ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1192 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 23821 - 23840 จากข้อมูลทั้งหมด 124345 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23821 | การปรับปรุงเพิ่มเติมร่างแผนขับเคลื่อน (Road Map) พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ และพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน | ทส | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแผนขับเคลื่อน (Road Map) พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ฉบับปรับปรุง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้พิจารณาดำเนินการจัดทำแผนขับเคลื่อน (Road Map) ในลักษณะเดียวกันนี้สำหรับพื้นที่อุทยานทางทะเลและพื้นที่อื่น ๆ ด้วย ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23822 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ๑.๑ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ ตุลาคม ๒๕๕๘) มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดแนวทางการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขพฤติกรรมนักเรียนนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักเรียนในสถาบันอาชีวศึกษา นั้น ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการหารือสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงศึกษาธิการร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ และก่อปัญหาต่อพฤติกรรมและคุณภาพในการเรียนรู้ของเด็ก เช่น การติดเกมส์ออนไลน์ การเข้าถึงสื่อที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต โดยให้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเพิ่มเติม ก็ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มิถุนายน ๒๕๕๘) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดทำเอกสารเผยแพร่เกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ นั้น ในการจัดทำเอกสารดังกล่าวให้เพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพของบูรพกษัตริย์แต่ละยุคแต่ละสมัย โดยมุ่งเน้นการน้อมนำพระราชดำริและพระราชดำรัสไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น การปฏิบัติตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ การใช้พลังงานทดแทน ทั้งนี้ ให้จัดทำทั้งในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ให้แก่ชาวต่างชาติได้รับรู้ต่อไปด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานทุกส่วนราชการเพื่อจัดทำสื่อหรือเอกสารเผยแพร่เรื่องราวที่มีลักษณะเด่นประจำแต่ละภาคของประเทศไทยในความรับผิดชอบ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โบราณสถานที่สำคัญ สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่มีชื่อเสียง โดยให้จัดทำทั้งในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ให้แก่ชาวต่างชาติได้รับรู้ต่อไปด้วย ๒.๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ และ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๘) เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๒.๓.๑ กำหนดให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันดำเนินการ และเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องมีการจัดทำแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหา แผนการบริหารจัดการน้ำ แผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจนทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ให้สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อน (Road Map) ของรัฐบาล และแนวทางการบริหารจัดการน้ำของนานาประเทศ ๒.๓.๒ ในการบริหารจัดการน้ำให้นำหลักการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติและคำนึงถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น พิจารณาแนวทางการเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของประเทศ ขยายร่องน้ำและเชื่อมโยงแหล่งน้ำใกล้เคียงเข้าด้วยกันปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์หรือจัดระเบียบพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ (Zoning) สร้างแหล่งกักเก็บน้ำในฤดูน้ำหลากเพื่อเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้ง ๒.๓.๓ เร่งศึกษาแนวทางในการพัฒนาแหล่งน้ำใหม่เพิ่มเติมเพื่อการกักเก็บน้ำหลากและชะลอน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่น สร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างระบบโครงข่ายแก้มลิง หรือวิธีอื่น ๆ โดยให้เร่งจัดทำแผนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๓. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรวบรวมผลการดำเนินงานของรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น การจัดทำฝนหลวง การบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง การจัดที่ดินทำกิน เพื่อนำความกราบบังคมทูลรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสอันควรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23823 | การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า การดำเนินการจัดทำหนังสือสัญญาหรือเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือเกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ ดังนี้
๑. นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างหนังสือสัญญาก่อนดำเนินการลงนามทุกครั้ง ๒. ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของหนังสือสัญญาที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติหรือเห็นชอบไปแล้ว ๒.๑ หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.๒ หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวขัดหรือไม่สอดคล้องกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการโดยห้ามมิให้แก้ไขหรือลงนามก่อนที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบการปรับเปลี่ยนนั้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
23824 | สรุปผลการดำเนินงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงาน สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ด้านการกีฬา ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมด้านการกีฬาในปี ๒๕๕๘ โดยการสนับสนุนของรัฐบาล โดยเป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๒๘ ณ ประเทศสิงคโปร์ (๙๕ เหรียญทอง ๘๓ เหรียญเงิน และ ๖๙ เหรียญทองแดง) และเป็น ๑ ใน ๕ ทีมที่ดีที่สุดของทวีปเอเชียไปแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ณ ประเทศแคนาดา นอกจากนี้ รัฐบาลยังส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพด้วย ซึ่งในปัจจุบันกรมพลศึกษาได้จัดสร้าง Bike Lane แล้วเสร็จ จำนวน ๑๐๔ เส้นทาง ใน ๕๕ จังหวัด และจะสร้างเพิ่มเติมอีกกว่า ๑๒๐ เส้นทางครอบคลุม ๗๗ จังหวัด ภายในปี ๒๕๕๘ ๑.๒ ด้านการท่องเที่ยว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวนานาชาติประจำปีของประเทศไทย (Thailand Travel Mart Plus Amazing Gateway to the Greater Mekong Sub-region : TTM+) เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและโอกาสทางการตลาด และเป็นการรักษาจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวที่เน้นศักยภาพความเป็นศูนย์กลางการเดินทางในกลุ่มภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งไทยเหมาะจะเป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งของอนุภูมิภาค มีการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยว “2 Kingdoms 1 Destination” เชื่อมโยงแหล่งอารยธรรมอีสานใต้ของไทยและกัมพูชา รวมทั้งวางยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ชายแดน ตามแนวคิดท่องเที่ยว “ASEAN Connect” กับเมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เพื่อความร่วมมือใน ๓ ระดับ ได้แก่ อาเซียนเที่ยวไทย ไทยเที่ยวอาเซียน และทั่วโลกเที่ยวอาเซียน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มตลาดมุสลิม และภาพลักษณ์ความเป็นมิตรที่พร้อมต้อนรับในโครงการ “Thailand Muslim Friendly Destination” ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังได้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาล โดยเน้นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘ ตามนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญอีกด้วย ๒. เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาไทยให้กระจายไปในทุกภูมิภาค ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การกีฬาแห่งประเทศไทย) ดำเนินการจัดตั้งสมาคมกีฬาประเภทต่าง ๆ ในแต่ละภาคขึ้น เพื่อคัดเลือกนักกีฬาในส่วนภูมิภาคที่มีทักษะความสามารถมาร่วมแข่งขันกับตัวแทนนักกีฬาในส่วนกลาง เพื่อคัดเลือกนักกีฬาที่มีความสามารถสูงสุดไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติต่อไป นอกจากนี้ ในทุก ๆ ครั้งที่มีการส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดูแลให้มีการทดสอบสมรรถนะของนักกีฬาตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมไปจนภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน โดยให้นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น รับไปดำเนินการหาแนวทางการบริหารจัดการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถให้บริการนักกีฬาและประชาชนได้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น พื้นที่จอดรถ เส้นทางสัญจร ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น ให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23825 | การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประสานกับหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระ เกี่ยวกับเหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐในการใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน ตลอดจนให้ประสานกับหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การประพฤติผิดของเจ้าหน้าที่ การหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด หรือการทุจริต ให้มีการพิจารณาคดีดังกล่าวด้วยความรวดเร็วขึ้น ๒. การดำเนินการใด ๆ ที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ให้หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการรายงานผลการปฏิบัติให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่องด้วย ๓. ให้ทุกกระทรวงพิจารณาตรวจสอบการดำเนินการใด ๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่คณะรัฐมนตรีเข้ารับหน้าที่ เช่น การแต่งตั้งข้าราชการ การใช้จ่ายงบประมาณ การดำเนินการลงทุนที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก การกู้เงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือสัญญาระหว่างประเทศหรือพันธกรณีระหว่างประเทศ หากมีความจำเป็นต้องใช้อำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว ให้เสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณากลั่นกรองก่อนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการใด ๆ จะต้องมีความถูกต้องและโปร่งใส |
|||||||||||||||||||||||||||
23826 | การเร่งรัดพิจารณายืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกกระทรวงเร่งรัดพิจารณายืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยเฉพาะร่างกฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การสร้างความเป็นธรรม หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาโดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23827 | การดำเนินการงานด้านกฎหมาย | อื่นๆ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่เสนอคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความรอบคอบ เห็นควรให้กรณีเรื่องใดที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอิสระ เสนอคณะรัฐมนตรี มีข้อขัดแย้งทางกฎหมายหรือมีประเด็นปัญหาในการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเรื่องดังกล่าวเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||
23828 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดและที่ดินจัดสรร) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้ทุกกระทรวงเร่งรัดพิจารณายืนยันร่างกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยเฉพาะร่างกฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การสร้างความเป็นธรรม หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาโดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23829 | การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
๑. แนวทางและหลักเกณฑ์การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น เสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ โดยมีแนวทางและหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ ๑.๑ เป็นรายจ่ายที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายสำคัญของรัฐบาล และยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑.๒ เป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันทางกฎหมาย หรือเป็นรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร หรือเป็นรายจ่ายที่ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศทั้งในด้านการค้า การลงทุน สิ่งแวดล้อม หรือโครงสร้างพื้นฐาน หรือเป็นรายจ่ายที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง โดยมีเงื่อนไข (๑) ไม่ควรทำให้เกิดภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (๒) ไม่ควรผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีในปีต่อ ๆ ไป (๓) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น มีศักยภาพที่จะดำเนินงานและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที และ (๔) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ต้องเสนอโครงการ/รายการ ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของหน่วยงานนั้น ๆ ๒. ขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๒.๑ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น จัดทำคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่ได้มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่าการดำเนินการนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายหรือระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอขอรับความเห็นชอบต่อนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด รวมทั้งรวบรวมจัดส่งให้สำนักงบประมาณ ภายในวันศุกร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ๒.๒ สำหรับหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานอิสระของรัฐ ให้ยื่นคำขอแปรญัตติต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยตรง ภายในวันศุกร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อที่สำนักงบประมาณจะได้สามารถประมวลผลภาพรวมการขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒.๓ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ และนำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23830 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2558 (ครั้งที่ 2) | พน | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ (ครั้งที่ ๒) เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๖ เรื่อง ได้แก่ ๑.๑ การเลื่อนกำหนดออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ด้วยกลไกการแข่งขันด้านราคา ๑.๒ การสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน ๑.๓ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015) ๑.๔ กรอบแนวทางการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุในปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ๑.๕ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ขอขยายกำหนดเวลาจำหน่ายหุ้นให้กับประชาชน ๑.๖ แผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง ๒. ให้กระทรวงพลังงานและคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับประเด็นการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน เห็นควรสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เฉพาะในกิจการทหารในอัตราเดิมไปก่อน และให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบในการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบขนส่งปิโตรเลียมและน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ รวมทั้งเห็นควรเร่งประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศไทย และให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอย่างใกล้ชิดเพื่อร่วมกันเตรียมความพร้อมในด้านกฎระเบียบโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนกลไกการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเปิดรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากภาคเอกชนได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงพลังงานรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้อจำกัดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุในปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ให้มีความชัดเจน ไปประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สัมปทานจะสิ้นสุดอายุในปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
23831 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... มีข้อสังเกตว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามบทบัญญัติเกี่ยวกับ “สารสำคัญ” ซึ่งเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และควรกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิตและผู้นำเข้าเครื่องสำอางได้รับความสะดวกในการดำเนินการอย่างเท่าเทียมประเทศสมาชิกในอาเซียนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายสมควรต้องใช้ดุลพินิจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและมิให้กฎหมายเป็นอุปสรรคในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยกำหนดมาตรการที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินกระบวนการผลิตได้ในระหว่างการจดแจ้ง รวมทั้งขั้นตอนการพิจารณาออกคำสั่งหรือข้อกำหนดใด ๆ ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานได้ตามสมควร เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ๒.มอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23832 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. .... โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายลำดับรองเกี่ยวกับการกำหนดแนวเขตประมงทะเลชายฝั่งให้สอดคล้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย และประกาศกำหนดรูปแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ทหารเรือไว้เป็นพิเศษ รวมทั้งกรมประมงได้มีการประสานงานในการตรวจตราการกระทำการที่ฝ่าฝืนกฎหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบของศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) มาอย่างต่อเนื่อง และจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23833 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | กษ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ดังนี้
๑. หมวด ๒ ว่าด้วยคณะกรรมการและผู้ว่าการ จะได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ประกอบด้วยบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันในการกำหนดนโยบายแลบริหารจัดการอย่างบูรณาการตามภารกิจทั้งหลายที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฉบับนี้ ๒. หมวด ๘ ว่าด้วยการกำกับและควบคุม จะได้กำกับโดยทั่วไปซึ่งกิจการของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้เป็นไปตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยเคร่งครัด รวมทั้งจะได้สั่งการให้ กยท. บรรจุประเด็นการปฏิบัติงานในหมวดนี้ไว้ในรายงานประจำปีที่จะเสนอรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตามความในมาตรา ๖๔ ของหมวดนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23834 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พม | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้นำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปประกอบการพิจารณายกร่างอนุบัญญัติเพื่อรองรับพระราชบัญญัตินี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พิจารณา นอกจากนี้ อยู่ระหว่างจัดทำคู่มือสำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ประกอบในการปฏิบัติตามกฎหมายและจัดทำเอกสารเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป รวมทั้งขั้นตอนในการปฏิบัติของการบังคับใช้กฎหมายทั้งทางอาญาและทางปกครองที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ตลอดจนกำหนดจะจัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23835 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ จดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเห็นควรกำหนดให้การออกกฎกระทรวงกำหนดวิธีการตรวจสอบและมาตรฐานการปฏิบัติงานการตรวจสอบ ต้องกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับคุณสมบัติว่า ผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนจะต้องเป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมวิธีการตรวจสอบเครื่องจักร รวมทั้งกำหนดมาตรฐานจริยธรรมแห่งวิชาชีพ นอกจากนี้ จะต้องมีมาตรการทางบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ มีการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ มีหน่วยรับเรื่องร้องเรียนการกระทำความผิดหรือบกพร่องของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน ตลอดจนอาจกำหนดข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น การประกาศรายชื่อผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตในเว็บไซต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปทราบ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23836 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น พ.ศ. .... | สว | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น พ.ศ. .... ที่เห็นควรมีการแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ และกรณีการตัดหมวด ๔ คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองออกทั้งหมด เพื่อมิให้เป็นการสร้างภาระอันเกินความจำเป็นให้แก่ภาคเอกชนทั่วประเทศซึ่งมีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนอง รวมทั้งมิให้กระทบต่อการรักษาความลับทางการค้าของผู้ประกอบกิจการ อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องมีกลไกที่เข้มแข็ง รัดกุม และมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบเพื่อป้องกันและกำกับดูแลมิให้ผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็น โดยมิได้รับอนุญาต ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและหากไม่มีข้อทักท้วงใด ๆ ให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23837 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดลังกา ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน ๒ แปลง แปลงที่ ๑ โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๐๓๓ เนื้อที่ ๑ งาน ๖๒ ตารางวา แปลงที่ ๒ โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๐๓๔ เนื้อที่ ๒ งาน ๖๓ ตารางวา รวมเนื้อที่ทั้งหมด ๑ ไร่ ๒๕ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทานในการก่อสร้างพนังสายคันโอบแม่กลอง-อัมพวา เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ตามโครงการป้องกันน้ำเค็ม ที่ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23838 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาเทคโนโลยี สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์เพิ่มขึ้น และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาสำหรับสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23839 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน ๓ แปลง แปลงที่ ๑ ที่วัด เนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๘๗ ตารางวา แปลงที่ ๒ ที่ธรณีสงฆ์ เนื้อที่ ๒ ไร่ ๒ งาน ๙๔ ตารางวา และแปลงที่ ๓ เนื้อที่ ๖ ไร่ ๑๐ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างคลองระบายน้ำสายใหญ่จรเข้สามพัน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23840 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติออกจากแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ 1 ปี (ตุลาคม 2557 - ตุลาคม 2558) ตามข้อสั่งการด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี | นร09 | 30/06/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติออกจากแผนการเสนอร่างกฎหมายในระยะ ๑ ปี (ตุลาคม ๒๕๕๗-ตุลาคม ๒๕๕๘) ตามข้อสั่งการด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี รวม ๗ ฉบับ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติการบริหารสินค้าใช้ได้สองทาง พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติการควบคุมยาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๕. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสวัสดิการชาวนา พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... ๗. ร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การปฏิบัติการของอากาศยานและผู้ประจำหน้าที่)
|
.....