คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรจ้างลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 589 อัตรา ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 - 30 กันยายน 2548  คิดเป็นยอดเงินงบประมาณปีละ  35,795,100  บาท  รวม 
ระยะเวลา  4  ปี  เป็นเงินทั้งสิ้น 143,180,400 บาท  ตามโครงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพื่อดำเนินงานตามแผน 
แม่บทกรมศุลกากร    ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ     และในกรณีที่กรมศุลกากรได้รับอัตราข้าราชการเพิ่มใน
ระยะเวลาระหว่างดำเนินการโครงการนี้ ให้กรมศุลกากรปรับลดจำนวนลูกจ้างชั่วคราวที่เสนอขอไว้ลง สำนักงบ
ประมาณได้จัดเตรียมค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ไว้แล้ว  เป็นเงิน 30,225,000 บาท  ยังขาดอยู่อีก 
เป็นเงิน  5,570,100  บาท    ให้กรมศุลกากรพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2545 หรือใช้เงินนอกงบประมาณสมทบในส่วนที่ยังขาดอยู่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

                               เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อ  
โกงประชาชน  พ.ศ. 2527  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงิน 
ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน   และกำหนดให้การโฆษณาหรือประกาศให้ประชาชนนำเงินเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจ 
ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นความผิดฐานกู้ยืมเงิน ฯ ด้วย ประกอบกับการ
เพิ่มเติมบทบัญญัติในเรื่องการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทน   การจ่ายรางวัล   ความรับผิดของพนักงานหรือลูก 
จ้างของนิติบุคคลผู้กระทำความผิดผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้นเมื่อมีการกระทำความผิดซ้ำ และการเนร  
เทศผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นคนต่างด้าว)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 
ได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภา
ผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน 
ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการที่รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงจะให้เงินกู้โดยผ่าน   
ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น  (JBIC)  เป็นสกุลเงินเยน   จำนวน  4,079  ล้านเยน  
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 2  ประกอบด้วย  เงินกู้สำหรับงานบริการที่ปรึกษา       
และเงินกู้สำหรับงานก่อสร้าง ระยะปลอดหนี้ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี  และร้อยละ 1 ต่อปี     
ตามลำดับ ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้  6  ปี รวมทั้งการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย  สำหรับเงื่อนไขเงิน   
กู้อื่น ๆ   ให้เป็นไปตามเงื่อนไขมาตรฐานเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น     และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ  
คลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยน  ฯ    ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณา 
จักรไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา เพิ่มอีก    
1 อัตรา เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวสำหรับนายพิสิฐ กุศลาไสยานนท์ และเมื่อนายพิสิฐ ฯ พ้นจากตำแหน่งเมื่อใดให้  
ทางบริษัท ฯ ยุบเลิกตำแหน่งดังกล่าว  โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตรา 185,518 บาท  ตามที่กระทรวงการคลัง 
เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงิน  
ในวงเงิน 14,850 ล้านเยน จากธนาคารพัฒนาเอเซีย โดยการออกตราสาร ECP  (Euro  Commercial  Paper)
เพื่อใช้เป็น  Bridge Finance  ก่อนที่จะสามารถจัดหาเงินกู้ระยะยาวในรูป  Syndication  จากต่างประเทศมาทด 
แทนเงินกู้ ECP  ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนในวันที่  1  ตุลาคม  2544  โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน  
อายุเงินกู้ 5 ปี  การชำระคืนเงินกู้ แบ่งเป็น 10 งวดเท่า ๆ กัน  ชำระทุก 6 เดือน  เริ่มชำระงวดแรกในวันที่ครบ  
6  เดือนหลังจากวันเบิกจ่ายเงินกู้  อัตราดอกเบี้ยลอยตัว    รวมทั้งเงื่อนไขอื่น ๆ  เป็นไปตามสัญญามาตรฐาน   
Syndication และ ISDA Agreement และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  มอบให้กระทรวง 
การคลัง  (สำนักบริหารหนี้สาธารณะ)  รับไปพิจารณาดำเนินการ  Refinance  โดยจัดหาเงินกู้ระยะยาว และ
สถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขที่ดีที่สุด เพื่อทำ Refinance เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน  และหาก
เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจใดสามารถดำเนินการได้ในลักษณะนี้ ก็ให้เร่งดำเนินการเพื่อลดต้นทุนต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนโดยการส่งเสริมการผลิตเครื่องดื่ม 
หมัก เครื่องดื่มผสม และผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตรที่มีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกินสิบห้าดีกรี  โดยให้กำหนด 
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มหมัก  เครื่องดื่มผสม  และผลิตภัณฑ์จาก  
ผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าว   ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   และโดยที่เป็นเรื่องสำคัญ มีรายละเอียดมากและ 
เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายปองพล อดิเรก 
สาร)  รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้พิจารณาทบทวนเพื่อให้สามารถ
ดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์   มีความสมดุลทุกด้าน    โดยส่งเสริมและสนับสนุนในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม 
และไม่เป็นการจูงใจให้ประชาชนบริโภคเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากขึ้น แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง 
หนึ่ง ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า จำนวนคนผู้ขออนุญาตควรสอดคล้องกับคณะผู้ประกอบการหรือคณะผู้จัด
ตั้งวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน   ส่วนการมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ นั้น ควรกำหนด 
ความหมายให้ชัดเจนด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10  ในสังกัดกระทรวงการคลัง  
จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล และนายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร  ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง  
(นักบริหาร  10)  สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง  นายศานิต  ร่างน้อย  และนายชาญยุทธ  ปทุมารักษ์  ให้ดำรง  
ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 
2544เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์
ดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารสินทรัพย์   (กำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์เป็นตัวแทนเรียกเก็บ 
และรับชำระหนี้  รวมทั้งเก็บรักษาเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งปวงของลูกหนี้ที่โอน  และเป็นตัวแทนหรือรับจ้างในการ
ติดตามบริหารสินทรัพย์และกิจการอื่นใดที่เกี่ยวข้องอันเนื่องมาจากการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่บรรษัท
บริหารสินทรัพย์ไทย)   ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยภาษีเงินได้ (ปรับปรุงอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย  สำหรับการจ่ายเงินค่าขนส่ง  จากที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ  
3 ให้คงเหลือในอัตราร้อยละ 1  โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป) ตามที่ 
กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการแปรสภาพของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เป็น
บริษัทจำกัด ตามมติคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) โดยนำ ปตท. รัฐวิสาหกิจทั้งองค์กรแปลง  
สภาพเป็น  บริษัท  ปตท.จำกัด   ภายใต้โครงสร้างที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ 
(กพช.)  ตามที่รองนายกรัฐมนตรี  (นายปองพล  อดิเรกสาร)  ประธาน กนท. เสนอ   โดยให้คณะกรรมการ
เตรียมการจัดตั้งบริษัท ปตท. เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจของพระราชบัญญัติทุนรัฐ  
วิสาหกิจ พ.ศ. 2542  เพื่อให้สามารถนำ  ปตท.  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อย่าง 
ช้าภายในเดือนพฤศจิกายน  2544  โดยให้คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ฯ  ดำเนินการตามพระราช
บัญญัติดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม  2544   และให้รับข้อสังเกตของ  กนท.  (เกี่ยวกับการแปร
สภาพของ  ปตท.  โดยการแยกกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทแยกออกจากบริษัทจัดซื้อและ 
จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ   สำหรับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ  โดยให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปเข้า 
ไปถือหุ้นของ ปตท. ในลักษณะเป็นการลงทุนระยะยาว   ในขณะเดียวกันให้พนักงาน  ปตท.  สนใจและมีส่วน
ร่วมเป็นเจ้าของ  โดยให้ ปตท. พิจารณาหาแนวทางให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของหุ้นได้)  ไปประกอบการ
พิจารณาด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ...) ออกตามความในประมวลรัษฎากร  
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (กำหนดให้เงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจาก 
กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน เมื่อออกจากงานเพราะเหตุสูงอายุ  ทุพพลภาพ  หรือ
ตายเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วัน  
ที่  1  มกราคม  2543  เป็นต้นไป) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  ตามที่กระทรวง
การคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับการนำโครงการเกษียณก่อน  
กำหนด : ลูกจ้างประจำ มาพิจารณาทบทวนใหม่ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือด้วย ซึ่งที่  
ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ควรดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป้าหมายการลดอัตรากำลังคนภาค   
รัฐตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฯ ฉบับที่ 8  ในส่วนของลูกจ้างประจำเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว  จึงไม่จำเป็น  
ต้องลดอัตรากำลังอีก บางส่วนราชการยังมีความจำเป็นต้องใช้อัตรากำลังในลักษณะลูกจ้างประจำซึ่งเป็น   
ผู้มีความรู้ ความชำนาญงานเฉพาะด้าน  และส่วนราชการที่มีความจำเป็น อาจมีการจ้างในรูปแบบอื่นมา  
ทดแทน  เช่น  การจ้างเหมาบริการหรือการจ้างลูกจ้างชั่วคราว  ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณด้าน 
อื่น ประกอบกับไม่มีงบประมาณเพื่อรองรับโครงการนี้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 4  (คกก.4)
ที่ให้กรมสรรพากรเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการ จำนวน 5,323 อัตรา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ยกเว้น  
การถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 และ 3 ตุลาคม 2543 เรื่อง  มาตรการควบคุม 
ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย  โดยให้รวมอัตรากำลังที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย 
และนโยบายกำลังคนภาครัฐ ซึ่งจัดสรรอัตราที่ยุบเลิกจากการเกษียณอายุปีงบประมาณ พ.ศ. 2543  :  ข้าราช 
การ ให้กรมสรรพากร จำนวน  1,141  อัตรา  ไว้ในจำนวนดังกล่าวด้วย  และให้กรมสรรพากรยุบเลิกอัตราลูก  
จ้างชั่วคราวที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2544 จำนวน  3,100  อัตราลงทันทีที่มีอัตรา
ว่าง และให้ยุบเลิกอัตราลูกจ้างชั่วคราวลงอีกไม่น้อยกว่าปีละ 1 ใน  3  โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544
ทั้งนี้  ให้ยุบเลิกทั้งหมดภายในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2547  นอกจากนี้  ให้กระทรวงการคลัง  (กรมสรรพากร)
ดำเนินการตามข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี (ที่ให้เพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร  และใช้ระบบเทคโนโลยีสาร
สนเทศ (IT) เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานให้มากขึ้นด้วย)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 5  (คกก.5) 
ที่เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง  ที่  ศก.  /2544  เรื่อง  ยกเลิกการยกเว้นอากรและการลดอัตราอากร  
ศุลกากร การยกเว้นอากรและการลดอัตราอากรศุลกากร (ปรับลดอัตราอากรขาเข้าแก่อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับ  
โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคการขนส่ง ได้แก่  อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการใช้ก๊าชธรรมชาติสำหรับติด
ตั้งในรถยนต์และใช้ในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติและอุปกรณ์จำเป็น) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ   และให้ส่ง 
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ และนายเกียรติศักดิ์ จีรเธียรนาถ ให้ดำรง
ตำแหน่งเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไปอีกวาระหนึ่ง ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (14 สิงหาคม 2544) เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายประกอบ ตันติยาพงศ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการ
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่  27  สิงหาคม  2544  เป็นต้นไป  ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเร่งรัด 
การเบิกจ่ายโครงการเงินกู้จากต่างประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2544 โดย  
ณ  วันที่  30  มิถุนายน  2544  ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินงานในไตรมาสที่  3   มีส่วนราชการและ   
รัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ จำนวน 20 โครงการ ได้เบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวเพื่อใช้ในการ   
ดำเนินงานและสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  จำนวน  139.85  ล้านเหรียญสหรัฐ  
หรือเทียบเท่า 6,363.18 ล้านบาท  ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40.5 ของเป้าหมายการเบิกจ่ายสำหรับไตรมาสนี้  โดย
โครงการเงินกู้ของส่วนราชการ จำนวน  9  โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น  44  ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือ  
เทียบเท่า  2,002  ล้านบาท   ส่วนโครงการของรัฐวิสาหกิจ  จำนวน  8  โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น   
34.78 ล้านเหรียญสหรัฐ   หรือเทียบเท่า 1,582.49 ล้านบาท  และโครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างและลด  
ผลกระทบทางสังคม จำนวน 3 โครงการ  มีการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งสิ้น 61.07 ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือเทียบเท่า 
2,778.69 ล้านบาทสำหรับไตรมาสที่ 4 ได้กำหนดเป้าหมายในการเบิกจ่ายเงินกู้ไว้ในวงเงินรวม 236.54 ล้าน
เหรียญสหรัฐ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินโครงการพักชำระหนี้และลดภาระ
หนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 
(ธ.ก.ส.) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2544  มีจำนวนเกษตรกรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ฯ แล้ว จำนวน 2,254,792 
ราย  คิดเป็นร้อยละ  95.20  ของจำนวนเกษตรกลุ่มเป้าหมาย  จำนวน 2,368,412 ราย จำแนกเป็นเกษตรกร
ที่สมัครใจขอพักชำระหนี้ จำนวน  1,155,360  ราย  และเกษตรกรที่สมัครใจขอลดภาระหนี้ จำนวน 1,099,432 
ราย  สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ ฯ จำนวน 113,620 ราย  เนื่องจากไปรับจ้างทำงานต่างจังหวัด
และไปรับจ้างทำงานต่างประเทศ นั้น กลุ่มเกษตรกรดังกล่าว ธ.ก.ส. ได้รับรองและมีสิทธิ์ได้เข้าร่วมโครงการ ฯ 
แล้ว จำนวน 83,666 ราย  หรือร้อยละ  73.64  ของเกษตรกรที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ ฯ โดย ธ.ก.ส. จะดำเนิน
การแจ้งและติดตามให้เกษตรกรดังกล่าวหรือทายาทลงลายมือชื่อยืนยันการใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ฯ ต่อไปโดยเร็ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบ  
ประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2544  โดยการเบิกจ่ายใน  
ภาพรวม  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว  จำนวน  642,924  ล้านบาท  หรือร้อยละ 
70.65 ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท  เปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน  
มีอัตราการเบิกจ่ายสูงกว่าร้อยละ 0.02  ส่วนผลการเบิกจ่ายงบลงทุน จำแนกตามกระทรวง มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 
103,173  ล้านบาท  หรือร้อยละ  46.68  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน  221,023  ล้านบาท   โดยกระทรวง    
ยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ และสำนักนายกรัฐมนตรี  มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด  3  อันดับแรก  และผลการเบิก 
จ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน  32  แห่ง   มีการเบิกจ่ายแล้ว 
90,847 ล้านบาท จากงบลงทุน 189,026 ล้านบาท  หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด  3  อันดับแรก  ได้แก่  
กรุงเทพมหานคร  สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย   และกองทัพบก   สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 
ของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น    ซึ่ง  ณ  วันที่  31  กรกฎาคม 
2544  มีการเบิกจ่ายเงินในส่วนของรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนจากคลังแล้ว จำนวน  15,656  ล้านบาท  
คิดเป็นร้อยละ 48.36 ของวงเงินงบประมาณ  32,374  ล้านบาท  โดยหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด  3  
อันดับแรก ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน กรมทางหลวง และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  ทั้งนี้ จากการ 
ประเมินสถานการณ์การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง  2  เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  คาดว่า  
หน่วยงานต่าง ๆ จะมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2544 เท่ากับ  
719,424  ล้านบาท  หรือร้อยละ  79.06  ของวงเงินงบประมาณ  รวมทั้งการเบิกจ่ายในภาพรวม  ณ  สิ้นปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2544 จะเป็นไปตามเป้าหมาย คือ ร้อยละ 90 ของวงเงินงบประมาณ หรือ 819,000 ล้านบาท