ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1136 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 22701 - 22720 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22701 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแผนงานฉบับปรับปรุงว่าด้วยการรักษาและเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียน | กต | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแผนงานฉบับปรับปรุงว่าด้วยการรักษาและเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียน โดยสาระสำคัญของร่างแผนงานฉบับปรับปรุงฯ ประกอบด้วยหลักการทั่วไปและข้อเสนอแนะเฉพาะด้านต่าง ๆ เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาคปัจจุบันหรือที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตซึ่งอาเซียนจำเป็นต้องเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเหนียวแน่น ความน่าเชื่อถือ และความสำคัญของตนเองในมิติต่าง ๆ ๕ มิติ ได้แก่ (๑) ความเป็นแกนกลางภายใน (๒) ความเป็นแกนกลางกับจุดเปราะบางในภูมิภาค (๓) ความเป็นแกนกลางกับมหาอำนาจและคู่เจรจาอื่น ๆ (๔) ความเป็นแกนกลางกับสถาปัตยกรรมในภูมิภาค และ (๕) ความเป็นแกนกลางภายนอกอาเซียน ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแผนงานดังกล่าว ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแผนงานฉบับปรับปรุงฯในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22702 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบกลาง สำหรับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | นร07 | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง สำหรับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ จำนวน ๖ คณะ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๓,๖๘๕,๒๐๐ บาท ๒. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ ระดับภาค ๑-๔ จำนวน ๓,๑๓๖,๑๔๐ บาท ๓. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จังหวัดทุกจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) จำนวน ๓๒,๒๕๔,๔๐๐ บาท ๔. คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๒๙๖,๓๐๐ บาท ๕. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๕,๗๘๖,๓๖๐ บาท ๖. คณะอนุกรรมการเทคนิคการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ จำนวน ๒๐,๐๕๗,๒๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||
22703 | ขอยกเลิกการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (เฉพาะราย) (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายวิมล จันทรโรทัย และนางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์) | กษ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติยกเลิกการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๘ ที่อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๔ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นการเฉพาะราย รวม ๒ ราย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. ยกเลิกการแต่งตั้ง นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง ๒. ยกเลิกการแต่งตั้ง นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
22704 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (กระทรวงการคลัง) (นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์)] | กค | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กันยายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22705 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายโยธิน มูลกำบิล) | ศธ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายโยธิน มูลกำบิล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กันยายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22706 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม (กระทรวงอุตสาหกรรม) (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนางวารี จันทร์เนตร) | อก | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กันยายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ๒. นางวารี จันทร์เนตร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||
22707 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรมาดำรงตำแหน่งแทนในตำแหน่งที่ว่าง (นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์) | กษ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร แทนนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ที่ลาออก โดยให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน ทั้งนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ กันยายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22708 | การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) | ยธ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และให้แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22709 | การรับโอนข้าราชการตำรวจมาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์) | นร | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22710 | รายงานผลการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ปี 2558 | นร11 | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ MDG 1 ขจัดความยากจนและหิวโหย ประเทศไทยสามารถบรรลุผลในการลดความยากจนให้เหลือกึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ แต่ยังไม่บรรลุผลในการลดสัดส่วนประชากรยากจนให้ต่ำกว่าร้อยละ ๔ (MDG+) ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดสัดส่วนประชากรหิวโหยลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ และมีโอกาสประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามเป้าหมายให้กำลังแรงงานทั้งหมดได้ทำงานที่มีคุณค่า ๑.๒ MDG 2 ให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษา ประเทศไทยยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา และไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นภายในปี ๒๕๔๙ และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนถึงปี ๒๕๕๗ และมีแนวโน้มต่ำที่จะบรรลุได้ภายในปี ๒๕๕๘ (MDG+) ๑.๓ MDG 3 ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและส่งเสริมบทบาทสตรี ประเทศไทยบรรลุผลตามเป้าหมายขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศในการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาภายในปี ๒๕๔๘ และถือได้ว่าบรรลุตามเป้าหมายขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศในการศึกษาทุกระดับ (ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา) ในขณะที่ประเทศไทยไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในรัฐสภา องค์การบริหารส่วนตำบล และตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของราชการเป็นสองเท่าในช่วงปี ๒๕๔๕-๒๕๔๙ (MDG+) ๑.๔ MDG 4 ลดอัตราการตายของเด็ก ประเทศไทยมีโอกาสบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในการลดอัตราการตายเด็กอายุต่ำกว่าห้าปีลงสองในสาม ภายในช่วงปี ๒๕๓๓-๒๕๕๘ และสามารถบรรลุเป้าหมายลดอัตราการตายของทารกให้เหลือ ๑๕ ต่อการเกิดมีชีพพันคนภายในปี ๒๕๔๙ (MDG+) แต่มีโอกาสต่ำในการบรรลุเป้าหมายลดอัตราการตายของเด็กอายุต่ำกว่าห้าปีในเขตพื้นที่สูงในบางจังหวัดในภาคเหนือและในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ลงครึ่งหนึ่งในช่วงปี ๒๕๔๘-๒๕๕๘ ๑.๕ MDG 5 การพัฒนาสุขภาพสตรีมีครรภ์ ประเทศไทยไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดอัตราส่วนการตายของมารดาลงสามในสี่ในช่วงปี ๒๕๓๓-๒๕๕๘ หรือลดลงประมาณ ๓๑.๕ ต่อการเกิดมีชีพแสนคน และไม่บรรลุเป้าหมายการลดอัตราส่วนการตายของมารดาให้เหลือ ๑๘ ต่อการเกิดมีชีพแสนคน (MDG+) ในขณะที่ประเทศไทยมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายการเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ในบางด้าน ๑.๖ MDG 6 การต่อสู้โรคเอดส์ มาเลเรีย และโรคสำคัญอื่น ๆ ประเทศไทยมีโอกาสจะบรรลุเป้าหมายที่จะชะลอและลดการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ภายในปี ๒๕๕๘ และมีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ได้รับการดูแลรักษาอย่างทั่วถึงภายในปี ๒๕๕๘ ๑.๗ MDG 7 รักษาและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ประเทศไทยกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาประเทศที่มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการลดอัตราการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและลดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดสัดส่วนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและส้วมที่ถูกสุขลักษณะครึ่งหนึ่งภายในปี ๒๕๕๘ และมีโอกาสที่จะบรรลุการยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรในชุมชนแออัด ๑๐๐ ล้านคนทั่วโลกภายในปี ๒๕๖๓ แต่ไม่สามารถลดอัตราการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพภายในปี ๒๕๕๓ ในขณะที่ประเทศไทยไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายในด้านสัดส่วนแม่น้ำสายหลักที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ตั้งแต่ระดับพอใช้ขึ้นไป และการเพิ่มสัดส่วนการนำขยะมูลฝอยมาใช้ประโยชน์ (MDG+) ๑.๘ MDG 8 ส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาระบบการค้าและการเงินให้เป็นระบบเสรี ตั้งอยู่บนกฎระเบียบ คาดการณ์ได้ และไม่แบ่งแยก และสามารถบรรลุเป้าหมายสัดส่วนความช่วยเหลือที่ให้แก่ประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดต่อมูลค่าความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance : ODA) ทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถบรรลุเป้าหมายสัดส่วนความช่วยเหลือที่ให้แก่ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลและรัฐกำลังพัฒนาขนาดเล็กที่เป็นเกาะต่อมูลค่า ODA ทั้งหมด และสามารถบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาหนี้ในประเทศกำลังพัฒนาผ่านนโยบายระดับประเทศและระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการร่วมมือกับบรรษัทยาดำเนินการให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงยาที่จำเป็นได้ ๒. ให้ทุกกระทรวงไปพิจารณาแนวทางสานต่อภารกิจที่ยังไม่บรรลุผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) และดำเนินการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งจะเป็นวาระการพัฒนาใหม่ของโลกภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
22711 | รายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๑๘ กันยายน ๒๕๕๘ มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้วทั้งสิ้น ๓,๐๐๒,๓๕๐ ล้านบาท (รวมเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจและเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๑๓๙,๖๑๖ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณรายไตรมาส ทั้งในส่วนของรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
22712 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ (MOU between ASEAN and China in the Field of Non - Traditional Security Issues) | ตช | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติและเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ (MOU between ASEAN and China in the Field of Non-Traditional Security Issues) มีสาระสำคัญเพื่อพัฒนายุทธศาสตร์ในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ การกระทำอันเป็นโจรสลัด การฟอกเงิน และอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ๑.๒ อนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยที่จะเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ ๓๐ สามารถให้ความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในที่ประชุมได้ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในกรณีที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ เช่น paragraph และ participants โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติหารือกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับความถูกต้องเหมาะสมของการใช้ถ้อยคำ รวมทั้งควรตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของคำแปลร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาไทยด้วย เนื่องจากยังมีเนื้อหาที่ไม่ตรงกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาอังกฤษ เช่น ความใน paragraph 2 2.b. ที่ไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
22713 | ขอความเห็นชอบการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2557 เงินกันเบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน และขออนุมัติขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2556 - 2557 [จัดงานแสดงสินค้าสุดยอดแบรนด์ไทย (Top Thai Brand)] | พณ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน จำนวน ๙๐ ล้านบาท ไปตั้งจ่ายในงบประมาณในงบรายจ่ายอื่น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแสดงสินค้า “สุดยอดแบรนด์ไทย Top Thai Brands” ในประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม (CLMV) และจีนตอนใต้ รวม ๗ ครั้ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. อนุมัติให้หน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ จำนวน ๔ หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินรายการที่ได้รับการกันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีต่อไป ขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗ จำนวน ๖๗๙,๖๐๔,๓๐๐ บาท ได้เป็นกรณีเฉพาะราย ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวจะต้องเร่งรัดการดำเนินการและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงพาณิชย์ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ หากโครงการใดมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบหรืออนุมัติ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนการดำเนินการ |
||||||||||||||||||||||||
22714 | แนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย | สลธ.คสช. | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือในเรื่องภาระหนี้สิน การให้ความช่วยเหลือในระหว่างที่ไม่สามารถออกทำการประมงได้ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่มีความต้องการเปลี่ยนเครื่องมือทำการประมง และ/หรือเปลี่ยนอาชีพ ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้น ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเร่งกำหนดมาตรการระยะยาวรองรับโดยไม่เป็นภาระกับภาครัฐ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย ๒. ในส่วนงบประมาณสำหรับการดำเนินการให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงหรือดำเนินการอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งหากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายจากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีสำนักฉุกเฉินหรือจำเป็น ก็เห็นสมควรที่จะปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ในเรื่องการใช้จ่ายเงินงบกลาง และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
22715 | ขออนุมัติลงนามในบันทึกการหารือของคณะทำงานเพื่อความร่วมมือไทย (ภาคเหนือ) - ยูนนาน ครั้งที่ 5 | กต | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกการหารือคณะทำงานไทย (ภาคเหนือ)-ยูนนาน ครั้งที่ ๕ มีสาระสำคัญระบุถึงข้อเสนอและแนวทางในการขยายผลความร่วมมือรายสาขาระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงทางเครือข่ายคมนาคม การอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ ด้านการขนส่งสินค้า การเกษตร สาธารณสุขและความร่วมมือด้านการแพทย์ เมืองพี่เมืองน้อง การท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรมและกีฬา ความมั่นคง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเงิน พลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้มีความร่วมมืออย่างรอบด้านและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งนำบันทึกการหารือฯ ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุนให้ฝ่ายจีน สปป.ลาว และไทย ร่วมหารือในรายละเอียดต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ลาว-จีน ในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งและผู้โดยสาร ณ จุดผ่านแดน เชียงของ-ห้วยทราย และจุดผ่านแดน บ่อเต็น-โมฮาน เพื่อให้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. อนุมัติให้อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกการหารือฯ ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกการหารือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศไทย) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22716 | สถานการณ์น้ำและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2558/59 | กษ | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำ สถานการณ์การปลูกข้าวนาปี ๒๕๕๘ และคาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ และเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ จำนวน ๘ มาตรการ ได้แก่ (๑) การส่งเสริมความรู้และการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน (๒) การชะลอหรือขยายระยะเวลาการชำระหนี้ที่เกษตรกรมีภาระหนี้กับสถาบันการเงิน (๓) การจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร (๔) การเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง (๕) การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (๖) การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน (๗) การเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และ (๘) การสนับสนุนอื่น ๆ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยให้พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการปรับพฤติกรรม การปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ของเกษตรกร และต้องให้ประชาชนได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางการส่งน้ำโดยใช้ระบบท่อน้ำปิดเพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณการปล่อยน้ำได้อย่างเป็นระบบโดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการนอกเหนือจากที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว ให้ดำเนินการขออนุมัติงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำแผนรองรับด้านการตลาดของสินค้าเกษตรแต่ละชนิดด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22717 | รายงานผลการดำเนินการพัฒนาศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (Government Access Channels ) | ทก | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการดำเนินการพัฒนาศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (G-Channels) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูลและบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐของหน่วยงานต่าง ๆ ได้จากจุดเดียว ซึ่งมีช่องทางในการให้บริการของศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน ๓ ช่องทาง ได้แก่ ๑.๑ การให้บริการผ่านเว็บไซต์ (website) โดยประชาชนสามารถเข้าใช้บริการจาก ๑.๑.๑ เว็บไซต์กลางบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ https://www.egov.go.th ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐที่เข้าร่วม จำนวน ๔๔๔ หน่วยงาน ๑.๑.๒ ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการผ่านเว็บไซต์ https://info.go.th ๑.๑.๓ ศูนย์รวมข้อมูลเปิดภาครัฐ https://data.go.th ซึ่งเป็นการให้บริการข้อมูลเชิงสถิติ ๑.๒ การให้บริการผ่านโปรแกรมเข้าถึงจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Application) ซึ่งสามารถดาวน์โหลด Application ผ่านทางเว็บไซต์ https://apps.go.th และใช้ได้ทันที ปัจจุบันมีการบริการ จำนวน ๑๐๘ บริการ ๑.๓ ช่องทางอื่น ๆ ได้แก่ ๑.๓.๑ การให้บริการผ่านจุดบริการข้อมูลประชาชนผ่านบัตรประชาชน Government Kiosk ซึ่งได้มีการติดตั้งแล้ว ๒ แห่ง ณ ศูนย์ G-Point สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา ๑.๓.๒ จุดบริการข้อมูลข่าวสาร Set Top Box หรือ Smart Box โดยมีแนวคิดการให้บริการเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของส่วนราชการ และเป็นช่องทางในการให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจ ข้อมูลทางการเกษตร เป็นต้น ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการพัฒนาช่องทางในการเข้าถึงและเชื่อมโยงข้อมูลของการบริการภาครัฐ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมการใช้งาน เช่น Software หรือ Application ให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสามารถจูงใจให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ในการดำเนินการให้คำนึงถึงประชาชนผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้โดยง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวก และสามารถเรียนรู้ได้เร็ว ทั้งนี้ ให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินการของศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชนด้วย ๓. ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ให้การสนับสนุนการดำเนินการของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ในการนำข้อมูลและบริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาเผยแพร่และให้บริการผ่านศูนย์กลางข้อมูลและบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (G-Channels) ในช่องทางต่าง ๆ ๔. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการ กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน (G-Channels) ให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานและการเข้าถึงศูนย์บริการภาครัฐดังกล่าวให้แก่นักเรียน นักศึกษา เพื่อถ่ายทอดและสร้างการรับรู้ไปยังครอบครัว ชุมชน และท้องถิ่นของตนต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
22718 | ผลการปฏิบัติงานของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน - อาเซียน (China - ASEAN Expo : CAEXPO) ครั้งที่ 12 | นร | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รายงานเกี่ยวกับการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo : CAEXPO) ครั้งที่ ๑๒ ณ เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายน ๒๕๕๘ ว่าการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้เดินทางร่วมกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยได้พบปะและหารือกับผู้แทนประเทศต่าง ๆ ดังนี้
๑. การหารือทวิภาคีกับนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในประเด็นความร่วมมือการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การสนับสนุนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นประธานอาเซียนในปี ๒๕๕๙ และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและพลังงาน โดยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ได้ให้ความเชื่อมั่นว่าประเทศในอาเซียนจะต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ๒. การหารือกับนายจาง เกาลี่ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน คนที่ ๑ เกี่ยวกับความคืบหน้าการพัฒนาระบบรางและความเชื่อมโยงของภูมิภาค รวมถึงความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร ๓. นายเผิง ชิงหัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นในการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน เครือข่ายคมนาคม และการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพที่จะเป็นประตูเชื่อมอาเซียนและจีน รวมทั้งการแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงด้วย การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนในครั้งนี้นอกจากจะประสบความสำเร็จในการสานต่อความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีเพื่อเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22719 | รายงานผลการดำเนินการกิจกรรม NBT World Open House | นร02 | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) รายงานว่า
๑. กรมประชาสัมพันธ์ได้ดำเนินงานสถานีโทรทัศน์ NBT World ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ เริ่มออกอากาศตลอด ๒๔ ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นต้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ สามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่ใช้อ้างอิงได้ในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ๒. เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดกิจกรรม NBT World Open Houseเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สถานีโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ ๒๔ ชั่วโมง NBT World ต่อหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย คณะทูตานุทูตและผู้แทนจาก ๒๐ ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ จำนวนรวม ๖๕ คน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเปิดพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนนานาชาติ ๓. หากคณะรัฐมนตรีมีข้อมูลข่าวสารที่ต้องการประชาสัมพันธ์ สามารถใช้ช่องทาง NBT World เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ไปยังชาวต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องได้
|
||||||||||||||||||||||||
22720 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 22/09/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๘ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๗/๒๕๕๘ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๘ และครั้งที่ ๕๘/๒๕๕๘ ในวันศุกร์ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
.....