ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 21 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายจักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์) | สธ. | 17/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายจักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 22 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยความร่วมมือในสาขาสาธารณสุข | สธ. | 10/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยความร่วมมือในสาขาสาธารณสุข
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียว่าด้วยความร่วมมือในสาขาสาธารณสุข
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายในสาขาสาธารณสุขที่สอดคล้องกับระเบียบและกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศ
และอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 23 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายปิยะ เกียรติเสวี) | สธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปิยะ
เกียรติเสวี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) โรงพยาบาลเลิดสิน
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 24 | การสนับสนุนค่าบำรุงของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก | สธ. | 20/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการจ่ายเงินค่าบำรุงสมาชิกเพิ่มแบบขั้นบันได
ได้แก่ เพิ่มร้อยละ ๒๐ (จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ - ๒๕๗๐
เพิ่มร้อยละ ๒๕ (จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๑ - ๒๕๗๒ และเพิ่มร้อยละ
๒๗ (จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๒) สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๓ - ๒๕๗๔ โดยใช้งบประมาณหมวดเงินอุดหนุนของกระทรวงสาธารณสุข
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ (หนังสือกระทรวงการต่างประเทศ
ด่วนที่สุด ที่ กต ๑๐๐๒/๙๖๖ ลงวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๘)
ไปพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมและรอบคอบต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว ในงบเงินอุดหนุน
เงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก จำนวน ๗๔,๙๖๒,๒๐๐ บาท
ควรให้กระทรวงสาธารณสุขใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรร
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแต่ละปีตามที่พันธกรณีได้กำหนดเป็นหลักเกณฑ์การคำนวณการจ่ายเงินบำรุงค่าสมาชิก
ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในแต่ละปี
เพื่อให้การกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณมีความเหมาะสม
และก่อให้เกิดผลตอบแทนด้านสุขภาพอย่างคุ้มค่าสูงสุดต่อประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 25 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2567 ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย | สธ. | 20/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง
- ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗
ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางการดำเนินโครงการความร่วมมือในการพัฒนาสุขอนามัย
เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
และโครงการเพื่อส่งเสริมสุขภาพของแม่และเด็กตามแนวชายแดนของไทย สปป. ลาว
และเวียดนาม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขระมัดระวังและไม่ดำเนินการใดที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศจากการแลกเปลี่ยนการใช้การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่มีความอ่อนไหว
หรือเป็นองค์ความรู้หรือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งควรเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศไทยเท่านั้น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงาน
รวมถึงกำกับและดูแลการประเมินผลโครงการทั้งด้านการวางแผนโครงการและการดำเนินงานโครงการ
รวมถึงกิจกรรมและการบริหารงบประมาณให้เป็นไปตามข้อกำหนด
รวมถึงสื่อสารผลการดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงได้รับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 26 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (นายสุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ) | สธ. | 20/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 27 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 9 ชั้น เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,810 ตารางเมตร โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง 1 หลัง | สธ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลระยอง
จังหวัดระยอง ก่อสร้างอาคารศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิค ๙ ชั้น เป็นอาคาร คสล.
๙ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๘,๘๑๐
ตารางเมตร โรงพยาบาลระยอง จังหวัดระยอง ๑ หลัง วงเงิน ๑๖๘,๕๕๔,๒๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 28 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซียและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง
ๆ เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ
การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ความมั่นคงด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์
การเงินการคลังด้านสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและความเหมาะสมตามขั้นตอน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 29 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ | สธ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง
ๆ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ควรให้กระทรวงสาธารณสุขใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี
หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 30 | ขอความเห็นชอบกำหนดให้เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งสุขภาพใจ (Mind Month) | สธ. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้กำหนดให้เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งสุขภาพใจ (Mind Month)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 31 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวสุมนี วัชรสินธุ์ และนายสุรชัย อภินวถาวรกุล) | สธ. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวสุมนี วัชรสินธุ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ตุลาคม
๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 32 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวดารินทร์ อารีย์โชคชัย และนางสาวทัศนีย์ กุลจนะพงศ์พันธ์) | สธ. | 29/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวดารินทร์ อารีย์โชคชัย ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน)
กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
๒. นางสาวทัศนีย์ กุลจนะพงศ์พันธ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาจิตเวช) สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๑๑
ธันวาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 33 | การรับรองปฏิญญาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและสุขภาพ (COP28 Declaration on Climate and Health) | สธ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อการรับรองปฏิญญาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและสุขภาพ
(COP28 Declaration on Climate
and Health) ของประเทศไทย และ
มอบหมายกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามขั้นตอนการรับรองปฏิญญาฯ ต่อไป โดยปฏิญญาฯ
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนาในการเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันและมีความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนและกลุ่มเปราะบางให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณาและเตรียมความพร้อมด้านงบประมาณและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานภายใต้ปฏิญญาฯ
ดังกล่าว
และควรสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศพึงได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 34 | ร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... | สธ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
(อสม.) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ อสม. เป็นกำลังสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนตามหลักการสาธารณสุขมูลฐาน
และยกระดับทักษะและขีดความสามารถของ อสม. ให้ดำเนินการตามหลักการดังกล่าวได้สัมฤทธิ์ผล
ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายการประสานงานบริหารกิจการ อสม.
และดำเนินกิจกรรมด้านสุขภาพภายในชุมชนให้เป็นไปอย่างมีระบบ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน
ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกรุงเทพมหานครไปประกอบการพิจารณาด้วย เช่น กระทรวงยุติธรรม เห็นว่าการกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน
จำนวน ๔ คณะ (คณะกรรมการระดับประเทศ ระดับเขตสุขภาพ ระดับจังหวัด และกรุงเทพมหานคร)
และคณะกรรมการอาสาสมัครสาธารณสุขอื่น
อาจต้องพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรี (๕ ตุลาคม ๒๕๖๔) เรื่อง
แนวทางการใช้ระบบคณะกรรมการเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลประกอบด้วย สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรใช้มาตรการทางการบริหารเป็นลำดับแรก
เช่น การปรับปรุงระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ครอบคลุมประเด็นการบูรณาการและขับเคลื่อนการทำงานระหว่างหน่วยงาน
คณะกรรมการภายในกระทรวงสาธารณสุข ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 35 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ พ.ศ. .... | สธ. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบรับรองการจดแจ้งรายการส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์
ตามกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรต
และบุหรี่ซิการ์ การแจ้ง และการออกใบรับรอง พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด
รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th)
ต่อไป สำนักงบประมาณ เห็นสมควรที่กระทรวงสาธารณสุขจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องทราบอย่างทั่วถึง
และแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินงานทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 36 | ขอความเห็นชอบการขยายอัตราการจ่ายค่าตอบแทนใบประกอบโรคศิลปะของเภสัชกรให้แก่เภสัชกรที่เกี่ยวข้องขององค์การเภสัชกรรม เป็นอัตรา 10,000 บาท/คน/เดือน | สธ. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายอัตราการจ่ายค่าตอบแทนใบประกอบโรคศิลปะของเภสัชกรให้แก่เภสัชกรที่เกี่ยวข้องขององค์การเภสัชกรรม
เป็นอัตรา ๑๐,๐๐๐ บาท/คน/เดือน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าในการพิจารณาเรื่องกล่าวให้คำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงบประมาณ เห็นควรพิจารณาค่าใช้จ่ายบุคลากรให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานของกิจการ
และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ และมีการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาระแก่ประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 37 | ขอความเห็นชอบสวัสดิการค่าเช่าบ้านของผู้ปฏิบัติงานองค์การเภสัชกรรม | สธ. | 01/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบสวัสดิการค่าเช่าบ้านผู้ปฏิบัติงานขององค์การเภสัชกรรม
ดังนี้ (๑) ลูกจ้าง (ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว) และพนักงานระดับ ๑ - ๓
อัตราเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท (๒) พนักงานระดับ ๔ - ๕ อัตราเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท และ (๓) พนักงานระดับ ๖ - ๑๑ อัตราเท่าที่จ่ายจริง
แต่ไม่เกินเดือนละ ๖,๐๐๐ บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑ เมษายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณาให้ความสำคัญกับการกำกับติดตามการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
เพื่อให้การจัดสวัสดิการค่าเช่าบ้านเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
มีความโปร่งใสและไม่เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในหน่วยงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 38 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารอำนวยการ ผู้ป่วยนอก และอุบัติเหตุฉุกเฉิน เป็นอาคาร คสล. 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 23,765 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร โรงพยาบาลตรัง จังหวัดตรัง 1 หลัง (งานส่วนที่เหลือ ครั้งที่ 3) | สธ. | 27/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างรายการอาคารอำนวยการ
ผู้ป่วยนอก และอุบัติเหตุฉุกเฉินเป็นอาคาร คสล. ๗ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒๓,๗๖๕ ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร
โรงพยาบาลตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ๑ หลัง
(งานส่วนที่เหลือ ครั้งที่ ๓) จำนวนเงิน ๒๘๔,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗จำนวน
๔๕,๘๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๒๓๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ - พ.ศ. ๒๕๗๐ รวมเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น ๔๘๘,๐๙๖,๓๔๙.๗๗ บาท และอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารดังกล่าว
จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - พ.ศ. ๒๕๗๐ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) กำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างอาคารอำนวยการ ผู้ป่วยนอก และอุบัติเหตุฉุกเฉิน
พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคารโรงพยาบาลตรังให้แล้วเสร็จ ภายในกรอบวงเงินและระยะเวลาที่ได้รับการอนุมัติไว้ในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวให้กระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง สำหรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าหากโครงการฯ
มีอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ ๒๓ เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกัน
ตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป
และตั้งอยู่ติดแม่น้ำตามเอกสารท้ายประกาศ ๒ ฝั่งทะเลหรือชายหาด
หรือที่ตั้งอยู่ติดหรืออยู่ในอุทยานแห่งชาติหรืออุทยานประวัติศาสตร์ จะเข้าข่ายเป็นโครงการ
กิจการ หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศฯ ลำดับที่ ๒๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 39 | ร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพรังสีเทคนิค พ.ศ. .... | สธ. | 18/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพรังสีเทคนิค พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแยกการกำกับดูแลและการควบคุมการประกอบวิชาชีพรังสีเทคนิคออกจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพสาขารังสีเทคนิค
โดยจัดตั้ง “สภารังสีเทคนิค” ขึ้นเพื่อส่งเสริมการประกอบวิชาชีพรังสีเทคนิค
กำหนดและควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพรังสีเทคนิค และควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลซึ่งไม่มีความรู้อันจะก่อให้เกิดภัยและความเสียหายแก่ประชาชน
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมองค์ประกอบของกรรมการสภาวิชาชีพรังสีเทคนิคให้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่มีการจัดบริการด้านรังสีเทคนิคทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรมีการพิจารณาดำเนินการเพื่อมิให้บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมกับร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพรังสีเทคนิค พ.ศ. ....
มีความซ้ำซ้อนกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 40 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นางสิริพรรณ แสงอรุณ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสิริพรรณ แสงอรุณ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์
(มาตรฐานห้องปฏิบัติการ) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๒. นายปัญจพล แก้วอุบล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลตรัง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ ๓. นายสมบูรณ์ อภิชัยยิ่งยอด ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลราชบุรี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
