ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 6 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 101 - 120 จากข้อมูลทั้งหมด 3503 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
101 | ขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 14 | สธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๑๔ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้แทนร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงฯ
โดยร่างถ้อยแถลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการสนับสนุนให้เขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคเสริมสร้างระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม
โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น การเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาด
การส่งเสริมบทบาทและความเท่าเทียมทางเพศภาวะ
การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบสุขภาพปฐมภูมิกับการเสริมสร้างการศักยภาพของกำลังคนด้านสุขภาพในระบบสุขภาพ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
ที่เห็นว่าร่างถ้อยแถลงฯ ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
แต่โดยที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย กระทรวงสาธารณสุขควรเสนอร่างถ้อยแถลงฯ
ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
102 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก หรือจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต
นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. ที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด
รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th)
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
103 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ฯลฯ จำนวน 13 ราย) | สธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงสาธารณสุขให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๑๓ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ สับเปลี่ยนหมุนเวียน
และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางอัมพร
เบญจพลพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอนามัย ๒. นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ๓. นายทวีศิลป์
วิษณุโยธิน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์ ๔. นายภานุมาศ
ญาณเวทย์สกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ๕. นายกิตติศักดิ์
อักษรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต ๖. นายภานุวัฒน์ ปานเกตุ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ๗.
นายสมกฤษ์ จึงสมาน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ๘.
นายภูวเดช สุระโคตร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙.
นายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐.
นายศักดา อัลภาชน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑.
นายวีรวุฒิ อิ่มสำราญ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒.
นายปรีชา เปรมปรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๓.
นางสาวสุภัทรา บุญเสริม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
104 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีทางปกครอง
(ฉบับที่..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐตามมาตรา
๖๓/๑๕ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองได้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
105 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายอภิรัต กตัญญุตานนท์) | สธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอภิรัต กตัญญุตานนท์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) สูง] สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลระยอง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่
๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่คุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์และมีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
106 | ยุทธศาสตร์การปฏิรูปกำลังคนและภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบ ระยะ 10 ปี | สธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการยุทธศาสตร์การปฏิรูปกำลังคนและภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบ
ระยะ ๑๐ ปี ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ ๑
เร่งผลิตและพัฒนากำลังคนให้เพียงพอต่อการให้บริการด้านสาธารณสุข
โดยเฉพาะโรคสำคัญจำเป็นเร่งด่วนต่อภาระทางสุขภาพและทิศทางของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่
๒ พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขเชิงพื้นที่เป็นหนึ่งเดียว ยุทธศาสตร์ที่ ๓
สนับสนุนส่งเสริมบริการสุขภาพที่มีศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และยุทธศาสตร์ที่
๔ สร้างเสริมระบบและกลไกการอภิบาลกำลังคนด้านสุขภาพให้เข้มแข็ง และแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤติเร่งด่วนของการขาดแคลนกำลังคนทางการพยาบาล
ประกอบด้วย ๓ แนวทาง ดังนี้ ๑) เพิ่มกำลังการผลิตกำลังคนทางการพยาบาล
โดยเพิ่มการผลิตบุคลากรสาขาพยาบาลศาสตร์ กำลังการผลิตผู้ช่วยพยาบาล และการจ้างผู้เกษียณเข้าทำงานในระบบ
๒) เพิ่มการคงอยู่ของบุคลากรพยาบาลในระบบ โดยเพิ่มตำแหน่งข้าราชการอัตราตั้งใหม่
เพิ่มค่าตอบแทน สนับสนุนทุนการพัฒนาศักยภาพการพยาบาลเฉพาะทาง
สนับสนุนทุนการศึกษาพยาบาล เพิ่มความก้าวหน้าให้พยาบาลวิชาชีพ และ
เพิ่มกรอบตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล และ ๓) เพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงาน ก.พ. เห็นควรเร่งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลกลางกำลังคนด้านสุขภาพของประเทศให้มีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน
รวมถึงควรจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิตและการบริหารอัตรากำลังในสายงานอื่นที่จำเป็นต่อการให้บริการทางการแพทย์ด้วย
เช่น นักจิตวิทยาคลินิก นักกิจกรรมบำบัด หรือนักกายอุปกรณ์ เป็นต้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นควรมีจุดเน้นของแผนในแต่ละยุทธศาสตร์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวว่า
จะดำเนินการไปในทิศทางใด เช่น การผลิตกำลังคนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ
การผลิตกำลังคนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
การผลิตกำลังคนเพื่อรองรับกับโรคอุบัติใหม่
หรือการผลิตกำลังคนเพื่อตอบโจทย์การเป็น Excellent
Center เป็นต้น และควรมีการประเมินและติดตามผลการดำเนินมาตรการและตัวชี้วัดทั้งในเชิงผลผลิตและผลลัพธ์เป็นประจำทุกปี
เพื่อให้สามารถปรับแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมยิ่งขึ้น
และรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
107 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ และนายวิทยา พลสีลา) | สธ. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการะดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวทัศลาภา แดงสุวรรณ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๖ ๒. นายวิทยา พลสีลา ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
108 | ร่างกฎกระทรวงการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. .... | สธ. | 30/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไข รวมทั้งอัตราค่าธรรมเนียมการนำผ่านวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
109 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... | สธ. | 30/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ และประเภท ๓
หรือวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ ประเภท ๓ และประเภท ๔
สำหรับผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยซึ่งเดินทางระหว่างประเทศและมีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทดังกล่าวรักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
110 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด | สธ. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุปได้ว่า ๑)
มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดก่อนการตั้งครรภ์ ในระยะสั้นและระยะกลาง
มีการเสนอขอเพิ่มสิทธิประโยชน์การป้องกันความพิการแต่กำเนิดด้วยยาเม็ดกรดโฟลิก
เสนอขออนุมัติสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมคนไทยทุกสิทธิ ทั้งนี้
การเข้ารับบริการกรดโฟลิกสามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ได้ ๒)
มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดระหว่างการตั้งครรภ์ ในระยะสั้นและระยะยาว โดยตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
ได้เริ่มดำเนินการคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย ทุกสิทธิ
มีการขอเพิ่มการคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT และให้เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตนต่างด้าวเหมือนคนไทย
โดยให้เบิกจากกองทุนประกันสังคมแรงงานต่างด้าว และ ๓)
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เห็นด้วยกับหลักการที่จะส่งเสริมการผสมกรดโฟลิกในส่วนผสมอาหาร
กรมอนามัยเห็นว่า การบริโภคผัก ผลไม้ให้ได้ ๔๐๐ กรัมต่อวัน
ปริมาณโฟเลตที่ได้รับจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
มีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ประโยชน์
และความจำเป็นต่อการบริโภคกรดโฟลิกของหญิงวัยเจริญพันธุ์การตรวจคัดกรองดาวน์ชินโดรมของหญิงตั้งครรภ์
กระทรวงศึกษาธิการมีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
ที่ให้สถานศึกษานำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติและเนื้อหาประโยชน์และความจำเป็นต่อการบริโภคกรดโฟลิกของหญิงวัยเจริญพันธุ์อยู่ในสาระที่
๔ การสร้างเสริมสุขภาพสมรรถภาพและการป้องกันโรค ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
111 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (1. นายวิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ฯลฯ จำนวน 13 คน) | สธ. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
จำนวน ๗ คน
และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
จำนวน ๖ คน รวมจำนวน ๑๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
จำนวน ๗ คน ๑.๑ นายวิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ด้านประกันสุขภาพ ๑.๒ ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ๑.๓ นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ด้านการแพทย์แผนไทย ๑.๔
นายประทีป ธนกิจเจริญ ด้านการแพทย์ทางเลือก ๑.๕ นางมานิดา ภู่เจริญ ด้านการเงินการคลัง ๑.๖ นายสุวิช ชูตระกูล ด้านกฎหมาย ๑.๗ รองศาสตราจารย์อภิญญา เวชยชัย ด้านสังคมศาสตร์ ๒. คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
จำนวน ๖ คน ๒.๑ นายวิชัย อัศวภาคย์ สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว ๒.๒ นางสาวโชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ สาขาจิตเวช ๒.๓ นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ สาขาการแพทย์แผนไทย ๒.๔ ศาสตราจารย์คลินิกสุพรรณ ศรีธรรมมา สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน ๒.๕ นางวัชรา ริ้วไพบูลย์ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
๒.๖
ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์ สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
112 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด พ.ศ .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาต
รวมทั้งเงื่อนไขในการโฆษณาตามใบอนุญาตเกี่ยวกับการบำบัดรักษายาเสพติด
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
113 | ร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง
การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการดำเนินการเฝ้าระวัง
ป้องกัน หรือควบคุมโรคของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
โดยผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายสามารถยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายด้วยตัวเองได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสำนักอนามัย
กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี โดยผู้เสียหายอาจมีสิทธิได้รับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหาย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย เห็นควรเพิ่มช่องทางการยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายของผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมเพิ่มเติมจากที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
เช่น กำหนดให้ผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายสามารถยื่นคำขอ ณ
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือช่องทางอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เห็นว่าพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไม่ได้บัญญัติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดค่าทดแทนเพื่อชดเชยแก่ผู้เสียหายดังกล่าวไว้
จึงเป็นประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการออกกฎหมายลำดับรองเกินกว่าหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครตามที่กฎหมายแม่บทกำหนด ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง
เห็นควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพ
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ กระทรวงมหาดไทย
เห็นควรเพิ่มช่องทางการยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายของผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมเพิ่มเติมจากที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
หรือช่องทางอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
114 | ร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท
๔ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุอออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรมีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้ที่จะเกิดขึ้นตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
115 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง กรณีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง
กรณีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป ซึ่งมีผลการพิจารณาสรุปในภาพรวมได้
ดังนี้ ๑. มาตรการระยะสั้น ๑.๑ การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ซ้ำ
ให้ยืดถือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาประกอบกับประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี
ลักษณะ ๑๐ การชันสูตรพลิกศพ บทที่ ๑ อำนาจและหน้าที่ในการชันสูตรพลิกศพ ข้อ ๖
และประกาศราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย (ที่ประชุมเสนอให้แพทยสภาออกประกาศเป็นข้อบังคับแพทยสภา)
เพื่อใช้บังคับให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ๑.๒
การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ให้แต่งตั้งคณะทำงาน
เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านงบประมาณของงานนิติเวชร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. มาตรการระยะยาว เป็นการแก้ไขปัญหาด้านบุคลากรและอัตราค่าตอบแทนของแพทย์นิติเวช
ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาทบทวนปรับอัตราค่าตอบแทนตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายค่าตอบแทน
หรือค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พัก ของแพทย์และเจ้าหนักงานผู้ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ
ตามประมาลาลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๐ พ.ศ.๒๕๖๑ ให้กระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะทำงาน
เพื่อการขับเคลื่อนด้านบุคลากร งบประมาณ การจัดทำ MOU
ร่วมกับสถาบันทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งการบูรณาการปฏิบัติงานของแพทย์นิติเวชประจำครอบคลุมทุกพื้นที่
โดยให้มีการส่งต่อเครือข่ายบริการให้คำปรึกษาและส่งต่องานนิติเวชทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ๓. การแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ให้ปรับปรุงเฉพาะในส่วนของประมวลกฎหมายตามวิธีพิจารณาความอาญาในอำนาจการชี้ขาดการส่งศพเพื่อชันสูตร
ควรเป็นของแพทย์ไม่ใช่พนักงานสอบสวน ประเด็นการเก็บรักษาศพ การทำลายศพอาจออกเป็นระเบียบ
และในประเด็นอื่น ๆ มีกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครอบคลุมแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
116 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 7 ชั้น 96 ห้อง พื้นที่ใช้สอย 3,908 ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว จำนวน 2 หลัง | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๗ ชั้น ๙๖ ห้อง พื้นที่ใช้สอย ๓,๙๐๘ ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว จำนวน ๒ หลัง ในวงเงิน ๑๔๗,๕๕๐,๑๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าควรปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเกี่ยวกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและดำเนินกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย สำนักงบประมาณ เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญสำคัญด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
117 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารจอดรถ 10 ชั้น พื้นที่อาคาร 16,603 ตารางเมตร โรงพยาบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน 1 หลัง | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลนครปฐม
จังหวัดนครปฐม ก่อสร้างอาคารจอดรถ ๑๐ ชั้น พื้นที่อาคาร ๑๖,๖๐๓ ตารางเมตร โรงพยาบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน
๑ หลัง วงเงิน ๑๑๘,๑๔๑,๖๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
118 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
พ.ศ. ๒๕๓๕ และกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ
ประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและใบแทนใบรับรอง
รวมถึงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบรับรองและใบแทนใบรับรองและค่าใช้จ่ายที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรศึกษาปริมาณการใช้ส่วนประกอบที่เหมาะสมไม่ให้เป็นกลิ่นหรือรสที่เด่นกว่าธรรมชาติของยาสูบ
(Characterizing Flavor) เพื่อลดการจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ
ควรมีการหารือกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ และชาวไร่ผู้ปลูกยาสูบ
เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการบังคับได้อย่างเหมาะสม
เนื่องจากต้องมีระยะเวลาในการปรับตัว เช่น กรณีศึกษาของสหภาพยุโรปที่ใช้ระยะเวลา ๖
ปี หลังการบังคับใช้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรมีการศึกษาผลกระทบและรับฟังความเห็นจากแพทย์และผู้เกี่ยวข้อง
(Stakeholder) อย่างรอบด้าน
เพื่อให้การกำหนดมาตรการต่าง ๆ ตามกฎหมายสอดคล้องกับแนวทางและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการพิจารณาเกี่ยวกับการยกเว้นเมนทอลขอให้พิจารณาในส่วนที่เกี่ยวกับสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติและหรือกลิ่นของเมนทอลและชะเอมด้วย
นอกจากนี้ ถ้อยคำที่ว่า “... หรือสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติหรือกลิ่นอันอาจจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบหรืออาจทำให้การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบง่ายขึ้น
....”
อาจทำให้เกิดปัญหาในการตีความและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
119 | ขออนุมัติดำเนินโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 02/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินงานโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข)
ทั้ง ๕ โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี โรงพยาบาลมะการักษ์
จังหวัดกาญจนบุรี และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
ภายใต้กรอบวงเงินรวม ๘,๕๑๐,๐๘๐,๙๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ โดยอัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังทำความตกลงกับแหล่งเงินกู้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๘/๘๗๓
ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการเบิกจ่ายเงินทั้งในส่วนของเงินกู้ต่างประเทศและเงินงบประมาณสมทบ
เงินกู้ในแต่ละปีส่งให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป สมควรที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เห็นว่าควรมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจัดทำประมาณการผลกระทบงบประมาณในด้านการให้บริการสาธารณสุขที่จะเกิดขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
120 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายสยาม ศิรินธรปัญญา ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 25/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายสยาม ศิรินธรปัญญา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม)
โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ๒. นายนพปฎล
จันทร์ผ่องแสง ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านทันตกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗
|