ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1763 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 35241 - 35260 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35241 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายเกียรติฟ้า เลาหะพรสวรรค์) | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายเกียรติฟ้า เลาหะพรสวรรค์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดย
ให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใด กระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้าม ให้เรียบร้อย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
35242 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2553 | กค | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2553 สรุปได้ดังนี้
1. อนุมัติแล้ว จำนวน 42,213 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 3,840 โครงการ วงเงิน 36,896.37 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 38,373 โครงการ วงเงิน 313,064.07 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 4,195 โครงการ วงเงิน 17,049.39 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 232 โครงการ วงเงิน 7,069.73 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 3,963 โครงการ วงเงิน 9,979.66 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 34,178 โครงการ วงเงิน 296,014.68 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 34,178 โครงการ วงเงิน 283,230.45 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 1,668 โครงการ วงเงิน 65,180.52 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) 31,185 โครงการ วงเงิน 191,285.30 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,325 โครงการ วงเงิน 26,764.63 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 32,510 โครงการ วงเงิน 218,049.93 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
35243 | รายงานความคืบหน้าการทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนตามมติคณะรัฐมนตรี | กษ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานความคืบหน้าการทบทวนระบบ
บริหารจัดการนมโรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 1. คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2553 มี มติเห็นชอบหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ภาคเรียนที่ 1/2553 และให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ซึ่งมีสาระสำคัญได้แก่ 1.1 หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 1.2 หลักเกณฑ์การจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 1.3 แนวปฏิบัติในการจัดซื้อนมโรงเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และโรงเรียนเอกชน 1.4 แนวปฏิบัติการในการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียน 1.5 มาตรการควบคุม กำกับ ดูแลการจำหน่ายนมในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน 1.6 ราคาจัดซื้อนมโรงเรียน กำหนดให้ลดจากราคากลางเดิมที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 13 พฤษภาคม 2552 โดยนมพาสเจอร์ไรส์ลดลงถุงล ะ 0.20 บาท และ นม ยู.เอช.ที. ลดลงกล่อง/ซองละ 0.25 บาท ยกเว้นพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา เฉพาะ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะบ้าย้อย นาทวี เทพา และจะนะ เฉพาะนม ยู.เอช.ที. ให้จัดซื้อในราคากลางเดิม 2. ผลการดำเนินงาน ได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ สำหรับภาคเรียนที่ 1/2553 รวม ทั้งสิ้น 68 ราย และสามารถจัดสรรสิทธิและพื้นที่การจำหน่ายนมโรงเรียนในระดับพื้นที่จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดย แยกประเภทผู้ซื้อเป็น อปท. จำนวน 7,851 แห่ง จำนวนนักเรียน 6,712,737 คน และเป็นโรงเรียนเอกชนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวนนักเรียน 1,411,450 คน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการนม โรงเรียนทั้ง 68 ราย รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรตามบันทึกข้อตกลง (MOU) รวม 1,211 ตันต่อวัน
|
|||||||||||||||||||||
35244 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ (จำนวน 9 ราย 1. นายสวัสดิ์ โชติพานิช ฯลฯ) | ยธ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน 9 คน เนื่อง
จากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดปัจจุบันได้ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ 1. นายสวัสดิ์ โชติพานิช 2. พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร 3. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ 4. นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม 5. นายสมพล เกียรติไพบูลย์ 6. พล.ต.อ.กฤษณะ ผลอนันต์ 7. พล.ต.หญิงดวงกมล สุคนธทรัพย์ 8. นายรอม หิรัญพฤกษ์ 9. นายธวัชชัย ยงกิตติกุล
|
|||||||||||||||||||||
35245 | ร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน | คค | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมและสรุปผลการดำเนินงานของคณะ กรรมการศึกษารายละเอียดการร่วมทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างประเทศไทยกับสาธารณ รัฐประชาชนจีน ๒. เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญของร่างกรอบการเจรจาเส้นทาง จาก “ความร่วม มือในการพัฒนากิจการรถไฟในเส้นทางหลัก ๓ เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย เส้นทางกรุงเทพฯ- ระยอง และเส้นทางกรุงเทพฯ-สุดชายแดนภายใต้ของประเทศไทย” เป็น “ความร่วมมือในการพัฒนากิจการ รถไฟในเส้นทางหลัก ๕ เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง เส้นทางกรุง เทพฯ-สุดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่” ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ ของรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสามของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
35246 | การขออนุมัติเปลี่ยนรูปแบบการจัดทำและต่ออายุพิธีสารความตกลงโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษา (วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล) และผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฝ่ายไทย | กต | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติการเปลี่ยนรูปแบบการจัดทำความตกลงระหว่างกรมราชองครักษ์และกระทรวงศึกษาธิการ เยาว ชน และการกีฬา ของกัมพูชา จากหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อแก้ไขและต่ออายุความตกลงโครงการพระราชทานความช่วย เหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาด้านการศึกษา (วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล) เพื่อขยายระยะเวลาโครงการฯ เป็นพิธีสาร แก้ไขความตกลงโครงการ และแก้ไขพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการ ฯ ค.ศ. 2005 ระหว่างกรมราชองค์รักษ์แห่งราช อาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการขยายความร่วม มือในการจัดตั้งและพัฒนาวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล จังหวัดกำปงธม ราชอาณาจักรกัมพูชา และให้พลเอก วาภิรมย์ มนัสรังษี รองสมุหราชองครักษ์ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในพิธีสารฯ ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 2. กรณีมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในร่างพิธีสารฯ ก่อนการลงนามโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง สาระสำคัญ ให้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก
|
|||||||||||||||||||||
35247 | มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา | ศธ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา และให้ส่วนราช การที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว และให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของกระทรวง กรม และ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักในการประสานและจัดทำแผน ปฏิบัติการเพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการให้มีผู้แทนกรมสุขภาพจิตเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดมาตรการ ดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้แก่เยาวชน รวมทั้งปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
35248 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 | ทส | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครง การระบบเครือข่ายน้ำห้วยหลวง-หนองหาน กุมภวาปี-ลำปาว-ชี-มูล และโครงการระบบเครือข่ายน้ำปากชม- ลำพะเนียง-ชี-มูล ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2553 ตาม ที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอและรับทราบ ข้อตกลงระหว่างกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำเกี่ยวกับขอบเขต บทบาท และภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้นำไปพิจารณาศึกษาในรายละเอียดและนำมาเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติอีกครั้ง 2. รับทราบมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2553 ดังนี้ 2.1 เห็นชอบให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติกำกับ ดูแล ให้คำปรึกษา และอำนวยการจัด ประชุม The 2nd Asia-Pacific Water Summit (The 2nd APWS) ในภาพรวม และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เตรียมการจัด 2nd APWS จำนวน 4 คณะ 2.2 ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร รับเรื่องโครงการจัดการน้ำชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ในภาคอีสาน และภาคเหนือ พื้นที่นอกเขตชล ประทานโดยชุมชน อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาทบทวนใหม่ โดยนำข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมไปประกอบ การพิจารณาดำเนินการ 2.3 รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ จำนวน 3 คณะ และคณะทำงาน จำนวน 1 คณะ คือ คณะอนุกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและ หลักเกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ คณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ ชุ่มน้ำ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... 2.4 รับทราบมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการระบบเครือข่ายน้ำ ในพื้นที่วิกฤตน้ำ จำนวน 19 พื้นที่ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ไปหารือและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ อีก 11 โครงการ รวมทั้งพิจารณาขอบเขต บทบาท ภารกิจของหน่วยงานทั้งสอง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านนโยบาย การบริหาร การก่อสร้าง และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนใน การกำหนดภารกิจและการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน 2.5 รับทราบการจัดงานโครงการเหลืองฟ้ามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวฯ "ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ" เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ ประจำปี 2553 ในวันที่ 24 กันยายน 2553 ณ ศูนย์การค้าประตูน้ำขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2.6 รับทราบการเข้าร่วมการประชุม Singapore International Water Week (SIWW) 2010- Water Leaders Summit ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2553 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.7 รับทราบกำหนดการเข้าร่วมประชุมในงานสัปดาห์น้ำโลก ครั้งที่ 20 หรือ 2010 Stockholm World Water Week ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ละสิ่งแวดล้อม
|
|||||||||||||||||||||
35249 | เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเรียกร้องขอปรับเพิ่มราคาน้ำนมดิบ | กษ | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มราคารับซื้อน้ำนมดิบ ตามมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์
นม ในการประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 โดยปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 0.50 บาท (จากเดิมราคา 16.50 บาท/กิโลกรัม เพิ่มเป็น 17.00 บาท/กิโลกรัม) ตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (7 กันยายน 2553) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
35250 | ร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ 6 กันยายน 2553 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
35251 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ 6 กันยายน 2553 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... โดยให้เสนอร่างพระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับ ต่อสภาผู้ แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุด ที่ 23 ปีที่ 3 ครั้งที่ 8 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2553 และครั้งที่ 9 (สมัยสามัญนิติ บัญญัติ) วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2553 และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัย สามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 8 กันยายน 2553
|
|||||||||||||||||||||
35252 | ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ 6 กันยายน 2553 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ บรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
35253 | ร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. .... | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์
ที่ 6 กันยายน 2553 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทน ราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
35254 | การปรับบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ | นร | 07/09/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 (มติข้อ 3 และข้อ 4) เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ การอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ รวม 9 ฉบับ และบัญชีค่าตอบแทนของประธานกรรมการและ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2. ให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาและบัญชีค่าตอบแทนของ ประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||
35255 | ขออนุมัติกำหนดค่าตอบแทนสำหรับข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานในพื้นที่พิเศษภาคใต้ | ศย | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. มอบให้คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.บ.จ.ต.) รับเรื่อง ขออนุมัติกำหนดค่าตอบแทนสำหรับข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานในพื้นที่พิเศษภาคใต้ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ไปพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ที่เห็นว่า การกำหนดอัตราค่าตอบแทนสำหรับข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานในพื้นที่พิเศษภาคใต้ ตามข้อเสนอของสำนักงานศาลยุติธรรม รัฐบาลจะมีภาระด้านงบประมาณเพิ่มขึ้นปีละประมาณ ๒๗.๗๖ ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้จัดสรรงบประมาณให้ปีละ ๑๒.๒๒ ล้านบาท สำหรับเป็นเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษภาคใต้คนละ ๒,๕๐๐ บาท จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการคลังออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษสำหรับข้าราชการฝ่ายตุลาการยุติธรรมที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษภาคใต้ในอัตราที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ข้าราชการประเภทอื่น ๆ ด้วย และในการกำหนดค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของฝ่ายตุลาการที่ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษภาคใต้ ควรพิจารณาความจำเป็นพิเศษในการกำหนดค่าตอบแทนเหมาจ่ายดังกล่าว รวมทั้งความเท่าเทียมกันในการได้รับค่าตอบแทนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษที่มีความไม่สงบและความรุนแรงในพื้นที่พิเศษภาคใต้ทุกราย เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในระบบค่าตอบแทนของบุคลากรภาครัฐในภาพรวม และความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ข้อ ๕ กำหนดว่า “เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ... ซึ่งได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น ข้าราชการฝ่ายตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยู่ในความหมายของคำว่า “เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน” ตามระเบียบฯ และมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในอัตราที่เท่าเทียมกันหมดทุกระดับชั้น สำหรับกรณีที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติหลักการให้มีการกำหนดค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรมในอัตราที่สูงกว่าค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับอยู่ในปัจจุบันในลักษณะเดียวกับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษดังกล่าว นั้น ต้องพิจารณาถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาความเหมาะสมก่อนที่จะดำเนินการต่อไป ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||
35256 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการกระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ. .... | นร | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์การกระทำที่ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ตาม มาตรา 83 (8) โดยต้องเป็นกรณีข้าราชพลเรือนสามัญกระทำต่อข้าราชการด้วยกัน หรือผู้ร่วมปฏิบัติราชการ ไม่ว่า จะเกิดขึ้นในหรือนอกสถานที่ราชการ โดยผู้ถูกกระทำมิได้ยินยอมต่อการกระทำนั้น หรือทำให้ผู้ถูกกระทำเดือดร้อน รำคาญ และการกระทำดังกล่าวมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนด เช่น กระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มี ลักษณะส่อไปในทางเพศ กระทำการด้วยด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ เป็นต้น ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
35257 | การปรับแก้รายละเอียดกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย - บาห์เรน | กต | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. เพิ่มกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรน จากหน่วยราชการ จำนวน 3 แห่ง คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงกลาโหม 2. เพิ่มกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรน จากหน่วยงานเอกชน จำนวน 3 แห่ง คือ สมาคมโรงพยาบาลไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 3. เห็นชอบในหลักการที่จะให้กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยงานทั้งภาคราชการ และภาคเอกชนที่มีสารัตถะเกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมาธิการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก
|
|||||||||||||||||||||
35258 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.ค.ศ. ที่เกี่ยวข้อง รวม 3 ฉบับ | ศธ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. จำนวน 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ 1.1 ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนด การจัดประเภทตำแหน่งและระดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตา 38 ค.(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 1.2 ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการ ศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ได้รับเงินเดือน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพล เรือนสามัญ ท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งตามมาตรา 38 วรรคสอง แห่งพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ พลเรือนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ได้รับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญ มาใช้บังคับกับข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา โดยอนุโลม 1.3 ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแห่นงบุคลากรทางการ ศึกษาอื่นตามมาตา 38 ค.(2) ได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตาม มาตรา 38 ค.(2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของการได้รับเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งประเภทวิชา การ ระดับชำนาญการ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับเงินประจำตำแหน่งให้สอดคล้องกับการได้รับเงิน ประจำตำแหน่งสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการของข้าราชการพลเรือนสามัญ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิด ความเป็นธรรม และไม่เหลื่อมล้ำกับการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามความเห็นของ สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง แล้วดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
35259 | การขอปรับสถานภาพครูศูนย์การเรียนชุมชน (ครู ศรช.) เป็นพนักงานราชการ | ศธ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติการปรับสถานภาพครูศูนย์การเรียนชุมชน (ครู ศรช.) เป็นพนักงานราชการ จำนวน 8,672 คน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ ให้กำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างเป็นเวลา 2 ปี (วันที่ 1 ตุลาคม 2553-วันที่ 30 กันยายน 2555) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาตามกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการของส่วน ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2555 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2555) 2. ในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับสถานภาพครูและค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่เพิ่มขึ้นในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554-2555 ให้กระทรวงศึกษาธิการบริหารการใช้จ่ายภายในกรอบวงเงินงบประมาณของ กระทรวงที่ได้รับการจัดสรร |
|||||||||||||||||||||
35260 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงิน และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนรวมและปฏิบัติการคณะวิทยาศาสตร์ โดยขอยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 | ศธ | 31/08/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูก
พันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารเรียนรวมและปฏิบัติการคณะวิทยาศาสตร์ ความสูง 6 ชั้น จากวงเงิน 149,999,900 บาท เป็นวงเงิน 162,180,837.79 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จาก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-2550 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-2551 โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-2551 จำนวน 149,999,900 บาท ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายแล้ว และ ใช้เงินนอกงบประมาณสมทบอีกจำนวน 12,180,937.79 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
.....