ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 14 จากทั้งหมด 29 หน้า แสดงรายการที่ 261 - 280 จากข้อมูลทั้งหมด 571 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 261 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 - 2556 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน | 10/11/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ ผลการดำเนินงาน งบการเงินและบัญชีทำการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและกองทุนพัฒนาไฟฟ้า รวมถึงแผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ รวมถึงให้กระทรวงพลังงานเปิดเผยรายงานนี้ต่อสาธารณชนตามกฎหมายต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดการจัดทำรายงานประจำปีเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ รัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทุกสิ้นปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 262 | รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 | กษ | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองเรียบร้อยแล้ว โดยงบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๙,๐๕๖,๑๒๔,๐๕๑.๐๔ บาท สำหรับงบรายได้ค่าใช้จ่าย กองทุนฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน ๑๗๖,๒๗๙,๓๑๐.๙๕ บาท และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน ๑๗,๑๐๕,๘๒๑.๘๑ บาท โดยมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๑๕๙,๑๗๓,๔๘๙.๑๕ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 263 | รายงานผลการพิจารณาการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน | กค | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบผลการพิจารณาการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียนที่เห็นควรให้มีการจัดตั้งทุนหมุนเวียนใหม่ จำนวน ๒ ทุน ได้แก่ กองทุนเพื่อการศึกษา และกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ในส่วนของกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ โดยไม่ควรกำหนดให้รัฐบาลต้องพึงจัดสรรเงินอุดหนุนรายปีให้แก่สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพโดยตรง และควรกำหนดเป้าหมายและระยะเวลาในการดำเนินงานกองทุนฯ ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพให้ชัดเจน รวมทั้งแสดงรายละเอียดที่มาของการประมาณการรายรับ-รายจ่าย และกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในและระยะเวลาในการจัดทำงบการเงินส่งผู้สอบบัญชี ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการศึกษาและกองทุนส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ไปพิจารณาปรับปรุงและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับทุนหมุนเวียนที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีมติไม่เห็นชอบให้มีการจัดตั้งทุนหมุนเวียนนั้น เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ ที่ให้กระทรวงการคลังรายงานผลการพิจารณาทุนหมุนเวียนตามข้อเสนอของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในส่วนที่เหลือให้ครบถ้วน และเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ ที่ให้กระทรวงการคลังเสนอวิธีการนำเงินทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องส่วนที่เกินความจำเป็นไปใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในช่วง ๑ ปี ต่อคณะรัฐมนตรี และเร่งรัดการนำเงินทุนหมุนเวียนส่วนเกินในส่วนที่เหลือส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้ครบถ้วนโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 264 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง | รง | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว โดยเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ และผลการดำเนินงานทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๓๒๑,๘๕๗,๗๒๗.๔๕ บาท หนี้สิน ๙๙๙,๗๐๙.๙๑ บาท รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ๓๒๐,๘๕๘,๐๑๗.๕๔ บาท ๒. งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ กองทุนฯ มีรายได้ ๓๐,๙๘๐,๙๖๕.๙๘ บาท ค่าใช้จ่าย ๕,๘๔๘,๓๒๒.๐๘ บาท รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๒๕,๑๓๒,๖๔๓.๙๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 265 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 | คค | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบสถานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของทุนและงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันโดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 266 | รายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 | คค | 15/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ และงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงินของ รฟม. ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ และผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 267 | รายงานประจำปี 2556 ศาลรัฐธรรมนูญ | ศร | 04/08/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๖ ศาลรัฐธรรมนูญ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับคดีที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในปี ๒๕๕๖ ผลการปฏิบัติราชการตามแผนยุทธศาสตร์ และงบการเงินของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 268 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย ประจำปี 2557 | พน | 07/07/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วยกิจกรรมด้านการสำรวจการประเมินปริมาณสำรอง การผลิตปิโตรเลียม และการกำกับดูแลด้านอาชีวอนามัยความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย แปลง A-18 แปลง B-17 & C-19 และแปลง B-17-01 โดยในปี ๒๕๕๗ มีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง A-18 รวมทั้งสิ้น ๓๐๒ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๘๒๗ ล้านลูกบาศก์ฟุต และจากแปลง B-17 & C-19 รวมทั้งสิ้น ๑๒๑ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๓๓๒ ล้านลูกบาศก์ฟุต ๒. ผลประกอบการในปี ๒๕๕๗ ขององค์กรร่วมฯ ได้จากการขายปิโตรเลียมโดยการผลิตปิโตรเลียมจากแปลง A-18 และแปลง B-17 & C-19 ก่อให้เกิดรายได้ขององค์กรร่วมฯ ในรูปของค่าภาคหลวง ๓๑๖,๘๘๘,๗๒๔ ดอลลาร์สหรัฐ ปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไร ๘๖๓,๙๐๔,๗๙๖ ดอลลาร์สหรัฐ และรายได้อื่น ๖๔๘,๓๔๙ ดอลลาร์สหรัฐ สถานะของกองทุนองค์กรร่วมฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ มียอดรวม ๓๖๑,๒๙๒,๕๒๑ ดอลลาร์สหรัฐ
|
|||||||||||||||||||||
| 269 | รายงานผลการพิจารณาการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน | กค | 23/06/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบผลการพิจารณาการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน ที่เห็นควรให้มีการจัดตั้งทุนหมุนเวียน จำนวน ๔ ทุน ได้แก่ กองทุนยุติธรรม กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และเงินทุนหมุนเวียนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาตามร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฯ โดยให้จัดตั้งกองทุนฯ ขึ้นในสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนฯ รวมทั้งการกำหนดระยะเวลาในการส่งงบการเงินให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรอง ๑.๒ การจัดสรรเงินงบประมาณเป็นทุนประเดิม จำนวน ๓๐ ล้านบาท ให้แก่เงินทุนหมุนเวียนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา งบประมาณที่จะใช้ในการจัดตั้งทุนหมุนเวียนให้เป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่างหน่วยงาน กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ๑.๓ แหล่งที่มาของเงินกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ตามร่างพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมคุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ. .... ให้ทบทวนร่างพระราชบัญญัติฯ ให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมก่อนนำเสนอคณะกรรมการฯ อีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) โดยให้เสนอวิธีการนำเงินทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องส่วนที่เกินความจำเป็นไปใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในช่วง ๑ ปี ต่อคณะรัฐมนตรี และเร่งรัดการนำเงินทุนหมุนเวียนส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้ครบถ้วนโดยด่วนต่อไป ๓. ให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพเรือ) กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) กระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบทุนหมุนเวียนทั้ง ๔ ทุน (เงินทุนหมุนเวียนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนยุติธรรม และกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา) รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ควรพิจารณาดำเนินการโดยคำนึงการใช้ประโยชน์จากโครงการพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว และควรพิจารณาขยายขอบเขตการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาไปยังคนกลุ่มต่าง ๆ อย่างทั่วถึง รวมทั้งควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นนอกเหนือจากเชิงวิชาการ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการเรียนรู้แก่ผู้เรียน อีกทั้งการพัฒนานวัตกรรม/สื่อดิจิทัลที่เอื้อต่อการเรียนรู้และสนับสนุนการเสริมสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านระบบเทคโนโลยีทางการศึกษา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนหมุนเวียนในอนาคต ว่าควรเป็นอย่างไร เพื่อรองรับการปฏิรูปที่จะมีขึ้นในระยะต่อไป เช่น จะยุบ ยกเลิก หรือให้คงอยู่ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 270 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี 2557 | อก | 23/06/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี ๒๕๕๗ โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี ๒๕๕๗ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป โดยฐานะการเงิน ณ วันสิ้นสุดงวดปีบัญชี ๒๕๕๗ มีสินทรัพย์รวม จำนวน ๒๓,๑๙๓ ล้านบาท หนี้สินรวม จำนวน ๑๑,๐๐๖ ล้านบาท และส่วนของทุน จำนวน ๑๒,๑๘๗ ล้านบาท ผลประกอบการในปี ๒๕๕๗ มีกำไรสุทธิ จำนวน ๑,๙๕๙ ล้านบาท ๒. ในการรายงานครั้งต่อไป ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการจัดทำงบการเงินโดยเร็วเพื่อให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายงานผลการสอบบัญชีต่อคณะรัฐมนตรีได้ทันตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 271 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | คค | 12/05/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ วงเงิน ๘,๗๑๑.๒๖๕ ล้านบาท ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ส่วนประเด็นของการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้แก่ รฟท. ให้ รฟท. จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมตามที่กระทรวงการคลังกำหนดเพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ๓. ให้ รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ รฟท. เร่งรัดกระบวนการรับรองงบการเงินให้เป็นปีปัจจุบันโดยเร็ว และควรนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ทั้งด้านการบริหารการเดินรถ การบริหารจัดเก็บรายได้ และการเงินการบัญชี อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ รฟท. ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 272 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 และ 2554 และรายงานของ ผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 และ 2555 | พน | 07/05/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ และรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 273 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 | ปช | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว โดยงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ประกอบด้วย สินทรัพย์/ส่วนทุน ๒,๘๓๙,๙๘๓,๔๑๑.๗๒ บาท รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ ๖๐,๘๕๘,๙๑๘.๓๘ บาท เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น/(ลดลง) สุทธิ ๖๑,๙๔๓,๖๐๒.๗๒ บาท ๒. ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเร่งรัดการตรวจสอบงบการเงินของหน่วยรับตรวจทุกหน่วยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้หน่วยรับตรวจนำเสนอคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป สำหรับการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดก่อนหน้า ซึ่งยังค้างดำเนินการ (ถ้ามี) ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบในภายหลัง
|
|||||||||||||||||||||
| 274 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... | ศธ | 17/03/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ไปเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของมหาวิทยาลัย ควรเพิ่มหลักการในวรรคสามของร่างมาตรา ๑๔ (๓) โดยกำหนดกรอบวงเงินกู้ที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ชัดเจน และหากเกินกรอบวงเงินกู้ดังกล่าว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ส่วนการบัญชีและการตรวจสอบ ในประเด็นการจัดทำบัญชีและรายงานในร่างมาตรา ๔๙ ควรกำหนดให้เป็นไปตามมาตรฐานและนโยบายบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และในร่างมาตรา ๕๐ การจัดทำงบการเงินส่งผู้สอบบัญชีของมหาวิทยาลัย ควรปรับระยะเวลาจากภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เป็นภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฯ ควรปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับหลักการกลางในการร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ) รวมทั้งการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๒๑ ควรให้ครอบคลุมอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๑๔ (๘) เกี่ยวกับการอนุมัติการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคล รวมถึงการลงทุนหรือร่วมลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปกำกับดูแลมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมิให้เป็นภาระกับรัฐบาลในการให้การอุดหนุนด้านงบประมาณเพิ่มเติม ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดให้มีระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีสั่งจ่ายเงินรายได้ และระบบการตรวจสอบ ติดตามผล เพื่อให้การจัดเก็บรักษาและการใช้จ่ายเงินรายได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทุกแห่ง และควรให้ความสำคัญในการพัฒนาและวางระบบการบริหารการเงินการคลังที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อการวางแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนการศึกษาและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อหาจุดที่คุ้มทุนของการจัดการศึกษาในแต่ละสาขาวิชา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 275 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และ 2554 | ตผ | 17/03/2558 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๔ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการสรุปผลการปฏิบัติงานตรวจสอบของ สตง. การตรวจสอบบัญชีทุนสำรองเงินตราประจำปี การตรวจสอบรายงานการเงินแผ่นดิน การตรวจสอบการเงินทั่วไป การตรวจสอบงบการเงิน/รายงานการเงิน การตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบสืบสวน การตรวจสอบการดำเนินงาน การตรวจสอบลักษณอื่น และผลการดำเนินงานด้านวินัยทางงบประมาณและการคลัง ตามที่ สตง. เสนอ และให้ สตง. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรขยายผลการตรวจสอบงบการเงิน/รายงานการเงินให้ครอบคลุมหน่วยรับตรวจโดยเฉพาะส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ข้อมูลในรายงานการเงินรวมภาครัฐที่กระทรวงการคลังจัดทำมีความถูกต้อง น่าเชื่อถือมากขึ้น รวมทั้งในการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติประจำปี ควรดำเนินการให้แล้วเสร็จและเสนอให้องค์กรที่เกี่ยวข้องพิจารณาได้ภายในปีงบประมาณถัดไป เพื่อนำผลการตรวจสอบไปปรับปรุงการปฏิบัติงานของส่วนราชการหน่วยรับตรวจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไปพิจารณาด้วย ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สตง. ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏตามรายงานผลการปฏิบัติงานฯ ว่ามีข้อบกพร่องในเรื่องใดที่ผิดไปจากระเบียบ ข้อบังคับ และแบบแผนของทางราชการ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องที่มีข้อบกพร่องดังกล่าวจัดทำรายงานข้อเท็จจริงในเรื่องนั้น ๆ ส่งให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยด่วน และให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรวบรวมรายงานทั้งหมดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแนวทางการดำเนินการเสนอรายงานประจำปีของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐต่อคณะรัฐมนตรีทั้งระบบ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งในขั้นตอนของการตรวจสอบและจัดทำรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน และในขั้นตอนการเสนอรายงานประจำปีของหน่วยงานเจ้าของเรื่อง |
|||||||||||||||||||||
| 276 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 | คค | 23/12/2557 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม ๑,๑๔๘,๖๑๑,๐๘๓.๙๒ บาท มีหนี้สินรวม ๕๔๗,๒๑๐,๗๔๗.๔๒ บาท มีหนี้สินและส่วนของทุนรวม ๑,๑๔๘,๖๑๑,๐๘๓.๙๒ บาท ๑.๒ งบกำไรขาดทุน มีรายได้รวม ๔๙๒,๖๗๘,๘๙๕.๐๘ บาท มีค่าใช้จ่ายรวม ๓๙๑,๖๖๑,๙๑๙.๗๐ บาท มีกำไรสุทธิ ๑๐๑,๐๑๖,๙๗๕.๓๘ บาท ๑.๓ งบกระแสเงินสด มีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานรวม ๔๗,๕๘๔,๖๔๕.๖๖ บาท เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนรวม ๘๐,๒๗๓,๔๔๖.๕๕ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นงวด ๔๗,๑๙๐,๗๘๖.๙๑ บาท ๒. ในการรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ สบพ. ครั้งต่อไป ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการจัดทำรายงานดังกล่าวให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 277 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี 2556 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี 2557 | กค | 02/12/2557 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทย่อย ปี ๒๕๕๖ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ พร้อมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของ กบข. ๑.๑ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ กบข. มีสินทรัพย์สุทธิรวม ๖๓๒,๕๓๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ จำนวน ๕๕,๓๗๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙.๕๙ ๑.๒ รายได้รวมกำไรสุทธิจากการลงทุนที่เกิดขึ้นและยังไม่เกิดขึ้น และกำไรสุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยนของ กบข. สำหรับปี ๒๕๕๖ มีจำนวน ๒๔,๒๐๑ ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา จำนวน ๑๒,๖๕๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๔.๓๓ ๑.๓ ค่าใช้จ่ายรวมภาษีเงินได้ของ กบข. สำหรับปี ๒๕๕๖ มีจำนวน ๑,๕๕๔ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา จำนวน ๑๓๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙.๕๗ ๑.๔ ผลประโยชน์สุทธิของ กบข. ปี ๒๕๕๖ มีจำนวน ๒๒,๖๔๗ ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา จำนวน ๑๒,๗๘๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๐๙ ๒. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ๒.๑ ให้ทบทวนการแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยการให้สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพเพราะเหตุเสียชีวิตมีสิทธิได้รับเงินประเดิม และเงินชดเชย ๒.๒ ให้ปรับแก้ไขสูตรบำนาญให้เพิ่มขึ้นจากไม่เกินร้อยละ ๗๐ ของเงินเดือน เป็นร้อยละ ๘๐ หรือมากกว่านั้น เพื่อให้ข้าราชการที่สมัครใจเข้าเป็นสมาชิกและสมาชิกที่เป็นสมาชิกโดยกฎหมายกำหนดจะได้รับประโยชน์ทั้ง ๒ ฝ่าย ๒.๓ กบข. ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่สมาชิก ถ้าแผนสมดุลตามอายุดีควรเปลี่ยนเป็นแผนหลัก
|
|||||||||||||||||||||
| 278 | รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 | สม | 04/11/2557 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๕ ประกอบด้วย สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม การคุ้มครองและช่วยเหลือกลุ่มที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิด้านสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมือง และสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๑.๒ รายงานผลการปฏิบัติประจำปี ๒๕๕๕ ประกอบด้วย การตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน การเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และการฟ้องร้องคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย การเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายและกฎ การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิทธิมนุษยชนศึกษา การศึกษาวิจัยด้านสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานเครือข่าย การดำเนินงานสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การดำเนินงานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ๒. มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปประสานงานและชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับข้อห่วงใยของรัฐบาลในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังมิได้เข้าสู่สภาวะปกติและอยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศ และปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งอาจถูกต่างประเทศหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องหยิบยกเป็นเหตุผลในการดำเนินมาตรการอันก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบต่อประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ดังนั้น การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงต้องเป็นไปด้วยความถูกต้อง รอบคอบ ทั้งนี้ กรณีเรื่องใดที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรับดำเนินการแล้วมีข้อยุติหรือปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่าข้อร้องเรียนดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนก็ขอความร่วมมือให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดำเนินการชี้แจงให้สาธารณชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบข้อเท็จจริงให้ถูกต้องโดยทั่วกันด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 279 | รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | กษ | 28/10/2557 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. สินทรัพย์หมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๕,๒๐๐,๗๙๒,๙๐๓.๓๕ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๖,๐๙๖,๒๖๐,๘๑๒.๐๒ บาท ๒. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๓,๕๙๐,๓๙๔,๗๓๔.๙๘ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๒,๘๐๑,๔๘๘,๕๐๖.๘๘ บาท ๓. รวมสินทรัพย์ ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๗,๖๓๘.๓๓ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๘,๘๙๗,๗๔๙,๓๑๘.๙๐ บาท ๔. หนี้สินหมุนเวียน ปี ๒๕๕๓ รวม ๒,๓๔๐.๐๐ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๕๘,๘๕๐.๐๐ บาท ๕. รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๕,๒๙๘.๓๓ บาท ปี ๒๕๕๔ รวม ๘,๘๙๗,๖๙๐,๔๖๘.๙๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 280 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 02/09/2557 | ||||||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์ ๕๙๕,๐๓๑,๖๕๕.๑๒ บาท หนี้สิน ๔๕,๙๒๒,๑๒๐.๙๗ บาท รวมสินทรัพย์ ๕๔๙,๑๐๙,๕๓๔.๑๕ บาท ๑.๒ งบรายได้และค่าใช้จ่าย กองทุนฯ มีรายได้ ๑๘๐,๓๔๕,๑๒๔.๔๘ บาท ค่าใช้จ่าย ๑๔๑,๑๙๔,๓๘๒.๗๗ บาท รวมรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ๓๙,๑๕๐,๗๔๑.๗๑ บาท ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับไปพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำเงินคงเหลือของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหลังจากนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแล้วมีเงินคงเหลือจำนวนมาก นำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินให้มากยิ่งขึ้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
.....
