ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 19 จากทั้งหมด 29 หน้า แสดงรายการที่ 361 - 380 จากข้อมูลทั้งหมด 571 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 361 | วันหยุดราชการ (19 - 21 พฤษภาคม 2553) | นร | 18/05/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 19-21 พฤษภาคม 2553 เป็นวันหยุดราชการเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับหน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น การส่งออกและนำเข้า การรักษาพยาบาล การออก หนังสือเดินทาง และหน่วยงานอื่นซึ่งต้องปฏิบัติราชการจำเป็นเร่งด่วน เช่น งบการเงินการคลัง และการบริหารงบ ประมาณ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดใช้ดุลพินิจกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานมาปฏิบัติราชการตามปกติได้ตามความ จำเป็นและเหมาะสม
|
|||||||||||||||
| 362 | การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 | กค | 04/05/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินงานในลักษณะธุรกรรมตาม นโยบายพิเศษของรัฐบาล (Public Service Obligation : PSO) โดยแยกบัญชีงบการเงินออกจากการดำเนินงานปกติ ของ ธ.ก.ส. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้ ธ.ก.ส. รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร) เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบ ระยะเวลาการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยให้เบิกค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสมที่เกิดขึ้นจริงในวงเงินที่จะอนุมัติ รวมทั้งการนำระบบข้อมูล เกษตรกรที่ได้จัดเก็บไว้แล้วในรอบที่ 1 มาใช้ประโยชน์ในรอบที่ 2 และรูปแบบการดำเนินงานของโครงการที่เน้นให้ เกษตรกรเข้ามาทำสัญญา ณ สำนักงาน ธ.ก.ส. ไปดำเนินการต่อไปด้วย 2. อนุมัติค่าใช้จ่ายชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง จำนวน 8,773 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของ ธ.ก.ส. รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ ให้กระทรวงการคลังขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อ ไป ทั้งนี้ ให้ ธ.ก.ส. รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 เพื่อขอขยายเวลาการขอรับการจัดสรรเงินตามโครงการจากที่กำหนดให้ขอจัด สรรจากสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 และให้เร่งรัดขอจัดสรรเงินตามที่ ธ.ก.ส. ได้จ่ายจริงไปทุก ครั้งโดยเร็ว เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจากการดำเนินการขอจัดสรรเงินล่าช้า ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||
| 363 | รายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2551 | กค | 12/01/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2551 2. เห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดดำเนินการ ดังนี้ 2.1 กำกับดูแลให้รัฐวิสาหกิจมีการจัดทำงบการเงินตามมาตรฐานบัญชีที่ยอมรับให้เป็นปัจจุบัน 2.2 กำกับดูแลให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมี ประสบการณ์เหมาะสมเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด โดยเร็วอย่างช้าไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้บริหารเดิมพ้นจาก ตำแหน่ง 2.3 ทบทวนบทบาท ภารกิจ และความจำเป็นในการมีอยู่ของรัฐวิสาหกิจในสังกัด และนำเสนอต่อ คณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ภายใน 3 เดือน สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินต่ำติดต่อ กันหลายปี ให้นำเสนอแผนปรับบทบาทหรือแผนพลิกฟื้นต่อ กนร. เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 2.4 ติดตามการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามแนวทางการปรับปรุงองค์กรตามประเด็นปัญหาที่ได้ จากการประเมินผล ฯ เพื่อให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนำผลการประเมินดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาและยกระดับ การบริหารจัดการองค์กรให้เป็นมาตรฐานต่อไป 3. ให้กำหนดเป็นหลักการว่าไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้งคณะ ยกเว้นเป็นการ ดำเนินการตามกฎหมายหรือข้อบังคับที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมการสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อ เนื่อง เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
|
|||||||||||||||
| 364 | งบการเงินและรายงานรายรับและรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2551 ของกรมการข้าว | กษ | 12/01/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนองบการเงินและรายงานรายรับ
และรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของกรมการข้าว ดังนี้ 1. รายงานแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 และ 30 กันยายน 2551 มีสินทรัพย์ หมุนเวียนรวม 835,029,631.59 บาท มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนรวม 80,701,611.72 บาท มีสินทรัพย์รวม 915,731,243.31 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน 49,950 บาท มีหนี้สินไม่หมุนเวียน 416,399.20 บาท รวมหนี้ สิน 446,349.20 บาท รวมสินทรัพย์สุทธิ 915,264,894.11 บาท 2. รายงานแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 และ 30 กันยายน 2551 มีรายได้ จากการดำเนินงานรวม 3,367,797,360.51 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 2,615,545,061.45 บาท มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม 752,252,299.06 บาท 3. ประเภทเงินรายได้จากการดำเนินงาน รายงานการรับ-จ่ายเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยา ยน 2551 มีรายรับรวม 6,580,662.30 บาท มีเงินคงเหลือหลังหักภาระผูกพันรวม 6,580,662.30 บาท มีเงินคงเหลือทั้งสิ้น 6,580,662.30 บาท
|
|||||||||||||||
| 365 | งบการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2552 ของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) (แนวทางปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170) | ศธ | 12/01/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนองบการเงินของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
(องค์การมหาชน) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยเปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้ 1. รายงานแสดงฐานะการเงิน มีสินทรัพย์รวม 510,605,457.22 บาท ลดลงร้อยละ 1.36 2. รายงานแสดงผลการดำเนินงาน มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจากงบดำเนินงาน 7,913,165.67 บาท ลดลงร้อยละ 158.58 3. รายงานการรับ-จ่ายเงิน มีเงินคงเหลือ ณ วันปลายงวด 220,593,990.66 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31
|
|||||||||||||||
| 366 | รายงานการตรวจสอบงบดุล งบรายได้ค่าใช้จ่ายของกองทุนเงินทดแทน ประจำปี 2551 | รง | 12/01/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนเงินทดแทน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว โดย เห็นว่างบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 และผลการดำเนินงานสำหรับ ปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุน ฯ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||
| 367 | รายงานการสอบบัญชีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการประจำปี 2551 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก | กค | 12/01/2553 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. รายงานการสอบบัญชีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประจำปี พ.ศ. 2551 ซึ่งสำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 งบรายได้ ค่าใช้จ่าย งบแสดงการเปลี่ยนแปลง สินทรัพย์สุทธิ และงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของปี พ.ศ. 2551 และมีความเห็นว่า งบการเงินดัง กล่าวแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ และกระแสเงินสดของ กบข. โดยถูก ต้องตามที่ควรในสาระสำคญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป 2. ข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี พ.ศ. 2552 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 ซึ่ง ที่ประชุม ฯ ได้เสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อให้สิทธิสมาชิกเพิ่ม ขึ้น ได้แก่ การแก้ไขสูตรบำนาญ ปรับปรุงเรื่องการลงทุน เช่น การนำเงินไปลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ การเสนอ ให้มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการระหว่างผู้แทนสมาชิก และ กบข. เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้แลกเปลี่ยนความคิด เห็นและข้อสังสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กบข. รวมทั้งเสนอให้ปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการบริการ และการ ประชาสัมพันธ์ และในการประชุมคณะกรรมการ กบข. ครั้งที่ 7/2552 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ที่ประชุม ฯ มีมติให้รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกเพื่อดำเนินการต่อไป สำหรับการแก้ไขพระราช บัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญและเรื่องระดับนโยบาย นั้น กบข. จะประสานกับกระทรวงการคลังในการพิจารณา ดำเนินการต่อไป ในส่วนของการสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้แทนสมาชิก กบข. จะดำเนินการภายหลังจากเลขาธิการ คนใหม่เข้ารับตำแหน่ง ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน กบข. จะพิจารณาปรับปรุงต่อไป
|
|||||||||||||||
| 368 | การขอรับเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมประจำปี 2551 และขอแก้ไขหลักเกณฑ์การพิจารณาเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคม ประจำปี 2552 | มท | 17/11/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 1.1 อนุมัติเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมประจำปี 2551 ให้แก่การประปาส่วนภูมิ ภาค (กปภ.) จำนวน 980.148 ล้านบาท 1.2 อนุมัติแก้ไขหลักเกณฑ์การพิจารณาการขอรับเงินชดเชย ฯ ของ กปภ. ประจำปี 2552 โดยแก้ไข เป็น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การขอรับเงินชดเชย ฯ ของ กปภ. ประจำปี 2551 ซึ่งให้ชดเชยเฉพาะส่วนต่างระหว่าง อัตราค่าน้ำที่ต่ำกว่าต้นทุนค่าน้ำจริงเฉลี่ยต่อหน่วยคูณด้วยปริมาณการใช้น้ำ และให้เฉพาะกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อการดำรง ชีพ ไม่เกิน 30 ลูกบาศก์เมตร/ราย/เดือน โดยวงเงินชดเชย ฯ จะนำเสนอที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา อีกครั้งภายหลังที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบและรับรองงบการเงินประจำปี 2552 ของ กปภ. แล้วเสร็จ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 เฉพาะการ ขอรับเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมประจำปี 2552 |
|||||||||||||||
| 369 | งบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 10/11/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนองบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและ
ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบและรับรองแล้ว ดังนี้ 1. งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 2. งบรายได้ค่าใช้จ่าย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และสำหรับงวดสี่เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 3. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และสำหรับงวดสี่ เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 4. งบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และสำหรับงวดสี่เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 5. หมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และสำหรับงวดสี่เดือนสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2550
|
|||||||||||||||
| 370 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ | 03/11/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่น ดิน สรุปได้ดังนี้ 1.1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 มีหน่วยรับตรวจในความรับผิดชอบตรวจสอบจำนวน 71,787 หน่วย และมีหน่วยรับตรวจที่ตรวจเสร็จและออกรายงานจำนวน 6,265 หน่วย โดยลักษณะงานตรวจสอบ ได้แก่ การตรวจ สอบเงินทั่วไป การตรวจสอบงบการเงิน การตรวจสอบเงินอุดหนุน การตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ การตรวจสอบ การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบสืบสวน และการตรวจสอบการดำเนินงาน 1.2 ตรวจสอบเงินงบประมาณแผ่นดิน มูลค่างานตามสัญญาซื้อจ้าง จำนวน 58,927.40 ล้านบาท ตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินรัฐวิสาหกิจ กองทุนและเงินทุน หน่วยงานอิสระ/องค์กรมหาชน และ หน่วยงานอื่น ๆ มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 8,127,928.43 ล้านบาท (ไม่รวบงบสอบทาน) ประมาณการมูลค่า ความเสียหาย/ค่าเสียโอกาส เป็นตัวเงินรวมทั้งสิ้น 68,192.90 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินงบประมาณที่เรียกเก็บ คืนหรือรายได้ที่จัดเก็บเพิ่ม จำนวน 4,106.33 ล้านบาท และประมาณการมูลค่าความเสียหายที่รัฐสูญเสียงบโดย ไม่ประหยัดหรือสูญเสียรายได้ จำนวน 64,086.57 ล้านบาท 2. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำผลการตรวจสอบไปปฏิบัติ หรือดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยในส่วนที่เกี่ยวกับราชการส่วนท้องถิ่น ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับและ ติดตามตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างใกล้ ชิดและต่อเนื่องด้วย
|
|||||||||||||||
| 371 | รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ และรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่างๆ ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | นร | 20/10/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และ รายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) คณะต่าง ๆ ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งผลการประเมินตนเองในภาพรวมของคณะกรรมการ ฯ รายคณะ อยู่ในเกณฑ์ระดับดี เยี่ยม รวมทั้งเห็นชอบกับข้อเสนอของ ค.ต.ป. ที่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดทำ แผนการตรวจสอบและประเมินผลด้านต่าง ๆ และการดำเนินการตามแผน การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ รายงานการเงิน และการสอบทานกรณีพิเศษ ตามที่เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและเลขานุการ ค.ต.ป. เสนอ 2. มอบให้ ค.ต.ป. ส่วนราชการที่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามข้อเสนอของ ค.ต.ป. รับความเห็นของ กระทรวงการคลังในประเด็นข้อเสนอของ ค.ต.ป. ที่กำหนดให้ส่วนราชการและจังหวัดมอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานด้าน บัญชี การเงินของส่วนราชการและจังหวัดที่ผ่านการอบรมด้านบัญชีของระบบ GFMIS ต้องปฏิบัติงานตามที่ได้อบรม มาเป็นระยะเวลา 2 ปี จะโยกย้ายเปลี่ยนแปลงได้ต่อเมื่อสามารถถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีของระบบ GFMIS ให้กับ บุคลากรเพื่อนร่วมงานที่ได้มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่แทน โดยหัวหน้าส่วนราชการและจังหวัดกำกับดูแลอย่างใกล้ ชิด ควรกำหนดให้ส่วนราชการและจังหวัดส่งเสริมให้ข้าราชการทุกคนที่ต้องรับผิดชอบปฏิบัติงานด้านบัญชี การเงิน ได้มีโอกาสรับการอบรมจากกรมบัญชีกลางอย่างสม่ำเสมอโดยทั่วถึงหรือสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดฝึก อบรมภายในส่วนราชการเองด้วย และข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานด้านบัญชี การเงินอย่าง ใกล้ชิด นั้น เนื่องจากงบการเงินจังหวัดที่จัดทำขึ้นจนถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นงบการเงินจังหวัดที่แยกแสดง ตามพื้นที่ โดยรวบรวมงบทดลองของส่วนราชการทุกแห่งในพื้นที่ของจังหวัด และมิได้มีการปรับปรุงรายการซ้ำซ้อน ระหว่างงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบการเงินจังหวัดที่จะจัดทำขึ้นมี 2 แบบ คือ งบการเงินจังหวัดที่ แยกแสดงตามพื้นที่ (ผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดทำคือ สำนักงานคลังจังหวัด) และงบการเงินจังหวัดในฐานะเจ้าของ งบประมาณจังหวัดซึ่งจะแสดงฐานะการเงิน รายได้ ค่าใช้จ่าย จัดทำรายการทางบัญชีที่เกิดจากการใช้งบประมาณ รายจ่ายของจังหวัดของส่วนราชการและของหน่วยงานภายในจังหวัด ซึ่งมิได้มีการปรับปรุงรายการซ้ำซ้อนระหว่าง หน่วยงาน (ผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดทำคือ สำนักงานจังหวัด) รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานความก้าวหน้า การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะทุก 6 เดือน จะเป็นการรายงานซ้ำซ้อนกับรายงานผลการตรวจสอบและประเมิน ผลภาคราชการที่ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง ต้องจัดทำทุก ๆ 6 เดือน จึงสมควรมอบหมายให้ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง เป็นผู้ติดตาม และรายงานผลการปรับปรุงการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะดังกล่าวต่อ ค.ต.ป. ตามแนวปฏิบัติที่ได้ กำหนดไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||
| 372 | การจัดทำรายงานการเงินของแผ่นดิน | กค | 25/08/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบการปรับเปลี่ยนการจัดทำงบการเงินแผ่นดิน ของกระทรวงการคลัง ซึ่งได้มีการปรับ
เปลี่ยนการจัดทำรายงานการเงินของแผ่นดินตามเกณฑ์คงค้างโดยวิธีรวมรายงานการเงินจากส่วนราชการตามแผน ปฏิรูประบบบัญชีภาครัฐที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ เป็นวิธีการจัดทำรายงานการเงินของแผ่นดินตามหลักเกณฑ์ คงค้างแบบผสม (Modified Accrual Basis) โดยใช้ข้อมูลบัญชีชุดรัฐบาลเป็นหลักในการจัดทำ ทั้งนี้ รายงานการ เงินของแผ่นดินตามหลักเกณฑ์คงค้างแบบผสมผสานนี้จะแสดงสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดของรัฐบาล และรับรู้ราย ได้และค่าใช้จ่ายที่มีการรับและจ่ายเงินสด รวมทั้งรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่าย รายได้ค้างรับ ปรับเพิ่มเติมด้วยรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินของรัฐบาลที่ไม่มีการรับจ่ายเงินสด
|
|||||||||||||||
| 373 | งบการเงินประจำปี 2551 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 11/08/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนองบการเงินประจำปี 2551 ของการไฟฟ้า
ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว และเห็นว่าผลการดำเนินงานรวม และผลการดำเนินงานเฉพาะ กฟผ. สำหรับปีสิ้นสุดของ กฟผ. และบริษัทย่อยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และคณะกรรมการ กฟผ. ได้รับทราบงบการเงินประจำปี พ.ศ. 2551 ของ กฟผ. แล้วใน การประชุมครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2552
|
|||||||||||||||
| 374 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 | คค | 05/08/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการ
เงินของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 โดยสำนักงานการ ตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรอง งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 งบรายได้ค่าใช้จ่าย งบราย ได้ค่าใช้จ่ายสะสม และงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ สบพ. แล้วมีความเห็นว่า งบการ เงินของ สบพ. แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 รายได้ค่าใช้จ่าย รายได้ค่าใช้จ่ายสะสม และกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ สบพ. โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการ บัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||
| 375 | รายงานประจำปีและรายการงบการเงินขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย ประจำปี 2551 | พน | 28/07/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานประจำปี (Annual Report)
และรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี พ.ศ. 2551 (Audited Accounts of Malaysia- Thailand Joint Authority (MTJA) for the Financial Year 2008 สรุปได้ดังนี้ 1. กิจกรรมที่สำคัญประกอบไปด้วยกิจกรรมด้านการสำรวจ การประเมินปริมาณสำรอง การพัฒนา แหล่งปิโตรเลียม และการผลิตปิโตรเลียมในแปลง A-18 แปลง B-17 & C-19 และแปลง B-17-01 ของพื้นที่ JDA โดยในปี พ.ศ. 2551 มีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง A-18 รวมทั้งสิ้น 184.05 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (อัตราการผลิตก๊าซ ฯ เฉลี่ยวันละ 504.25 ล้านลูกบาศก์ฟุต) และในปี พ.ศ. 2551 ก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่ JDA เริ่มมีการส่งให้ประเทศไทยจำนวน 46 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (ผ่านท่อก๊าซไทย-มาเลเซียไปยังโรงไฟฟ้า จะนะที่จังหวัดสงขลา และผ่านท่อประธานเส้นที่ 3 ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปที่จังหวัดระยอง) 2. ผลประกอบการในปี พ.ศ. 2551 ขององค์กรร่วมจากการขายปิโตรเลียมที่ผลิตจากแปลง A-18 และสถานะทางการเงินขององค์กรร่วม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 การผลิตปิโตรเลียมจากแปลง A-18 ก่อ ให้เกิดรายได้ขององค์กรร่วมในรูปของค่าภาคหลวง 102,051,355 ดอลลาร์สหรัฐ และปิโตรเลียมส่วนที่เป็น กำไร 212,240,862 ดอลลาร์สหรัฐ และในปี พ.ศ. 2551 องค์กรร่วมได้นำส่งรายได้จากการผลิตปิโตรเลียม ในพื้นที่ JDA ให้แก่รัฐบาลไทยจำนวน 172,377,338 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ รายได้ที่ส่งให้รัฐบาลมาเลเซีย) แบ่งออกเป็น ค่าภาคหลวง 57,707,317 ดอลลาร์สหรัฐ และปิโตรเลียมส่วน ที่เป็นกำไร 114,670,021 ดอลลาร์สหรัฐ
|
|||||||||||||||
| 376 | งบการเงินและรายงานประจำปี 2550 ขององค์การสะพานปลา | กษ | 16/06/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินและรายงานประจำปี พ.ศ. 2550 ขององค์การสะพานปลา ตามที่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้ 1. ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 องค์การสะพานปลามีรายได้ทั้งสิ้น 294.20 ล้านบาท มีรายจ่าย 292.54 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.66 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานที่สำคัญขององค์การสะพาน ปลา ได้แก่ งานให้บริการสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมง งานสินเชื่อการประมง และงานส่งเสริมการประมง 2. การดำเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 องค์การสะพานปลาได้กำหนดแผนปฏิบัติการประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2551 ได้แก่ โครงการพัฒนาสะพานปลากรุงเทพ โครงการปรับปรุงสุขอนามัยท่าเทียบเรือประมง ระนอง โครงการพัฒนาศักยภาพท่าเทียบเรือประมงสตูล และโครงการอบรมความรู้ด้านสุขอนามัยแก่ชาวประมง และผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประมง
|
|||||||||||||||
| 377 | รายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 | คค | 03/06/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการตรวจสอบรับรองงบการเงินของการ
รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ซึ่งผ่านการ ตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ รฟม. แล้ว สรุป ได้ดังนี้ 1. งบดุล ปี พ.ศ. 2551 รฟม. มีสินทรัพย์รวม 102,254,377,192.30 บาท มีหนี้สินรวม 73,355,728, 796.30 บาท และมีทุนรวม 28,898,648,396 บาท ส่วนงบดุล ปี พ.ศ. 2551 รฟม. มีสินทรัพย์รวม 100,767, 622,733.66 บาท มีหนี้สินรวม 69,381,676,250.65 บาท และมีทุนรวม 31,385,946,483.01 บาท 2. งบกำไรขาดทุน ปี พ.ศ. 2551 รฟม. มีรายได้รวม 529,937,048.46 บาท มีค่าใช้จ่ายรวม 9,487, 685,186.07 บาท ขาดทุนสุทธิ 8,957,748,137.61 บาท ส่วนงบกำไรขาดทุน ปี พ.ศ. 2550 รฟม. มีรายได้รวม 4,757,887,960.58 บาท มีค่าใช้จ่ายรวม 3,426,095,870.76 บาท มีกำไรสุทธิรวม 1,331,792,089.82 บาท
|
|||||||||||||||
| 378 | รายงานการตรวจสอบงบดุล งบรายได้ค่าใช้จ่ายของกองทุนเงินทดแทน ประจำปี 2550 | รง | 26/05/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนองบดุล และรายงานการรับจ่าย
เงินกองทุนเงินทดแทน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 และ 2549 ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ ตรวจสอบรับรองแล้ว และเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 และ 2549 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุนเงินทดแทนโดยถูกต้องตามที่ควรในสาระ สำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||
| 379 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี 2551 และ 2550 | อก | 19/05/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
สำหรับปีบัญชี 2551 และ 2550 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ดังนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 เรียบร้อยแล้ว โดย สตง. ได้ตรวจสอบงบดุลที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและงบดุลเฉพาะกิจการ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของทุน และงบกระแสเงินสด ของงบการเงิน ซึ่งแสดงเงิน ลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ กนอ. ซึ่งผู้ บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินของ สตง. ซึ่ง สตง. เห็นว่า งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและงบการเงินเฉพาะกิจการ แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 และ 2550 ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ กนอ. โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||
| 380 | ขอส่งรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2549 | ปช | 28/04/2552 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนัก
งาน ป.ป.ช.) เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสำนักงาน ป.ป.ช. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และ 2549 โดยงบแสดงฐานะการเงิน สำนักงาน ป.ป.ช. มีสินทรัพย์รวม 1,640,919,477.27 บาท มีหนี้ สินรวม 26,692,083.41 บาท มีสินทรัพย์สุทธิรวม 1,614,227,393.86 บาท สำหรับงบแสดงผลการดำเนิน งานทางการเงิน สำนักงาน ป.ป.ช. มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 695,869,275.55 บาท มีค่าใช้จ่ายจากการ ดำเนินงานรวม 481,639,106 บาท มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม 214,147,946.07 บาท ส่วนงบกระแส เงินสด มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานรวม 233,102,840.92 บาท มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรม ลงทุนรวม 36,009,221.35 บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิรวม 197,093,619.57 บาท
|
|||||||||||||||
.....
