ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 417 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 8321 - 8340 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8321 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน พ.ศ. …. | อส. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดถอนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน
พ.ศ. …. ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ ๒. อนุมัติหลักการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ในส่วนที่เกี่ยวกับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน
เพื่อให้สอดคล้องหรืออนุวัติการเพื่อรองรับพิธีสารเพื่อต่อต้านการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานทางบก ทางทะเล
และทางอากาศ
เพิ่มเติมอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร
ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) โดยไม่ต้องทำเป็นกฎหมายขึ้นมาใหม่
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
โดยใหรับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดไปประกอบการพิจารณาด้วย
และให้เชิญผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมชี้แจงในการพิจารณา รวมทั้งเมื่อดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมเสร็จแล้ว
ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการตามมาตรา ๗๗
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. มอบให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเร่งดำเนินการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๒
ในส่วนของการกำหนดความผิดมูลฐานฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน
และนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8322 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....) | อก. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาวต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาว
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์
และปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ขาว ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการใช้งานในปัจจุบัน
และเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคในการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมดังกล่าว ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8323 | ความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน (ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement ; AFSRF Agreement) | กษ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน
(ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement;
AFSRF Agreement) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางการดำเนินการที่ครอบคลุมและมีการบูรณาการเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหารของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของอาหารปลอดภัยในอาเซียน
โดยมีการกำหนดหน้าที่ให้รัฐสมาชิกต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับการทำให้อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าอาหารภายในอาเซียนเหลือน้อยที่สุด
และลดความแตกต่างของระบบการควบคุมของประเทศสมาชิกอาเซียน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในความตกลงดังกล่าว
และเมื่อลงนามแล้วให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งความตกลงฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญา ตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงดังกล่าว
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการมอบสัตยาบันของความตกลงดังกล่าวให้แก่เลขาธิการอาเซียนเพื่อรับทราบการให้สัตยาบัน
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบความตกลงดังกล่าวแล้ว ๕. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
ที่เห็นว่าร่างความตกลงฯ เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนามและดำเนินการให้มีผลผูกพัน
มุ่งเน้นการขจัดอุปสรรคทางการค้าในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษี อันเป็นลักษณะการค้าเสรี
และหากในอนาคตมีการจัดทำพิธีสารของร่างความตกลงฯ ควรพิจารณาส่งร่างพิธีสารฯ
ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๕.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์เร่งพิจารณาการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอาหารไทย
เพื่อรักษาเอกลักษณ์และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8324 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พ.ศ. .... | อว. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
โดยเปลี่ยนสถานะของมหาวิทยาลัยจากเดิมเป็นส่วนราชการ
เป็นมหาวิทยาลัยที่มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ
(สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ) ที่ไม่เป็นส่วนราชการ
เพื่อปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
และเป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปมหาวิทยาลัยและนโยบายของรัฐ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าควรยุบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่มีสถานะเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลด้วย
ควรเพิ่มความในหมวด ๔ การบัญชีและการตรวจสอบ “มาตรา ... ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
และต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด” กรณีค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสถานภาพของข้าราชการ
และลูกจ้างประจำเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
หรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัยในระยะแรกของการเปลี่ยนผ่าน ควรกำหนดบทเฉพาะกาลให้ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนเวลาและภาระของงบประมาณที่เกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยเป็นลำดับแรก
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พ.ศ. .... ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในประเด็นการเปิดสอนสาขาวิชาหรือหลักสูตรต่าง
ๆ ที่จำเป็นของสถาบันอุดมศึกษา ควรพิจารณาถึงความต้องการของตลาดแรงงาน
การพัฒนาองค์ความรู้ การส่งเสริมจริยธรรม เพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน
ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
กรณีค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสถานภาพของข้าราชการ
และลูกจ้างประจำเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
หรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัยในระยะแรกของการเปลี่ยนผ่าน ควรกำหนดบทเฉพาะกาลให้ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนเวลาและภาระของงบประมาณที่เกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยเป็นลำดับแรก ควรพิจารณากำหนดข้อบังคับ
ระเบียบ
หรือประกาศเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลของบุคลากรแต่ละประเภทให้มีความชัดเจน
และสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการโครงสร้างองค์กร ให้ความสำคัญการสร้างหลักประกันในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมและควรมีการนำผลการประเมินมหาวิทยาลัยไปประกอบการการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
และการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพตามแนวคิดการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8325 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถอนร่างพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่เสนอได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8326 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ และการปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์เป็นการชั่วคราว (นางอันนา มาร์กริเอท พูริทูร์ โอลาฟสโดททีร์) | กต. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะร คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ของ นางอันนา มาร์กริเอท พูริทูร์ โอลาฟสโดททีร์ (Anna
Margrjet puriour Olafsdottir) เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ๒. การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก
สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ คนใหม่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8327 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ว่าปัจจุบันการดำเนินการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ
เช่น
มาตรการเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการเสียภาษีโดยได้พัฒนาการให้บริการในรูปแบบดิจิทัล
มีการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรและโซเซียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
และได้ดำเนินมาตรการที่เน้นการสร้าง Digital Infrastructure แล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8328 | ผลการพิจารณาญัตติกรณีชาวต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) เพื่อเป็นแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติกรณีชาวต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด
19) เพื่อเป็นแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปได้ว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ได้มีการชี้แจงสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ตามหลักการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก
กรณีถ้าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์
ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกต้องและเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องและทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกเวลา
และได้มีการทบทวนและปรับปรุงมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้มีความชัดเจนและรัดกุมมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งมีมาตรการให้ความช่วยเหลือและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่ควบคุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8329 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางลาวัณย์ ตรีเนตร) | ศธ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางลาวัลย์
ตรีเนตร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ (วิทยฐานะศึกษานิเทศก์
เชี่ยวชาญ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต ๑
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนากระบวนการเรียนรู้
(นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8330 | สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 – 7 มิถุนายน 2564) | มท. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8331 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางนวลจันทร์ โพธิ์ช่วย) | ปปง. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางนวลจันทร์ โพธิ์ช่วย
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเงิน
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8332 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายมรกต จรูญวรรธนะ และนายบุญส่ง วนิชเวชารุ่งเรือง) (นายมรกต จรูญวรรธนะ) | สธ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายมรกต จรูญวรรธนะ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้าน สาธารณสุขของผลิตภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ๒. นายบุญส่ง วนิชเวชารุ่งเรือง ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาจักษุวิทยา) โรงพยาบาลสงฆ์
กรมการแพทย์ ตั้งแต่ วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8333 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายมรกต จรูญวรรธนะ และนายบุญส่ง วนิชเวชารุ่งเรือง) (นายบุญส่งวนิชเวชารุ่งเรือง) | สธ. | 08/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายมรกต จรูญวรรธนะ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้าน สาธารณสุขของผลิตภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ๒. นายบุญส่ง วนิชเวชารุ่งเรือง ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจักษุวิทยา) โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ ตั้งแต่ วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8334 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (1. นายนคร ศิลปอาชา) | สคช. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รวม ๓ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ มิถุนายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
(องค์การมหาชน) เสนอ ดังนี้ ๑. นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการ ๒. นางสุพัฒตรา ลิมปะพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางปัทมา วีระวานิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8335 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 25 การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 7 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | กค. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน
(ASEAN Finance Ministers’ Meeting : AFMM) ครั้งที่ ๒๕
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN
Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting : AFMGM) ครั้งที่ ๗
และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งบรูไนดารุสซาลามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่
๓๐ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุม
ซึ่งมีประเด็นสำคัญ เช่น (๑)
การหารือกับผู้แทนสถาบันการเงินระหว่างประเทศในประเด็นแนวโน้มต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของภูมิภาค
และแนวทางการสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของอาเซียน เช่น การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว
การพัฒนาระบบภาษีและความร่วมมือด้านภาษีระหว่างประเทศ
และความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการระดมทรัพยากรภายในประเทศ และ (๒)
รับทราบความคืบหน้าที่สำคัญของความร่วมมือทางการเงินในอาเซียน ได้แก่ ด้านศุลกากร
ด้านภาษีอากร ด้านการประกันภัยจากภัยพิบัติ
และด้านการกำกับดูแลตลาดทุนและการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้
ที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๗ ซึ่งมีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๓
มีนาคม ๒๕๖๔ โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำแถลงการณ์ร่วมฯ
เพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้นโดยไม่กระทบสาระสำคัญ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8336 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง
กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว
โดยมีผลการพิจารณาสรุปได้ว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
ได้มีการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศเพื่อเป็นกรอบนโยบายหลัก
(Policy Framework) ระยะยาวของประเทศ
และแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดินของประเทศ
และบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
และควบคุมดูแลการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศให้มีเอกภาพ สำหรับการจัดโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังของ
สคทช. นั้น สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ.
มีการประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาโครงสร้างและกรอบอัตรากำลัง และการกำหนดตำแหน่งของ
และในการทำงาน สคทช. ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยสำหรับภารกิจของหน่วยงาน
รวมทั้งมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานภายใต้นโยบายและแผนฯ
เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานดังกล่าว นอกจากนี้
การปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑:๔๐๐๐ (One Map)
คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑:๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการให้ภารกิจบรรลุวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการที่ดินโดยเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนดตามที่กระทรวงการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8337 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการพัฒนาและขยายสื่อดีสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการพัฒนาและขยายสื่อดีสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ
และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาแนวทางและข้อเสนอแนะ สรุปได้ ดังนี้ (๑) หลักการพื้นฐานการพัฒนาและขยายช่องทางสื่อดีสำหรับเด็ก
เยาวชน และครอบครัว เช่น การเพิ่มพื้นที่และคุณภาพของสื่อสำหรับเด็กและเยาวชน การเพิ่มอำนาจในการสื่อสารของเด็กและเยาวชน
เป็นต้น ควรคำนึงถึงความหลากหลายของเด็กในทุกมิติ
และควรเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสื่อ อีกทั้งรัฐบาลควรสนับสนุนการดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชนให้มีความต่อเนื่อง
(๒) ข้อเสนอเชิงนโยบาย รัฐบาลควรกำหนดให้เรื่องสื่อของเด็ก เยาวชน และครอบครัวเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด
การกำหนดนโยบายการส่งเสริมที่ชัดเจน
และเพิ่มพื้นที่กิจกรรมหลากหลายสำหรับเด็กและเยาวชนครอบคลุมทุกจังหวัด เช่น กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานขับเคลื่อนการส่งเสริมและปกป้อง
คุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ เพื่อประสานการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน
และมีการดำเนินการโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งของสภาเด็กและเยาวชน และสำนักงาน
กสทช. ได้กำกับดูแลให้มีการออกอากาศรายการเด็ก เยาวชน
และครอบครัวตามผังรายการที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ทั้งนี้จะมีการจัดทำแผนและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ตามกฎหมาย
ซึ่งจะมีการจัดสรรให้กับสถานีวิทยุกระจายเสียง ประเภทบริการสาธารณะ
โดยจะมีสถานีวิทยุกระจายเสียงสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัวไปรวมอยู่ด้วย เป็นต้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8338 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 | ปช. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8339 | รายงานผลการประเมินองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร.12 | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประเมินองค์การมหาชน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งมีองค์การมหาชนที่เข้าสู่ระบบการประเมิน จำนวน ๔๒
แห่ง ได้แก่ (๑) องค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน ๓๒ แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมาก (๘๕
คะแนนขึ้นไป) จำนวน ๒๙ แห่ง และ (๒) องค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ
จำนวน ๑๐ แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีมาก (๘๕ คะแนนขึ้นไป) จำนวน ๙ แห่ง โดยมีองค์การมหาชน
จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
(องค์การมหาชน) สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)
และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ที่ไม่มีการประเมินผลตามกรอบการประเมิน
ซี่งคณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน
ในการประชุมที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ ตามที่สำนักงาน
ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8340 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 01/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ควรปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานในการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน
เพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
พิจารณาทบทวนบทกำหนดโทษทางกฎหมายเกี่ยวกับความผิด
กรณีกระทำผิดโดยเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ปรับปรุงหลักสูตรการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย
เพื่อใช้ในการเรียนการสอนแก่นักเรียน นักศึกษา ทุกระดับชั้น
ทบทวนการขยายอายุการใช้งานรถตู้โดยสารสาธารณะ
และให้คงนโยบายห้ามเพิ่มจำนวนรถตู้โดยสารสาธารณะ
ตลอดจนเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยทางคมนาคม ทางระบบราง
ทางน้ำและทางอากาศอย่างบูรณาการ เช่น การเสนอแก้ไขกฎหมาย
การเข้มงวดผู้ประกอบการในการดูแลผู้โดยสาร เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|