ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 121 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... | สธ. | 30/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ และประเภท ๓
หรือวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ ประเภท ๓ และประเภท ๔
สำหรับผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยซึ่งเดินทางระหว่างประเทศและมีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทดังกล่าวรักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 122 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด | สธ. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิด ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุปได้ว่า ๑)
มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดก่อนการตั้งครรภ์ ในระยะสั้นและระยะกลาง
มีการเสนอขอเพิ่มสิทธิประโยชน์การป้องกันความพิการแต่กำเนิดด้วยยาเม็ดกรดโฟลิก
เสนอขออนุมัติสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมคนไทยทุกสิทธิ ทั้งนี้
การเข้ารับบริการกรดโฟลิกสามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ได้ ๒)
มาตรการป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดระหว่างการตั้งครรภ์ ในระยะสั้นและระยะยาว โดยตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
ได้เริ่มดำเนินการคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย ทุกสิทธิ
มีการขอเพิ่มการคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยวิธี NIPT และให้เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตนต่างด้าวเหมือนคนไทย
โดยให้เบิกจากกองทุนประกันสังคมแรงงานต่างด้าว และ ๓)
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เห็นด้วยกับหลักการที่จะส่งเสริมการผสมกรดโฟลิกในส่วนผสมอาหาร
กรมอนามัยเห็นว่า การบริโภคผัก ผลไม้ให้ได้ ๔๐๐ กรัมต่อวัน
ปริมาณโฟเลตที่ได้รับจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
มีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ประโยชน์
และความจำเป็นต่อการบริโภคกรดโฟลิกของหญิงวัยเจริญพันธุ์การตรวจคัดกรองดาวน์ชินโดรมของหญิงตั้งครรภ์
กระทรวงศึกษาธิการมีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
ที่ให้สถานศึกษานำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติและเนื้อหาประโยชน์และความจำเป็นต่อการบริโภคกรดโฟลิกของหญิงวัยเจริญพันธุ์อยู่ในสาระที่
๔ การสร้างเสริมสุขภาพสมรรถภาพและการป้องกันโรค ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 123 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (1. นายวิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ฯลฯ จำนวน 13 คน) | สธ. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
จำนวน ๗ คน
และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
จำนวน ๖ คน รวมจำนวน ๑๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
จำนวน ๗ คน ๑.๑ นายวิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ด้านประกันสุขภาพ ๑.๒ ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ๑.๓ นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ด้านการแพทย์แผนไทย ๑.๔
นายประทีป ธนกิจเจริญ ด้านการแพทย์ทางเลือก ๑.๕ นางมานิดา ภู่เจริญ ด้านการเงินการคลัง ๑.๖ นายสุวิช ชูตระกูล ด้านกฎหมาย ๑.๗ รองศาสตราจารย์อภิญญา เวชยชัย ด้านสังคมศาสตร์ ๒. คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข
จำนวน ๖ คน ๒.๑ นายวิชัย อัศวภาคย์ สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว ๒.๒ นางสาวโชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ สาขาจิตเวช ๒.๓ นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ สาขาการแพทย์แผนไทย ๒.๔ ศาสตราจารย์คลินิกสุพรรณ ศรีธรรมมา สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน ๒.๕ นางวัชรา ริ้วไพบูลย์ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
๒.๖
ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์ สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 124 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด พ.ศ .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาต
รวมทั้งเงื่อนไขในการโฆษณาตามใบอนุญาตเกี่ยวกับการบำบัดรักษายาเสพติด
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 125 | ร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเฝ้าระวัง
การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายจากการดำเนินการเฝ้าระวัง
ป้องกัน หรือควบคุมโรคของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
โดยผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายสามารถยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายด้วยตัวเองได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือสำนักอนามัย
กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี โดยผู้เสียหายอาจมีสิทธิได้รับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหาย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย เห็นควรเพิ่มช่องทางการยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายของผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมเพิ่มเติมจากที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
เช่น กำหนดให้ผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมของผู้เสียหายสามารถยื่นคำขอ ณ
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หรือช่องทางอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เห็นว่าพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไม่ได้บัญญัติให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดค่าทดแทนเพื่อชดเชยแก่ผู้เสียหายดังกล่าวไว้
จึงเป็นประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการออกกฎหมายลำดับรองเกินกว่าหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครตามที่กฎหมายแม่บทกำหนด ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง
เห็นควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพ
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ กระทรวงมหาดไทย
เห็นควรเพิ่มช่องทางการยื่นคำขอรับค่าทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายของผู้เสียหายหรือทายาทโดยธรรมเพิ่มเติมจากที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
หรือช่องทางอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 126 | ร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท
๔ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุอออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรมีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้ที่จะเกิดขึ้นตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 127 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง กรณีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง
กรณีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป ซึ่งมีผลการพิจารณาสรุปในภาพรวมได้
ดังนี้ ๑. มาตรการระยะสั้น ๑.๑ การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ซ้ำ
ให้ยืดถือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาประกอบกับประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี
ลักษณะ ๑๐ การชันสูตรพลิกศพ บทที่ ๑ อำนาจและหน้าที่ในการชันสูตรพลิกศพ ข้อ ๖
และประกาศราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย (ที่ประชุมเสนอให้แพทยสภาออกประกาศเป็นข้อบังคับแพทยสภา)
เพื่อใช้บังคับให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ๑.๒
การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ให้แต่งตั้งคณะทำงาน
เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านงบประมาณของงานนิติเวชร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. มาตรการระยะยาว เป็นการแก้ไขปัญหาด้านบุคลากรและอัตราค่าตอบแทนของแพทย์นิติเวช
ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาทบทวนปรับอัตราค่าตอบแทนตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายค่าตอบแทน
หรือค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พัก ของแพทย์และเจ้าหนักงานผู้ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ
ตามประมาลาลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๐ พ.ศ.๒๕๖๑ ให้กระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะทำงาน
เพื่อการขับเคลื่อนด้านบุคลากร งบประมาณ การจัดทำ MOU
ร่วมกับสถาบันทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งการบูรณาการปฏิบัติงานของแพทย์นิติเวชประจำครอบคลุมทุกพื้นที่
โดยให้มีการส่งต่อเครือข่ายบริการให้คำปรึกษาและส่งต่องานนิติเวชทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ๓. การแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ให้ปรับปรุงเฉพาะในส่วนของประมวลกฎหมายตามวิธีพิจารณาความอาญาในอำนาจการชี้ขาดการส่งศพเพื่อชันสูตร
ควรเป็นของแพทย์ไม่ใช่พนักงานสอบสวน ประเด็นการเก็บรักษาศพ การทำลายศพอาจออกเป็นระเบียบ
และในประเด็นอื่น ๆ มีกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครอบคลุมแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 128 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 7 ชั้น 96 ห้อง พื้นที่ใช้สอย 3,908 ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว จำนวน 2 หลัง | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๗ ชั้น ๙๖ ห้อง พื้นที่ใช้สอย ๓,๙๐๘ ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว จำนวน ๒ หลัง ในวงเงิน ๑๔๗,๕๕๐,๑๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าควรปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเกี่ยวกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและดำเนินกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย สำนักงบประมาณ เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญสำคัญด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 129 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารจอดรถ 10 ชั้น พื้นที่อาคาร 16,603 ตารางเมตร โรงพยาบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน 1 หลัง | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลนครปฐม
จังหวัดนครปฐม ก่อสร้างอาคารจอดรถ ๑๐ ชั้น พื้นที่อาคาร ๑๖,๖๐๓ ตารางเมตร โรงพยาบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน
๑ หลัง วงเงิน ๑๑๘,๑๔๑,๖๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 130 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... | สธ. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
พ.ศ. ๒๕๓๕ และกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ
ประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการแจ้งและการออกใบรับรองและใบแทนใบรับรอง
รวมถึงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบรับรองและใบแทนใบรับรองและค่าใช้จ่ายที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรศึกษาปริมาณการใช้ส่วนประกอบที่เหมาะสมไม่ให้เป็นกลิ่นหรือรสที่เด่นกว่าธรรมชาติของยาสูบ
(Characterizing Flavor) เพื่อลดการจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ
ควรมีการหารือกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ และชาวไร่ผู้ปลูกยาสูบ
เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการบังคับได้อย่างเหมาะสม
เนื่องจากต้องมีระยะเวลาในการปรับตัว เช่น กรณีศึกษาของสหภาพยุโรปที่ใช้ระยะเวลา ๖
ปี หลังการบังคับใช้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรมีการศึกษาผลกระทบและรับฟังความเห็นจากแพทย์และผู้เกี่ยวข้อง
(Stakeholder) อย่างรอบด้าน
เพื่อให้การกำหนดมาตรการต่าง ๆ ตามกฎหมายสอดคล้องกับแนวทางและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการพิจารณาเกี่ยวกับการยกเว้นเมนทอลขอให้พิจารณาในส่วนที่เกี่ยวกับสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติและหรือกลิ่นของเมนทอลและชะเอมด้วย
นอกจากนี้ ถ้อยคำที่ว่า “... หรือสารอื่นใดที่ทำให้เกิดรสชาติหรือกลิ่นอันอาจจูงใจหรือดึงดูดให้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบหรืออาจทำให้การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบง่ายขึ้น
....”
อาจทำให้เกิดปัญหาในการตีความและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 131 | ขออนุมัติดำเนินโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 02/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินงานโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข)
ทั้ง ๕ โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี โรงพยาบาลมะการักษ์
จังหวัดกาญจนบุรี และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
ภายใต้กรอบวงเงินรวม ๘,๕๑๐,๐๘๐,๙๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ โดยอัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังทำความตกลงกับแหล่งเงินกู้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๘/๘๗๓
ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการเบิกจ่ายเงินทั้งในส่วนของเงินกู้ต่างประเทศและเงินงบประมาณสมทบ
เงินกู้ในแต่ละปีส่งให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป สมควรที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เห็นว่าควรมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจัดทำประมาณการผลกระทบงบประมาณในด้านการให้บริการสาธารณสุขที่จะเกิดขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 132 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายสยาม ศิรินธรปัญญา ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 25/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายสยาม ศิรินธรปัญญา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม)
โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ๒. นายนพปฎล
จันทร์ผ่องแสง ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านทันตกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 133 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ (แอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน)
ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพใหม่
เพื่อให้การกำหนดปริมาณยาเสพติดดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นว่าหากมีการประกาศใช้บังคับแล้ว
ควรพิจารณาให้มีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางให้ประชาชนและสังคมรับทราบ
เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงเจตนารมณ์ในการออกกฎกระทรวง
ตลอดจนควรพิจารณาให้มีการเก็บข้อมูลผลลัพธ์หลังการประกาศใช้ในประเด็นต่าง ๆ เช่น
สังคม เศรษฐกิจ และการแพทย์ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายต่อไป ๓.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด
ดังนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 134 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์) | สธ. | 04/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์เชี่ยวชาญ) สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 135 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนว่าด้วยการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพ (ASEAN Recommendations on Quality Health Care) | สธ. | 14/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนว่าด้วยการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพ
(ASEAN Recommendations on
Quality Health Care) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมรับรองร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนว่าด้วยการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพ
โดยร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนฯ มีสาระสำคัญเป็นการเสนอแนวทางที่สำคัญในการยกระดับและส่งเสริมการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนและในภูมิภาค
เพื่อมุ่งให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพัฒนาการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิและการแพทย์ดั้งเดิมและการแพทย์เสริมในประเทศสมาชิกอาเซียน
รวมถึงการเข้าถึงระบบการให้บริการสุขภาพถ้วนหน้าและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นว่าร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนฯ
มิได้มีการใช้ถ้อยคำที่มุ่งหมายให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ดังนั้น จึงไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตาม ม. ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารข้อเสนอแนะอาเซียนว่าด้วยการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 136 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายวิชัย ไชยมงคล ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 07/05/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายวิชัย ไชยมงคล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. พลเรือโท นิกร เพชรวีระกุล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(นายสันติ พร้อมพัฒน์) ๓. นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 137 | ร่างกฎกระทรวง กำหนดภาพ เครื่องหมาย หรือข้อความที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสารระเหยที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสารระเหยต้องจัดทำก่อนนำออกจำหน่าย พ.ศ. .... | สธ. | 23/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดภาพ เครื่องหมาย
หรือข้อความที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสารระเหยที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสารระเหยต้องจัดทำก่อนนำออกจำหน่าย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และปริมาณ
ในการกำหนดภาพ เครื่องหมาย หรือข้อความที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุสารระเหยที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสารระเหยต้องจัดทำก่อนนำออกจำหน่าย
เพื่อเป็นการเตือนให้ระวังการใช้สารระเหย อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าในส่วนของข้อความที่ภาชนะบรรจุหรือหีบห่อควรมีการระบุวัน
เดือน ปี ที่มีการผลิตหรือนำเข้าแล้วแต่กรณี และเห็นว่าร่างข้อ ๒ ชื่อกฎกระทรวง
มีข้อความที่พิมพ์ขาดตกบกพร่อง ควรแก้ไขเพิ่มเติมเป็นข้อความว่า “ให้ยกเลิกกฎกระทรวง
(พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓” และร่างข้อ
๓ ควรแก้ไขเพิ่มเติมให้มีรายละเอียดครบถ้วนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดย ๑) ร่างข้อ ๓
(๕) ควรแก้ไขเพิ่มเติมเป็นข้อความว่า “วิธีการใช้
วิธีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น วิธีการรักษาเบื้องต้น และวิธีเก็บรักษา” ๒)
ควรเพิ่มเติมข้อความว่า “วัน เดือน ปีที่ผลิต และหมดอายุ” เป็น (๘) ของร่างข้อ ๓ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 138 | ร่างกฎกระทรวงวัตถุตำรับยกเว้น พ.ศ. .... | สธ. | 23/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงวัตถุตำรับยกเว้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการกำหนดมาตรการยกเว้นการควบคุมบางประการสำหรับวัตถุตำรับ
เพื่อให้ผู้ป่วยหรือผู้มีความจำเป็นต้องใช้วัตถุออกฤทธิ์
ได้เข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัยภายใต้การกำกับดูแลอย่างเหมาะสม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 139 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 23/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของตำรับยาเสพติดให้โทษ
ในประเภท ๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข
และอัตราค่าธรรมเนียมการขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ
(wvw.info.go.th) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 140 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตพิเศษเฉพาะคราวเพื่อส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ที่ห้ามนำเข้า พ.ศ. .... | สธ. | 23/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตพิเศษเฉพาะคราว เพื่อส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ที่ห้ามนำเข้า
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตพิเศษเฉพาะคราวและการออกใบอนุญาตพิเศษเฉพาะคราวเพื่อส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ที่ห้ามนำเข้า
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าการกำหนดให้ผู้อนุญาตพิจารณาออกใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน
๓๐ วันตามร่างข้อ ๖ นั้น ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่ากำหนดเวลา ๓๐ วัน
นับแต่เมื่อใดและหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จจะมีมาตรการอย่างไร ควรกำหนดให้ชัดเจน ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด
รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th)
ต่อไป และการกำหนดให้ผู้อนุญาตพิจารณาออกใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน
๓๐ วันตามร่างข้อ ๖ นั้น ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่ากำหนดเวลา ๓๐ วัน นับแต่เมื่อใดและหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จจะมีมาตรการอย่างไร
ควรกำหนดให้ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
