ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1147 จากทั้งหมด 6217 หน้า แสดงรายการที่ 22921 - 22940 จากข้อมูลทั้งหมด 124327 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22921 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้วย ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นางอรรชกา สีบุญเรือง)
|
|||||||||||||||||||||
22922 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ (นายพิไชย โอบายะวาทย์) | นร04 | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพิไชย โอบายะวาทย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22923 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายวิมล จันทรโรทัย และ นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์) | กษ | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายวิมล จันทรโรทัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง ๒. นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||
22924 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พลเอก ณัฐติพล กนกโชติ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง พลเอก ณัฐติพล กนกโชติ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22925 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ (จำนวน 9 ราย 1. นายไพศาล พืชมงคล ฯลฯ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน ๙ ราย ตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. รองศาสตราจารย์ ไชยา ยิ้มวิไล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๓. พลเอก รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม ๔. รองศาสตราจารย์ ชวนี ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๕. พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๖. พลตำรวจโท ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ๗. พลเอก นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ๘. นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ๙. นางสาวเสาวณี มุสิแดง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
|||||||||||||||||||||
22926 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) (จำนวน 4 ราย 1. นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช ฯลฯ) | ทส | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายชลธิศ สุรัสวดี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ๔. นางสาวสุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
|
|||||||||||||||||||||
22927 | รายงานสถานภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานสถานภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบด้วย การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ (ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๐ กันยายน ๒๕๕๘) การเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๗ การจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล รวมทั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ และการจัดสรรงบประมาณคืนจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
22928 | สถานการณ์น้ำและโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 | กษ | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสถานการณ์น้ำ ข้อมูล ณ วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๘ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๓๘,๖๔๙ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ ๑๕,๑๔๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาตรน้ำใน ๔ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน ป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน ๙,๘๒๖ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ ๓,๑๓๐ ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำแม่กลอง มีปริมาตรน้ำใน ๒ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ วชิราลงกรณ จำนวน ๑๗,๙๖๑ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ ๔,๖๘๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำให้คณะรัฐมนตรีรับทราบทุกสัปดาห์ โดยให้เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ๒. เห็นชอบโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณที่ขอเพิ่มเติมจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๔,๐๗๑.๓๑๕๐ ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหนังสือของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๙/๑๐๓ ลงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘) และขั้นตอนของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับมาตรการเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความต้องการของชุมชน และศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ดำเนินการทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน ชนิดพันธุ์พืชที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งมาตรการและกลไกในการบริหารจัดการ โดยให้คำนึงถึงแผนการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ตามนโยบายรัฐบาล แล้วจัดทำแผน/โครงการ/กิจกรรมส่งให้คณะกรรมการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน ทั้งนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) กำกับให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการด้วย |
|||||||||||||||||||||
22929 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ 9 | คค | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๙ ซึ่งมีประเด็นทิศทางนโยบายของผู้นำเอเปคที่ครอบคลุมการขนส่งอย่างครอบคลุม การพัฒนาระบบการขนส่งอย่างยั่งยืน การส่งเสริมนวัตกรรมด้านการขนส่ง การเสริมสร้างขีดความสามารถ การส่งเสริมบทบาทสตรีในภาคการขนส่ง และความร่วมมือระหว่างสาขา ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวในประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะผู้แทนไทย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
22930 | รายงานผลการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 | นร04 | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๐ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๒๔ กันยายน-๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยการประชุมดังกล่าวได้มีการรับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกในอีก ๑๕ ปี ข้างหน้า ทั้งนี้ ภารกิจของนายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบด้วย ๓ ภารกิจหลัก ดังนี้
๑. การประชุมในกรอบสหประชาชาติ ๑.๑ การประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนและการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๐ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้เน้นย้ำการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาความขัดแย้งในสังคม ๑.๒ การประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๐ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงโดยยืนยันความมุ่งมั่นและบทบาทของไทยในการพัฒนาตามกรอบสหประชาชาติ และเน้นย้ำการแก้ไขปัญหาใน ๓ เสาหลักของสหประชาชาติ ได้แก่ สันติภาพและความมั่นคง การพัฒนา และสิทธิมนุษยชน ๑.๓ การประชุมสุดยอดเรื่องการรักษาสันติภาพร่วมกับผู้นำจาก ๕๐ ประเทศ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงโดยเน้นย้ำความสำคัญของการให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพเป็นนักพัฒนาและมุ่งส่งเสริมบทบาทสตรีในกระบวนการรักษาสันติภาพ รวมทั้งไทยพร้อมที่จะส่งทหารเสนาธิการและทหารพัฒนาเข้าร่วมปฏิบัติการของสหประชาชาติ ๒. การหารือทวิภาคีกับประเทศต่าง ๆ ๒.๑ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทวิภาคีร่วมกับผู้นำและรัฐมนตรีจาก ๑๔ ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ จำนวน ๒ หน่วยงาน เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน สหราชอาณาจักร เลขาธิการสหประชาชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เป็นต้น ซึ่งทุกฝ่ายพอใจที่ได้รับทราบพัฒนาการทางการเมืองของไทยและนโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม ๒.๒ ไทยได้รณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๘ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนไทยในฐานะผู้สมัครของอาเซียน ๓. กิจกรรมคู่ขนานอื่น ๆ ๓.๑ ไทยได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศที่สำคัญ ๒ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม G77 และประธาน Asia Cooperation Dialogue ซึ่งเป็นการส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา ๓.๒ การเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศ เสริมสร้างภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก และยืนยันพันธกรณีของไทยต่อประชาคมโลก ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การปฏิรูปของไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการตามผลการเยือนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22931 | ร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ..ศ. .... (นายสมเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ และให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... (นายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมแจ้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอดังกล่าว มีหลักการส่วนใหญ่เช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปแล้ว จึงเห็นควรนำร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอพิจารณาไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22932 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และ
๑. ให้เสนอพิธีสาร และร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ได้แก่ ๑.๑ พิธีสารฉบับที่สามแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งกลุ่มประเทศภาคีสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... (นายเจตน์ ศิรธรานนท์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมแจ้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอดังกล่าว มีหลักการส่วนใหญ่เช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๑.๓ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปแล้ว จึงเห็นควรนำร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอพิจารณาไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22933 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัตวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
22934 | พิธีสารฉบับที่สามแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่างๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งกลุ่มประเทศภาคีสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอพิธีสารฉบับที่สามแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมด้านต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งกลุ่มประเทศภาคีสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
22935 | ร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
22936 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะพร้าวน้ำหอมเพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ๑.๒ ให้การยางแห่งประเทศไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเร่งดำเนินการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำข้อเสนอของเครือข่ายชาวสวนยางในหลายจังหวัดภาคใต้ไปดำเนินการ เช่น การขอให้รัฐบาลชดเชยส่วนต่างของราคายางพาราที่กิโลกรัมละ ๖๐ บาท และการนำยางพาราแลกข้าวโดยให้รัฐบาลขายข้าวสารราคาถูกให้ชาวสวนยาง ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขยายกลุ่มเป้าหมายในโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทเอกชนที่ประสบปัญหาทางการเงิน แต่มีความเหมาะสมเพื่อนำมาปรับปรุงเป็นที่อยู่อาศัย และให้บริษัทเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยแล้วนำมาจำหน่ายให้แก่คนยากจนและผู้มีรายได้น้อยในราคาถูก โดยให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อย ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และครูด้วย ๓. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับ ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีข้อพิพาทที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ถูกฟ้องคดีในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยให้หน่วยงานของรัฐผู้ถูกฟ้องคดีสรุปผลการดำเนินการและประเมินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อสู้คดีเพื่อเตรียมการและให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ให้สำนักงบประมาณร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายงานสรุปข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในภาพรวม ว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณแต่ละประเภทเท่าใด ทั้งนี้ ในส่วนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้แบ่งข้อมูลตามประเภทของการใช้จ่ายงบประมาณ และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๑ สัปดาห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของรัฐบาลต่อไป ๔.๒ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดของภาคใต้ที่ประสบปัญหาหมอกควันที่เกิดจากไฟไหม้บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขให้เร่งดูแลด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ กระทรวงการต่างประเทศเร่งประสานประเทศอินโดนีเซียเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่มีรถน้ำร่วมแก้ไขปัญหาโดยนำรถน้ำฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดหมอกควันในพื้นที่ด้วย ๔.๓ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าเกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานเหมืองแร่ทองคำ ในจังหวัดพิจิตร พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการทำเหมืองแร่ทองคำที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนน้อยที่สุด เพื่อให้โรงงานเหมืองแร่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ๔.๔ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาร่วมกันในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในองค์การสหประชาชาติ (Group of 77 : G77) ในโอกาสที่ประเทศไทยได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ๔.๕ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลสำหรับให้ทุกส่วนราชการใช้ในการชี้แจงต่างประเทศเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน โดยจำแนกให้ชัดเจนในประเด็น (๑) สภาพปัญหาก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลเข้าบริหารราชการแผ่นดิน (๒) การดำเนินการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลในระยะต้นที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนและนำมาสู่ความขัดแย้งของคนในชาติ (๓) การกำหนดแนวทางการบริหารงานที่มี Roadmap ที่ชัดเจน และ (๔) การสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศให้ครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการต่างประเทศ และด้านการบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า ๔.๖ ให้กระทรวงแรงงานจัดทำแนวทางให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพที่ตลาดแรงงานในต่างประเทศมีความต้องการสูง ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำความร่วมมือในรูปแบบรัฐต่อรัฐในการรับ-ส่งแรงงานไทยไปยังประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดหางานให้แก่แรงงานไทยในต่างจังหวัดที่ว่างงานด้วย ๔.๗ ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการดูแลและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศแล้วกลับมาทำงานใช้ทุนในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งแนวทางการสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนทุนที่ออกจากระบบราชการแล้วกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ๔.๘ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำ Application สำหรับ smart phone, tablet ให้สามารถใช้งานได้ง่าย โดยจำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้าราชการ เกษตรกร เด็กและเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ว่าแต่ละกลุ่มควรจะต้องได้รับข้อมูลข่าวสารในเรื่องใดบ้าง ๔.๙ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนแนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล และให้จัดทำเอกสารข้อมูลผลการดำเนินการ พร้อมทั้งแผนการดำเนินการเป็นรายเดือนสำหรับประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนรับทราบ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทุกสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ทั้งนี้ ให้จัดทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ต่างประเทศด้วย
|
|||||||||||||||||||||
22937 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์) | นร04 | 06/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22938 | ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 หมวดงบรายจ่ายอื่น รายการเพิ่มทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบกลางและเงินงบประมาณเหลือจ่าย) กรณีขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗หมวดงบรายจ่ายอื่น รายการเพิ่มทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
|
|||||||||||||||||||||
22939 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2558 (ครั้งที่ 3) | พน | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ รวม ๖ เรื่อง ได้แก่ (๑) การขอเลื่อนวันกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ SCOD โครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร (๒) มาตรการพิเศษส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวล ขยะ และก๊าซชีวภาพในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ๔ อำเภอในจังหวัดสงขลา (๓) การเพิ่มสัดส่วนน้ำมันปาล์มดิบผสมกับน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ จากร้อยละ ๑๐ เป็นไม่เกินร้อยละ ๒๓ (๔) การทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ปี ๒๕๕๘ (๕) ข้อเสนอให้โครงการห้วยลำพันใหญ่ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเซเสด และ (๖) การขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒. เห็นชอบร่างสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Shell Eastern Trading (PTE) LTD และบริษัท BP Singapore PTE. Limited โดยให้ใช้วิธีการระงับข้อพิพาทโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการได้ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องมีการปรับปรุงข้อความในร่างสัญญาดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถปรับปรุงข้อความได้โดยไม่ต้องนำกลับมาเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีอีก ๓. โดยที่เรื่อง (๑) แผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (Energy Efficiency Plan : EEP 2015) เป็นเรื่องที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ (๒) การยกเลิกสิทธิพิเศษของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ลิตรขึ้นไป ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการพิจารณาให้ความเห็นชอบ จึงให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้าต่อไป ๔. ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กมาก (VSPP) ควรมีมาตรการป้องกันปัญหามลพิษจากโรงไฟฟ้าที่รัดกุม การเพิ่มสัดส่วนน้ำมันปาล์มดิบผสมกับน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่จากร้อยละ ๑๐ เป็นไม่เกินร้อยละ ๒๓ ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม การขยายระบบส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควรพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ก่อนดำเนินโครงการต่อไป และการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในอนาคต ควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการรับซื้อไฟฟ้าที่คำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ อาทิ แนวโน้มความต้องการไฟฟ้า ผลกระทบต่อประสิทธิภาพแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง (Base Load) ในพื้นที่ และขีดความสามารถของระบบไฟฟ้าทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ตลอดจนผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้า เพื่อให้การกำหนดนโยบายและมาตรการในการส่งเสริมโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมีความโปร่งใสและเป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบกิจการพลังงานทุกราย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22940 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้เพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ รวม ๑๓,๒๘๐ อัตรา ตามมติ คปร. รวมทั้งให้ส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของ คปร. ที่เห็นควรดำเนินการวางแผนอัตรากำลังภาครัฐในระยะยาวเพื่อควบคุมอัตรากำลังและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ตลอดจนศึกษาและหามาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐอย่างจริงจัง และทบทวนการนำเงินนอกงบประมาณไปใช้จ้างลูกจ้างและพนักงานของส่วนราชการ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒ มอบหมายให้สำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคลสำหรับอัตราข้าราชการใหม่ ๑.๓ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของ คปร. เกี่ยวกับการบริหารอัตรากำลังของส่วนราชการไปดำเนินการ ๑.๓.๑ ให้สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และองค์กรกลางบริหารทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางและดำเนินการวางแผนกำลังคนภาครัฐในระยะยาว เพื่อควบคุมอัตรากำลังและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐ ๑.๓.๒ ให้สำนักงบประมาณเป็นเจ้าภาพดำเนินการร่วมกับสำนักงาน ก.พ. และองค์กรกลางบริหารทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดมาตรการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม ๑.๓.๓ ให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการทบทวนกฎหมาย กฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินนอกงบประมาณสำหรับจ้างพนักงานหรือลูกจ้างของส่วนราชการ ๑.๔ ให้ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. ติดตามความก้าวหน้าในการตามข้อ ๑.๑ ข้อ ๑.๒ และ ๑.๓ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๖ เดือน ๒. สำหรับงบประมาณรายจ่ายเพื่อบรรจุข้าราชการตั้งใหม่ ซึ่งส่วนราชการมิได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้ ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในโอกาสแรกก่อน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้ส่วนราชการหลีกเลี่ยงในการนำเงินนอกงบประมาณไปใช้ในการบรรจุแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานในหน่วยงานของตน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวเรียกร้องขอให้บรรจุแต่งตั้งข้าราชการในภายหลัง ในกรณีที่ส่วนราชการใดมีความจำเป็นในการเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ให้ส่วนราชการนั้นดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง มาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑)] โดยเคร่งครัด |
.....