ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 41 - 60 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 41 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการอื่นที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (รองศาสตราจารย์อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และนายสมศักดิ์ อนันทวัฒน์) | สธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ กรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙ และมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม จำนวน ๒ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 42 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ขององค์การเภสัชกรรมให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล (คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี) เป็นการจำหน่ายด้วยวิธีการโอนให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี | สธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ด้วยวิธีการโอนให้มูลนิธิรามาธิบดี
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เพื่อรองรับโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี
โดยจะดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(องค์การเภสัชกรรม) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อไป เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าขั้นตอนและวิธีการ
หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว
กระทรวงสาธารณสุขโดยองค์การเภสัชกรรมควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 43 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 03/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
พ.ศ. ๒๕๔๒
โดยปรับปรุงกลไกและมาตรการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษทางอาญาและแก้ไขบทกำหนดโทษสำหรับความผิดที่ไม่ร้ายแรงให้มีเพียงโทษปรับสถานเดียว
รวมทั้งปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 44 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวอัจฉรา รอดเกิด) | สธ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัจฉรา รอดเกิด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ
(ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 45 | รายงานประจำปี 2566 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
(สวรส.) สรุปได้ ดังนี้ (๑) สรุปผลงานที่สำคัญ/โดดเด่น เช่น ๑) ดำเนินการทบทวนขอบเขตและศึกษาผลกระทบของนโยบายอนุญาตให้กัญชาถูกกฎหมาย
๒) ดำเนินโครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการจีโนมสำหรับการแพทย์จีโนมิกส์ในด้านมะเร็ง
เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการวิจัยและการบริการด้านการรักษาโรคมะเร็งให้สามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศและนานาชาติ
๓) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสภาวิชาชีพและกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อวางแผนและบริหารจัดการกำลังคนสุขภาพของไทยแบบบูรณาการ ๔)
ดำเนินการถอดบทเรียนการดำเนินนโยบายคนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว ๓ คน ใน ๓ ระดับ
(ระดับหมู่บ้าน ระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และระดับโรงพยาบาล) และ ๕)
ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการกำกับการกินยารักษาวัณโรคโดยใช้แอปพลิเคชั่นมือถือ
และ (๒) งบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๗ เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 46 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ พ.ศ. 2560-2570 ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 | สธ. | 11/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 47 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาววรางคนา เวชวิธี) | สธ. | 11/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาววรางคนา เวชวิธี
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งทันตแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านทันตสาธารณสุข) กรมอนามัย
ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 48 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายเกรียงศักดิ์ ฤชุศาศวัต และนางสุนันทา กาญจนพงศ์) | สธ. | 04/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายเกรียงศักดิ์ ฤชุศาศวัต ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์
(จุลชีววิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ตั้งแต่วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๒. นางสุนันทา กาญจนพงศ์ ดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ (ด้านแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข)
กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 49 | รายงานผลการดำเนินงาน โครงการแก้ปัญหาการกระจายทันตแพทย์ โดยกำหนดเงื่อนไขการเข้ารับราชการ | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน
โครงการแก้ปัญหาการกระจายทันตแพทย์โดยกำหนดเงื่อนไขการเข้ารับราชการ โดยคณะกรรมการพิจารณาฯ
ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ มีผลการดำเนินงานสรุปได้
ดังนี้ ๑) คณะกรรมการพิจารณาฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม
๒๕๖๕ มีมติเห็นชอบแผนความต้องการนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ให้สัญญาของส่วนราชการและหน่วยงาน
ระยะ ๕ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกันจัดทำแผนความต้องการนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ให้สัญญาระยะ
๕ ปีเพิ่มเติม ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๑ - ๒๕๗๕ ต่อไป และ ๒) คณะกรรมการพิจารณาฯ
ในคราวประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรและแนวปฏิบัตินักศึกษาทันตแพทย์ผู้ให้สัญญาเพื่อให้รองรับนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ให้สัญญาที่จะสำเร็จการศึกษาในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ (ปีการศึกษา ๒๕๖๖)
และเพื่อให้หน่วยงานสามารถคัดเลือกนักศึกษาทันตแพทย์ไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนได้ครบตามแผนความต้องการ
และกำหนดตัวชี้วัดของการดำเนินการ โดยกำหนดให้หน่วยงานต้องคัดเลือกทันตแพทย์คู่สัญญาไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนในหน่วยงานได้มากกว่าร้อยละ
๘๐ ของจำนวนความต้องการที่กำหนดในแผนความต้องการนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ให้สัญญาของหน่วยงาน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 50 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน ๑,๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานข้างต้น
โดยเฉพาะสภาพความแออัดหรือปัญหาการใช้งานในอาคารสำนักงานเดิมอย่างเป็นรูปธรรม
และความเร่งด่วนของโครงการเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับปรุงอาคารสถานที่ของหน่วยบริการสาธารณสุข
เพื่อให้การลงทุนด้านสาธารณสุขของประเทศเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 51 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ สาขาบางขุนเทียน) | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข โครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่
สาขาบางขุนเทียน จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๓,๓๐๗,๗๑๖,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(กรมการแพทย์และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ) รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมถึงข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กรมการแพทย์จัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดของกิจกรรมรายปี พร้อมระบุวงเงินแต่ละกิจกรรมอย่างชัดเจนภายใต้แผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
รวมทั้งควรมีการเตรียมการในเรื่องการจัดทำแผนความต้องการครุภัณฑ์ทางการแพทย์
แผนอัตรากำลังคนในสาขาเฉพาะทางที่ปัจจุบันยังมีความขาดแคลนจำนวนมาก
และแนวทางการออกแบบอาคารที่ต้องรองรับกับอุปกรณ์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงด้านรังสีรักษาที่จำเป็นต้องมีความสอดคล้องกับขนาดของพื้นที่ ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ ๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด ให้เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 52 | การกำหนดเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการกำหนดเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง
การป้องกัน และการควบคุมโรค หรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕
ไมครอน ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๒
และมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมพิจารณาปรับปรุงหรือกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อใช้ดำเนินการในเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง
การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕
ไมครอนได้ตามความเหมาะสม และสมควรแก่กรณี ตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมเสนอ ให้คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมีการนำข้อมูลบ่งชี้ด้านสุขภาพมากำหนดเป็นหลักเกณฑ์ร่วม
อาทิ ข้อมูลความชุกของโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองฯ เพื่อให้การกำหนดมาตรการรองรับมีความสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรดำเนินการตามแนวทางตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน
(Joint KPIs) เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ควรบูรณาการกำหนดมาตรการ แนวทาง และผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน
เพื่อใช้ในการกำกับ ติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
๒.๕ ไมครอน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 53 | ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อัตราค่าขึ้นบัญชีสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ทำหน้าที่ในการประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ หรือการตรวจสอบเครื่องสำอาง พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อัตราค่าใช้จ่ายสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้ยื่นคำขอในกระบวนการพิจารณาเครื่องสำอาง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | สธ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบในหลักการประกาศ รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑.๑ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
อัตราค่าขึ้นบัญชีสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ
หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่ทำหน้าที่ในการประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ
หรือการตรวจสอบเครื่องสำอาง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าขึ้นบัญชีสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ
องค์กรผู้เชี่ยวชาญหน่วยงานของรัฐ
หรือองค์กรเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ทำหน้าที่ในการประเมินเอกสารทางวิชาการ
การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสอบสถานประกอบการหรือการตรวจสอบเครื่องสำอาง
๑.๒ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
อัตราค่าใช้จ่ายสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้ยื่นคำขอในกระบวนการพิจารณาเครื่องสำอาง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายสูงสุดที่จะจัดเก็บจากผู้ยื่นคำขอในกระบวนการพิจารณาเครื่องสำอาง
เช่น การประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจสถานประกอบการ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงบประมาณ เช่น กระทรวงสาธารณสุขควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจตามร่างประกาศดังกล่าวให้มีผู้ที่เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง
และในการกำหนดอัตราค่าขึ้นบัญชีสูงสุดและอัตราค่าใช้จ่ายสูงสุด
กระทรวงสาธารณสุขควรถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔
(เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการ)
โดยต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการดำเนินการของรัฐ
ภาระที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน และปัจจัยอื่น ๆ ตามที่กำหนดในหลักเกณฑ์ดังกล่าว
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 54 | การขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 | สธ. | 21/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดให้มีการเผยแพร่รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อสาธารณชนตามที่กฎหมายกำหนด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
เมืองพัทยา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงแรงงานและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปหารือร่วมกันเพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสมภายในระยะเวลาที่ขยายออกไปในครั้งนี้
เช่น กระทรวงแรงงาน เห็นว่าสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและปรับปรุงการเข้าถึงการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการร่วมมือกันกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการบูรณาการจัดระบบบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิการส่งเสริมดังกล่าวตามสิทธิพื้นฐานของประชาชนคนไทย
และสิทธิเสริมในส่วนของประกันสังคม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 55 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารรังสีรักษา 6 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 6,509 ตารางเมตร โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 1 หลัง | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลบุรีรัมย์
จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อสร้างอาคารรังสีรักษา ๖ ชั้น พื้นที่ใช้สอย ๖,๕๐๙ ตารางเมตร
โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ๑ หลัง
ในวงเงิน ๑๘๕,๑๔๓,๗๕๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 56 | ขอความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือสาขาสาธารณสุข | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 57 | รายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค สถานการณ์ด้านโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. 2565 | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน
ปัญหาอุปสรรค สถานการณ์ด้านโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. ๒๕๖๕
ตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้
ดังนี้ ๑.
สถานการณ์ด้านโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม มีสาระสำคัญ เช่น ในปี
๒๕๖๕ มีผู้ป่วยด้วยโรคจากสารกำจัดศัตรูพืช จำนวน ๑๔ รายต่อประชาชน ๑ แสนคน และโรคหรืออาการจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
๒.๕ ไมครอน จำนวน ๑๐,๒๗๐ รายต่อประชากร ๑ แสนคน ๒. ผลการดำเนินงาน คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง มีสาระสำคัญ เช่น
ความก้าวหน้าในการจัดทำอนุบัญญัติภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีอนุบัญญัติที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน
๑๐ ฉบับ ๓. ผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ภายใต้แผนการเฝ้าระวัง การป้องกันระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕) มีสาระสำคัญ
เช่น มีระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม
จำนวน ๗๓ จังหวัด
และมีการขับเคลื่อนนโยบายยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายสูงและมาตรการป้องกันควบคุมโรคจากตะกั่ว ๔. ข้อจำกัดหรือปัญหาอุปสรรค
และข้อเสนอแนะ มีสาระสำคัญ เช่น
ยังขาดกรอบการประเมินผลการดำเนินงานในระยะครึ่งแผนหรือสิ้นสุดแผนที่ชัดเจน
และบางตัวชี้วัดยังมีวิธีการวัดผลที่ไม่ชัดเจน โดยมีข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรวางกรอบการประเมินผล รวมถึงตัวชี้วัดร่วมดำเนินการ
(Joint KPIs) และพัฒนากลไกการทำงานร่วมกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 58 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการต่าง
ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๙ คณะ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๓ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.
คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ๒.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๓.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๔.
คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๕.
คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๖.
คณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Wellness and Medical Service Hub) ๗.
คณะกรรมการนโยบายการดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ ๘.
คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 59 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์) | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ
(ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ
(ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม
๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 60 | ร่างเอกสาร Guidelines and Minimum Standards ด้านโภชนาการระดับอาเซียน 5 ฉบับ | สธ. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสาร Guidelines and
Minimum Standards ด้านโภชนาการระดับอาเซียน จำนวน ๕ ฉบับ
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมรับรองร่างเอกสารดังกล่าว
ประกอบด้วย (๑) เอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำด้านโภชนาการมารดาในอาเซียน (ASEAN
Guidelines and Minimum Standards for Maternal Nutrition) (๒)
เอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำด้านการเสริมสารอาหารปริมาณมากที่จำเป็น (ASEAN
Guidelines and Minimum Standards for Implementation of Mandatory Large-scale
Food Fortification) (๓) เอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำการจัดการปัญหาเด็กที่มีภาวะผอมในระบบสุขภาพแห่งชาติ
(ASEAN Regional Guidelines on Minimum Standards for Management of Child
Wasting in National Health Systems) (๔)
เอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำด้านโภชนาการในโรงเรียนแบบองค์รวม
(Minimum Standards and Guidelines for the ASEAN School Nutrition Package) และ (๕)
เอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำการปกป้องเด็กจากผลกระทบอันตรายของการตลาดเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในอาเซียน
(Minimum standards and guidelines on actions to protect children from the
harmful impact of marketing of food and non-alcoholic beverages in the ASEAN
region) ซึ่งเป็นเอกสารที่รวบรวมผลการศึกษาและการวิจัยด้านโภชนาการเพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนนำไปใช้เป็นองค์ความรู้และแนวทางในการดำเนินการด้านโภชนาการภายในประเทศ
เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการดำเนินงานโภชนาการระดับโลก (Global
Nutrition Target) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยังยืน (Sustainable
Development Goals : SDGs) โดยจะเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการอาเซียน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่า
ร่างเอกสารหลักเกณฑ์และมาตรฐานขั้นต่ำการปกป้องเด็กจากผลกระทบอันตรายของการตลาดเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในอาเซียน
ในส่วนของการบังคับใช้หรือการปรับใช้ภายในประเทศ
อาจให้มีการพิจารณาในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องในเชิงนโยบายด้านอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ
มาตรการทางการค้า มาตรการการคุ้มครองผู้บริโภค
และในการดำเนินการจัดทำร่างเอกสารดังกล่าวควรคำนึงถึงผลกระทบต่อการใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในทางการค้าของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
รวมถึงสิทธิทางการค้าที่อาจถูกจำกัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
