ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1398 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 27941 - 27960 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 27941 | ร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อกำหนดให้ทายาทของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนซึ่งเสียชีวิตภายหลังจากที่ได้รับบำนาญพิเศษเพราะเหตุพิการทุพพลภาพมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27942 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... | มท | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27943 | การจัดทำความตกลงต่างตอบแทนว่าด้วยพนักงานวิทยุสมัครเล่นไทย - เดนมาร์ก ในรูปแบบของหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต | กสทช | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงต่างตอบแทนว่าด้วยพนักงานวิทยุสมัครเล่นไทย-เดนมาร์กในรูปหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต โดยมีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือเดนมาร์กจัดตั้งและดำเนินการสถานีวิทยุสมัครเล่นได้ตามข้อบังคับวิทยุคมนาคม (Radio Regulations) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) และตามกฎหมายและข้อบังคับของทั้งสองประเทศ ซึ่งผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) แล้ว ก่อนมอบให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตกับราชอาณาจักรเดนมาร์กต่อไป ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27944 | แนวทางการกวดขันบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย | มท | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการกวดขันบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้จังหวัดแจ้งอำเภอโดยศูนย์อำนวยการความเป็นธรรมอำเภอเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ ดังนี้
๑. ด้านการสืบสวนหาข่าว ๑.๑ รับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบและบุคคลที่รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่หรือใช้กำลัง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และเป็นช่องทางที่เป็นความลับ ปลอดภัยแก่แหล่งข่าว ๑.๒ สืบสวนหาข่าวเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสาร และจัดระบบการข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่เข้าองค์ประกอบในลักษณะผู้มีอิทธิพล ๑.๓ กลั่นกรอง ตรวจสอบเบาะแสและข้อมูลข่าวสารด้วยความละเอียดรอบคอบ รัดกุม ถูกต้องเป็นธรรม ๑.๔ จัดระบบการให้ความคุ้มครองบุคคลที่ให้เบาะแส ๒. ด้านการป้องกัน ๒.๑ ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ และบุคคลที่รับจ้างทวงหนี้ ๒.๒ ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด แจ้งข้อมูลข่าวสารและปัญหาความเดือดร้อนทุกข์ยากที่เกิดจากการกระทำของบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบและบุคคลที่รับจ้างทวงหนี้ ๒.๓ เสริมสร้างค่านิยมและทัศนคติที่ถูกต้องดีงามเกี่ยวกับการเคารพกฎหมาย ๓. ด้านการปรามปราม ๓.๑ สืบสวน ติดตามพฤติการณ์เครือข่าย หากพบการกระทำความผิดหรือถ้าประชาชนได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบเบื้องต้นให้ทำการไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้ความผิดตามแนวทางของกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือถ้าเป็นเกษตรกรที่เป็นหนี้นอกระบบให้ใช้การไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้เพื่อนำหนี้เข้าในระบบ โดยใช้แนวทางตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. ๒๕๒๘ หรืออาจตั้งคณะทำงานเจรจาหนี้ที่มีความสามารถในการไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้ แล้วจัดทำสัญญายินยอม ๓.๒ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รับจ้างทวงหนี้โดยใช้วิธีข่มขู่หรือใช้กำลัง ๓.๓ ให้มีการสร้างช่องทางในการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน หรือจากลูกหนี้นอกระบบ พร้อมทั้งทำการสอดส่องเฝ้าระวังพฤติการณ์ของเจ้าหนี้ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27945 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. .... | พณ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นประธานกรรมการ ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖ ที่เห็นควรให้นำร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ การดำเนินการถือหุ้น หรือเข้าไปเป็นหุ้นส่วน ร่วมลงทุน หรือเข้าร่วมกิจการกับนิติบุคคลอื่น ตามร่างมาตรา ๓๐ (๕) นั้น องค์การคลังสินค้าต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการทุกครั้ง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ และให้ส่งร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างมาตรา ๓๐ (๕) ตามความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27946 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย และตำบลหนองหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลกุรุคุ และตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย และตำบลหนองหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย และตำบลหนองหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลกุรุคุ และตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลกุรุคุ และตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27947 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่สรวย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่สรวย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่สรวย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27948 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายชาญเวช ศรัทธาพุทธ) | สธ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชาญเวช ศรัทธาพุทธ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กลุ่มงานศัลยศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27949 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... | มท | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอได้ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27950 | รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศและรายงานการวิเคราะห์ภาวะราคาสินค้าและเศรษฐกิจของไทยเดือนมิถุนายน 2556 | พณ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศและรายงานการวิเคราะห์ภาวะราคาสินค้าและเศรษฐกิจของไทยเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ เทียบกับเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๑๕ จากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ ๐.๒๗ จากการสูงขึ้นของหมวดยานพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้นร้อยละ ๐.๕๖ ตามการสูงขึ้นของดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ ๑.๗๙ จากการสูงขึ้นของราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยภายในประเทศ ตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก ค่าบริการบำรุงรักษายานยนต์ ร้อยละ ๐.๐๙ และค่าโดยสารสาธารณะ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๖ ขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ ๐.๐๗ จากการลดลงของราคาหมวดผักและผลไม้เป็นสำคัญ ทำให้ดัชนีราคาลดลงร้อยละ ๒.๓๔ เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะหมวดผักสด ดัชนีลดลงร้อยละ ๒.๙๙ และหมวดผลไม้สด ลดลงร้อยละ ๒.๙๕ ๒. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ เท่ากับ ๑๐๓.๐๗ เทียบกับเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ สูงขึ้นร้อยละ ๐.๐๙ จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าและบริการ ได้แก่ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า นอกจากนี้ สินค้าและบริการอื่น ๆ ที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาดในบ้าน ค่าตรวจรักษาและค่ายา ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล และค่าบริการส่วนบุคคล ค่าเล่าเรียน ค่าเรียนพิเศษ และหมวดเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27951 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจในการขยายความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสถาบันสมิทโซเนียน สหรัฐอเมริกา | ทส | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจในการขยายความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสถาบันสมิทโซเนียน สหรัฐอเมริกา (Memorandum of Understanding between the Ministry of Natural Resources and Environment, Thailand and Smithsonian Institution, USA) โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์ให้เป็นความร่วมมือทางวิชาการที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ Smithsonian Conservation Biology Institute (SCBI) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือในด้านทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า ดำเนินการโดยใช้กฎ ระเบียบ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ โดยไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีขอบเขตความร่วมมือ (Areas of Cooperation) ในการดำเนินการวิจัยร่วม การอนุรักษ์และการจัดการสัตว์ป่า เทคโนโลยีชีวภาพและการปรับปรุงพันธุ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี เสริมสร้างศักยภาพ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และความร่วมมือสาขาอื่น ๆ ในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าและวิทยาศาสตร์สัตวแพทย์ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยหากมีความจำเป็นโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ๑.๒ อนุมัติให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นว่า การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนที่ส่งผลกระทบทั้งต่อทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่และวิถีชีวิตของประชาชนโดยรอบ ควรมีการศึกษาผลกระทบในวงกว้างร่วมกับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งในมิติด้านวิชาการและมิติด้านกฎหมาย และตามที่บันทึกความเข้าใจฯ ได้จัดทำเป็น ๒ ภาษา ได้แก่ ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในการตีความกรณีที่มีข้อความแตกต่างกัน ให้ถือตามฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลัก ดังนั้น ก่อนการลงนามในสัญญา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรตรวจสอบบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาไทยที่จะมีการลงนามด้วยว่าถูกต้องและครบถ้วนตรงกับเนื้อความในฉบับภาษาอังกฤษ รวมถึงการตรวจสอบคำสะกดให้ถูกต้องทั้งหมดด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดังกล่าวในภายหลัง ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 27952 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงแรงงาน) (นางดุษฎี อัมรานุรักษ์) | รง | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางดุษฎี อัมรานุรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิชาการแรงงานทรงคุณวุฒิ) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27953 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมิถุนายน 2556 | อก | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ การผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐและการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องของภาคเอกชนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขยายตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับแนวโน้มการส่งออก คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามปริมาณการผลิตที่จะลดลง ประกอบกับความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังคงสำรองปูนซีเมนต์ไว้ใช้ในประเทศมากขึ้น ๒. อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แนวโน้มการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ ๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าจะปรับลดลงร้อยละ ๔.๒ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการปรับตัวลดลงร้อยละ ๖.๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากตลาดส่งออกหลักยังไม่ฟื้นตัว และมีสัญญาณการชะลอตัวของการนำเข้าส่วนประกอบและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแสดงว่าการผลิตเพื่อการส่งออกในอนาคตจะยังไม่เพิ่มขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27954 | รายงานความคืบหน้าโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก - อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี | กษ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งานจ้างก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ และอาคารประกอบ ๑.๑.๑ สัญญาที่ ๑ เริ่มสัญญาวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สิ้นสุดสัญญาวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๖ วงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญา ๒,๒๗๐,๑๒๖,๑๒๑.๕๐ บาท ปัจจุบันมีผลงานก่อสร้างสะสมทั้งสัญญาร้อยละ ๗๓.๐๘๑ และมีการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นเงิน ๔๒๕,๔๑๒,๔๕๐.๐๐ บาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร ๑.๑.๒ สัญญาที่ ๒ เริ่มสัญญาที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ สิ้นสุดสัญญาวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ต่อมาได้มีการอนุมัติให้ขยายอายุสัญญาอีก ๑๘๐ วัน ตามมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ส่งผลให้วันสิ้นสุดสัญญาใหม่เป็นวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ วงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญา ๒,๓๔๗,๑๑๕,๗๗๖.๓๕ บาท ปัจจุบันมีผลงานก่อสร้างสะสมทั้งสัญญาร้อยละ ๘๖.๙๙๘ มีการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นเงิน ๒๓๙,๐๖๗,๗๒๔.๘๓ บาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๖๔.๔๙ ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร ๑.๒ ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข ผู้รับจ้างมีชุดทำงานในการดำเนินงานดันท่อลอดไม่เพียงพอ ส่งผลให้การดำเนินงานก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ และอาคารประกอบ สัญญาที่ ๒ ไม่เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ กรมชลประทานได้แจ้งให้ผู้รับจ้างเพิ่มการจัดหาเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานให้มากขึ้น เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และแล้วเสร็จโดยเร็ว ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำให้งานในสัญญาที่ ๒ ไม่เป็นไปตามแผนงาน และเร่งรัดการดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27955 | รัฐบาลสาธารณรัฐคองโกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายดาเนียล โอวาซา (Mr. Daniel Owassa)] | กต | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายดาเนียล โอวาซา (Mr. Daniel Owassa) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐคองโกประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สืบแทนนายปีแยร์ ปาซี (Mr. Pierre Passi) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27956 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่น [นายบุนสี วงบัวสี (Mr. Bounsy Vongbouasy)] | กต | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายบุนสี วงบัวสี (Mr. Bounsy Vongbouasy) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่น โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย สืบแทนนายสิงคำ แก้ววิไลวัน ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27957 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "บทบาทของพระสงฆ์ต่อสังคมและประเทศชาติ" | สสป | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "บทบาทของพระสงฆ์ต่อสังคมและประเทศชาติ" และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย สภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับบทบาทของพระสงฆ์ต่อสังคมและประเทศชาติ รัฐบาลควรให้การส่งเสริมบทบาทของพระสงฆ์ในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพุทธปณิธาน การศึกษาพระไตรปิฎกซึ่งเป็นคัมภีร์ที่สำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา การเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้เข้าถึงจิตใจของประชาชนและเยาวชน การสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน เช่น เด็กยากจน ผู้สูงอายุ คนพิการ การแก้ไขปัญหาสังคมที่เพิ่มมากขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นให้ลดลง โดยใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนาตามหลักอริยสัจสี่ การช่วยเหลือในการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ โดยช่วยพัฒนาผู้นำชุมชนและประชาชนในการพัฒนาชุมชน โดยอาจจะน้อมนำอุดมการณ์แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง หรือปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนหรือหมู่บ้าน การพัฒนาสังคม ครอบคลุมถึงการพัฒนาคน การพัฒนาครอบครัว และการพัฒนาสังคม และการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันสำคัญที่เป็นแกนหลักแห่งความมั่นคงของชาติ ๒. ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่อให้การส่งเสริมบทบาทของพระสงฆ์ต่อสังคมและประเทศชาติตามข้อ ๑ บรรลุผลสำเร็จ รัฐบาลควรดำเนินการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาควบคู่กันไปด้วย โดยสนับสนุนให้มีการบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ว่า "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" ให้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๕ ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง จัดทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติคู่กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดร่วมกับเจ้าคณะจังหวัดจัดทำทำเนียบเครือข่ายพระสงฆ์เพื่อสังคมของแต่ละจังหวัด โดยคัดเลือกพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีผลงานในการเผยแผ่ธรรมะแก่ประชาชน ในการทำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ เป็นสมาชิกเครือข่ายพระสงฆ์เพื่อสังคม และรัฐบาลควรให้การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายพระสงฆ์เพื่อสังคมของแต่ละจังหวัด โดยให้มีงบประมาณที่เหมาะสมเพียงพอ และส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติ และสมัชชาชาวพุทธประจำจังหวัด โดยมีกฎหมายรองรับสถานภาพเพื่อให้มีความเข้มแข็ง จัดให้มีงบประมาณและบุคลากรอย่างเหมาะสมเพียงพอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27958 | การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในวันที่ 1 เมษายน 2556 (สำนักงานผู้แทนการค้าไทย) | นร04 | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ ให้แก่ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย จำนวน ๙ คน ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ประธานผู้แทนการค้าไทย (นายโอฬาร ไชยประวัติ) ๑.๑ นางสาวพัชรินทร์ ฤทธิเกิด นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ สำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๑.๒ นายยุทธภูมิ จารุเศร์นี เศรษฐกรปฏิบัติการ สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๒. ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย (นายพิเชษฐ สถิรชวาล) ๒.๑ นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๒.๒ นางสาวฐิติพร สุขเจริญ เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๓. ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย (นายวิฬุร เตชะไพบูลย์) ๓.๑ นางกมลพรรณ เทพอาวุธ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ กรมสรรพากร ๓.๒ นางสาวอุษาลักษณ์ เจษฎาถาวรวงศ์ เศรษฐกรชำนาญการ สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๔. ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย (นางนลินี ทวีสิน) ๔.๑ นางสาวสุภาวดี เชิดมณี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักตรวจราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๔.๒ นางสาวพุทธชาติ วงษ์มงคล นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ๕. ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย (นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์) ๕.๑ ร้อยโทหญิง พิมญาดา ฉัตรเสถียรพงศ์ ประจำสำนักงานเลขานุการ กองบัญชาการกองทัพไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 27959 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ) | กค | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ) มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา และปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษีในการจัดเก็บภาษีเงินได้จากห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังทำความตกลงกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อหาข้อยุติในประเด็นการแยกการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคลออกจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และหลังจากพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับไประยะหนึ่ง ควรศึกษาผลกระทบจากการปรับปรุงโครงสร้างภาษีต่าง ๆ รวมถึงการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และการยกเว้นหรือลดหย่อนต่าง ๆ ตลอดจนจัดทำมาตรการ แนวทางในการขยายฐานภาษีให้ผู้มีเงินได้เข้ามาอยู่ในระบบเพิ่มมากขึ้น ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 27960 | ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 3/2556 | กค | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยที่ประชุมมีมติรับทราบภาพรวมผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจประจำปี ๒๕๕๕ ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการเงินประกอบการพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด องค์การสะพานปลา องค์การตลาด องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ๑.๒ เห็นชอบผลการพิจารณาและมติที่ประชุม กนร. ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เรื่อง แผนยุทธศาสตร์เพื่อพลิกฟื้นฐานะการเงินของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) ประจำปี ๒๕๕๖-๒๕๕๙ และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท) ประจำปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ๑.๒.๑ เห็นชอบในหลักการให้ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท ดำเนินการตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์เพื่อพลิกฟื้นองค์กรและรองรับนโยบาย Smart Thailand ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๑.๒.๒ ให้ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท รับความเห็นและข้อเสนอแนะของกรรมการและฝ่ายเลขานุการ กนร. เพื่อใช้ในการประกอบการจัดทำรายละเอียดของแผนงานในแต่ละแนวทางให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป ๑.๒.๓ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการกำกับ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท ให้มีการจัดทำรายละเอียดของแผนปฏิบัติการ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจทั้งสองให้บรรลุเป้าหมายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์และพิจารณาการแก้ไขปัญหาทางการเงินให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด โดยให้ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท รายงานความคืบหน้าของการดำเนินการต่าง ๆ และผลประกอบการในแต่ละเดือนให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพิจารณา และนำเสนอ กนร. เพื่อทราบ ทั้งนี้ หาก บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกรอบแนวทางและเป้าหมายที่กำหนดไว้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาจนำเสนอ กนร. พิจารณาแนวทางดำเนินการใหม่ต่อไป ๒. ให้ กนร. รับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เห็นควรแก้ไขมติที่ประชุม กนร. ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเพื่อพิจารณา แผนยุทธศาสตร์เพื่อพลิกฟื้นฐานะการเงินของ บมจ. ทีโอที ประจำปี ๒๕๕๖-๒๕๕๙ และ บมจ. กสท ประจำปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ในหน้า ๕๔ โดยเพิ่มเติมข้อความ “๔. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ รับไปพิจารณาและนำเรื่อง การแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ เสนอต่อที่ประชุม กนร. ต่อไป” ไปพิจารณาด้วย ๓. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดย บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนของรัฐวิสาหกิจทั้ง ๒ แห่ง ควรพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการขอใช้คลื่นความถี่จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติซึ่งต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นอกจากนี้ ควรพิจารณาจัดเตรียมแนวทางบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านเทคโนโลยี ด้านการตลาด ด้านกฎหมาย และด้านการเงิน เพื่อให้สามารถพลิกฟื้นฐานะการเงิน รวมทั้งสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
.....
