ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1832 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36621 - 36640 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36621 | มาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ปี 2553 | ทส | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งและมลพิษหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ปี 2553 ประกอบด้วย มาตรการระยะเร่งด่วน ได้แก่ การขยายระยะเวลาการจ้างประชาชนปฏิบัติงานดับไฟป่า จากเดิมที่ สิ้นสุดการจ้างในเดือนเมษายน 2553 เป็นสิ้นสุดการจ้างในเดือนมิถุนายน 2553 ภายใต้วงเงินงบประมาณเท่า เดิมที่ได้รับการจัดสรร และสนับสนุนการดำเนินโครงการความร่วมมือในการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศใน อนุภูมิภาคแม่โขงโดยจัดส่งหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศในสหภาพพม่า และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในช่วงหน้าแล้ง และมาตรการระยะยาว ได้แก่ การติดตั้งสถานีตรวจ วัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การทำเกษตรปลอดการเผา การทำเกษตรที่สูงปลอดการ เผา รวมทั้งการดำเนินโครงการการใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อการติดตามและ ประเมิน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย คณะกรรม การนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกรณีเกษตร กรที่ไม่มีเอกสารสิทธิจะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีการผลิต 2553/2554 ได้ ต้อง เป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ในปีการผลิต 2552/2553 แล้วเท่านั้น
|
||||||||||||||||||||||||
36622 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดย
ขยายระยะเวลาการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2554 จากเดิมวันอังคารที 30 มีนาคม 2553 ไปเป็นวันอังคารที่ 27 เมษายน 2553 ตามที่สำนัก งบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36623 | การเลื่อนจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1 | นร | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเลื่อนจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
ครั้งที่ 1 โดยเลื่อนเวลาการจองซื้อและจำหน่ายพันธบัตรจากเดิมระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-2 เมษายน 2553 ออกไป ก่อน โดยกระทรวงการคลังจะกำหนดเวลาการจองซื้อและจำหน่ายพันธบัตรที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36624 | แนวทางการพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | นร | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปี
ที่ 3 ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 24 มีนาคม 2553 และครั้งที่ 17 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2553 ตามที่สำนักประสานงานการเมืองเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36625 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1/2553 | นร | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รชต.) ใน การประชุมครั้งที่ 1/2553 วันที่ 11 มีนาคม 2553 รวมทั้งอนุมัติและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการ รชต. ตามที่ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ รชต. เสนอ โดยในการประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ รวม 5 เรื่อง ดังนี้ 1.1 สรุปผลการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (อชต.) ครั้งที่ 1/2553 1.2 ความก้าวหน้ามาตรการพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ฯ แผนไทยเข้มแข็ง 5 ดาว 1.3 ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดแผนงานโครงการปีงบประมาณ 2553 ในพื้นที่ 5 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ 1.4 ขออนุมัติงบประมาณแผนงานโครงการปีงบประมาณ 2553 ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มเติม 1.5 การปรับแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปีงบประมาณ 2554 2. ในส่วนของความก้าวหน้ามาตรการพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ฯ แผนไทยเข้มแข้ง 5 ดาว มอบ หมายให้กระทรวงการคลังเร่งรัดทำแผนดำเนินการแผนดังกล่าวให้ชัดเจน โดยรับความเห็นของที่ประชุมคณะกรรม การ รชต. ที่เห็นควรสร้างความชัดเจนของแผนงานพัฒนา 5 กลุ่ม (Cluster) (ตามแผนไทยเข้มแข็ง 5 ดาว) ประกอบ ด้วย กลุ่มที่ 1 ประมง กลุ่มที่ 2 ปาล์มน้ำมัน กลุ่มที่ 3 ยางพารา กลุ่มที่ 4 การท่องเที่ยว และกลุ่มที่ 5 ผลิตภัณฑ์และ อาหารฮาลาล เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับแผนงานพัฒนาที่หน่วยงานกำลังดำเนินการ และควรประสานให้มีหน่วยงานเจ้า ภาพที่ชัดเจน มีการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการ มีความชัดเจนเรื่องกรอบระยะเวลาดำเนินการ ความแตก ต่างกับมาตรการอื่นในปัจจุบัน รวมทั้งความแตกต่างระหว่างพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับจังหวัดสงขลา และ สตูล ไปประกอบการดำเนินการ และนำเสนอคณะกรรมการ รชต. ต่อไปภายใน 2 เดือน และมอบหมายให้กระทรวง การคลังติดตามการดำเนินงานตามมาตรการพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ประชาชน และสิทธิประโยชน์จูงใจ นักลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานประสานติดตามการดำเนินงานระดับพื้นที่ และนำเสนอคณะกรรมการ รชต. ต่อไปภายใน 1 เดือน |
||||||||||||||||||||||||
36626 | การให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ | สธ | 23/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินไม่เกิน 472.823 ล้านบาท ให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ในการจัดบริการขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้แก่บุคคลที่มีปัญหาสถานะและ สิทธิ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36627 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2553 2. มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) รับข้อสังเกตของคณะกรรม การประสานงานด้านนิติบัญญัติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่ง ชาติ พ.ศ. .... ไปพิจารณา แล้วแจ้งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติทราบต่อไป 3. มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ประสานประธานวุฒิสภาเพื่อ ขอความอนุเคราะห์จัดสรรเวลาหรือกรอบเวลาที่แน่นอนให้กับคณะรัฐมนตรีในการชี้แจงเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อที่ประชุมวุฒิ สภา
|
||||||||||||||||||||||||
36628 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม
2553 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยโป่ง และตำบลมาบตาพุด อำเภอ เมืองระยอง จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36629 | ผลการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2553 | คค | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เสนอผลการประชุม
คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 โดยที่ประชุมได้รับ ทราบบทบาท อำนาจหน้าที่ และกลไกการดำเนินงานของ คจร. สถานะการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวล ชนและรถไฟชานเมือง รวมทั้งพิจารณาการดำเนินงานแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยมีมติ ดังนี้ 1. เห็นชอบแผนแม่บทระบบขนส่งทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกำหนดให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในระยะ 10 ปีแรก (เปิดให้บริการภายในปี พ.ศ. 2556) ระยะทางรวม 154 กิโลเมตร ประกอบด้วย สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม., สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม (17.5 กม.) ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี (20 กม.), สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม., สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7 กม. ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส ระยะทาง 1 ก.ม., สายสีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน ระยะทาง 18 กม., สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14 กม. และสาย Airport Link ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 21 กม. 2. เห็นชอบในหลักการการต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จากช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะ ทาง 11.4 กิโลเมตร เป็นหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมระยะทาง 18.4 กิโลเมตร และให้ยกเลิกศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) บริเวณด้านทิศใต้ของสนามบินดอนเมือง และให้มีศูนย์ซ่อมบำรุงบริเวณตำบลคูคตแทน 3. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาความเหมาะสมการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าสายสี ส้ม และสายสีเขียวส่วนต่อขยาย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธานอนุกรรมการ และ สนข. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ 4. เห็นชอบในหลักการให้รูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-พญาไท- มักกะสัน และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมทั้งโครงการ Airport Link ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-บางซื่อ เป็นวิธีการก่อ สร้างใต้ดินด้วย 5. เห็นชอบในหลักการการกำหนดรูปแบบทางวิ่งเป็นทางยกระดับและกำหนดรูปแบบทางรถไฟข้ามแม่น้ำ เจ้าพระยาเป็นสะพานรถไฟ บริเวณท่าเรือสี่พระยา-คลองสาน สำหรับโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงหัว ลำโพง-บางบอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงหัวลำโพง-มหาชัย โดยดำเนินการรูป แบบเดียวกับโครงสร้างสะพานถนน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณสี่พระยา-คลองสาย โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติ หรือดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2537 เรื่อง พื้นที่ที่กำหนดให้ระบบขนส่งมวลชน (รถ ไฟฟ้า) เป็นระบบใต้ดิน 6. ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2552 ของโครงการศึกษาและออกแบบโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายวงแหวนรอบในตามแนวถนนรัชดาภิเษก จำนวน 400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการศึกษาทบทวนความเหมาะสม ออกแบบ รวมถึงจัดทำเอกสารประกวดราคา และ รายงานการวิเคราะห์โครงการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจ การของรัฐ พ.ศ. 2535 โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมของโครงการก่อน ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป 7. เห็นชอบในหลักการให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางขนาดรอง ในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานเอง ที่มีแนวสายทางนอกเหนือ และไม่ซ้ำซ้อนกับโครงข่ายจากที่กำหนดไว้ใน แผนแม่บทในระยะเวลา 10 ปีแรก (ปี พ.ศ. 2562) ให้สามารถดำเนินการได้ กรณีที่เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชน สายรองที่มีปริมาณผู้โดยสารในปีที่เริ่มเปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบ ของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนระบบตั๋วร่วม โครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วม อันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
36630 | การบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตาม
ที่กระทรวงการคลังเสนอ โดย 1. ให้ขยายเวลาให้หน่วยงานที่ได้รับอนุมัติการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ทุกรายการ เสนอขอรับการจัดสรรเงินตามโครงการ ฯ จากสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 โดย ส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สำนักงบประมาณประกอบการพิจารณารับการจัดสรรเงินด้วย 2. ให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณาการจัดสรรเงินสำรองจ่ายสำหรับโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการ ไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 8,500 ล้านบาท) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงบประมาณกำหนด โดยความเห็น ชอบของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555
|
||||||||||||||||||||||||
36631 | ยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ | ทส | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการ แก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่วิกฤต และการติดตามเฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกทำลายในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วไป โดยมีพื้นที่เป้าหมายคือ พื้นที่ทั่วไป ประกอบด้วย พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลน และพื้นที่วิกฤต ประกอบด้วย พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวน แห่งชาติ และป่าชายเลน ที่ประสบภาวะวิกฤตและล่อแหลมต่อการถูกบุกรุกทำลาย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 2. การดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำราย ละเอียดข้อมูล และความพร้อมในการดำเนินงาน ประกอบการนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เพื่อขอรับการจัดสรรเงินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (SP2) ตาม ขั้นตอนในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 และหากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการตามยุทธการดังกล่าว ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2557 ให้จัดลำดับความสำคัญของแผนการดำเนินงานตามความจำเป็นเร่งด่วน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย ผลลัพธ์ ผลผลิต กิจกรรมและตัวชี้วัดให้สอดคล้องกับยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติ และประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อใช้ ประกอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเพิ่มยุทธการในแผนงานฟื้นฟูสภาพป่ากิจกรรมควบคุมมิให้มีการขยายพื้นที่บุกรุกและป้องกันรักษาป่า โดย เร่งรัดการดำเนินโครงการปรับปรุงเขตพื้นที่ป่าไม้ (Reshape) ให้เกิดความต่อเนื่องและเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อจัดการ แผนที่แสดงขอบเขตที่ดินทุกประเภทของประเทศให้ชัดเจนสอดคล้องกับข้อเท็จจริงไม่ทับซ้อนกัน และช่วยแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือรัฐกับเอกชน นอกจากนี้ ควรประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและ มาตรการป้องกันรักษาและฟื้นฟูสภาพป่า (พ.ศ. 2551-2555) และมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และการป้องกันไฟป่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปแล้วเพื่อทบทวนยุทธการแก้ ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติให้มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติมากขึ้นและเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างมาตรการ เดิมและมาตรการที่เสนอมาใหม่ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย 3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการดำเนินการทำฝนเทียมในพื้นที่ประสบภัยแล้งและมีภาวะวิกฤต ด้านหมอกควันและฝุ่นละอองโดยด่วน เช่น พื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เป็นต้น โดยประสานการดำเนินการกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||||||||
36632 | ขออนุมัติเงินงบกลางเพื่อดำเนินการตามปฏิบัติการ "ประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2" | นร | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการตามที่เสนอขอ อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น เพื่อใช้ในการดำเนินการตามปฏิบัติการ "ประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2" จำนวน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรั้วชายแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ โครงการ แก้ไขปัญหายาเสพติดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการปราบปรามยาเสพติดและลดความเดือนร้อนของประชา ชนโครงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคประชาสังคม และ โครงการเสริมสร้างปัจจัยบวกให้กับเยาวชน ซึ่งสำนักงบประมาณได้ปรับลดอัตราค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และชะลอบางรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนน้อยและขาดรายละเอียด โดยให้สำนักงานคณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กองอำนวย การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป. 1 กอ.รมน.) บูรณาการแผนงาน/โครงการ และงบประมาณร่วม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการจัดสรรเงิน งบกลาง ผลการดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายเงินงบกลางให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. และสำนักงบประมาณทราบทุก เดือนด้วย 2. ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. รับไปประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขในการประชา สัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับสถานที่ติดต่อในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
|
||||||||||||||||||||||||
36633 | ขอรับการสนับสนุนงบกลางสำหรับการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินปี 2553 | สธ | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 44,824,800 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนบุคลากรในการปฏิบัติงานรับแจ้งเหตุ และสั่งการให้ชุดปฏิบัติการออกช่วยเหลือในอัตราตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทน ผู้ปฏิบัติงานนอกเวลา พ.ศ. 2550 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณ สุขพิจารณาใช้เงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนเป็นค่าตอบแทนในส่วนที่ยังขาดอยู่ 2. ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากรในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 6,814,000 บาท ให้สำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาใช้เงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุน 3. ส่วนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัด จำนวน 15,200,000 บาท และ ค่าตรวจสอบคุณภาพการจ่ายชดเชยการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 12,954,000 บาท ให้ชะลอไปดำเนิน การในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมกับความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
36634 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 2/2553 | นร | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทาง
เศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 2/2553 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 และเห็นชอบมติคณะกรรมการ กรอ. และมอบ หมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการ กรอ. ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ แล้วราย งานให้คณะกรรมการ กรอ. และคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ ดังนี้ 1. แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งระบบรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง คณะกรรมการ กรอ. มีมติดังนี้ 1.1 เห็นชอบในหลักการแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งระบบรางและอุตสาหกรรม เกี่ยวเนื่อง โดยให้ดำเนินการตามแผนที่นำทาง (Roadmap) ทั้ง 3 ระยะไปพร้อม ๆ กัน ส่วนการกำหนดหลัก เกณฑ์เงื่อนไข การให้แต้มต่อสำหรับการประมูลโครงการที่ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ด้วย ความระมัดระวังโดยต้องให้เป็นการแข่งขันโดยสมบูรณ์และไม่ขัดแย้งกับกฎกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) และพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งระบบ เช่น อายุการใช้งาน การซ่อมบำรุงรักษา และรูปแบบของการพัฒนาใหม่ ๆ เป็นต้น 1.2 มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของรูปแบบและแนวทางการดำเนิน งานของสถาบันพัฒนาระบบขนส่งทางรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว 2. แนวทางการแก้ไขปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินประจำของสายการบินที่ได้รับอนุญาตและแนวทาง พัฒนาและใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานภูมิภาค คณะกรรมการ กรอ. มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการ ยกเลิกเที่ยวบิน ฯ โดยให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินผลการดำเนินงานของสายการบินนก แอร์ ทั้งในด้านคุณภาพการให้บริการ การตรงต่อเวลา และความปลอดภัย 3. ความคืบหน้าข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 คณะกรรมการ กรอ. มีมติรับทราบความ คืบหน้าข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพิจารณาแก้ ไขปัญหาโดยตราเป็นกฎหมายเฉพาะสำหรับไม้เศรษฐกิจ อีกทั้งให้มีผลต่อการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ เอื้อต่อการประกอบการของอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ 4. ความคืบหน้าการดำเนินการตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมก่อสร้าง คณะกรรมการ กรอ. มีมติ รับทราบและให้กระทรวงแรงงานศึกษาแนวทางการอำนวยความสะดวกในกรณีผู้ประกอบการไทยได้รับประมูล งานก่อสร้างในต่างประเทศสามารถนำแรงงานไทยไปทำงานในประเทศนั้น ๆ ได้ โดยได้รับการดูแลด้านสวัสดิ การและคุณภาพชีวิตที่ดี
|
||||||||||||||||||||||||
36635 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการตามพระราชดำริ | รล | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 295,780,800 บาท เพื่ออุดหนุนให้กับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ฯ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวม 60 โครงการ ตามที่สำนักราชเลขาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
36636 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย | กค | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย โดยให้ มีการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ผู้โอนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิ ฯ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูล นิธิ ฯ ในการให้การสงเคราะห์แก่เด็กและผู้เยาว์ที่ถูกทอดทิ้งหรือได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ 2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม 2 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์สำหรับรายรับหรือการกระทำตราสารอันเนื่อง มาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก ของสภากาชาดไทย 2.2 ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎา กร มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองใน อสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย
|
||||||||||||||||||||||||
36637 | การจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองทัพไทย กับมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน | กห | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองทัพไทย กับมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมทั้ง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการศึกษาทางทหาร และความร่วมมือระหว่างกัน 2. ให้ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในบันทึกความร่วมมือ ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
36638 | การเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 - 2558 ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ | นร | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2558 หมวดเงิน
อุดหนุนทั่วไป เป็นรายปี ปีละ 300 ล้านบาท โดยตั้งไว้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดสรรต่อให้มูลนิธิ ปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ ฯ ใช้ดำเนินภาร กิจต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอขอตั้งงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
36639 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 จำนวน 2 ฉบับ (จังหวัดมุกดาหาร) | กษ | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอคำชะ อีจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... (โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยมุก) เพื่อให้มีการจัดทำคันและคูน้ำอันจะเป็นประโยชน์ ในการเกษตรและทำให้การใช้น้ำเป็นไปโดยประหยัด 2. ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติคันและคูน้ำ พ.ศ. 2505 บังคับในท้องที่อำเภอนิคม คำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... (โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขี้เหล็ก (เพิ่มเติม)) เพื่อให้มีการจัดทำคันและ คูน้ำอันจะเป็นประโยชน์ในการเกษตรและทำให้การใช้น้ำเป็นไปโดยประหยัด
|
||||||||||||||||||||||||
36640 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยตามชนิด ประเภท และ ขนาดของรถ พ.ศ. .... (ออกตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535) | กค | 09/03/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยตามชนิด ประเภท และ
ขนาดของรถ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยตามชนิด ประเภท และขนาดของรถ พ.ศ. 2547 2. เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อราย กรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ ถาวรจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และเพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อ ราย กรณีเสียชีวิตจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท 3. เพิ่มความคุ้มครองเงินชดเชยรายวัน กรณีพักรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่นอก เหนือจากค่าอนามัย จำนวนเงินวันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วันต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
|
.....