ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 22 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 421 - 440 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 421 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 23/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงทุนมติของที่ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 422 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษ
สำหรับข้าราชการกรมศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยปรับปรุงชุดเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นให้มีเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นข้าราชการกรมศุลกากรหญิง
(จากเดิมข้าราชการกรมศุลกากรหญิงไม่มีชุดเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้น)
และแก้ไขเพิ่มเติมเครื่องแบบปฏิบัติงานตรวจค้นข้าราชการกรมศุลกากรชาย (เช่น
ปรับปรุงเสื้อเป็นเสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวเป็นสีน้ำเงินดำจากเดิมเป็นเสื้อคอพับติดกับกางเกงสีน้ำเงินดำ
และเพิ่มเติมให้มีกางเกงขายาวแบบฝึกสีน้ำเงินดำ
จากเดิมที่ใช้เป็นกางเกงขายาวสีน้ำเงินดำ)
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการตรวจค้น ปราบปราม และตรวจการณ์
และเพื่อให้ข้าราชการมีเครื่องแบบที่เหมาะสมกับภารกิจดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 423 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้พัสดุส่งเสริมดิจิทัลตามบัญชีบริการดิจิทัลเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการดิจิทัลของประเทศไทยของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
เป็นพัสดุประเภทที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุดังกล่าวโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจงหรือวิธีคัดเลือก
แล้วแต่กรณี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 424 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2566 | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ปัญหาอุปสรรคในการจัดหาอากาศยานให้เป็นไปตามแผนการจัดหาอากาศยานในปี
๒๕๖๗-๒๕๖๘ ด้วย ๒. ให้คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 425 | รายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 1 | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ รอบ ๖ เดือน
ครั้งที่ ๑ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
การติดตามประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดฯ มีโครงการทั้งสิ้น ๒,๔๗๔ โครงการ
ประกอบด้วย ๓ แผนงาน ได้แก่ (๑) เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) (๒) เพื่อช่วยเหลือ
เยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ และ (๓)
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ ๒. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกลุ่มที่ปรึกษาภายใต้โครงการและแผนงานภายใต้พระราชกำหนดฯ
ได้จัดทำรายงานผลฯ ซึ่งคณะกรรมการประเมินผลการใช้จ่ายเงินตามพระราชกำหนดฯ
ได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
โดยคัดเลือกโครงการที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมที่แล้วเสร็จ จำนวน ๑๐ โครงการ
มีกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ๑๘๔,๔๑๐.๔๔ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายรวม ๑๘๓,๔๙๑.๓๐
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๕๐ ของกรอบวงเงิน โดยทั้ง ๑๐ โครงการ
มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก ช่วยให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
จำนวน ๔๒,๓๒๒.๒๒ ล้านบาท
และมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่คาดว่ารัฐจะได้กลับคืนสูงสุดภายใน ๓ ปี จำนวน ๘,๑๖๘.๒๓ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 426 | รายงานการประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 3 และรายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ ๖ เดือน
ครั้งที่ ๓ และรายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
พ.ศ. ๒๕๖๓ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) รายงานประเมินผลโครงการในภาพรวม รอบ ๖
เดือน ครั้งที่ ๓ โดยผลการประเมินในภาพรวมฯ พบว่า
เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ๓,๑๘๔,๓๘๕.๓๔ ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ๗๙๖,๘๔๙.๕๓ ล้านบาท และสามารถรักษาการจ้างงาน ๒๐.๕๑ ล้านอัตรา
อีกทั้งผลการประเมินในด้านความสอดคล้องและความเชื่อมโยง ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ผลกระทบและความยั่งยืน มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก
และผลการประเมินในระดับแผนงานมีผลการดำเนินอยู่ในระดับดีมาก ได้แก่
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-๑๙
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน
เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙
แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ เช่น โครงการ “โคก หนอง นาโมเดล” (๒)
รายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ
โดยใช้ ๓ แบบจำลอง ได้แก่ แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาค ใช้ประเมินผล เช่น ผลกระทบต่อ
GDP เพิ่มขึ้น ๐.๘๐ ล้านล้านบาท แบบจำลองดุลยภาพทั่วไปเชิงพลวัติ
ใช้ประเมินผล เช่น มูลค่า Real GDP เพิ่มสูงขึ้น ๑๗๑,๗๔๑.๕๓ ล้านบาท และแบบจำลองปัจจัยการผลิต ใช้ประเมินผล เช่น
เงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ๓,๑๘๔,๓๕๘.๓๔
ล้านบาท สร้างมูลค่า GDP ๗๙๖,๘๔๙.๕๓
ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 427 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๙๐
ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศ
และเป็นที่ระลึก
รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมธนารักษ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 428 | ร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระดับผู้นำทางอาเซียนในการส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคโดยใช้เทคโนโลยี
รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสนับสนุนการจัดตั้งLocal Currency Transaction Task Force เพื่อสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 429 | รายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม - ธันวาคม 2565) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๕) ของธนาคารแห่งประเทศไทย สรุปได้ ดังนี้ (๑)
เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี ๒๕๖๕ ขยายตัวที่ร้อยละ ๒.๙
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้าและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลัง
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ ๖.๕๔
เพิ่มขึ้นจากในช่วงครึ่งแรกของปีที่อยู่ที่ร้อยละ ๕.๖๑ และเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี
(๒) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินงาน เช่น (๑)
การดำเนินนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ย ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕
คณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จำนวน ๓ ครั้ง โดย ณ
สิ้นปี ๒๕๖๕ อยู่ที่ร้อยละ ๑.๒๕ (๒) แนวทางการดำเนินงานการประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน
โดยจะทบทวนกรอบการประเมินธนาคารพาณิชย์ให้สอดรับกับภูมิภาคทางการเงินของไทย
และครอบคลุมถึงความเสี่ยงใหม่ ๆ และ (๓)
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน
โดยจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลและการชำระเงินด้วยดิจิทัลอย่างครบวงจร
โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริหารได้ภายในปี ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 430 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 9 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๙ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ
เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม สรุปได้ ดังนี้ (๑)
การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังอาเซียน (AFMM) ครั้งที่ ๒๗ ที่ประชุมฯ
ได้ติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือทางการเงินอาเซียน โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ
เช่น การปรับทิศทางการดำเนินงานไปสู่การลงทุนในโครงการสีเขียวเพิ่มขึ้น
และการพิจารณาการเพิ่มทุนมูลค่า ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ของกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (๒) การประชุม AFMGM ครั้งที่ ๙
มีการหารือเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
และรับทราบประเด็นที่สำคัญที่อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนต้องการผลักดันให้สำเร็จภายในปี
๒๕๖๖ ได้แก่ ด้านการฟื้นฟูและการสร้างใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล และความยั่งยืน (๓)
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ มีการหารือใน ๓
ประเด็น ได้แก่ ความท้าทายของนโยบายการคลังภายหลังสถานการณ์โควิด-๑๙
ความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงทางอาหาร (๔)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีการหารือทวิภาคีกับคู่เจรจาต่าง ๆ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอให้อินโดนีเซียสนับสนุนให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World
Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต และสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน
โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวถึงการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเงินที่ยั่งยืน
โดยไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา BCG Economy และ (๕)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ
“การเปลี่ยนผ่านสู่การเงินที่ยั่งยืนในอาเซียน”
ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย
และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ มีสาระสำคัญ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เห็นควรผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และการแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงานของไทย เช่น การผลักดันนโยบาย ๓๐@๓๐ ตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 431 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา (องค์การมหาชน)
(สคพ.) เป็นหน่วยงานของรัฐประเภทที่ปรึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่มีความประสงค์จัดจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันดังกล่าวใช้วิธีเฉพาะเจาะจงได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 432 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 26 | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ เมืองอินซอน
สาธารณรัฐเกาหลี และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
มีสาระสำคัญเพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค อาทิ
การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน
และการเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือของอาเซียน+๓
รวมทั้งการกำหนดข้อริเริ่มภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 433 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑)
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน (๒) งบแสดงฐานะการเงิน (๓)
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน (๔) งบกระแสเงินสด (๕)
รายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ และ (๖) หมายเหตุประกอบงบการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 434 | รายงานผลการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB236A เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 | กค. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น
LB236A เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม
๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล
รุ่น LB236A
ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการพื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่จะครบกำหนดในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๖ วงเงิน ๓๐,๐๐๐
ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖ ๒.
กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ครั้งที่ ๒ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ภายในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖)
ต่อไปด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 435 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 9 | กค. | 18/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๙ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ฯ จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของการเป็นประชาคมอาเซียน
คือการส่งเสริมความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือระหว่างกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภูมิภาคอาเซียน
และการรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียน
เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน ตลอดจนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๙
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 436 | รายงานประจำปี 2558 และปี 2559 ของกองทุนการออมแห่งชาติ | กค. | 11/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๘ และปี ๒๕๕๙
ของกองทุนการออมแห่งชาติ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยผลการดำเนินงานของกองทุนการออมแห่งชาติ
ประจำปี ๒๕๕๘ และประจำปี ๒๕๕๙ และรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ปี ๒๕๕๘ และปี
๒๕๕๙ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ และสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๕๙ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
โดยเห็นว่ารายงานการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติดังกล่าวมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
ตามที่กองทุนการออมแห่งชาติเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 437 | การของบกลางเพื่อชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก ปี 2561 | กค. | 11/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๐๐,๖๐๑,๐๔๓.๔๕ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก ปี ๒๕๖๑ โดยเบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๖๙ (๓) แล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) และสำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และเห็นควรให้มีแนวทางการบริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะต่อไปอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาระที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าวเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้อนุมัติไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 438 | รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2565 | กค. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๕ ซึ่งเป็นรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปี เพื่อแสดงผลการประเมินความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจมหภาค
ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
ที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 439 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานการเงินรวมภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และบทวิเคราะห์รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินของรัฐบาล หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน ๘,๔๒๔ หน่วยงาน จากจำนวนทั้งหมด ๘,๔๔๓
หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๗
โดยมีหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาตามมาตรา ๗๐ จำนวน ๕๖
หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๐.๖๖ ประกอบด้วย
หน่วยงานของรัฐที่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวน ๓๗ หน่วยงาน และหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายการเงิน
จำนวน ๑๙ หน่วยงาน และให้หน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
พร้อมทั้งรายงานเหตุผลหรือปัญหา อุปสรรค
และแนวทางแก้ไขให้กระทรวงเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณถัดไปให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
รวมทั้งหน่วยงานที่มีเงินได้มากกว่าที่มีการใช้จ่ายจริง หรือมีเงินสะสมคงเหลือ
โดยให้นำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายเป็นลำดับแรก หรือสมทบกับเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีในการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน
ตลอดจนควรทบทวนการขอรับจัดสรรงบประมาณเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความเหมาะสม และประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 440 | ผลเบื้องต้นสำหรับการประเมินการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องขอ ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริง | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลเบื้องต้นสำหรับการประเมินการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องขอ
ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริง
ซึ่งเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานของประเทศที่มีความโปร่งใสทางภาษี โดยประเทศไทยได้เข้ารับการประเมินฯ
ตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน-๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ มีคะแนนโดยรวมอยู่ที่ระดับเป็นไปตามมาตรฐานสากลเป็นบางส่วน
(Partially Compliant) โดยมีประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา
เช่น การมีอยู่ของข้อมูลของผู้เป็นเจ้าของและข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
การเข้าถึงข้อมูล และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข้อสนเทศในทางปฏิบัติ ดังนั้น
คณะผู้ประเมินได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ประเทศไทยควรเร่งดำเนินการเพื่อยกระดับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลให้ทันภายในเดือนเมษายน
๒๕๖๖ โดยปรับจากระดับ Partially Compliant เป็น
ระดับเป็นไปตามมาตรฐานสากลเป็นส่วนใหญ่ (Largely Compliant) ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการ
เช่น การแก้ไขกฎหมายภายในให้ยกเลิกการออกหุ้นผู้ถือในประเทศไทย
และการใช้บังคับกฎหมายที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
