ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 36 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 701 - 720 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
701 | ผลการพิจารณา เรื่อง ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้เเทนราษฎรและวุฒิสภา | ปปง. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณา เรื่อง
ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้สรุปผลการดำเนินงาน เช่น
๑) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้นำอัตราค่าแรงขั้นต่ำและฐานานุรูปของบุคคลที่ถูกกำหนดมาประกอบการพิจารณายกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานแล้ว
เพื่อนำเงินหรือทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกกำหนดมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานได้ โดยได้แยกหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการไว้อย่างชัดเจน
๒) สำนักงาน ปปง. จะรายงานผลอนุญาตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานไว้ในรายงานประจำปีของสำนักงาน
ปปง. ๓) สำนักงาน ปปง. จะดำเนินการแก้ไขกฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดให้มีการประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดในราชกิจจานุเบกษาเพิ่มเติม
และ ๔) สำนักงาน ปปง.
ได้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการจัดรับฟังความคิดเห็นที่มีต่อร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป
และจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเสนอให้มีการออกกฎกระทรวงให้มีผลใช้บังคับได้ทันเมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
702 | รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย | พณ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
และความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และมอบหมายหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการฯ
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป มีสาระสำคัญสรุปได้
ดังนี้ (๑) นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ ซึ่งคณะกรรมการฯ มีหน้าที่และอำนาจ เช่น ๑)
กำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อบูรณาการหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามสินค้าจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
และ ๒) สั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานภายในขอบเขตหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย
รวมทั้งขอความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อให้ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการเร่งด่วนที่กำหนด
เป็นต้น และ (๒) คณะกรรมการฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม
๒๕๖๗ และครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ ได้มีมติ ๑) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ
SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
และ ๒) เห็นชอบการกำหนดแผนการแก้ปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และแผนการส่งเสริมและยกระดับ
SMEs ไทย และการกำหนดแผนการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
703 | รายงานผลการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) | พณ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
(นายพิชัย นริพทะพันธุ์) เมื่อวันที่ ๑๙ - ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เพื่อเข้าร่วมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในประเทศญี่ปุ่นพร้อมสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อยอดธุรกิจด้วยพันธมิตร
ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ เช่น การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในประเทศญี่ปุ่น
จัดแสดงสินค้ามังงะ (การ์ตูน) ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าไทย
ของตกแต่งบ้านที่ใช้ผ้าไทยจากโครงการผ้าไทย ใส่ให้สนุกแฟชั่นไทย กิโมโนที่ทำด้วยผ้าไทย และซอฟต์พาวเวอร์
สาขาดนตรี เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมลงนามบันทึกความเข้าใจและจดหมายแสดงความเข้าใจ รวม ๓ ฉบับ และการสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อยอดธุรกิจด้วยพันธมิตรเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ
ASEAN - Japan Economic Co - Creation Forum
2024 รวมถึงการพบหารือบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
สังคม และความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง การบรรยาย เรื่องสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศไทย
และประชุมมอบนโยบายทูตพาณิชย์ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยในปี ๒๕๖๘
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
704 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 2/2567 | กษ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ โดยผลการประชุมมีสาระสำคัญ เช่น ๑)
เห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง จากเดิมวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๖ เป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ และเห็นชอบขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ
ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จากเดิม วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เป็นวันที่
๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ และ ๒)
เห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตร
เพื่อรวบรวมยาง วงเงินสินเชื่อ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ออกไปอีก ๔ ปี เริ่มตั้งแต่วันที่
๑ เมษายน ๒๕๖๗ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๗๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
705 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด พ.ศ. .... | กษ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า
ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก
นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด
เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำหายาก หรือป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดอย่างทั่วถึง และบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ ควรมีรายละเอียดของสัตว์น้ำบางชนิดที่ต้องปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงนี้
(ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก
หรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๔) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
706 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร | กค. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพและยกระดับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนของประเทศที่ชะลอตัว
โดยการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้างกลไกหรือมาตรการระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ESG
ปรับตัวและเตรียมรับมือกับมาตรฐาน ESG ให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ
และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
707 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน | ปช. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง
กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
708 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... | มท. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย
จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลลานสะแก ตำบลก้ามปู ตำบลปะหลาน และตำบลเมืองเสือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย
จังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
โดยส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพยัคฆภูมิพิสัยให้เป็นศูนย์กลางบริหาร การปกครอง
การเศรษฐกิจ การบริหารสังคม และการคมนาคมขนส่ง ส่งเสริม สนับสนุน
และอนุรักษ์เกษตรกรรมบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ
อนุรักษ์พื้นที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์วัฒนธรรม และส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พื้นที่โล่งริมแหล่งน้ำและคูเมืองโบราณที่สำคัญของเมือง
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการผังเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ย่านชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องและส่งเสริมการอนุรักษ์
รักษาอัตลักษณ์ของย่านชุมชนเก่าให้คงอยู่ กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่ากิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
ซึ่งให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อการพิจารณาอนุญาตและควบคุมสถานประกอบกิจการ
โดยการพิจารณาอนุญาตกิจการจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
709 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อนตามมาตรฐานเลขที่
มอก. ๑๓๙๐ - ๒๕๖๐
โดยเป็นการยกเลิกมาตรฐานเดิมและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก.
๑๓๙๐ - ๒๕๖๖ เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
710 | รายงานผลการจัดประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International Soil and Water Forum 2024) | กษ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน
และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International
Soil and Water Forum 2024) เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมนานาชาติ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับการจัดการดินและน้ำอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ได้นำเสนอแนวทางการจัดการดินและน้ำผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
๖ แห่งทั่วไทยเพื่อเป็นตัวอย่างในการจัดการดินและน้ำ
ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิญญาระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการความขาดแคลนน้ำและฟื้นฟูดินเพี่อระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น
นอกจากนี้ภายใต้การประชุมในส่วนของไทย ได้จัดนิทรรศการ จำนวน ๘ เรื่อง เช่น
การดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องจากพระราชดำริ ๖ แห่ง ทั่วไทย
การปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อการบริหารจัดการน้ำ การบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติ
และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งเสริมเกษตรกรทำนาเปียกสลับแห้ง
ลดเสี่ยงแล้ง ลดต้นทุน ลดโลกร้อน เป็นต้น และได้เข้าร่วมการหารือทวิภาคีกับผู้แทนประเทศต่าง
ๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
711 | มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน | พน. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวตามอำนาจและหน้าที่
โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
หากการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องมีการขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในอนาคต
ก็ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรกำหนดแผนงานซึ่งรองรับเพื่อให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า
รวมทั้งการลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบในภาพรวมด้วย
เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระทางการคลังในระยะยาว และโดยที่ต้นทุนพลังงานไฟฟ้าเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ควรที่คณะรัฐมนตรีจะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลดต้นทุนผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ชัดเจนและมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการที่แน่นอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
712 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมกรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ (STEER) ครั้งที่ 7 | พณ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมกรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์
(STEER) ครั้งที่ ๗ โดยการประชุม STEER
เป็นการดำเนินการปฏิสัมพันธ์ในระดับสูง
ในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาที่มีศักยภาพและเป็นประโยชน์ร่วมกัน อาทิ
เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงาน คาร์บอนเครดิต อุตสาหกรรม ฮาลาล สินค้าเกษตรและอาหาร
การท่องเที่ยวเรือสำราญ การค้าและการลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การบิน
และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ
การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง
ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย
และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(หนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๙๐๗/๓๗ ลงวันที่ ๑๐
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าในการประชุมดังกล่าวจะมีการจัดทำความตกลงระหว่างสองประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนการทำความตกลงนั้น
ตามมาตรา ๔ (๗) แห่งพระราชกฤษฎีกว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ.
๒๕๔๘
และหากความตกลงดังกล่าวมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ก็จะเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยหากการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามหนังสือสัญญานั้นต้องมีการออกพระราชบัญญัติ
หรือหนังสือสัญญานั้นอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวางตามมาตรา
๑๗๘ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก็จะต้องเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
713 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนียว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการพำนักระยะสั้นสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ | กต. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนียว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการพำนักระยะสั้นสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามความตกลงฯ ทั้งนี้
ในกรณีมอบหมายผู้แทน
ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามดังกล่าว
โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญ เช่น ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการของคู่ภาคีที่มีอายุใช้ได้จะไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้า
ออก แวะผ่าน และพำนักในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน
ภายในระยะเวลา ๑๘๐ วัน นับจากวันเดินทางเข้า และกำหนดว่า ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจระงับการบังคับใช้ความตกลงนี้ด้วยเหตุผลในการธำรงไว้ซึ่งการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ
ความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ หรือสาธารณสุข โดยต้องแจ้งภาคีอีกฝ่ายให้ทราบทันที แต่ไม่เกิน
๗๒ ชั่วโมง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
714 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกตูม จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... | มท. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกตูม จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลโคกตูม และตำบลนิคมสร้างตนเอง
อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในที่ดินการคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร
การปกครอง การพาณิชยกรรมและการบริการในระดับตำบล
การส่งเสริมและพัฒนาด้านที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม
ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชนและระบบเศรษฐกิจในอนาคต ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ
หรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
715 | ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง | นร.07 | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์
๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) ในส่วนที่สำคัญ เช่น (๑) ยกเลิกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่หน่วยรับงบประมาณจะได้รับในแต่ละปีงบประมาณในอัตราไม่เกินร้อยละ
๖๐ ในปีที่ ๑ ไม่เกินร้อยละ ๔๐ ในปีที่ ๒ ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ในปีที่ ๓
และไม่เกินร้อยละ ๑๐ ในปีที่ ๔ โดยกำหนดใหม่ให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่หน่วยรับงบประมาณจะได้รับในแต่ละปีงบประมาณเป็นไปตามที่สำนักงบประมาณกำหนด
(๒) ยกเลิกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่จะขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณจะต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรก
เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๐ โดยกำหนดใหม่ให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่จะขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณจะต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรกไม่ต่ำกว่าร้อยละ
๑๕ และ (๓) ปรับปรุงข้อความบางประการของหลักเกณฑ์ข้ออื่น ๆ
เพื่อให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เช่น ๑) ยกเลิกการกำหนดให้การผูกพันงบประมาณที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากหลักเกณฑ์ที่กำหนด
จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน และ ๒) การปรับถ้อยคำ จากเดิม ส่วนราชการเปลี่ยนเป็น
หน่วยรับงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
716 | การช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติ กรณีสถานการณ์อุทกภัยและโกดังเก็บสินค้าดอกไม้เพลิงระเบิด | ศธ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติ กรณีสถานการณ์อุทกภัยและโกดังเก็บสินค้าดอกไม้เพลิงระเบิด
จำนวน ๑๐ โรงเรียน ในวงเงิน ๑,๙๘๕,๑๕๑ บาท
โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้
โครงการบริหารจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพการศึกษาเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
งบเงินอุดหนุน รายการค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
717 | การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน | คค. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน
(แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย
วงเงินรวม ๒๑๓ ล้านบาท (ค่างานโยธา ๑๙๓.๖ ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด ๑๙.๔
ล้านบาท) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานสำนักงบประมาณเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณไปดำเนินการตามแผนงานและกรอบระยะเวลาที่กำหนด
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินงานตามแผนดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ร่วมกันจัดทำแผนบูรณาการในการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อให้สามารถรับมือ ป้องกัน และลดผลกระทบล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดภัยธรรมชาติ เพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงตลอดจนการปรับตัวต่อภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยพิบัติเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
718 | ข้อเสนอแนะสิทธิทางการศึกษาอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิเด็ก กรณีโรงเรียนบ้านนุเซะโปล้ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ปฏิเสธรับเด็กที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพเข้าเรียน | สม. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะสิทธิทางการศึกษาอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิเด็ก
กรณีโรงเรียนบ้านนุเซะโปล้ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
ปฏิเสธรับเด็กที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านนุโพเข้าเรียน
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน)
สรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน
๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
719 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ขององค์การเภสัชกรรมให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล (คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี) เป็นการจำหน่ายด้วยวิธีการโอนให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี | สธ. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ด้วยวิธีการโอนให้มูลนิธิรามาธิบดี
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เพื่อรองรับโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี
โดยจะดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(องค์การเภสัชกรรม) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อไป เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าขั้นตอนและวิธีการ
หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
กระทรวงสาธารณสุขโดยองค์การเภสัชกรรมควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
720 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 และวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 | ปสส. | 11/03/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. .... และสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรวันจันทร์ที่
๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา
ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๒ มีนาคม
๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๓
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|