ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 189 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3761 - 3780 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3761 | การจัดทำพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกต้นสนใบพาย จากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กษ. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกต้นสนใบพาย
จากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(Protocol on the Phytosanitary Requirements
for the Export of Podocarpus Plants from Thailand to China between the Ministry
of Agriculture and Cooperatives of the Kingdom of Thailand and the General
Administration of Customs of the People’s Republic of China) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Power) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายสำหรับลงนามในพิธีสารฯ (จะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ
ในระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายกรัฐมนตรีช่วงกลางเดือนตุลาคม ๒๕๖๖)
โดยร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการสุขอนามมัยพืชสำหรับการส่งออกต้นสนใบพายจากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
เช่น การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของจีนและกฎระเบียบและมาตรฐานระดับประเทศ
การขึ้นทะเบียนเรือนเพาะชำต้นสนใบพายที่จะส่งออกที่ได้รับการประเมินจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และได้รับการประกาศรับรองบนเว็บไซต์ของสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
และการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับต้นสนใบพายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตรวจสอบว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของพิธีสารฯ
แล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ และได้มีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น
การแก้ไขถ้อยคำในร่างพิธีสารฯ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการก่อนการลงนาม
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับระบบกำจัดศัตรูพืช
ตลอดจนแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพืชแก่เกษตรกรในวงกว้าง
เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างพิธีสารฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3762 | การจัดทำพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกผลเสาวรสสดจากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | กษ. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกผลเสาวรสสดจากราชอาณาจักรไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(Protocol on the Phytosanitary Requirements for
the Export of Fresh Passion Fruits from Thailand to China between the Ministry
of Agriculture and Cooperatives of the Kingdom of Thailand and the General
Administration of Customs of the People’s Republic of China) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Power) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายสำหรับลงนามในพิธีสารฯ (จะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ
ในระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายกรัฐมนตรีช่วงกลางเดือนตุลาคม ๒๕๖๖)
โดยร่างพิธีสารฯ
เป็นข้อกำหนดด้านสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกผลเสาวรสสดจากไทยไปยังจีน
เพื่อให้มั่นใจว่าผลเสาวรสสดที่ส่งออกไปจีนนั้น ปราศจากศัตรูพืชกักกันของประเทศจีน
โดยพิธีสารฉบับนี้จะส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกผลเสาวรสสดไปยังจีนได้
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในการสร้างตลาดใหม่ให้กับสินค้าเกษตรของไทย
รวมไปถึงการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกเสาวรสของไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ และได้มีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น
การแก้ไขถ้อยคำในร่างพิธีสารฯ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการก่อนการลงนาม
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและการดำเนินกระบวนการตรวจสอบสุขอนามัยพืช
และมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยเพื่อการส่งออกผลเสาวรสสดจากประเทศไทย
ให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างพิธีสารฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3763 | แผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ฉบับทบทวน) | กสศ. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (ฉบับทบทวน) ภายในกรอบวงเงิน ๗,๐๙๔,๙๖๙,๒๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๖ (๓)
ของพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยให้ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๖
เรื่อง การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ พร้อมแนวทางการจัดทำงบประมาณและยุทธศาสตร์ชาติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ทั้งนี้ ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมาย และค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน
ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับเป็นสำคัญ
รวมถึงการพิจารณานำเงินนอกงบประมาณหรือเงินอื่นใดของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษามาสมทบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน
เพื่อให้สอดคล้องตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาร่วมกับสำนักงบประมาณ
กระทรวงศึกษาธิการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาทบทวนแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้ถูกต้อง เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
และไม่ซ้ำซ้อนกับภารกิจและกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอื่นที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว
โดยให้รับข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรพิจารณาจัดทำแผนในการหาเงินและแผนการใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากเงินงบประมาณ
เพื่อให้กองทุนเกิดความยั่งยืนและเป็นการลดภาระทางการคลังของประเทศในระยะยาวต่อไป
และควรพิจารณาความร่วมมือกับภาคเอกชนขนาดใหญ่ทั้งในด้านวิชาการ
การทำกิจกรรมเพื่อสังคม และการสนับสนุนเงินลงทุนในการจัดกิจกรรม
รวมถึงควรมีการติดตามประเมินผลความสำเร็จในการดำเนินงานของกลไกภาคีเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในเชิงกระบวนการหรือกลไกการดำเนินงาน
ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากลไกในการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในระยะต่อไป
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้สำนักงบประมาณดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3764 | การปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๗,๒๔๔,๕๐๑,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย
งบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๖,๙๕๒,๙๐๐,๘๐๐ บาท งบประมาณของกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา
จำนวน ๒๙๑,๖๐๐,๒๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่า
และเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3765 | การลงนามความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกันและสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน | กษ. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย
กับ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน
และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์
เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย
กับ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน
และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศ
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ว่าด้วยหลักเกณฑ์ การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (หนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๙๐๗/๑๔๒ ลงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๖)
ที่เห็นควรว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการดำเนินการหากร่างความตกลงฯ
มีผลใช้บังคับ เช่น การออกกฎหมายลำดับรองที่จำเป็น
การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรของหน่วยงานภาครัฐ
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนทราบ
เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ภายใต้ร่างความตกลงดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการโดยด่วนต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3766 | การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 4000 (One Map) | นร. | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ [เรื่อง
ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map)]
เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุง One Map พื้นที่กลุ่มที่ ๓
และให้หน่วยงานที่มีที่ดินอยู่ในความรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน
๓๖๐ วัน โดยอาจขอขยายระยะเวลาการดำเนินการต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้ตามเหตุผลความจำเป็น
แต่ไม่เกิน ๑๘๐ วัน และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖
(เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖)
รับทราบผลการประชุมดังกล่าวรวมถึงการปรับปรุง One Map
พื้นที่กลุ่มที่ ๓ จำนวน ๑๑ จังหวัด นั้น
โดยปัจจุบันยังมีประชาชนเป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย
ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาการกำหนดแนวเขตที่ดินในครอบครองของหน่วยงานของรัฐที่ยังมีปัญหาการทับซ้อนระหว่างกันเองและกับที่ดินของเอกชน
สมควรที่จะเร่งดำเนินการปรับปรุง One Map
ให้แล้วเสร็จครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณากำหนดแนวเขตที่ดินในพื้นที่ต่าง
ๆ ทั่วประเทศให้เป็นที่ยอมรับร่วมกันเพื่อให้ส่วนราชการ
หน่วยงานของรัฐและประชาชนกลุ่มต่าง ๆ
สามารถเข้าใช้ประโยชน์และมีที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง เหมาะสมต่อไป ดังนั้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งปรับปรุง One Map ในพื้นที่กลุ่มอื่น ๆ
ที่เหลือให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3767 | กรอบระยะเวลาการดำเนินการเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ในแต่ละขั้นตอน | นร.09 | 10/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการพิจารณาข้อหารือ เรื่อง การใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดโดยไม่แจ้งผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง
ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (เรื่องเสร็จที่ ๗๖๕/๒๕๖๖)
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3768 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และนางสาวธนาพร จีนจะโปะ) | กษ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ตุลาคม ๒๕๖๖) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. นางสาวธนาพร จีนจะโปะ
ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3769 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายนวนิตย์ พลเคน ฯลฯ 5 ราย) | กษ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายนวนิตย์ พลเคน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพีรพันธ์ คอทอง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ๔. พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมหม่อนไหม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3770 | คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ | นร.01 | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และคณะกรรมการฝ่ายต่าง
ๆ รวม ๘ คณะ ได้แก่ (๑) คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๒) คณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการ
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๓)
คณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรม งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๔)
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๕) คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๖)
คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (๗)
คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และ (๘)
คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญญาลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3771 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเอกชัย เกษมสุขธวัช) | ปปท. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเอกชัย เกษมสุขธวัช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3772 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค) | นร.04 | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๕๔/๒๕๖๖ เรื่อง
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ลงวันที่ ๓
ตุลาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3773 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาระดับสูง (1. นายอรรถพล สังขวาสี ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | ศธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๑. นายอรรถพล สังขวาสี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๒. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน ๔. นายยศพล เวณุโกเศศ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3774 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปเป็นของมูลนิธิจุฬาภรณ์) | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปเป็นของมูลนิธิจุฬาภรณ์
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
๒๕๖๖ (แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๖
มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3775 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายโสภณ แท่งเพ็ชร์) | นร.11 สศช | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโสภณ แท่งเพ็ชร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3776 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี) | นร.04 | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๕๓/๒๕๖๖ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3777 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | ยธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๘ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ๑. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ๓. นายเสกสรร สุขแสง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ๔. นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางจิรภา สินธุนาวา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ๗. นายเรืองศักดิ์ สุวารี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมประพฤติ ๘. นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3778 | การขอความเห็นชอบการต่อวาระการดำรงตำแหน่งของนางสาวรัชดา ไชยคุปต์ ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี | พม. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่อวาระการดำรงตำแหน่งของนางสาวรัชดา
ไชยคุปต์
ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี ต่อไปอีก ๓ ปี (วาระตั้งแต่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖
ถึงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๙) เป็นวาระที่ ๓ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนาของประเทศไทย
มีหนังสือแจ้งเรื่องการต่อวาระการดำรงตำแหน่งของนางสาวรัชดา ไชยคุปต์
ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี ต่อไปอีก ๓ ปี ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน
ในโอกาสแรก ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3779 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายวันชัย พนมชัย ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | อก. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน
และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายวันชัย พนมชัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๒. นายบรรจง สุกรีฑา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายใบน้อย สุวรรณชาตรี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายภาสกร ชัยรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3780 | การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป สำหรับคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักร ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ | รง. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา
และค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไป สำหรับคนต่างด้าวซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักร
ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน
หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราและค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตในอัตรา
๕๐๐ บาท โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา ๔ ปี ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|