ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1296 จากทั้งหมด 6221 หน้า แสดงรายการที่ 25901 - 25920 จากข้อมูลทั้งหมด 124410 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 25901 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ประจำปีงบประมาณ 2557 | กค | 25/11/2557 | |||||||||||||||
|
||||||||||||||||||
| 25902 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 20 (COP20) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 10 (CMP10) | ทส | 25/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๐ (COP20) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๐ (CMP10) ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งสิ้น ๕๐ คน ๑.๒ เห็นชอบต่อท่าทีการเจรจาของไทยสำหรับใช้ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๐ (COP20) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๐ (CMP10) ซึ่งเน้นย้ำการดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาฯ โดยมุ่งหวังให้รัฐภาคียกระดับการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนทางการเงินและเทคโนโลยีจากประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งนี้ เรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้ว ต้องเป็นผู้นำในการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจก และการให้การสนับสนุนทางการเงิน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านวิชาการและประสบการณ์ ๑.๓ หากมีข้อเจรจาใดที่นอกเหนือจากท่าทีการเจรจาฯ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally Binding) ต่อประเทศไทย ขอให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณา โดยไม่ต้องนำกลับเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่จนสิ้นสุดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๐ (COP20) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ ๑๐ (CMP10) ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) ด้านการต่างประเทศ ที่ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่จะไปประชุมระดับนานาชาติ และจะเสนอตัวให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานหรือการประชุมระดับนานาชาติต่าง ๆ รายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสแรกโดยเคร่งครัดด้วย |
||||||||||||||||||
| 25903 | เสนอขอแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (กระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 25904 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ) | วช | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คงคณะกรรมการต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๔ คณะ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย (คพท.) ๒. คณะกรรมการโครงการความร่วมมือการวิจัยระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ๓. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประสานงานของสภาสหภาพวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ (ICSU-ไทย) ๔. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
|
||||||||||||||||||
| 25905 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑๐ คณะ ดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอ ๒. คณะกรรมการสถาบันดำรงราชานุภาพ ๓. คณะกรรมการศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพและหลบหนีเข้าเมือง ๔. คณะกรรมการบริหารเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ๕. คณะกรรมการที่ปรึกษาเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ๖. คณะกรรมการอำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ ๗. คณะกรรมการบูรณาการและปฏิรูประบบการทะเบียนแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติและให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่ชนกลุ่มน้อย ๙. คณะกรรมการบูรณาการการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ ๑๐. คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||
| 25906 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) | ทส | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน ๘ คณะ ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๒. คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๓. คณะกรรมการกองทุนโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๔. คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ประจำจังหวัด ๕. คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ๖. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ๗. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ ๘. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระดับประเทศ (ฝ่ายไทย)
|
||||||||||||||||||
| 25907 | รายงานการตรวจสอบคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) | นร08 | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คงคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวม ๒ คณะ คือ คณะกรรมการพิจารณาปัญหาเขตแดนของประเทศไทย และคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่เช่นเดิม ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 25908 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงาน ก.พ.) | นร10 | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้คณะกรรมการจัดงานวันข้าราชการพลเรือน และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ยังคงมีอยู่ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดงานวันข้าราชการพลเรือน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ๒. ให้คณะกรรมการของสำนักงาน ก.พ. ซึ่งได้แจ้งยืนยันการคงอยู่ของคณะกรรมการไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ เรื่อง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี) มีผลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||
| 25909 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 2 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลโคกเพลาะ ตำบลวัดหลวง ตำบลหัวถนน ตำบลหนองปรือ ตำบลไร่หลักทอง ตำบลหนองเหียง ตำบลบ้านช้าง ตำบลนาวังหิน ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม และตำบลท่าบุญมี ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | กษ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม ๒ ฉบับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการก่อสร้างคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบฝั่งขวา ตามโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำหอม ตำบลมาบแก ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอวังเมือง อำเภอลาดยาว ตำบลปางสวรรค์ ตำบลชุมตาบง อำเภอชุมตาบง จังหวัดนครสวรรค์ และตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลโคกเพลาะ ตำบลวัดหลวง ตำบลหัวถนน ตำบลหนองปรือ ตำบลไร่หลักทอง ตำบลหนองเหียง ตำบลบ้านช้าง ตำบลนาวังหิน ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม และตำบลท่าบุญมี ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน |
||||||||||||||||||
| 25910 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ฯ เป็นกรณีที่มีความจำแป็นโดยเร่งด่วน รวม 2 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำหอม ตำบลมาบแก ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ ตำบลวังเมือง อำเภอลาดยาว ตำบลปางสวรรค์ ตำบลชุมตาบง อำเภอชุมตาบง จังหวัดนครสวรรค์ และตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | กษ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม ๒ ฉบับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการก่อสร้างคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบฝั่งขวา ตามโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำหอม ตำบลมาบแก ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอวังเมือง อำเภอลาดยาว ตำบลปางสวรรค์ ตำบลชุมตาบง อำเภอชุมตาบง จังหวัดนครสวรรค์ และตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ๒. ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลโคกเพลาะ ตำบลวัดหลวง ตำบลหัวถนน ตำบลหนองปรือ ตำบลไร่หลักทอง ตำบลหนองเหียง ตำบลบ้านช้าง ตำบลนาวังหิน ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม และตำบลท่าบุญมี ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดลพบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน |
||||||||||||||||||
| 25911 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายเหนือ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ จำนวน 4 ฉบับ | คค | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ จำนวน ๔ ฉบับ โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางรถไฟทางคู่ และสร้างทาง สร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ และทางรถยนต์ลอดใต้ทางรถไฟ ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเชียงงา และตำบลบ้านหมี่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกลับ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี ตำบลโพตลาดแก้ว ตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง และตำบลโคกลำพาน ตำบลโพธิ์เก้าต้น ตำบลโพธิ์ตรุ ตำบลบางขันหมาก ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... ๒. ให้รับไปพิจารณาด้วยว่าจะตราเป็นพระราชกฤษฎีกาฉบับเดียวกัน แต่ให้มีแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหลายฉบับได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นการดำเนินการตามโครงการเดียวกัน แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
| 25912 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 9 ราย) (1. นายจักรกฤษณ์ ศรีวลี ฯลฯ) | กต | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน ๙ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายจักรกฤษณ์ ศรีวลี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอาเซียน ๒. นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน สำนักงาน ปลัดกระทรวง ๓. นายพิริยะ เข็มพล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายอภิชาติ เพ็ชรรัตน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายเจษฎา ชวาลภาคย์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส สาธารณรัฐอาร์เจนตินา สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายอิศร ปกมนตรี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. ร้อยโทจอมพละ เจริญยิ่ง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||
| 25913 | ขอความเห็นชอบให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ครั้งที่ 1) (นายวิบูลย์ทัต สุทนธนกิตติ์) | ทก | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จะครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ต่อไปอีกเป็นครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||
| 25914 | รายงานสรุปผลดำเนินงานการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิต ปี 2556/2557 | อก | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ ของคณะกรรมการกำกับการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. จัดระบบควบคุม ตรวจสอบ กำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ถึงมือชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ โดยกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าอ้อยในฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ ๒. สรุปผลการจ่ายเงินเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ มีชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญาและมีสิทธิ์ในการได้รับเงินเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้น ๑๖๐ บาท/ตันอ้อย จำนวน ๑๔๖,๔๙๑ ราย ปริมาณอ้อยเข้าหีบ (ณ วันปิดหีบ) จำนวน ๑๐๓,๖๖๕,๗๕๐.๔๖๐ ตัน รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้น จำนวน ๑๖,๕๘๖,๕๒๐,๐๗๓.๖๐ บาท ซึ่งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายได้แจ้งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรโอนเงินเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ เข้าบัญชีชาวไร่อ้อยแล้ว รวม ๑๐ งวด จำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๖,๕๑๙,๖๗๖,๗๙๑.๐๔ บาท ส่วนที่เหลืออีก ๔๑๗,๗๗๐.๕๑๖ ตัน คิดเป็นเงินช่วยเหลือ จำนวน ๖๖,๘๔๓,๒๘๒.๕๖ บาท อยู่ระหว่างดำเนินการ ๓. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๖/๒๕๕๗ จำนวน ๒ ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ ๑ กรมโรงงานอุตสาหกรรม รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และชุดที่ ๒ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อลงพื้นที่ควบคุม ตรวจสอบ กำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ |
||||||||||||||||||
| 25915 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยโรคระบาดสัตว์เพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยโรคระบาดสัตว์เพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้โรคที่ติดต่อในสัตว์ รวม ๗ ชนิด ได้แก่ โรค Peste des Petits Ruminants (PPR), โรค Contagious Bovine Pleuropneumonia (CBPP), โรคบลูทัง Bluetongue, โรคท้องร่วงติดต่อในสุกร Porcine Epidemic Diarrhea (PED), โรค African Swine Fever (ASF), โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา Ebola Virus Disease และโรคตับวายเฉียบพลันในกุ้ง Acute Hepatopancreatic Necrosis Disease (AHPND) เป็นโรคระบาดสัตว์เพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 25916 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2556 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม การส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม การศึกษา วิจัย และพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม และการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ๒. สถิติประเภทเรื่องที่เข้าสู่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ๒.๑ เรื่องเพื่อพิจารณา เช่น เรื่อง โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และการนำเสนอแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานในการเตรียมความพร้อมและรองรับการจัดตั้งศาลชั้นต้นและแผนกคดีในศาลยุติธรรม เรื่อง แนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติตามนโยบายรัฐบาล และเรื่อง ร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ ร้อยละ ๔๓ ๒.๒ เรื่องเพื่อทราบ เช่น เรื่อง ความคืบหน้าในการจัดทำร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ และร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ เรื่อง รายงานข้อมูลผลการสำรวจสถิติอาชญากรรมในภาคประชาชนปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เรื่อง การปรับปรุงและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และเรื่อง โครงการสำรวจข้อมูลการกระทำผิดซ้ำของผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เป็นต้น ร้อยละ ๕๗ ๓. รายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย ด้านภารกิจ งานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ด้านการจัดทำแผนและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารงานยุติธรรม ด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนากฎหมายและระบบงานยุติธรรม ด้านการส่งเสริมและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้สู่สังคม และด้านพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม งบประมาณรายจ่ายรวมทั้งสิ้น ๘๒,๘๗๑,๗๕๐.๗๘ บาท
|
||||||||||||||||||
| 25917 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 7 ราย) (1. นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ฯลฯ) | ศธ | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายสุรพงษ์ จำจด ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายเกษม สดงาม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสุภัทร จำปาทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายชาญเวช บุญประเดิม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
|
||||||||||||||||||
| 25918 | รายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2556 | ศป | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ๕ ยุทธศาสตร์ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ พัฒนาการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองให้เป็นที่เชื่อมั่นแก่สังคมไทย ได้เสริมสร้างมาตรฐานการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลปกครองที่รวดเร็วและมีคุณภาพ ตลอดจนเสริมสร้างระบบการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้มีประสิทธิผล ๑.๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนาหลักกฎหมายและองค์ความรู้เพื่อให้เป็นศูนย์กลางวิชาการด้านกฎหมายมหาชนที่เป็นที่ยอมรับ ได้จัดทำองค์ความรู้ด้านกฎหมายมหาชนเพื่อเผยแพร่แก่ตุลาการศาลปกครองและข้าราชการฝ่ายปกครอง เช่น คำแปลคำพิพากษาของต่างประเทศ งานวิจัย เป็นต้น และได้พัฒนาการให้บริการของหอสมุดกฎหมายมหาชน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับต่างประเทศ ๑.๓ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและเสริมสร้างการปฏิบัติราชการที่ดีให้แก่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมทางปกครองของประชาชน เช่น กิจกรรมศาลปกครองพบประชาชนและเสริมสร้างเครือข่ายด้านสื่อมวลชน กิจกรรมศาลปกครองของประชาชนในเวทีสื่อมวลชน เป็นต้น และได้เสริมสร้างการปฏิบัติราชการที่ดีแก่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น จัดโครงการอบรมหลักสูตรนักบริหารการยุติธรรมทางปกครองระดับสูง โครงการอบรมหลักสูตรกฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองตามมาตรฐานที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครองรับรอง เป็นต้น ๑.๔ ยุทธศาสตร์ที่ ๔ พัฒนาระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อมุ่งสู่องค์การที่มีขีดสมรรถนะสูง ได้ดำเนินการปรับปรุงภารกิจ โครงสร้าง และอัตรากำลังของสำนักงานศาลปกครอง ตลอดจนได้เสริมสร้างความเชี่ยวชาญและขีดสมรรถนะของบุคลากรของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ๑.๕ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ พัฒนาระบบบริหารจัดการองค์การเพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติภารกิจของศาลปกครอง ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานระดับหน่วยงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยกำหนดให้ทุกหน่วยงานจัดทำแนวทางการยกระดับขีดความสามารถในการทำงานและคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานในสำนักงานศาลปกครองให้อยู่ในระดับสูง เพิ่มประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครองและรองรับการพัฒนาองค์การในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ การบริหารทรัพย์สิน การคลัง และการตรวจสอบ ๒. การรายงานผลการปฏิบัติงานดังกล่าว สมควรนำไปสื่อสารให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งเพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ดีต่อศาลปกครอง และสามารถนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนที่เป็นประโยชน์มาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการให้บริการของศาลปกครองในทุกด้านด้วย
|
||||||||||||||||||
| 25919 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | คค | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
| 25920 | มาตรการเร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล | นร05 | 18/11/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้ทุกส่วนราชการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการดำเนินการตามมาตรการเร่งรัดการออกกฎหมายตามมติการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง รายงานผลการบริหารราชการแผ่นดินและการผลักดันนโยบายของคณะรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย) ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการเร่งแจ้งยืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว รวมทั้งเร่งจัดทำร่างกฎหมายใหม่หรือปรับปรุงร่างกฎหมายและเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว ทั้งนี้ การเสนอร่างกฎหมายจะต้องยึดหลักการตามกรอบแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ ๑ ปี (ตุลาคม ๒๕๕๗-ตุลาคม ๒๕๕๘) โดยให้จัดกลุ่มกฎหมายแบ่งออกเป็น กฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมหรือให้สังคมดีขึ้น กฎหมายที่เกี่ยวกับการค้า การลงทุน หรืออนุวัติการตามหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ และกฎหมายที่วางแนวทางการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ ให้จัดทำเป็นตารางและกำหนดกรอบระยะเวลาแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ๑.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งการดำเนินการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อให้ส่วนราชการจะได้แจ้งยืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว หรือเพื่อเสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป รวมทั้งให้จัดทำกลุ่มประเภทกฎหมายตามกรอบแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรีในข้อ ๑.๑ ตลอดจนจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนและกรอบระยะเวลาในการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี แล้วเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ในฐานะรัฐมนตรีผู้ประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อเร่งรัดร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สามารถออกบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว รวมทั้งเร่งรัดการพิจารณาหนังสือสัญญาระหว่างประเทศตามมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ด้วย
|
||||||||||||||||||
.....
