ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 16 จากทั้งหมด 29 หน้า แสดงรายการที่ 301 - 320 จากข้อมูลทั้งหมด 571 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 301 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย ประจำปี 2555 | พน | 02/07/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอสรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วยกิจกรรมด้านการสำรวจ การประเมินผลปิโตรเลียม การประเมินปริมาณสำรอง การพัฒนา การผลิตปิโตรเลียม และการกำกับดูแลด้านชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียแปลง A-18 แปลง B-17 และแปลง B-17-01 โดยในปี ๒๕๕๕ มีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง A-18 รวมทั้งสิ้น ๓๒๕.๒๗ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๘๘๙ ล้านลูกบาศก์ฟุต และจากแปลง B-17 รวมทั้งสิ้น ๑๒๕ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๓๔๒ ล้านลูกบาศก์ฟุต ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๕ มีก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่พัฒนาร่วมฯ ส่งให้แก่ประเทศไทย จำนวน ๒๗๓ พันล้านลูกบาศก์ฟุต โดยผ่านท่อก๊าซไทย-มาเลเซียไปยังโรงไฟฟ้าจะนะที่จังหวัดสงขลา และผ่านท่อประธานเส้นที่ ๓ ของ ปตท. ขึ้นไปที่จังหวัดระยอง ๒. ผลประกอบการในปี ๒๕๕๕ ขององค์กรร่วมฯ ได้จากการขายปิโตรเลียมโดยการผลิตปิโตรเลียมจากแปลง A-18 และแปลง B-17 ก่อให้เกิดรายได้ขององค์กรร่วมฯ ในรูปของค่าภาคหลวง ๒๙๗,๕๒๐,๘๘๔ ดอลลาร์สหรัฐ ปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไร ๗๖๐,๐๖๑,๓๘๖ ดอลลาร์สหรัฐ และรายได้อื่น ๓๓๙,๖๕๓ ดอลลาร์สหรัฐ สถานะของกองทุนองค์กรร่วมฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มียอดรวม ๒๔๒,๙๑๗,๐๗๘ ดอลลาร์สหรัฐ ๓. สำนักงาน M/s KPMG ผู้สอบบัญชีมีความเห็นว่า รายงานงบการเงินขององค์กรร่วมฯ ประจำปี ๒๕๕๕ แสดงข้อมูลโดยถูกต้องตามที่ควร สอดคล้องกับสถานะการดำเนินงาน รายรับและรายจ่าย และงบกระแสเงินสดขององค์กรร่วมฯ ณ สิ้นปี ๒๕๕๕ อนึ่งในปี ๒๕๕๕ องค์กรร่วมฯ ได้นำส่งรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมฯ ให้แก่รัฐบาลไทย ๕๑๑,๗๐๙,๖๓๘.๐๗ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๑๕,๘๒๒,๐๗๐,๘๗๒.๐๔ บาท) ซึ่งเท่ากับรายได้ที่ส่งให้รัฐบาลมาเลเซีย
|
|||||||||||||||||||||
| 302 | งบการเงินประจำปี 2555 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 25/06/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ๑.๑ งบการเงินรวม ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มีสินทรัพย์รวม ๕๓๔,๑๒๑,๗๖๓,๐๗๒ บาท และงบการเงินรวม ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ (ปรับปรุงใหม่) มีสินทรัพย์รวม ๔๙๖,๙๗๗,๐๔๑,๐๙๗ บาท ๑.๒ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มีสินทรัพย์รวม ๔๓๕,๔๒๔,๖๒๘,๕๗๙ บาท และงบการเงินเฉพาะ กฟผ. ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ มีทรัพย์สินรวม ๓๙๙,๑๔๔,๗๖๕,๐๙๑ บาท ๒. งบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ๒.๑ งบการเงินรวม ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มีรายได้รวม ๕๑๒,๙๙๑,๘๙๕,๘๔๕ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๗,๗๙๖,๕๕๘,๙๑๔ บาท มีกำไรสำหรับงวด ๔๓,๒๗๑,๘๑๘,๔๗๔ บาท ๒.๒ งบการเงินรวม ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ (ปรับปรุงใหม่) มีรายได้รวม ๔๑๘,๔๔๕,๑๙๒,๑๑๒ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๖,๙๔๙,๑๒๖,๔๐๖ บาท มีกำไรสำหรับงวด ๓๔,๒๕๕,๖๕๙,๗๑๘ บาท ๒.๓ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มีรายได้รวม ๕๑๓,๐๕๑,๕๔๔,๖๖๖ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๖,๒๓๖,๓๙๒,๔๔๘ บาท มีกำไรสำหรับงวด ๓๔,๔๒๕,๓๕๕,๔๖๙ บาท ๒.๔ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ๑ มกราคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ มีรายได้รวม ๔๑๙,๘๒๗,๑๙๐,๖๓๙ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๕,๒๔๐,๘๔๔,๘๑๕ บาท มีกำไรสำหรับงวด ๓๐,๗๐๔,๑๖๗,๕๑๔ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 303 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | พน | 30/04/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองการเงินแล้ว และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม ๒๓,๑๒๒,๙๒๔,๘๐๑.๒๑ บาท มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนรวม ๔,๑๒๓,๖๙๐,๑๖๓.๒๙ บาท มีสินทรัพย์รวม ๒๗,๒๔๖,๖๑๔,๙๖๔.๕๐ บาท มีหนี้สินหมุนเวียนรวม ๑๐๗,๔๖๘,๔๕๔.๖๐ บาท และมีสินทรัพย์สุทธิรวม ๒๗,๑๓๙,๑๔๖,๕๐๙.๙๐ บาท ๑.๒ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน กองทุนฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม ๗,๒๕๔,๐๘๙,๕๘๗.๗๑ บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม ๒,๙๒๘,๒๕๗,๘๒๓.๙๓ บาท และมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม ๔,๓๒๕,๘๓๑,๗๖๓.๗๘ บาท ๑.๓ งบกระแสเงินสด กองทุนฯ มีเงินสดรับรวม ๘,๗๘๔,๘๓๓,๘๙๗.๙๒ บาท มีเงินสดจ่ายรวม ๓,๔๕๗,๑๗๓,๑๕๙.๔๓ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวดรวม ๒๑,๗๑๓,๘๔๑,๙๕๖.๘๘ บาท ๒. ให้กระทรวงพลังงานจัดส่งรายงานในเรื่องนี้ไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
| 304 | ผลกระทบของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์ของพนักงานต่อธนาคารออมสิน | กค | 19/02/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้ธนาคารออมสินนำค่าใช้จ่ายในอดีตที่ต้องตั้งทยอยรับรู้ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ ๑๙ เรื่อง ผลประโยชน์ของพนักงานธนาคารออมสิน มาบวกกลับในกำไรสุทธิเพื่อคำนวณโบนัส สำหรับใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน และการจัดสรรโบนัสพนักงาน และโบนัสคณะกรรมการธนาคารออมสิน ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามหลักการดังกล่าว ธนาคารออมสินจะต้องมีกำไรสุทธิหน้างบการเงินที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบและรับรองเพียงพอในการจ่ายเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน โบนัสพนักงาน และโบนัสกรรมการธนาคารออมสิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน) รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการต้องไม่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างรัฐวิสาหกิจที่เหลืออีก ๕๖ แห่ง และไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในภาพรวม รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่ออัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงและภาระงบประมาณ และเมื่อธนาคารออมสินดำเนินการเรื่องนี้ครบระยะเวลา ๕ ปี แล้ว ธนาคารออมสินควรต้องพิจารณาทบทวนแนวทางการดำเนินการของธนาคารออมสินในระยะต่อไปให้เหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 305 | รายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และ 2553 | กษ | 05/02/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักเกณฑ์ในการจัดทำงบการเงิน และข้อเสนอแนะประกอบการสอบบัญชี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. รายงานงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๑ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๑ ประกอบด้วย ๑.๑ สินทรัพย์หมุนเวียน ปี ๒๕๕๑ รวม ๕,๑๒๖,๐๘๘,๐๙๗.๔๗ บาท ปี ๒๕๕๒ รวม ๕,๒๓๖,๐๔๘,๓๓๖.๙๐ บาท ๑.๒ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ปี ๒๕๕๑ รวม ๓,๕๙๒,๒๓๒,๙๒๓.๘๒ บาท ปี ๒๕๕๒ รวม ๓,๕๒๘,๘๑๐,๗๐๗.๔๒ บาท ๑.๓ รวมสินทรัพย์ ปี ๒๕๕๑ รวม ๘,๗๑๘,๓๒๑,๐๒๑.๒๙ บาท ปี ๒๕๕๒ รวม ๘,๗๖๔,๘๕๙,๐๔๔.๓๒ บาท ๑.๔ หนี้สินหมุนเวียน ปี ๒๕๕๑ รวม ๒,๒๐๐.๐๐ บาท ปี ๒๕๕๒ รวม ๑,๔๐๔.๐๐ บาท ๑.๕ รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ปี ๒๕๕๑ รวม ๘,๗๑๘,๓๑๘,๘๒๑.๒๙ บาท ปี ๒๕๕๒ รวม ๘,๗๖๔,๘๕๗,๖๔๐.๓๒ บาท ๒. รายงานงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ ประกอบด้วย ๒.๑ สินทรัพย์หมุนเวียน ปี ๒๕๕๒ รวม ๕,๒๓๖,๐๔๘,๓๓๖.๙๐ บาท ปี ๒๕๕๓ รวม ๕,๒๐๐,๗๙๒,๙๐๓.๓๕ บาท ๒.๒ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ปี ๒๕๕๒ รวม ๓,๕๒๘,๘๑๐,๗๐๗.๔๒ บาท ปี ๒๕๕๓ รวม ๓,๕๙๐,๓๙๔,๗๓๔.๙๘ บาท ๒.๓ รวมสินทรัพย์ ปี ๒๕๕๒ รวม ๘,๗๖๔,๘๕๙,๐๔๔.๓๒ บาท ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๗,๖๓๘.๓๓ บาท ๒.๔ หนี้สินหมุนเวียน ปี ๒๕๕๒ รวม ๑,๔๐๔.๐๐ บาท ปี ๒๕๕๓ รวม ๒,๓๔๐.๐๐ บาท ๒.๕ รวมสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ปี ๒๕๕๒ รวม ๘,๗๖๔,๘๕๗,๖๔๐.๔๐ บาท ปี ๒๕๕๓ รวม ๘,๗๙๑,๑๘๕,๒๙๘.๓๓ บาท ๓. ข้อเสนอแนะประกอบการสอบบัญชีประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ โดยให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรดำเนินการ ดังนี้ ๓.๑ รายได้ค้างรับ ให้แจ้งเรื่องการติดตามเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการเร่งรัดและติดตามเงินรายได้ค้างรับดังกล่าวจากองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรต่อไป ๓.๒ ลูกหนี้ระยะสั้น ให้เร่งรัดหน่วยงานที่ค้างชำระหนี้รีบดำเนินการนำเงินส่งคืนกองทุนฯ โดยเร็ว ในกรณีที่พบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานหรือคาดว่าไม่สามารถชำระหนี้คืนเงินกองทุนฯ ได้ภายในกำหนดให้รายงานให้คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรทราบโดยด่วน ตามระเบียบคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๖.๒ (๑) และข้อ ๑๒ เพื่อกำหนดมาตรการในการเร่งรัดหนี้ต่อไป ๓.๓ ลูกหนี้ระยะยาว ซึ่งเป็นลูกหนี้ค้างชำระเป็นเวลานานเกินกว่า ๑๐ ปี ให้เร่งรัดหน่วยงานที่ค้างชำระหนี้รีบดำเนินการนำเงินส่งคืนกองทุนฯ โดยเร็ว ในกรณีที่พบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานหรือคาดว่าไม่สามารถชำระหนี้คืนเงินกองทุนได้ภายในกำหนด ให้รายงานให้คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรทราบโดยด่วน ตามระเบียบคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๖.๒ (๑) และข้อ ๑๒ เพื่อกำหนดมาตรการในการเร่งรัดหนี้ต่อไป และขอให้เร่งรัดส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการรีบดำเนินการยื่นเรื่องขอปิดโครงการพร้อมเอกสารตามมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรโดยด่วนเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อกองทุนฯ
|
|||||||||||||||||||||
| 306 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2554 และ 2553 | รง | 05/02/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรอง และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนแล้ว ตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๓๐ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 307 | ขอความอนุเคราะห์เสนองบการเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช สำหรับปีที่สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2554 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา | กษ | 08/01/2556 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุนฯ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักเกณฑ์การจัดทำงบการเงินและนโยบายบัญชีในหมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม ๓๘๖,๖๐๐.๐๐ บาท หนี้สินและส่วนของทุน ๓๘๖,๖๐๐.๐๐ บาท และมีรายได้รวม ๑๑๑,๓๐๐.๐๐ บาท สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๓ กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม ๒๗๕,๓๐๐.๐๐ บาท หนี้สินและส่วนของทุน ๒๗๕,๓๐๐.๐๐ บาท และมีรายได้รวม ๙๕,๘๐๐.๐๐ บาท และได้เสนอรายงานงบการเงินดังกล่าวให้คณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชทราบในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 308 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อย ปี 2554 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี 2555 | กค | 20/11/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อย ปี ๒๕๕๔ และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี ๒๕๕๕ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๘๒ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินของ กบข. ซึ่งประกอบด้วย งบดุล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ งบรายได้ ค่าใช้จ่าย งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิและงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี ๒๕๕๔ โดยมีความเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ และกระแสเงินสดของ กบข. โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ทั้งนี้ กบข. มีฐานะการเงินสรุปได้ว่า มีสินทรัพย์รวม ๕๒๖,๕๑๕,๔๙๙,๓๔๙ บาท หนี้สินรวม ๓,๔๖๐,๑๒๐,๘๙๕ บาท และสินทรัพย์สุทธิ ๕๒๓,๐๕๕,๓๗๘,๔๕๔ บาท ๒. เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ กบข. ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี ๒๕๕๕ ซึ่งที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกฯ ได้พิจารณารายงานผลการดำเนินงานฐานะการเงิน และการรับจ่ายเงินของกองทุนและได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ สอบถามเกี่ยวกับการนำเงินไปลงทุนและรายการรายจ่ายเกี่ยวกับการบริหารงาน ซึ่งคณะกรรมการและผู้บริหารได้ตอบคำถามให้สมาชิกทราบ และจะได้นำคำถามและคำตอบเผยแพร่ให้สมาชิกได้ทราบผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆ ของ กบข. ต่อไป และติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขสูตรการคำนวณบำนาญสำหรับสมาชิก กบข. อยากให้ดำเนินการให้เร็วและให้ กบข. ช่วยผลักดัน รวมทั้งเสนอแนะเรื่องการจัดการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก โดยขอให้ทบทวนระยะเวลาในการประชุม การกำหนดคุณสมบัติและบทบาทของผู้แทนสมาชิก และเสนอให้มีการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
| 309 | รายงานประจำปี 2554 ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) | ศธ | 22/10/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) [The International Institute for Trade and Development (Public Organization) : ITD] สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. อำนาจหน้าที่ของ ITD คือ การจัดการศึกษาอบรม และให้การสนับสนุนเพื่อการค้นคว้าวิจัยแก่บุคลากรของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งในด้านการค้าระหว่างประเทศ การเงิน การคลัง การลงทุน การพัฒนา และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตน์และแนวทางการยกเลิกข้อจำกัดทางการค้าต่าง ๆ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในเรื่องการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เหมาะสมร่วมกันและมาตรการทางกฎหมายต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ ซึ่ง ITD จะเป็นศูนย์กลางในการจัดฝึกอบรมและสร้างกิจกรรมเสริมศักยภาพต่าง ๆ ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา และองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง ๒. ผลการดำเนินงานของ ITD ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบด้วย ๒.๑ งานฝึกอบรม ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรม ประชุม และสัมมนา โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น ๔๑ กิจกรรม อาทิ ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชียและสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดฝึกอบรมเรื่อง Trade Facilitation and Logistics Development in the GMS ร่วมกับองค์การการค้าโลก สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดฝึกอบรมเรื่อง World Trading System at Risk : Impacts and Implications on National Policies, Firms and Industries และการสัมมนาเรื่อง World Trading System at Risk! Why? What''s next! เป็นต้น ๒.๒ งานวิจัย ได้ดำเนินงานด้านบริการวิชาการรวม ๗ โครงการ ได้แก่ โครงการจัดทำ FTA Guidebook I (Trade in Goods) โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนาศักยภาพเส้นทาง R3A/E และผลกระทบต่อประเทศไทย โครงการศึกษาวิจัยเรื่องผลกระทบและโอกาสจากมาตรการทางการค้าของสหภาพยุโรปที่ส่งผลต่อการพัฒนาสินค้าและเทคโนโลยีของไทย : กรณีศึกษามาตรการตรวจสอบย้อนกลับอาหารและฉลากร่องรอยคาร์บอนในผลิตภัณฑ์อาหาร โครงการศึกษาวิจัยเรื่องเก็บภาษีคาร์บอน : เครื่องมือลดโลกร้อน โครงการศึกษาวิจัยเรื่องความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน โครงการศึกษาวิจัยเรื่องกลไกความช่วยเหลือผู้รับผลกระทบการเปิดเสรีทางการค้า และโครงการแปลและสรุปงานวิชาการเด่นด้านการค้าและการพัฒนาในอาเซียน ๒.๓ งานสารสนเทศและเผยแพร่วิชาการ ดำเนินการเผยแพร่งานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ ITD จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาหน้าเว็บไซต์ มีการประชาสัมพันธ์และสื่อสารข้อมูลองค์กร โดยผู้บริหารและนักวิชาการของ ITD ทั้งกิจกรรมที่ ITD จัดขึ้นและตามที่ได้รับเชิญจากหน่วยงานภายนอก รวมทั้งผ่านสื่อสาธารณะทั่วไป เช่น สื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น ๓. การตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานของ ITD โดยคณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผล และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ดังนี้ ๓.๑ คณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผลได้ดำเนินการสอบทานงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำปี สอบทานแนวทางการบริหารความเสี่ยง สอบทานและทบทวนระเบียบสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ว่าด้วยการตรวจสอบภายใน พ.ศ. ๒๕๕๑ และประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ตรวจสอบภายในและกำกับดูแลการตรวจสอบภายใน แล้วเห็นว่า ITD ถือนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นสำคัญ มีการบริหารความเสี่ยง มีระบบการควบคุมภายในที่เพียงพอ รายงานทางการเงินแสดงข้อเท็จจริงในส่วนที่เป็นสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และนโยบายที่คณะกรรมการ ITD กำหนด รวมทั้งไม่พบว่ามีประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ๓.๒ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้ตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ ITD แล้วเห็นว่า มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||
| 310 | รายงานการเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 | กค | 02/10/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป โดยรายงานการเงินแผ่นดินฯ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบรายได้และค่าใช้จ่าย และหมายเหตุประกอบงบการเงิน ซึ่งจัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์คงค้างแบบผสม (Modified Accrual Basis) โดยใช้ข้อมูลบัญชีจากชุดรัฐบาลที่แสดงการรับจ่ายเงินคงคลังของรัฐบาลเป็นหลัก และรวบรวมข้อมูลที่มีสาระสำคัญในส่วนสินทรัพย์และหนี้สินของรัฐบาลจากส่วนราชการที่ทำหน้าที่บริหารจัดการแทนรัฐบาล มาปรับปรุงในบัญชีชุดรัฐบาล สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบรายได้และค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย รายได้สุทธิ รวม ๑,๕๑๓,๒๒๕.๑๓ ล้านบาท และค่าใช้จ่าย รวม ๑,๔๘๖,๓๘๒.๗๑ ล้านบาท ๑.๒ งบแสดงฐานะการเงิน ประกอบด้วย สินทรัพย์ รวม ๔,๑๐๖,๘๓๒.๘๒ ล้านบาท หนี้สิน รวม ๒,๑๙๒,๓๓๓.๙๔ ล้านบาท และสินทรัพย์สุทธิหรือส่วนทุน ๑,๙๑๔,๔๙๘.๘๘ ล้านบาท ๒. เห็นชอบข้อเสนอแนะ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และกรมธนารักษ์ กำชับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและจัดส่งข้อมูลภายในระยะเวลาที่กรมบัญชีกลางกำหนด ๒.๒ ให้ผู้บริหารของกรมธนารักษ์กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบันทึกที่ดินราชพัสดุให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน เพื่อให้ข้อมูลที่ดินราชพัสดุแสดงมูลค่าที่ถูกต้อง ๒.๓ ให้ผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐทุกแห่งกำชับให้หน่วยงานในสังกัดและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการเงินและบัญชีตรวจสอบและบันทึกข้อมูลในระบบ GFMIS ให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะข้อมูลเงินนอกงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
| 311 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี 2554 และ 2553 | อก | 07/08/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ของ กนอ. ฐานะการเงิน ณ วันสิ้นงวดปีบัญชี ๒๕๕๔ กนอ. มีสินทรัพย์รวมจำนวน ๑๙,๐๐๙ ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน ๙,๒๑๓ ล้านบาท และส่วนของทุนจำนวน ๙,๗๙๖ ล้านบาท และผลประกอบการในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีกำไรสุทธิ ๑,๙๔๖ ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 312 | แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับ "กองทุนตั้งตัวได้" ตามนโยบายรัฐบาล | ศธ | 30/07/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้จัดตั้งทุนหมุนเวียนเป็นกองทุนตั้งตัวได้ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และหลักการการดำเนินการกองทุนตั้งตัวได้ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษา และสถาบันอาชีวศึกษา หรือบุคคลที่สำเร็จการศึกษาแล้วไม่เกิน ๕ ปีการศึกษา ที่มีศักยภาพทางความคิดที่มุ่งให้เกิดวิสาหกิจนวัตกรรมใหม่ หรือการลงทุนในเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๑ (เรื่อง แนวทางการจัดตั้งทุนหมุนเวียน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การจัดตั้งทุนหมุนเวียนของหน่วยงานของรัฐ) ๒. เห็นชอบเกี่ยวกับงบประมาณดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงหน่วยงานดำเนินการของกองทุนตั้งตัวได้ ซึ่งขอตั้งงบประมาณไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ มาตรา ๓๒ งบประมาณรายจ่ายของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน วงเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากเดิม “สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” เป็น “กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา” และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหารือแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณที่ตั้งไว้ในกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๓. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนตั้งตัวได้ พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการกู้ยืมเงิน การชำระเงินคืนและการคัดเลือกกลั่นกรองผู้เข้าร่วมโครงการให้ชัดเจนโดยด่วน พร้อมทั้งกลไกกระบวนการบ่มเพาะวิสาหกิจในสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถกู้ยืมเงินเพื่อการสร้างอาชีพ และเพื่อมุ่งให้เกิดวิสาหกิจนวัตกรรมใหม่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับสาระสำคัญของร่างระเบียบฯ มีดังนี้ ๓.๑ กำหนดให้จัดตั้ง “กองทุนตั้งตัวได้” ในกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วยเงินทุนประเดิมและเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี และเงินหรือทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทุนหรือที่กองทุนได้รับตามกฎหมายอื่น เป็นต้น และให้การใช้จ่ายเงินกองทุนเป็นไปเพื่อกิจการตามที่กำหนด ๓.๒ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายกองทุนตั้งตัวได้ ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๓.๓ กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนตั้งตัวได้ ประกอบด้วยประธานกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้ง กรรมการโดยตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนด กำหนดอำนาจหน้าที่ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่ง ๓.๔ กำหนดให้มีสำนักงานกองทุนตั้งตัวได้ เป็นหน่วยงานภายในสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๓.๕ กำหนดให้คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหารกองทุนที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน ได้รับเบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทน โดยเบิกจ่ายจากเงินของกองทุนตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ๓.๖ กำหนดให้กองทุนสนับสนุนทางการเงินแก่นักศึกษาที่ประสงค์จะเป็นผู้ประกอบการภายใต้วัตถุประสงค์กองทุน และนโยบายของคณะกรรมการ และให้ขอบเขตการสนับสนุนทางการเงิน และหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับและการพิจารณาการสนับสนุนทางการเงินเป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนดโดยต้องเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการ และกำหนดแนวทางการดำเนินการสนับสนุนทางการเงินของคณะกรรมการบริหารกองทุน ๓.๗ กำหนดให้การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินของกองทุน ตลอดจนการนำส่งเงิน การบริหารกองทุนและการจัดหาผลประโยชน์ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กำหนด ๓.๘ กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีกองทุน การรายงานผลการตรวจสอบงบการเงิน และการจัดทำรายงานการเงินในภาพรวม ๓.๙ กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการใช้จ่ายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการของกองทุน ๔. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานกองทุนที่ควรจะกำหนดให้อยู่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และการสั่งให้ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการไปช่วยปฏิบัติงานในสำนักงานกองทุนดังกล่าว โดยกำหนดระยะเวลาในการช่วยปฏิบัติงานได้ไม่เกินหนึ่งปี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจหลักของส่วนราชการต้นสังกัด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 313 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย ประจำปี 2554 | พน | 24/07/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย (Malaysia - Thailand Joint Authority : MTJA) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการในการประชุมองค์กรร่วมครั้งที่ ๙๘ และที่ประชุมสามัญประจำปี (Annual General Meeting of MTJA) ครั้งที่ ๒๐ เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ แล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมฯ ประกอบด้วย
๑. กิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วยกิจกรรมด้านการสำรวจ การประเมินผลปิโตรเลียม การประเมินปริมาณสำรอง การพัฒนา การผลิตปิโตรเลียม และการกำกับดูแลด้านชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พัฒนาร่วมแปลง A-18 แปลง B-17 และแปลง B-17-01 โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง A-18 รวมทั้งสิ้น ๓๐๘.๐๔ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๘๔๔ ล้านลูกบาศก์ฟุต และจากแปลง B-17 รวมทั้งสิ้น ๑๒๖ พันล้านลูกบาศก์ฟุต ในอัตราเฉลี่ยวันละ ๓๔๕ ล้านลูกบาศก์ฟุต ๒. ผลประกอบการในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ขององค์กรร่วมได้จากการขายปิโตรเลียมโดยการผลิตปิโตรเลียมจากแปลง A-18 และแปลง B-17 ก่อให้เกิดรายได้ขององค์กรร่วมในรูปของค่าภาคหลวง ๒๖๒,๐๗๙,๗๙๒ ดอลลาร์สหรัฐ ปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไร ๖๑๐,๖๗๐,๗๓๑ ดอลลาร์สหรัฐ และรายได้อื่น ๓,๔๔๖,๒๘๗ ดอลลาร์สหรัฐ สถานะของกองทุนองค์กรร่วม ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ มียอดรวม ๑๕๕,๔๑๔,๔๕๔ ดอลลาร์สหรัฐ
|
|||||||||||||||||||||
| 314 | งบการเงินประจำปี 2554 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 03/07/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ๑.๑ งบการเงินรวม ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ กฟผ. มีสินทรัพย์รวม ๔๙๕,๕๓๔,๒๖๖,๕๙๔ บาท และงบการเงินรวม ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (ปรับปรุงใหม่) กฟผ. มีสินทรัพย์รวม ๔๖๙,๖๘๐,๘๑๗,๕๖๖ บาท ๑.๒ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีสินทรัพย์รวม ๓๙๙,๑๔๔,๗๖๕,๐๙๑ บาท และงบการเงินเฉพาะ กฟผ. ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (ปรับปรุงใหม่) มีสินทรัพย์รวม ๔๐๑,๓๓๓,๕๓๙,๖๘๖ บาท ๒. งบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ๒.๑ งบการเงินรวม ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ กฟผ. มีรายได้รวม ๔๑๘,๔๔๕,๑๙๒,๑๑๒ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๗,๐๑๔,๕๒๑,๘๒๖ บาท มีกำไรสุทธิ ๓๔,๒๔๔,๗๖๘,๘๖๙ บาท ๒.๒ งบการเงินรวม ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (ปรับปรุงใหม่) กฟผ. มีรายได้รวม ๔๐๕,๔๔๕,๐๕๗,๓๓๗ บาท ๒.๓ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีรายได้รวม ๔๑๙,๘๒๗,๑๙๐,๖๓๙ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๕,๒๔๐,๘๔๔,๘๑๕ บาท มีกำไรสุทธิ ๓๐,๗๐๔,๑๖๗,๕๑๔ บาท ๒.๔ งบการเงินเฉพาะ กฟผ. ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ (ปรับปรุงใหม่) กฟผ. มีรายได้รวม ๔๐๗,๑๗๗,๔๔๙,๒๔๔ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๔,๖๗๙,๗๙๘,๒๙๘ บาท มีกำไรสุทธิ ๓๔,๗๗๗,๕๓๗,๕๑๙ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 315 | รายงานผลการตรวจสอบรายงานการรับ - จ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 - 2551 | กษ | 19/06/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองงบการเงินแล้ว ๑.๑.๑ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๘ และ ๒๕๔๗ ๑.๑.๒ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ และ ๒๕๔๘ ๑.๑.๓ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ และ ๒๕๔๙ ๑.๑.๔ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ และ ๒๕๕๐ ๑.๑.๕ กองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๘ และ ๒๕๔๗ ๑.๑.๖ กองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ และ ๒๕๔๘ ๑.๑.๗ กองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการหาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙ สิ้นสุดวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ๑.๒ รายงานผลการดำเนินงานผลการดำเนินงานของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรจากข้อสังเกตและข้อเสนอแนะประกอบการสอบบัญชีสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๘ - ๒๕๕๑ ๑.๓ รายงานผลการดำเนินงานผลการดำเนินงานของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๕ (สิ้นสุดวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕) ในการอนุมัติจัดสรรเงิน การบริหารจัดการหนี้ ติดตามผลการดำเนินงานและเร่งรัดการชำระหนี้ ๒. ให้เสนอรายงานตามข้อ ๑.๑.๑ - ๑.๑.๗ ต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 316 | รายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | คค | 12/06/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบดุลปี พ.ศ. ๒๕๕๔ รฟม. มีสินทรัพย์รวม ๑๒๕,๕๓๘,๙๗๘,๐๒๔.๕๙ บาท หนี้สินรวม ๙๘,๔๐๘,๑๑๐,๙๖๔.๓๔ บาท และทุนรวม ๒๗,๑๓๐,๘๖๗,๐๖๐.๒๕ บาท สำหรับงบดุลปี พ.ศ. ๒๕๕๓ รฟม. มีสินทรัพย์รวม ๑๐๘,๕๑๕,๙๖๒,๘๓๗.๑๕ หนี้สินรวม ๗๘,๒๘๗,๒๒๔,๕๕๓.๙๖ บาท และทุนรวม ๓๐,๒๒๘,๗๓๘,๒๘๓.๑๙ บาท ๒. งบกำไรขาดทุนปี พ.ศ. ๒๕๕๔ รฟม. มีรายได้รวม ๕๕๔,๐๒๔,๘๓๕.๖๗ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๑๑,๘๒๗,๓๔๘,๗๙๘.๘๖ บาท ขาดทุนสุทธิ ๑๒,๑๐๖,๓๔๒,๕๒๓.๔๐ บาท สำหรับงบกำไรขาดทุนปี พ.ศ. ๒๕๕๓ รฟม. มีรายได้รวม ๒,๓๓๓,๘๙๒,๘๓๙.๓๐ บาท ค่าใช้จ่ายรวม ๒,๖๓๗,๐๑๑,๒๔๕.๑๘ บาท ขาดทุนสุทธิ ๑,๑๖๐,๙๓๕,๔๕๑.๘๘ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 317 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | นร | 05/06/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้จัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยให้มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๒. กำหนดให้ทุนและทรัพย์สินในการดำเนินกิจการของสถาบัน ประกอบด้วย เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา ๓๙ เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสม เป็นต้น และรายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ๓. กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ประกอบด้วย ประธานกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง กรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๔. กำหนดให้มีผู้อำนวยการสถาบัน ซึ่งคณะกรรมการเป็นผู้มีอำนาจสรรหา แต่งตั้ง และถอดถอน กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของผู้อำนวยการ และให้ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๕. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำบัญชี การตรวจสอบภายใน การส่งงบดุล งบการเงิน และบัญชีทำการให้แก่ผู้สอบบัญชี การจัดทำรายงานประจำปี และการประเมินผลงานของสถาบัน ๖. กำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ไปเป็นของสถาบันการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และการปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของกรมควบคุมโรค ตลอดจนระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดของสถาบันที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
|
|||||||||||||||||||||
| 318 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | คค | 20/05/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. งบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ประกอบด้วย ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน สบพ. มีสินทรัพย์รวม ๑,๐๑๘,๒๕๐,๕๑๐.๑๐ บาท มีหนี้สินรวม ๕๑๒,๐๐๙,๙๗๖.๔๖ บาท มีหนี้สินและส่วนของทุนรวม ๑,๐๑๘,๒๕๐,๕๑๐.๑๐ บาท ๑.๒ งบกำไรขาดทุน สบพ. มีรายได้รวม ๔๐๔,๙๙๔,๖๗๘.๖๕ บาท มีค่าใช้จ่ายรวม ๓๔๖,๐๘๒,๑๔๒.๘๕ บาท มีกำไรสุทธิ ๕๘,๙๑๒,๕๓๕.๘๐ บาท ๑.๓ งบกระแสเงินสด สบพ. มีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานรวม ๙๖,๕๔๓,๓๗๘.๙๖ บาท เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนรวม ๗๑,๕๐๑,๖๖๒.๐๙ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นงวด ๓๙,๔๒๗,๖๔๘.๑๓ บาท ๒. งบการเงินของ สบพ. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ๒.๑ งบแสดงฐานะการเงิน สบพ. มีสินทรัพย์รวม ๙๗๒,๐๕๖,๗๑๙.๗๖ บาท มีหนี้สินรวม ๕๒๔,๗๒๘,๗๒๑.๙๒ บาท มีหนี้สินและส่วนของทุนรวม ๙๗๒,๐๕๖,๗๑๙.๗๖ บาท ๒.๒ งบกำไรขาดทุน สบพ. มีรายได้รวม ๔๔๑,๔๖๖,๖๒๑.๐๔ บาท มีค่าใช้จ่ายรวม ๔๑๖,๒๖๒,๘๖๙.๒๑ บาท มีกำไรสุทธิ ๒๕,๒๐๓,๗๕๑.๘๓ บาท ๒.๓ งบกระแสเงินสด สบพ. มีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานรวม ๒๕๓,๗๒๘,๖๐๑.๕๖ บาท มีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนรวม ๖๐,๔๐๘,๙๓๓.๓๒ บาท และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นงวด ๖๓,๙๗๗,๔๒๑.๘๔ บาท
|
|||||||||||||||||||||
| 319 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 และ 2552 | พน | 20/05/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองการเงินแล้ว และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม ๑๘,๓๗๘,๒๙๖,๗๙๘.๐๖ บาท มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนรวม ๔,๕๐๒,๗๖๐,๙๗๑.๙๓ บาท มีสินทรัพย์รวม ๒๒,๘๘๑,๐๕๗,๗๖๙.๙๙ บาท มีหนี้สินหมุนเวียนรวม ๖๗,๗๔๓,๐๒๓.๘๗ บาท มีสินทรัพย์สุทธิรวม ๒๒,๘๑๓,๓๑๔,๗๔๖.๑๒ บาท ๑.๒ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน กองทุนฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม ๔,๗๖๙,๙๑๒,๘๑๓.๘๐ บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม ๓,๒๘๐,๖๑๔,๓๐๓.๑๖ บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม ๑,๔๘๙,๒๙๘,๕๑๐.๖๔ บาท ๑.๓ งบกระแสเงินสด กองทุนฯ มีเงินสดรับรวม ๖,๒๒๗,๖๕๕,๕๕๗.๒๒ บาท มีเงินสดจ่ายรวม ๕,๓๖๙,๗๗๐,๖๒๕.๕๗ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่า เงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวดรวม ๑๖,๓๘๖,๑๘๑,๒๑๘.๓๙ บาท ๒. ให้กระทรวงพลังงานจัดส่งรายงานในเรื่องนี้ไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
| 320 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... | วธ | 02/04/2555 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล และกำหนดวัตถุประสงค์ของกองทุน ๒. กำหนดให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ส่วนหนึ่งประกอบด้วยเงินที่ได้รับจากการจัดสรรจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เงินค่าปรับที่ได้รับจากการลงโทษผู้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ที่ตกเป็นของกองทุน และเงินที่ได้รับจากต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ ๓. กำหนดให้กิจการของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน ๔. กำหนดให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และรายได้ของกองทุนไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ๕. กำหนดให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มีอำนาจจ่ายเงินจากกองทุนเป็นค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่กำหนด ๖. กำหนดให้มีคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กำหนดองค์ประกอบ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ และองค์ประชุมคณะกรรมการ ๗. กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และกำหนดอำนาจหน้าที่ ๘. กำหนดอำนาจหน้าที่ของสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ๙. กำหนดให้มีผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คุณสมบัติของผู้จัดการ วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ ๑๐. กำหนดให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จัดทำการบัญชีตามมาตรฐานการจัดทำบัญชีสำหรับหน่วยงานภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยมีรอบปีบัญชีตามปีงบประมาณ และจัดให้มีการตรวจสอบภายในและรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ทราบอย่างน้อยปีละครั้ง ๑๑. กำหนดให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จัดทำงบการเงินและทำรายงานประจำปีเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ๑๒. กำหนดให้มีคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ๑๓. กำหนดให้คณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือมอบหมายให้ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ตามที่เห็นสมควร |
|||||||||||||||||||||
.....
