รับทราบรายงานการศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ 
ฉบับที่ 4 และฉบับที่ 5 ของวุฒิสภา  พร้อมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ  สรุปได้ว่า  จากการสอบสินทรัพย์
ด้อยคุณภาพและขั้นตอนการให้สินเชื่อของบริษัท  และจากรายงานผลการตรวจสอบภายในซึ่งจัดทำ 
โดยฝ่ายตรวจสอบของธนาคารกรุงไทย นั้น สอดคล้องกันว่า ธนาคาร ฯ มีจำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ 
หนี้จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐานขึ้นไป คิดเป็นอัตราสูงกว่าร้อยละ 70 ของสินเชื่อรวมหรือกว่า  700,000  ล้านบาท  
การสำรอง  ณ  สิ้นเดือนมิถุนายน  2542  ธนาคาร ฯ  ไม่สามารถที่จะกันสำรองหนี้จัดชั้นได้ครบตามเกณฑ์ที่  
ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด   โดยตัวเลขดังกล่าวขัดแย้งกับตัวเลขที่ธนาคาร ฯ  ได้ประกาศอย่างเป็นทาง 
การอย่างมีนัยสำคัญ  ในส่วนของการตรวจสอบขั้นตอนการให้สินเชื่อ  ผลปรากฎว่า  เกิดความบกพร่องขึ้นใน 
พิธีการด้านสินเชื่อแทบทุกขั้นตอน   แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพและประสบการณ์ของคณะผู้บริหาร   
รวมถึงความไม่สุจริต    สำหรับการพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะและการดำเนินงานของธนาคาร ฯ   
ในอดีต  มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อศึกษาให้ทราบถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ   ที่ปรากฎเป็นข่าว และสร้างความสับสน 
ให้กับสังคมอันจะนำไปสู่ผลสำเร็จ และความโปร่งใสในการแก้ไขปัญหาของธนาคาร ฯ  พร้อมทั้งกระตุ้นให้ทุก  
ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงของปัญหาที่เกิดขึ้น    และร่วมมือกันในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา  
อย่างรวดเร็ว จริงจัง โปร่งใส  และเป็นธรรมมากที่สุด   ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ   และมอบให้ 
กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะ
รัฐมนตรีต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ของผู้อำนวยการองค์การ 
สื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) โดยอัตราค่าตอบแทนคงที่ให้กำหนดอัตราค่าตอบแทนคงที่ขั้นต่ำ   
-ขั้นสูง  ของผู้อำนวยการ  อ.ส.ม.ท.  ในอัตราเดือนละ  120,000-200,000  บาทได้  โดยให้คณะกรรมการ  
อ.ส.ม.ท. เป็นผู้พิจารณากำหนดตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์บริหาร และผลงานที่ผ่านมาของผู้ที่   
จะได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นองค์ประกอบ   โดยให้อัตราค่าตอบแทนคงที่ดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 
70  ของอัตราค่าตอบแทนรวม  ส่วนอัตราค่าตอบแทนผันแปรกำหนดให้มีค่าตอบแทนผันแปรตามผลงานที่  
กำหนดไว้ในสัญญาในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของค่าตอบแทนรวม โดยจ่ายได้เมื่อมีการประเมินผลงานตอน  
สิ้นปีแล้ว   ทั้งนี้   อัตราค่าตอบแทนคงที่บวกอัตราค่าตอบแทนผันแปรรวมกันแล้วเท่ากับร้อยละ  100  และ 
ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง   อ.ส.ม.ท.   เพื่อกำหนดให้ผู้ดำรง   
ตำแหน่งผู้อำนวยการ  อ.ส.ม.ท.  ไม่มีสถานภาพเป็นพนักงานประกาศใช้แล้ว   สำหรับสัญญาจ้างอย่างน้อย 
ต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง  เงื่อนไขในการทดลองปฏิบัติงานหรือการ  
ทำงาน  การประเมินผลการทำงาน  และค่าจ้างหรือผลประโยชน์อื่นของผู้บริหาร   ตามที่กระทรวงการคลัง 
เสนอ



 



            

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการโครงการสร้างวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร  
ระดับสูงในหน่วยงานของรัฐ โดยให้ทุกกระทรวง  ทบวง  กรมและรัฐวิสาหกิจดำเนินการตามโครงการ ฯ  โดยเชิญ 
วิทยากรให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับการสร้างวิสัยทัศน์ ฯ อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กับให้   
หน่วยงานเป็นผู้กำหนดวิทยากร  หัวข้อ  ตลอดจนจัดหางบประมาณในการดำเนินการโครงการเอง  และให้  CIO    
(Chief Information Officer)  ของกระทรวง  ทบวง  กรม  เป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าว   ทั้งนี้  ให้สำนักงาน 
ก.พ. บรรจุหัวข้อเกี่ยวกับ "วิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ" ในหลักสูตรด้วย  รวมทั้งให้ผู้บริหารระดับสูงของ 
หน่วยงานเข้ารับการอบรมในหลักสูตร   "วิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง"   ตามที่ 
กระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ   โดยให้รับความเห็นของสถาบันพระปกเกล้า  (เกี่ยวกับ 
การให้ผู้บริหารระดับสูงมีการติดต่อสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงภายในกระทรวงและระหว่าง
กระทรวงโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ) ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ  รับทราบ   
ข้อมูลการเบิกจ่ายเงินกู้โครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินกู้จากต่างประเทศ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับภาพรวมของโครงการ   
เงินกู้ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 สถานะการเบิกจ่ายโดยรวม  โครงการที่ดำเนินการ  
เรียบร้อยแล้ว โครงการผูกพันใหม่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  การเบิกจ่ายโครงการลงทุน  รวมทั้งการพิจารณา   
โครงการที่มีศักยภาพการเบิกจ่ายต่ำ และมาตรการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่าย  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ 
กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของ  คศก.  (เกี่ยวกับการขาดกลไกการบริหารที่เข้มแข็งและการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร 
ระดับสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาการเบิกจ่ายเงินล่าช้า  นอกจากนี้  การดำเนินโครงการขาดความต่อเนื่อง ควรเพิ่ม   
ความเข้มงวดเป็นพิเศษในการกำกับดูแลหน่วยงานที่มีการกู้เงินแล้วไม่ใช้หรือเบิกจ่ายเงินกู้ต่ำแต่ได้เสนอโครงการ  
ใหม่เข้ามา ไม่ควรรับพิจารณา)  ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นเกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ  
คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ  (ฉบับที่  ..)  พ.ศ. ....   ตามที่กระทรวงการคลัง  
เสนอ (สรุปได้ว่า เมื่อรัฐวิสาหกิจแปลงเป็นบริษัทโดยใช้พระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... บริษัทนั้นยังคง 
มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ จึงยังคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจ  รวมถึงกฎหมาย  
ว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ฯ ด้วย  ดังนั้น กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จึงไม่  
มีผลกระทบต่อกัน ต่อมาหากรัฐวิสาหกิจที่แปลงเป็นบริษัท จำกัด ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ฯ ได้มีการแปร  
รูปจนพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจในภายหลัง  บริษัทนั้นก็มิต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวอีกต่อไป  แต่จะ 
ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่ใช้กับบริษัทเอกชนแทน  โดยผู้บริหาร  กรรมการ  และพนักงานรัฐวิสาหกิจจะไม่  
ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ฯ ด้วย  และขณะ   
นี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยกองทุนสำหรับพนักงานที่ได้รับ   
ผลกระทบต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว  ตามที่คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตแล้ว  โดยผลการ
พิจารณาเป็นประการใดจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก 
กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  
(เกี่ยวกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทควรกำหนดตำแหน่งให้ชัดเจนไว้ในร่างระเบียบ ฯ   แต่  
ละข้อจะเป็นการเหมาะสมหรือไม่ โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 ได้ประกาศ 
ใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว  สมควรพิจารณาถึงผลกระทบต่อร่างระเบียบนี้เกี่ยวกับผู้บริหารเมืองพัทยาด้วย   และผู้  
บริหารเทศบาล จำนวน 3 คน ในคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะกำหนดให้   
มาจากผู้บริหารเทศบาลประเภทละ 1 คน  จะเป็นการเหมาะสมหรือไม่) ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้ดำเนินการต่อไป 
ได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 606 ร.  เรื่อง  การสอบคัดเลือกตำแหน่งผู้อำนวยการ  
โรงเรียน ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน ของกรมสามัญศึกษา ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 
จังหวัดขอนแก่น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ  และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  (โดยมีสาระสำคัญ 
ของคำถาม สรุปได้ดังนี้ หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาของกรมสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ 
ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบและมีเกณฑ์การให้คะแนน  รวมถึงมีการประกาศคะแนนผู้เข้า
สอบในแต่ละภาคหรือไม่  และในการสอบคัดเลือกข้าราชการเพื่อเลื่อนชั้นให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน  
ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน ของกรมสามัญศึกษา  นับย้อนหลัง  3  ปี  มีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่  มีการลงโทษผู้ 
กระทำความผิดอย่างไร)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 634 ร. เรื่อง การตรวจสอบสินทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย 
จำกัด (มหาชน) ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่นและกระทู้ถามที่ 643 ร. เรื่อง
ปัญหาการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของนางมยุรา  อุรเคนทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดมหาสารคาม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอทั้ง 2 เรื่อง และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระ
สำคัญของคำถาม  สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลจะเปิดเผยผลการตรวจสอบสินทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย  จำกัด  (มหาชน)  
ให้ประชาชนได้รับทราบได้หรือไม่  ถ้าได้จะเปิดเผยเมื่อใด  ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด รวมทั้งจะมีมาตรการตรวจสอบการ
พิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย ฯ ให้เกิดความโปร่งใสอย่างไร และในปัจจุบันการดำเนินงานของธนาคาร
ดังกล่าวเป็นอย่างไร และจะมีมาตรการหาบุคคลผู้บริหารมารับผิดชอบและลงโทษกรณีที่ดำเนินงานผิดพลาดในเรื่องนี้
อย่างไร)

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสรุปผลการเดินทางไปราชการที่ประเทศ
ญี่ปุ่น ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 16 - 21 ตุลาคม 2542 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการ 
ปรับโครงสร้างหนี้บริษัท  ไทยออยล์  จำกัด   การหารือกับคณะผู้บริหารสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ซึ่งกระทรวง
อุตสาหกรรมได้ศึกษาและเร่งดำเนินการต่าง ๆ ตามกรอบความตกลงของ  AFTA  เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักร  
ยานยนต์ในประเทศไทยสามารถฟื้นตัวและขยายออกสู่ต่างประเทศได้ ซึ่งจะเป็นการจูงใจให้บริษัทผู้ผลิตและประกอบ
ธุรกิจยานยนต์เกิดความสนใจที่จะมาลงทุนและใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อการส่งออกต่อไปในอนาคต
รวมทั้งการพบปะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ ของญี่ปุ่น   เกี่ยวกับการ 
สนับสนุนประเทศไทยในการแก้ไขและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยและการสนับสนุนผู้ปกครอง  
การธุรกิจและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในประเทศไทย       ตลอดจนการขอให้  MITI  ให้การสนับสนุนประเทศไทยเป็น
ศูนย์กลางของการดำเนินการตามโครงการให้ความช่วยเหลือภายใต้กรอบความตกลง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและ
อุตสาหกรรมระดับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศของอาเซียนและญี่ปุ่น  (AMEICC)  ซึ่ง
จะเป็ผลดีต่อประเทศไทยในด้านการต่างประเทศ การลงทุน และเศรษฐกิจในอนาคต

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 569 ร. เรื่อง  ปัญหาความขัดแย้งในการสรรหาอธิการบดี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น ตามที่ทบวง 
มหาวิทยาลัยเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดังนี้ ทบวงมหา  
วิทยาลัยมีแนวทางแก้ไขความขัดแย้งในการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชหรือไม่ เ มื่อใด  และมี  
นโยบายให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ฯ ดำรงตำแหน่งได้เกิน 2 วาระติดต่อกัน  รวมทั้งมีแนวทางบริหารมหาวิทยาลัย ฯ  
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติอย่างไร)

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ฉบับที่ 8  ระยะที่ 1  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  (ตุลาคม 2541 - มีนาคม
2542) ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประกอบด้วย แผนงาน/โครงการด้านการพัฒนาศักยภาพของคนไทย แยกเป็น
การพัฒนาศักยภาพของคนด้านจิตใจ จำนวน 13 โครงการ การพัฒนาสติปัญญา ทักษะ  และฝีมือแรงงาน  จำนวน 
18 โครงการ  และการพัฒนาประชากรกลุ่มผู้ด้อยโอกาส   จำนวน 3 โครงการ    โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อ
สังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ    (เกี่ยวกับการดำเนินการในระยะต่อไป
ควรติดตามประเมินผลทั้งในเชิงปริมาณ     คุณภาพ   และกระบวนการเพื่อเป็นการนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะ
ดำเนินการต่อไป     รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานตามพระราช
บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ. 2542   ให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน
เพื่อให้การดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้  ควรมีสำรวจและ
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายเด็กผู้ด้อยโอกาสให้มีความชัดเจน โดยจำแนกประเภทตามสภาพปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องและครอบคลุมกลุ่มผู้ด้อย 
โอกาสทุก ๆ กลุ่ม) ไปดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 388 ร. เรื่อง  การจำกัดงบประมาณภาครัฐ  ของนายเปรม  
ศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้ประกาศ 
ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลมีมาตรการในการควบคุมการใช้จ่ายงบ 
ประมาณในภาครัฐอย่างไร   และในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่อยู่ในยุคถดถอย รัฐบาลมีมาตรการที่จะให้หน่วยงานของ
รัฐใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีมาตรการที่จะสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้บริหารหน่วยงานที่ประสบ
ความสำเร็จในด้านการควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร หรือไม่)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง นายวิบูลย์ คูหิรัญ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค 
(กปภ.) โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตรา 96,720 บาท  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2542 เป็นต้นไป  ตามมติคณะ  
กรรมการ กปภ.  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ     โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการประสานกับนาย   
วิบูลย์ คูหิรัญ ให้ลาออกจากการเป็นพนักงานตามหลักการ  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541  ที่  
เห็นชอบให้ผู้บริหารสูงสุดของทุกรัฐวิสาหกิจไม่มีสถานภาพเป็นพนักงาน แต่ให้แต่งตั้งในลักษณะจ้างบริหาร โดย  
ทำสัญญาว่าจ้างตามวาระของการดำรงตำแหน่งที่ชัดเจน และกำหนดผลตอบแทนตามผลงานในการบริหาร ทั้งนี้  
ให้กระทรวงการคลังมีส่วนร่วมในการกำหนดผลตอบแทนของผู้บริหารสูงสุดตามสัญญา  และให้ใช้บังคับเป็นการ 
ทั่วไปกับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง โดยไม่ต้องแก้กฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจเป็นรายแห่ง

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง  นายวิเศษ  จูภิบาล  ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการปิโตรเลียม  
แห่งประเทศไทย  ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ    และเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของมติ 
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 ที่เห็นชอบในหลักการการแก้ไขพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐาน 
สำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518   และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2542  ที่ 
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการผู้บริหารสูงสุดและพนักงานรัฐวิสาห  
กิจ พ.ศ. .... ที่กระทรวงการคลังเสนอ  และเพื่อให้การแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดของทุกรัฐวิสาหกิจซึ่งมีการแต่งตั้ง 
ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 มีแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกัน  จึงให้กระทรวง 
อุตสาหกรรมประสานกับนายวิเศษ  จูภิบาล เพื่อขอให้ลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนการดำรงตำแหน่งผู้   
ว่าการการปิโตรเลียม ฯ สำหรับในกรณีนายปรีชา ศรีทองสุข  ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่  20  กรกฎาคม
2542 เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  ก็มี   
ลักษณะเช่นเดียวกัน    เนื่องจากก่อนแต่งตั้งเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการฝ่ายวิชาการ  ซึ่งเป็นพนักงานของการ   
ทางพิเศษ ฯ    จึงให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการประสานกับนายปรีชา  ศรีทองสุข  เพื่อให้ลาอออก
จากการเป็นพนักงานตามหลักการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ให้มีการเลือกตั้งนายก 
เทศมนตรีโดยตรง) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย 
ให้แก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจไปสู่ท้อง  
ถิ่น  โดยให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรงทุกเทศบาลทั้งหมด จำนวน 1,129 เทศบาล  แล้วส่งให้คณะกรรม 
การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป  โดยที่ร่างพระราชบัญญัติ 
เทศบาลดังกล่าว ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรง  ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ  
แห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้บัญญัติถึงที่มาของคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นไว้     และเป็นนโยบายของ 
รัฐบาลซึ่งเหมาะสมกับโครงสร้างการบริหารและพื้นที่ของเทศบาล    และเป็นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้ม
แข็งของการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงให้กระทรวงมหาดไทยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  เกี่ยวกับการรายงาน
ความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการในคดีล้มละลาย ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 5)  พ.ศ.  2542  
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  22  เมษายน  2542   ในส่วนของการร้องขอฟื้นฟูกิจการในคดีล้มละลายเพื่อปรับโครงสร้าง  
หนี้และทุนของกิจการ การวิเคราะห์คุณสมบัติของบุคคลที่ศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนการปรับโครง   
สร้างหนี้   และการยกร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้ทำแผนและผู้บริหารแผน  ตามที่กระทรวงยุติธรรม  
รายงาน และตามที่ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี (นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ) และอธิบดีผู้   
พิพากษาศาลล้มละลาย (นายสุนทร สิทธิเวชวิจิตร)  ชี้แจง  (เกี่ยวกับภายหลังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ 
ในระยะประมาณ 3 เดือน มีการร้องขอฟื้นฟูกิจการมีอัตราสูงขึ้นโดยมีการร้องขอฟื้นฟูกิจการ 11 คดี จำนวนทุนทรัพย์  
ประมาณ 44,000 ล้านบาท ศาลอนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการ 7 คดี  อยู่ระหว่างการพิจารณา  4  คดี  ส่วนการฟ้องคดีต่อ 
ศาลล้มละลายกลางมีอัตราลดลง  มีคดีล้มละลายเกิดขึ้นเพียง 219 คดี  เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวกำหนดทุนทรัพย์
สูงขึ้น และคู่ความประนีประนอมกันเองได้มากขึ้น

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้
บริหารท้องถิ่น พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  
ตรวจพิจารณาโดยด่วน   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา  ก่อนเสนอสภาผู้
แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออกดำเนินการก่อสร้างอาคารแสดง  
สินค้าศิลปหัตถอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและอาคารตลาดศิลปาชีพบางไทร  ภายในวงเงินทั้งสิ้น  635,962,500
บาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ จำนวน 409,060,000 บาท  และเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย  
ประจำปี พ.ศ. 2542 จำนวน 5,000,000 บาท และผูกพันงบประมาณปี 2543 - 2545  อีกจำนวน 221,902,500  
บาท  ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ   โดยคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ในการดำเนินโครงการอาคารศิลปหัตถ 
อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและตลาดศิลปาชีพบางไทร นั้น ควรให้ภาคเอกชนเป็นผู้บริหาร

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด  พ.ศ.  2535
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายในส่วนของการคุ้มครอง 
ผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ผู้ถือหุ้นส่วนรายย่อยสามารถใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นได้อย่างแท้จริง    แก้ไขปรับปรุงกฎ 
หมายในส่วนบทบาทและความรับผิดชอบของกรรมการเพื่อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการ  
ให้มีความชัดเจน   และเพื่อกำกับดูแลมิให้ผู้บริหารของบริษัทอาศัยช่องทางไปในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน 
ออกจากบริษัทหรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเอาเปรียบ (non - controlling shareholder) ได้    และแก้ไข 
ปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่อาจเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการปรับโครงสร้างภาคธุรกิจเอกชนให้สอดคล้อง 
กับผลการศึกษาเรื่อง   ปัญหาและอุปสรรคการขายหนี้ที่มีปัญหา    การขายหุ้นที่เกิดจากการแปลงหนี้เป็น
ทุนหรือการบริหารหนี้ที่ได้มีการแปลงเป็นทุนโดยผู้บริหารมืออาชีพแทนสถาบันการเงิน)  และให้กระทรวง
พาณิชย์รับไปดำเนินการยกร่างกฎหมาย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการใช้น้ำนมดิบในประเทศ 
ตามมติคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการปศุสัตว์แห่งชาติ และอนุมัติในหลักการให้จัดตั้งโรงงานผลิตนม 
ผง โดยให้สถาบันเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นผู้บริหารจัดการและรัฐสนับสนุนงบประมาณหรืองเงินกู้ดอกเบี้ย 
ต่ำ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า ควรจัดตั้งเป็นโรงงานผลิตนมผง   
สำหรับใช้เลี้ยงทารกซึ่งจะคุ้มค่ากว่า    จึงให้กระทรวงเกษตร ฯ  ศึกษาจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนิน  
การก็ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณหรือใช้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ  และให้สถาบันการเกษตร   
ประสานงานกับสถาบันการเงินหรือกองทุนต่าง ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและสถาบันการ  
เกษตร แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป  กับให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปดำเนินการกำหนดให้ต้องมี   
ฉลาก  ข้อความในฉลาก  เงื่อนไขและวิธีการแสดงฉลาก   ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการโฆษณาในฉลากที่ 
กล่องหรือภาชนะบรรจุนม    รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงคุณภาพและประโยชน์ของนมแต่
ละชนิด และสามารถเลือกบริโภคได้ตามความเหมาะสม