบริการสังคมและกรอบกฎหมาย
รัฐบาลได้ร่างแผนงานในการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในสาขาพลังงาน สาธารณูปโภค การสื่อสาร
และการขนส่ง โดยจะประกาศแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ภายในเดือนมิถุนายน 2541 รัฐวิสาหกิจที่แปรรูป
เป็นบริษัทจำกัดแล้ว แต่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ จะถูกแปรรูปก่อนรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ทั้งนี้จะเสนอให้รัฐสภา
พิจารณากฎหมายที่จำเป็นในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่ยังไม่ได้แปรรูปเป็นบริษัทจำกัด ภายในเดือนมิถุนายน 2541
996
ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างและทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โครงการก่อสร้างหอพักและอาคารอเนกประสงค์ สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา)
ศธ
16/09/2540
ให้สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการตาม
แนวทางในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2540 ซึ่งเห็นชอบนโยบายและมาตรการใน
การฟื้นฟูเศรษฐกิจตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวีรพงษ์ รามางกูร) เสนอ โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องในระเบียบวาระเพื่อ
ทราบจร เรื่องที่ 14 - 24 ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาร่วมกับสำนักงบประ
มาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติโดยด่วน หากเรื่องใด
เห็นสมควรอนุมัติก็ให้ดำเนินการต่อไปได้ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้กระ
ทรวง ทบวง ที่ยังไม่ได้เสนอเรื่องมาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเร่งรัดส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวง
การคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาโดยด่วนด้วย
997
การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
นร
09/09/2540
รับทราบรายงานการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามที่เลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีรายงาน และขอให้รัฐมนตรีทุกท่านจัดเตรียมข้อมูลของกระทรวง ทบวง เพื่อการชี้แจง
ของนายกรัฐมนตรี และงดการเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด รวมทั้งกำกับให้ผู้บริหารระดับ
สูงของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจงดการเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด และให้จัดเจ้าหน้าที่
ผู้เกี่ยวข้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลาในช่วงระยะเวลาที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา
ญัตติดังกล่าวด้วย
998
ร่างพระราชกฤษฎีกาได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ...
กห
24/06/2540
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรง
ตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... (ปรับปรุงหลักเกณฑ์ได้รับเงินประจำ
ตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ พ.อ. อัตราเงินเดือน พ.อ. (พิเศษ) หรือ น.อ. อัตรา
เงินเดือน น.อ. (พิเศษ) ขึ้นไป และประเภทบริหารระดับกลางตั้งแต่ยศ พ.อ. หรือ น.อ. ให้สอด
คล้องกับการกำหนดตำแหน่งข้าราชการประเภทอื่น) ตามที่กระทรวงกลางโหม เสนอ และให้
ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
999
แจ้งยืนยันการเสนอรายงานของคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรีด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
รส
17/04/2540
รับทราบรายงานของคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรี
ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของเอเปค ระหว่างวันที่ 8-11 มกราคม 2539 ณ กรุงมะนิลา ประ
เทศฟิลิปปินส์ และเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรับไปดำเนินการตามข้อเสนอ
ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และมอบให้กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นแกนกลางในการดำเนินการศึกษาวิจัยผลกระทบจากการ
ที่จะให้ต่างประเทศข้ามมาลงทุนด้านการค้าบริการทางด้านสังคม โดยให้หารือร่วมกับส่วนราชการที่
เกี่ยวข้องในแต่ละสาขาด้วย และหากมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนิน
การ ก็ให้เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายสังคมพิจารณา เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
กับมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชน
เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ เป็นแกนกลางในการกำหนดนโยบายเป้าหมายของการศึกษาและ
พัฒนาผู้บริหาร โดยมุ่งประเด็นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และเน้นด้านการแลก
เปลี่ยนประสบการณ์ของผู้บริหารทั้งภาคธุรกิจและราชการ แล้วประสานงานกับหน่วยปฏิบัติที่เห็น
ควรมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในการให้การศึกษาและพัฒนาผู้บริหารต่อไป ตามมติคณะกรรม
การกลั่นกรองฝ่ายสังคม
1000
การติดต่อประสานงานในกรณีเร่งด่วน
นร
28/01/2540
เห็นชอบให้กระทรวง ทบวง กรม ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ติดต่อประสานงาน โดยมีเจ้าหน้าที่
ปฏิบัติงานตลอดเวลา เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกับหัวหน้าหน่วยงาน หรือผู้บริหารระดับสูงทั้ง
ของส่วนราชการตลอดจนรัฐวิสาหกิจได้ทันที และจัดพิมพ์หมายเลขโทรสาร โทรศัพท์ และวิทยุติด
ตามตัวของข้าราชการหรือผู้บริหารระดับสูงในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนรัฐวิสาหกิจเพื่อ
สะดวกในการติดต่อหรือส่งข้อมูลระหว่างกันโดยตรงได้ทันที แล้วจัดทำเป็นรูปเล่มขนาดกระทัดรัด
แจกจ่ายคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานการดำเนินการในเรื่อง
นี้ด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ
.....
|<<
Previous
<
Previous
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย