ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 223 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 4441 - 4460 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
4441 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. .... | มท. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลานกระบือ
จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา และตำบลโนนหลวง อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สอดคล้องกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
รวมทั้งอนุรักษ์และสงวนที่เกษตรกรรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
และเป็นศูนย์กลางหลักของชุมชน ด้านการบริหาร การปกครอง ย่านพาณิชยกรรม
โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมจำแนกออกเป็น ๑๐
ประเภท
ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินแต่ละประเภทนั้น
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ให้ดำเนินการในที่ดินแต่ละประเภท
ตลอดจนการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผังโครงการคมนาคมและขนส่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดสัญญาลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน
(สีเขียวมีกรอบและเส้นทแยงสีน้ำตาล) และเพิ่มข้อกำหนดการใช้ที่ดิน
(ที่ดินประเภทปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)
ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขอ
และการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.
๒๕๖๐ ในร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล
เกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ คำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กำหนดประเภทหรือขนาดของกิจการ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่ผู้ขออนุญาตจะต้องดำเนินการก่อนการพิจารณาออกใบอนุญาต พ.ศ. ๒๕๖๑
และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
หลักเกณฑ์ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อรักษาพื้นที่เกษตรกรรมและสภาพแวดล้อม
รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอุทกภัย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
4442 | ขอความเห็นชอบและรับรองต่อเอกสารผลลัพธ์ในระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 | พณ. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โดยร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในภูมิภาค
เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยคาร์บอน
เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในภูมิภาค
ส่วนร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เป็นเอกสารที่กำหนดหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเข้าเป็นภาคีตามความตกลงของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก่อนการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างสมบูรณ์
โดยติมอร์-เลสเต ต้องมีความพร้อมในการดำเนินการตามความตกลงและตราสารสำหรับเสาประชาคมเศรษฐกิจภายในร่างภาคผนวกรวม
๒๒๐ ฉบับ แบ่งออกเป็น ๓ ช่วง ได้แก่ ๑) ต้องมีความพร้อมในการเข้าร่วมทันที จำนวน
๖๖ ฉบับ ๒) ต้องเข้าร่วมภายใน ๒ ปี
หลังเป็นสมาชิกอาเซียน จำนวน ๔๘ ฉบับ และ ๓) ต้องเข้าร่วมภายใน ๕ ปี
หลังเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน จำนวน ๑๐๖ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สาระสำคัญของร่างปฏิญญาฯ
รวมถึงแนวทางและมาตรการที่คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะกำหนดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากร่างปฏิญญา และมาตรการต่าง
ๆ ได้อย่างเหมาะสม เร่งศึกษาโอกาส ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
และแนวทางการเตรียมความพร้อมของไทย
เพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะความตกลงที่ติมอร์-เลสเตจะเข้าร่วมทันทีเมื่อภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนตามร่างภาคผนวกฯ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
4443 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยและการส่งข้อมูลการอุดมศึกษา พ.ศ. .... | สคก. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยและการส่งข้อมูลการอุดมศึกษา
พ.ศ. .... ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาแก่สาธารณะ
และการส่งข้อมูลของสถาบันการอุดมศึกษาให้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4444 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ ให้ถือเป็นหลักการว่า
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้ แต่โดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้มีมติเห็นชอบหลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕) เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และได้มีการเปิดการเรียนการสอนแล้วในสาขาวิชาดุริยางคศิลป์ในปี
๒๕๖๕ โดยจะมีผู้สำเร็จการศึกษาในปี ๒๕๖๘ ดังนั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ควรดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้
เพื่อให้พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับก่อนเปิดทำการสอน
ซึ่งจะรองรับศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
4445 | นายกรัฐมนตรีลากิจในระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน 2566 วันที่ 1-3 พฤษภาคม 2566 และวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 | นร 05 | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
(นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่านายกรัฐมนตรีได้ลากิจ
ดังนี้ ๑. วันพุธที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๒. วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ เมษายน
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๓. วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๔. วันจันทร์ที่ ๑ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๓.๐๐ น. ๕.วันอังคารที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๖.วันพุธที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๗. วันจันทร์ที่ ๘ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๖.๓๐ น.
|
|||||||||||||||||||||||||||
4446 | การพิจารณาความเหมาะสมของโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าในภาพรวม | นร 05 | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าฟ้าไฟเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้นมาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวยังมีข้อจำกัดหลายประการทำให้ไม่สามารถให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนในกลุ่มเปราะบางได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม
ดังนั้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมของโครงสร้างอัตราไฟฟ้าในภาพรวม
โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบางและผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่น ๆ อย่างครอบคลุม
เพื่อให้อัตราไฟฟ้าสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและมีกลไกในการสนับสนุนการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้แก่กลุ่มเปราะบางที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||
4447 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองบาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน คนใหม่ (นายมานูเอล มาตาชานา อารัมบูรู) | กต. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. แต่งตั้ง นายมานูเอล มาตาชานา อารัมบูรู (Mr. Manuel Matachana Aramburu) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองบาร์เซโลนา
ราชอาณาจักรสเปน สืบแทน นายไฆเม ซาบาเต แอร์เช่ (Mr. Jaime Sabate Herce) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครบาร์เซโลนา
ราชอาณาจักรสเปน ที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่งเนื่องชราภาพและมีปัญหาด้านสุขภาพ ๒. ปรับชื่อเรียกตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์จาก
กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองบาร์เซโลนา เป็น กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองบาร์เซโลนา ๓. ปรับชื่อเรียกสถานทำการทางกงสุลจาก
สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองบาร์เซโลนา เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ
เมืองบาร์เซโลนา โดยยังคงสถานะของสถานทำการทางกงสุลเป็นสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ฯ
ไว้เช่นเดิม ๔. ปรับเขตกงสุลให้ครอบคลุมเฉพาะแคว้นกาตาลุญญา
โดยยกเลิกเขตกงสุลที่ครอบคลุมจังหวัดอูเอสกาและเตรูเอลในแคว้นอารากอน ให้สอดคล้องกับระเบียบปัจจุบันของฝ่ายสเปน
รวมทั้งปรับคำสะกดชื่อแคว้นคาตาลูยา เป็น แคว้นกาตาลุญญา
ให้สอดคล้องกับคำสะกดชื่อแคว้นของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา จึงมีผลให้สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์
ฯ มีเขตกงสุลครอบคลุมแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งประกอบด้วย ๔ จังหวัด ได้แก่ บาร์เซโลนา
ฆิโรนา เยย์อิดา และตาร์ราโกน
|
|||||||||||||||||||||||||||
4448 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ครบกำหนดออกตามวาระ) (1. นายปริญญา แสงสุวรรณ ฯลฯ รวม 10 คน) | คค. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย
รวม ๑๐ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิม
ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ เมษายน
๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายปริญญา แสงสุวรรณ ประธานกรรมการ ๒. นายกฤชเทพ สิมลี กรรมการ ๓. พลตำรวจโท เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ กรรมการ ๔. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ กรรมการ ๕. นายวุฒิไกร ลีระพันธุ์ กรรมการ ๖. พลตำรวจโท กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ กรรมการ ๗. นายวรพจน์ เอี่ยมรักษา กรรมการ ๘. นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ กรรมการ ๙. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4449 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (1. นางถวิลวดี บุรีกุล ฯลฯ จำนวน 9 คน) | พม. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
จำนวน ๙ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตีรีมีมติ (๒๕ เมษายน ๒๕๖๖) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ดังนี้ ๑. ผู้แทนองค์กรสตรีและองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ
จำนวน ๖ คน ๑.๑
นางถวิลวดี บุรีกุล ๑.๒
นางสาวศุธาฎา เมฆาวงศกุล ๑.๓
นางสาวสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ๑.๔
นายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ ๑.๕
นางสาวเสาวลักษณ์ ทองก๊วย ๑.๖
นางสาวศิริพร ไชยสุต ๒. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ ด้านสิทธิมนุษยชน
ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้านจิตวิทยา จำนวน ๓ คน ๒.๑
นางปารีณา ศรีวนิชย์ ๒.๒
นายสมศักดิ์ ชลาชล ๒.๓
นางสาวชมพูนุท นาครทรรพ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4450 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา | นร. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการรับโอน
นายกฤษฎา คงคะจันทร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
4451 | การขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ | นร. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี
ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี เมื่อวันที่
๕ เมษายน ๒๕๖๖ ต่อไปอีก (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายธนกร วังบุญคงชนะ) เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
4452 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ | ศร. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4453 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กองทุนยุติธรรม | ยธ. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ กองทุนยุติธรรม โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑)
ความสำเร็จของการดำเนินงานตามมาตรฐานระยะเวลางานบริการของกองทุนฯ
มีประชาชนเข้ารับบริการของกองทุนฯ จำนวน ๔,๔๖๓ ราย ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๔,๒๐๗
ราย (๒) ความสำเร็จของการอนุมัติวงเงินช่วยเหลือประชาชน กองทุนฯ
ให้ความช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๒,๕๔๘ ราย เป็นเงินจำนวน ๒๙๓.๔๑ ล้านบาท (๓)
ผลการดำเนินงานที่สำคัญตามภารกิจของกองทุนฯ เช่น
การช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี จำนวน ๓ กรณี การขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย
จำนวน ๒ กรณี และการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จำนวน ๑ กรณี (๔)
การประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี ๒๕๖๕ มีคะแนนเฉลี่ยรวม ๔.๘๓
คะแนน (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน) และ (๕) รายการเงินของกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4454 | รายงานผลการดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. 2562 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564–31 ธันวาคม 2564) | รง. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานในงานประมง
พ.ศ. ๒๕๖๒ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔-๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ด้านนโยบาย (Policy) เช่น
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และแต่งตั้งคณะทำงานกำกับและติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมง
(๒) ด้านการป้องกัน (Prevention) เช่น มาตรการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
และห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ (๓)
ด้านการบังคับใช้กฎหมาย
(Prosecution) เช่น ตรวจสอบสภาพการจ้าง สภาพการทำงานของแรงงาน ณ
ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ในพื้นที่ ๒๒ จังหวัดชายทะเล (๔)
ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ (Protection) เช่น
ดำเนินการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล
โดยกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน และ (๕) ด้านการมีส่วนร่วม (Partnership) เช่น ดำเนินโครงการสิทธิจากเรือสู่ฝั่ง (Ship to Shoer Rights
Project) ร่วมกับ EU และ ILO ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4455 | รายงานประจำปี 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และผลการสอบบัญชี สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 | สกพอ. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๕
ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ เช่น โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (EEC Project List) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ
การจัดทำแผนผังการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
การให้บริการศูนย์เบ็ดเสร็จครบวงจร (EEC-OSS) เป็นต้น
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๒. รับทราบผลการสอบบัญชี
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4456 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑)
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน (๒) งบแสดงฐานะการเงิน (๓)
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน (๔) งบกระแสเงินสด (๕)
รายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ และ (๖) หมายเหตุประกอบงบการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4457 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 | ลต. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการเงินประจำปีของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4458 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา | สว. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
4459 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนนายาง-หนองจอก จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. .... | มท. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนนายาง-หนองจอก จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองจอก
และตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง ตำบลหนองศาลา ตำบลบางเก่า ตำบลนายาง ตำบลดอนขุนห้วย
และตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน
การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม
เป็นศูนย์กลางหลักการค้าและบริการรับซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ให้บริการแก่ชุมชนโดยรอบ
รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประวัติศาสตร์
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควร (๑)
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมกับการวางผังเมือง
ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประกาศดังกล่าว และคำนึงถึงการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ
ไม่ให้กีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ (๒) จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบ
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ (๓) หากมีการดำเนินการใด ๆ
ในเขตพื้นที่ป่า ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
(๔)
การพิจารณาอนุญาตกิจการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
(๕)
ให้พิจารณาทบทวนหรือกำหนดข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทย
ในประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ ๒๒ (๔) การพิมพ์สิ่งทอให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง กำหนดจำนวน ขนาด
และประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ไม่ให้ตั้งหรือขยายในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจกร พ.ศ.
๒๕๕๐ และ (๖)
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวางผังเมืองรวมชุมชนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
4460 | ผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการบังคับให้นักเรียนลาออกจากโรงเรียนและกลั่นแกล้งดำเนินคดีอาญากับผู้ปกครอง | สม. | 25/04/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีการบังคับให้นักเรียนลาออกจากโรงเรียนและกลั่นแกล้งดำเนินคดีอาญากับผู้ปกครอง
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่
๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า
ควรพิจารณาให้ความคุ้มครองเฉพาะการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตอันเป็นกลไกที่ได้รับการรับรองไว้ในมาตรา
๖๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นเบื้องต้นก่อน และกระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำคู่มือการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนเอกชน
รวมทั้งอยู่ระหว่างการยกร่างระเบียบว่าด้วยจรรยามารยาท วินัย
และหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร
ผู้จัดการและบุคลากรทางการศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|