ค้นหามติคณะรัฐมนตรี

ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี

ค้นหาเพิ่มเติม

กรุณาป้อนคำค้นหา

วันที่มีมติ

ถึง

เลขที่หนังสือ/ปี

ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง

หน้าที่ 269 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 5361 - 5380 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ

ลำดับ	ชื่อเรื่อง	ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง	วันที่มีมติ
5361	รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนธันวาคม 2543 มีการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 148,653.6 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับการ เบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน ปรากฎว่ามีอัตราการเบิกจ่ายลดลง
5362	ร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ยกเลิกหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ และค่าธรรมเนียมในการขอรับใบ อนุญาต และการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และประเภทการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนตามที่กำหนด ไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2539) ฯ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ และค่าธรรมเนียม ในการขอรับใบอนุญาต การขอความเห็นชอบ การออกใบอนุญาต และการให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัท จำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน) รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามข้อเสนอแนะของคณะ กรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดผู้ที่จะขอรับใบอนุญาต นั้น ควรระบุมาตราที่ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง และคณะกรรมการ ก.ล.ต. ไว้ให้ชัดเจน โดยอำนาจของคณะกรรมการ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการพิจารณา ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำหรับการกำหนดอำนาจหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานที่ ประกอบธุรกิจ หรือสถานที่ตั้งของผู้ขอรับใบอนุญาต หรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ฐานะการเงิน การดำเนินงาน สินทรัพย์ หรือข้อมูลต่าง ๆ ควรกำหนดให้สอดคล้องกับมาตรา 264 รวมทั้งให้ ระบุบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจในการออกกฏหมาย ตามมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา จักรไทยด้วย ส่วนการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาตซึ่งได้กำหนดใหม่มีอัตราเพิ่มขึ้น 20 เท่า ใน ขณะที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ฯ ตามอัตราใหม่ลดลง จากอัตราเดิมเฉลี่ยปีละ 10 ล้านบาท เป็นปีละ 25,000 บาท น่าจะเป็นอัตราที่แตกต่างจากอัตราเดิมมากเกินไป และแตกต่างจากใบอนุญาตประเภทอื่นอย่างมาก ซึ่งจะ มีการเรียกร้องให้ลดลงตามมา) ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
5363	การกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equlty Fund) ที่จัดตั้งขึ้นตาม กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการลงทุนของภาค เอกชน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม (4) ของคำนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับกองทุน รวมอื่น ๆ ที่จัดตั้งตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ ฯ โดยกำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5364	แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบรรษัทบริหาร สินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 7 คน โดยมี หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล เป็นประธานกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5365	ขออนุมัติใช้เงินกู้ SAL เพื่อเพิ่มขีดความสามารถระบบคอมพิวเตอร์กรมศุลกากร	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรใช้เงินกู้ SAL จำนวน 135 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ระบบคอมพิวเตอร์ Mainframe ของกรมศุลกากร ให้มีประสิทธิภาพการใช้งานมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
5366	ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชน ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน)	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครู โรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชน ออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการกำหนดให้ อธิบดีกรมสรรพากรเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกำหนดเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ สำหรับ ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนตามร่างกฎกระทรวง ฯ น่าจะเกินกฎหมายแม่บท เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจ อธิบดีกรมสรรพากรดำเนินการดังกล่าวได้) ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
5367	ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของความพิการทุพพลภาพขนาดหนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการ ประกอบอาชีพหรือในการดำรงชีพ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตรา การจ่ายเงินสงเคราะห์ พ.ศ. ....	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของความพิการทุพพลภาพขนาด หนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการประกอบอาชีพหรือในการดำรงชีพ พ.ศ. .... (กำหนดลักษณะของความ พิการทุพพลภาพขนาดหนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการประกอบอาชีพหรือการดำรงชีพของผู้ประสบภัย) และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์ พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์) รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับ การกำหนดให้คณะกรรมการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิจารณากำหนดลักษณะของความพิการทุพพลภาพนอก เหนือจากที่ได้กำหนดไว้แล้วเป็นราย ๆ ไป และให้มีอำนาจกำหนดอัตราเงินชดเชยให้ผู้ประสบภัยอันเนื่องมา จากการสูญเสียอวัยวะอื่นใด โดยข้อกำหนดดังกล่าวน่าจะเป็นข้อกำหนดที่เกินกว่ากฎหมายแม่บทในมาตรา 8 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการปฏิบัติงาน ของชาติหรือการปฏิบัติหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. 2543 เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจคณะกรรมการ ฯ พิจารณากำหนดลักษณะความพิการทุพพลภาพและอัตราเงินชดเชยได้) ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อ ไปได้
5368	ร่างระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. ....	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. .... (กำหนดอำนาจ ในการอนุมัติฎีกาในกรณีการเบิกเงินกับสำนักงานคลังจังหวัด ให้เป็นอำนาจของคลังจังหวัดหรือผู้ที่คลังจังหวัด มอบหมาย โดยให้คลังจังหวัดคืนคู่ฉบับฎีกาให้ส่วนราชการผู้เบิกเก็บไว้เป็นหลักฐานหลังจากมีการจ่ายเงินตาม ฎีกาเรียบร้อยแล้ว และกำหนดให้ส่วนราชการผู้เบิกเปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันเพิ่มเติมการลงราย การจำนวนเงินในสมุดคู่มือวางฎีกา การนำเงินส่งคืนคลังของส่วนราชการที่มีสำนักงานอยู่ในต่างประเทศโดย วิธีเบิกหักผลักส่ง และจัดทำรายงานการเงินส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบโดยนำเอกสารใน การรับและการจ่ายเงินมาใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกควบคุมตามระบบบัญชีที่กระทรวงการคลังกำหนด เพื่อ เป็นการลดภาระการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
5369	รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ (ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543)	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 มีการเบิกจ่าย เงินทั้งสิ้น 129,995.0 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน ปรากฎว่า มีอัตราการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น
5370	การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 4	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 4 ให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 60 ล้านบาท โดย กระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2543 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ซึ่งเมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้วจะยังคงมีวงเงินเหลือตามโครงการช่วยเพิ่ม เงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 229,129 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5371	การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 5	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 5 ให้แก่ธนาคาร ดีบีเอสไทยทนุ จำกัด (มหาชน) จำนวน 167 ล้านบาท โดย กระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2543 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ซึ่งเมื่อออกพันธบัตรไปแล้วจะยังคงมีวงเงินเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกอง ทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 228,962 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5372	การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 6	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 6 ให้แก่บริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2543 อัตราดอกเบี้ย ร้ยอละ 2.50 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ซึ่งเมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้วจะยังคงมีวงเงินเหลือตามโครงการ ช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีกจำนวน 228,957 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5373	การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 7-9	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ครั้งที่ 7 ให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,053 ล้านบาท ครั้งที่ 8 ให้แก่ธนาคาร ดีบีเอสไทยทนุ จำกัด (มหาชน) จำนวน 93 ล้านบาท และครั้งที่ 9 ให้แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 545 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้ว เมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม 2543 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ซึ่งเมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้ แล้วจะยังคงมีวงเงินเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออีกอยู่จำนวน 226,266 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5374	รายงานสถิติการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนกันยายน 2543	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสถิติการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือน กันยายน 2543 โดยสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 52.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่ม ขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2543 และเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 6 อันดับ แรก ได้แก่ กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ เลนส์ สุราต่างประเทศ ผลไม้ น้ำหอมและเครื่องสำอาง นาฬิกาและ อุปกรณ์ ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีอัตราการนำเข้าลดลงมากที่สุด 6 อันดับแรก เปรียบเทียบกับเดือนกันยา ยน 2542 ได้แก่ ไวน์ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล ดอกไม้ เครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่ง ภายในที่ทำด้วยคริสตัล สุราต่างประเทศ ไฟแช็คและอุปกรณ์
5375	การแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบและเปลี่ยนแปลงกรรมการในคณะกรรมการประเมิน ผลงานรัฐวิสาหกิจใหม่ โดยแต่งตั้ง นายวิชิต สุรพงษ์ชัย เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แทน นายวิจิตร ศรีสอ้าน กับ แต่งตั้ง นายชีระ ภาณุพงศ์ และนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลง กรรมการจาก "อธิบดีกรมบัญชีกลาง กรรมการและเลขานุการ เป็น อธิบดีกรมบัญชีกลาง กรรมการ" โดยแต่งตั้งผู้ อำนวยการสำนักรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ กระทรวงการคลัง เป็น "กรรมการและเลขานุการ" แทน อธิบดี กรมบัญชีกลาง รวมทั้งแต่งตั้งหัวหน้ากลุ่มวิเคราะห์และประเมินผลรัฐวิสาหกิจ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ แทน ที่ปรึกษาด้านการแปรรูปและประเมินผลรัฐวิสาหกิจ (นักวิชาการคลัง 10 ชช.) และให้ปรับปรุงองค์ประกอบ คณะกรรมการดังกล่าว จากเดิม 17 ท่าน เป็น 20 ท่าน ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่งจากภาครัฐ 8 ท่าน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ 12 ท่าน ทั้งนี้ ให้มีอำนาจหน้าที่คงเดิม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5376	แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายไพศาล กุวลัยรัตน์)	กค	16/01/2544
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้ง นายไพศาล กุวลัยรัตน์ ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายอุดร ขจรเวหาศน์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5377	การรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 และการรายงานผลการ ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ระยะที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 (เมษายน - กันยายน 2543) ของ กระทรวงการคลัง	กค	26/12/2543
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 และการรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ระยะที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 (เมษายน - กันยายน 2543) ของกระทรวงการคลัง ซึ่งประกอบด้วย ภาพรวมงาน/โครงการสำคัญ ที่ดำเนินการในระยะที่ 2 ในส่วนที่เป็นไปตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 8 และแนวทางการปรับ แผน ฯ จำนวน 77 งาน/โครงการ และที่ดำเนินการตอบสนองนโยบายรัฐบาล จำนวน 75 งาน/โครงการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้รับความเห็น ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา กาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายเงินกู้ในส่วนของโครงการที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ ต่าประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจซึ่งบางโครงการยังมีการเบิกจ่ายค่อนข้างต่ำ เพื่อให้บรรลุผลการดำเนินโครงการตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และให้มีการประเมินผลสำเร็จของโครงการรับจำนำ สินค้าทางการเกษตรในด้านความทั่วถึงในการแก้ปัญหา การยกระดับราคาสินค้าเกษตร กับให้มีการพิจารณา ทบทวนนโยบายการให้เงินอุดหนุนสินค้าเกษตรพืชหลักให้สอดคล้องกับนโยบายการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ กรอบองค์การการค้าโลก การให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ตลอด จนการเชื่อมโยงระหว่างการผลิตและจัดหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเร่งรัดการจัดตั้งสถาบันการ เงินตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการระดมเงินออมและการลงทุนของชาวมุสลิมทั้ง ในและต่างประเทศอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การดำเนินการเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวโดยการพัฒนาระบบ กองทุนควรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ในแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน ทั้งนี้ การรายงาน ผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 8 ควรให้ความสำคัญในการให้รายละเอียดผล การดำเนินการที่สำคัญ พร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรคอย่างชัดเจน และครบถ้วนมากขึ้น
5378	การกู้เงินในรูป Euro Commercial Paper (ECP)	กค	26/12/2543
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial Paper (ECP) ให้แก่การไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวง เพื่อทำ Refinance เงินกู้จากธนาคาร พัฒนาเอเซีย ในวงเงิน 16,971,000,000 เยน โดยการออกตราสาร ECP เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2543 ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนของการไฟฟ้า ฯ จำนวน 14,546,000,000 เยน และส่วนของการประปา ฯ จำนวน 2,425,000,000 เยน ทั้งนี้ วงเงินที่กู้ในรูป ECP รับสุทธิเป็นเงินรวม 16,920,457,909 เยน มีส่วนขาด ซึ่งเกิดการหักดอกเบี้ย ณ วันออกตราสาร จำนวน 50,542,091 เยน และได้มีการสั่งจ่ายเงินเพื่อชำระคืน เงินกู้ให้ธนาคารพัฒนาเอเซียแล้ว นอกจากนี้ การไฟฟ้า ฯ และการประปา ฯ จะเป็นผู้กู้เงินดังกล่าวต่อจาก กระทรวงการคลังตามนัยเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังได้ผูกพันไว้ โดยผลการกู้เงินเพื่อ Refinance ดังกล่าว ทำให้การไฟฟ้า ฯ และการประปา ฯ สามารถลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้เป็นจำนวน 375,006,707 เยน และ จำนวน 85,439,944 เยน ตามลำดับ
5379	การจ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างให้แก่พนักงานและลูกจ้างของสถาบันการเงินที่ทางการเข้าแทรกแซง	กค	26/12/2543
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การจ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างให้แก่พนักงานและลูกจ้างของบริษัท เงินทุนเฟิสท์ ซิตี้ อินเวสเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FCI ต้องถือปฏิบัติตามหลักการตามพระราชบัญญัติ พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 ทั้งนี้ ให้กรณีของ FCI เป็นบรรทัดฐานสำหรับสถาบันการเงิน อื่นที่เป็นรัฐวิสาหกิจโดยนิติเหตุ และอาจจะมีการเลิกจ้างต่อไปด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
5380	การจัดตั้งสำนักงานผู้แทนของธนาคารพัฒนาเอเซียในประเทศไทย	กค	26/12/2543
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานผู้แทนธนาคาร พัฒนาเอเซียได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันในระดับเดียวกับสำนักงานผู้แทนขององค์การสหประชาชาติและทบวงการ ชำนัญพิเศษในกรอบสหประชาชาติ เช่น ธนาคารโลก รวมทั้งเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทยเพื่อเจรจาข้อตกลงจัด ตั้งสำนักงานผู้แทนของธนาคารพัฒนาเอเซียในประเทศไทยกับธนาคารพัฒนาเอเซีย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง

.....