คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคกรุงเทพมหานคร-UNDP (RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (TPLab) ประจำปี ๒๕๖๕ และความก้าวหน้าของกิจกรรมประจำปี ๒๕๖๖ เห็นชอบร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการฯ และอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP (RIC) หรือห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (TPLab) อีก ๗ เดือน นับแต่วันสิ้นสุดความตกลงว่าด้วยโครงการฯ เป็นวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ภายใต้กรอบวงเงินโครงการฯ ที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม และให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือความตกลงว่าด้วยโครงการฯ ของฝ่ายไทย พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม โดยร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการมีผลบังคับใช้ความตกลงว่าด้วยโครงการความร่วมมือศูนย์ RIC ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP (Bangkok-UNDP Regional Innovation Center : RIC) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น ควรส่งเสริมให้ TPLab มีสถานะที่มั่นคงเป็นสถาบันมากยิ่งขึ้น (Institutionalization) เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานในระยะยาว เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ ทั้ง ๓ เสาหลักของ TPLab มีประโยชน์ต่อการจัดทำและขับเคลื่อนนโยบายของไทย และควรพิจารณาการถ่ายทอดนวัตกรรมนโยบายและเครื่องมือทางนโยบาย เช่น การออกแบบนโยบายเชิงระบบ และการวิเคราะห์ส่วนประกอบ (System and portfolio approach) หรือกระบวนการนโยบายสาธารณะ ๘ ขั้นตอน (Public Policy Process Reimagined 8 Elements in Action) ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของโครงการ TPLab ไปสู่หน่วยงานราชการอื่น ๆ เพื่อขยายผลต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย