ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 22 จากทั้งหมด 6236 หน้า แสดงรายการที่ 421 - 440 จากข้อมูลทั้งหมด 124708 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 421 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงวัฒนธรรม) | วธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๙ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๒.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๓. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ
(Thai National Committee for
International Council of Museum) ๔.
คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๕. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม ๖. คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๗. คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำพระไตรปิฎก
ฉบับภาษาอังกฤษ (Tipitaka English version)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 422 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงคมนาคม) | คค. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงคมนาคม จำนวน ๖ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ๒. คณะกรรมการร่วมถาวรไทย-มาเลเซีย
ว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ๓.
คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๔. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๕. คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ ๖. คณะกรรมการประสานการขนส่งผ่านแดนแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 423 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) | กค. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงการคลัง จำนวน ๓ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ๒. คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล ๓.
คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 424 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | กษ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๖ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. นายภูผา ลิกค์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกษตรและสหกรณ์ ๓. นายธนสาร ธรรมสอน ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ)] ๔. นายธัญญวัฒน์ พากเพียร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายนเรศ
ธำรงค์ทิพยคุณ)] ๕. นายนัจมุดดีน อูมา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[(รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายอามินทร์ มะยูโต๊ะ)] ๖. นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 425 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) | ดศ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ
ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีองค์ประกอบ
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคงเดิม ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 426 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ) | นร.04 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 427 | ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้จัดทำคำชี้แจง ในคดีหมายเลขดำที่ 1896/2568 ระหว่าง นายธนพร ศรียากูล ผู้ฟ้องคดี กับคณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ในคดีเกี่ยวกับการอนุมัติรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 ประจำปีการศึกษา 2568 - 2569 ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศโดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร | นร.05 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบคำสั่งให้จัดทำคำชี้แจงของศาลปกครองกลาง
ในคดีหมายเลขดำที่ ๑๘๙๖/๒๕๖๘ ระหว่าง นายธนพร ศรียากูล ผู้ฟ้องคดี กับคณะรัฐมนตรี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กับพวกรวม ๓ คน
ในคดีเกี่ยวกับการอนุมัติรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร
รุ่นที่ ๖๘ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ - ๖๕๖๙ ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ โดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
และมอบอำนาจให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐาน
และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ต่อศาลปกครองกลาง ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม
๒๕๖๘ (เรื่อง ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ - ๒๕๖๙ จากคณะรัฐมนตรี) และอนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ - ๒๕๖๙ จำนวน ๒๙๙ คน ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ๓.
มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้เหมาะสม เป็นปัจจุบัน ลดขั้นตอนการดำเนินการที่ไม่จำเป็นและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะข้อ ๑๔ ให้พิจารณาตัดขั้นตอนการขอรับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ออก โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติแทน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 428 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายยอดศักดิ์ รักษาแก้ว ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๔ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายยอดศักดิ์ รักษาแก้ว ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. ผศ.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๓. นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 429 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม และนางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์) | ดศ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 430 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๙ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีองค์ประกอบ
หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคงเดิม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่
๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ๒. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๓. คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๔.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๕. คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๖.
คณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Wellness and Medical Service Hub) ๗. คณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ๙. คณะอนุกรรมการพิจารณาพื้นที่พิเศษสำหรับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ
พ.ศ. ๒๕๔๘
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 431 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) | นร.14 | 07/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย
คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคงเดิม
ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.
รัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประธานกรรมการ ๒. เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รองประธานกรรมการ ๓. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ ๔. ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ๕. ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมการ ๖. เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ ๗. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ ๘. เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ ๙. ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรรมการ ๑๐. อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรรมการ ๑๑. อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรรมการ ๑๒. อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กรรมการ ๑๓. อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กรรมการ ๑๔. อธิบดีกรมชลประทาน กรรมการ ๑๕. อธิบดีกรมเจ้าท่า กรรมการ ๑๖. อธิบดีกรมประมง กรรมการ ๑๗. อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กรรมการ ๑๘. อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กรรมการ ๑๙. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กรรมการ ๒๐. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรรมการ ๒๑. เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ กรรมการ และสิ่งแวดล้อม ๒๒. ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการ ๒๓. ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรรมการ ๒๔. เจ้ากรมอุทกศาสตร์ กรรมการ ๒๕. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กรรมการ ๒๖. นายชัยยุทธ สุขศรี กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการน้ำ ๒๗. นายวิจารย์ สิมาฉายา กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน ๒๘. รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรรมการ และเลขานุการ ๒๙. ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ๓๐. ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ ผู้ช่วยเลขานุการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 432 | โครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 | กค. | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ปี ๒๕๖๘ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพ และจัดประชารัฐสวัสดิการเพิ่มเติมเป็นการชั่วคราวให้แก่ผู้มีบัตรฯ
ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๓.๔ ล้านคน
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางสูงและได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๒,๗๘๐ ล้านบาท ให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำหรับกองทุนฯ
สำหรับโครงการเพิ่มวงเงินฯ ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
และให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมและกระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังมุ่งเน้นการกำกับดูแลการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ
ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ รวมถึงรักษากรอบวินัยการเงินการคลังอย่างรอบคอบ
เคร่งครัด และจัดให้มีระบบติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานปัญหา
อุปสรรคและแนวทางการแก้ไข การดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ทั้งนี้ ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓๐ กันยายน ๒๕๖๘)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 433 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น
จำนวน ๓๕,๙๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลดยอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาลให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น โดยเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่ ธ.ก.ส.
แล้ว ให้สำนักงบประมาณอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไปยัง ธ.ก.ส.
โดยสอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ตามที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ต่อไป ทั้งนี้
การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและสามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ารัฐบาลควรพิจารณาทยอยชำระยอดลูกหนี้รอการชดเชยให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ได้ดำเนินโครงการหรือมาตรการของรัฐบาลต่าง
ๆ ไปแล้ว นอกจากนี้ การดำเนินโครงการตามมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ในระยะต่อไป ควรพิจารณาอนุมัติเท่าที่จำเป็นและสอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการคลัง
เพื่อให้ภาครัฐมีพื้นที่ทางการคลังเพียงพอสำหรับการรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 434 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รายการกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา เพิ่มเติม | สผ. | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
รายการกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา เพิ่มเติม ๒๘๗,๓๓๙,๑๐๐ บาท ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
และให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๐๘๙๘ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘)
ที่เห็นว่าวงเงินที่อนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓)
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และสำนักงบประมาณจะได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 435 | ระบบผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) | นร 05 | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบระบบผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
(ปคร.) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 436 | การดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรา 4 วรรคสอง (มติคณะรัฐมนตรีที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี) | นร.05 | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยืนยันมติคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดเดิมที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี
เพื่อถือปฏิบัติต่อไป จำนวน ๒๕ มติ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรา ๔ วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 437 | ขอขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการประเมินพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในเขตพื้นที่อำเภอยี่งอ
อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส อำเภอยะหริ่ง
อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น
อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และละอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง
อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี
อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒.
อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ในเขตพื้นที่อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน
จังหวัดนราธิวาส อำเภอยะหริ่ง
อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน
จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง
จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙ ๓. เห็นชอบ ๓.๑
ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๓.๒
ร่างประกาศ เรื่อง
การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๓.๓
ร่างประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ๓.๔
ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม
๔ ฉบับ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 438 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2569 | กค. | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติและรับทราบตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๘ เมื่อวันที่
๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๘ ดังนี้ ๑.๑.๑
อนุมัติแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙ ที่ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม ๑,๒๐๗,๓๐๖.๗๕ ล้านบาท
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม ๑,๘๗๖,๙๑๕.๑๔
ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงินรวม ๕๐๓,๐๕๖.๙๕ ล้านบาท ๑.๑.๒
อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง ได้แก่ กยท. ขสมก. รฟท. และ บมจ. อสมท. ที่มีสัดส่วน
DSCR ต่ำกว่า ๑ เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙ โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ๔
แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙ เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย ๑.๑.๓
รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง ๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๙ - ๒๕๗๓) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๑.๒ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่ง พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ
มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๙ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน
การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่ากระทรวงการคลังควรพิจารณาความเหมาะสมสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณสัดส่วนหนี้สาธารณะ
และกำหนดแนวทางการบริหารการกู้เงินของรัฐเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการของแผนการบริหารหนี้สาธารณะเป็นไปตามนัยของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นว่ารัฐบาลควรมีการบริหารจัดการเครื่องมือในการระดมทุนให้หลากหลายและเหมาะสม
ภายใต้ภาวะตลาดการเงินที่อาจมีความผันผวนสูงขึ้น
ควบคู่กับการสื่อสารกับตลาดอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อตลาดการเงินและต้นทุนการกู้ยืมของภาครัฐและเอกชน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 439 | แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร.04 | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๐๙/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
(วิปรัฐบาล) โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นประธานกรรมการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
| 440 | เงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา | นร. | 30/09/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้ประชาชนผู้ประสบภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐอย่างถูกต้อง
เหมาะสม เป็นธรรม และครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์) รับไปสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เร่งพิจารณาทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข
วิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ
ให้เหมาะสม ชัดเจน
และครอบคลุมทุกมิติของความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยดังกล่าว
รวมถึงวงเงินช่วยเหลือที่ต้องใช้เพื่อการนี้ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปโดยด่วน ทั้งนี้
ขอให้รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
