ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1011 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 20201 - 20220 จากข้อมูลทั้งหมด 124282 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20201 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | คค | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สาย ค๓ และสาย ข๙ ตามโครงการผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย-ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ให้เป็นไปตามแผนการที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการพิจารณาก่อสร้างทางหลวงสายต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต และเมื่อพระราชกฤษฎีกาฯ มีผลบังคับแล้วก่อนการดำเนินการ หากทางหลวงชนบทเส้นดังกล่าวช่วงใดตัดผ่านที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ขอให้กรมทางหลวงชนบทยื่นขออนุญาตใช้ที่ดินตามระเบียบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ถูกต้องด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20202 | รายงานผลการดำเนินงาน สานพลังประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ "โรงเรียนประชารัฐ" | ศธ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน สานพลังประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ “โรงเรียนประชารัฐ” ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการโครงการ “โรงเรียนประชารัฐ” เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ๓ หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้กำหนดแนวทางความร่วมมือในประเด็นต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเชิงคุณภาพ เช่น พัฒนานักเรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม พัฒนาการจัดการเรียนรู้และความรู้ของครู พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและระบบข้อมูลการศึกษาของโรงเรียน เป็นต้น และเป้าหมายเชิงปริมาณ โดยคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบที่มาจากทุกตำบลในประเทศไทย ตำบลละ ๑ โรงเรียน รวมทั้งสิ้น ๗,๔๒๔ โรงเรียน เพื่อเข้ารับการพัฒนาในระยะแรกจำนวน ๓,๓๔๒ โรงเรียน ๒. การดำเนินงานที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงสานพลังประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙ โดยการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินงานตามโครงการในระยะแรก ๓ ปี เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๕๙ สิ้นสุดในเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ และดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ ระหว่างวันที่ ๒-๔ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อสร้างความเข้าใจและชี้แจงรายละเอียดการดำเนินงานแก่รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด โดยมีการระดมความคิดและร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียนให้มีความชัดเจน และจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือในระดับเขตตรวจราชการทั้ง ๑๙ เขตตรวจราชการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด ๓. แผนการดำเนินงานต่อไป คณะทำงาน ๕ กลุ่มย่อยได้วางแผนและร่วมดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูลออนไลน์ จัดทำตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (Leadership Program for Sustainable Education) CONNEXT ED พัฒนารูปแบบระบบ ICT ของโรงเรียนประชารัฐ พัฒนาผู้บริหารและครูผู้สอน โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะร่วมมือกับ School Sponsor และ School Partner ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของโรงเรียนเพื่อดำเนินการพัฒนาตามเป้าหมายของโครงการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20203 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิชุมชนและสิทธิในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีกล่าวอ้างว่าร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... กระทบต่อสิทธิมนุษยชน | สม | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิชุมชนและสิทธิในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีกล่าวอ้างว่า ร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... กระทบต่อสิทธิมนุษยชน ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๑.๑ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีอาจขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาตินำความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปปรับปรุงได้ แต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นคณะรัฐมนตรีก็อาจถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่อยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติมาก่อนเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ๑.๒ คณะรัฐมนตรีควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ๑.๓ เร่งรัดการตราพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการนโยบายสาธารณะ พ.ศ. .... และกฎหมายว่าด้วยการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (Pollutant Release and Transfer Registers : PRTR) ๒. มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20204 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบาย และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตและ หลักสิทธิมนุษยชน | ยธ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตและหลักสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยในส่วนของข้อเสนอแนะเชิงนโยบายกระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำการวิจัยดำเนินการสัมมนาทางวิชาการเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโทษประหารชีวิต ศึกษาความพร้อมของประเทศไทยต่อการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง้ (Internation on Civil and Political Rights : ICCPR) ฉบับที่ ๒ ซึ่งมุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิต และในส่วนของข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายฯ ได้มีการเสนอเป้าหมายการดำเนินการเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิตเป็นสามระยะเป็น ๓ ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ ๑ ปรับอัตราโทษการพิจารณาประเภท จากโทษประหารชีวิตสถานเดียว เป็นโทษอัตราขั้นสูงสุดประหารชีวิต ระยะที่ ๒ ยกเลิกโทษประหารชีวิตในบางฐานความผิด และระยะที่ ๓ ยกเลิกโทษประหารชีวิตในฐานความผิดที่เหลือทั้งหมด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20205 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาอาหารสัตว์ และการพิจารณาการโฆษณาอาหารสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาอาหารสัตว์ และการพิจารณาการโฆษณาอาหารสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทของสื่อโฆษณา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาอาหารสัตว์ และการพิจารณาของผู้อนุญาตในการให้ความเห็นก่อนการโฆษณาอาหารสัตว์ว่า การโฆษณาอาหารสัตว์ใดเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างข้อ ๔ ที่กำหนดให้ผู้ใดสงสัยว่าการโฆษณาอาหารสัตว์ของตนจะเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ยื่นคำขอให้ผู้อนุญาตพิจารณาพร้อมด้วยหลักฐานตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด อาจถือว่าเป็นการมอบอำนาจช่วง (Sub-delegation) ให้อธิบดีมีอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการพิจารณาว่าการโฆษณาอาหารสัตว์เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติฯ ซึ่งอาจเป็นการออกกฎกระทรวงที่เกินจากขอบเขตของบทบัญญัติในมาตรา ๖๓ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20206 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 4 ฉบับ (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 38/2559 และ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 39/2559) | สลธ.คสช. | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๘/๒๕๕๙ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๕๙ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๕๙ สั่ง ณ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ (แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น) ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๙/๒๕๕๙ เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา สั่ง ณ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๐/๒๕๕๙ เรื่อง ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๘/๒๕๕๗ สั่ง ณ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ (ยกเลิกประกาศเกี่ยวกับการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง) ๔. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๑/๒๕๕๙ เรื่อง การกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ สั่ง ณ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20207 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2559 (เพิ่มเติม) และ ครั้งที่ 2/2559 | ทส | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เพิ่มเติม) จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ (๑) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ (๒) ร่างรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) โครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการวังหีบ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของกรมชลประทาน (๒) โครงการทางพิเศษสายพระราม ๓-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ (๓) (ร่าง) กรอบแนวคิดและทิศทางของแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20208 | งบการเงินและรายงานประจำปี 2555 ขององค์การสะพานปลา | กษ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินและรายงานประจำปี ๒๕๕๕ ขององค์การสะพานปลา ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รายงานงบการเงิน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบแสดงการเปลี่ยนแปลงของทุน และงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันขององค์การสะพานปลาแล้วเห็นว่า งบการเงินถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ๒. รายงานประจำปี ๒๕๕๕ ประกอบด้วย ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ผลงานเด่นในปี ๒๕๕๕ กิจกรรมการดำเนินงานด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบขององค์การสะพานปลาประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ แนวนโยบายผู้ถือหุ้นภาครัฐ (Statement of Directions : SODs) ที่มีต่อองค์การสะพานปลา แผนงานและโครงการที่สำคัญในปีงบประมาณ ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20209 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม ปี 2559 | พณ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม ปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งออกของไทยได้รับอิทธิพลจากกระแสการค้าโลกในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในภาวะชะลอตัว และมีความไม่แน่นอนสูง กระทบต่อกำลังซื้อและการนำเข้าของประเทศคู่ค้า ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันยังหดตัวสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ยังคงหดตัวที่ร้อยละ ๔.๔ ๒. มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ มีมูลค่า ๑๗,๖๑๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ ๔.๔๐ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้าเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ มีมูลค่า ๑๖,๐๗๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๐.๕๐ (YoY) ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ยังคงเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๑๓ ติดต่อกัน มีมูลค่า ๑,๕๓๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๓. มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ ๗.๔ (YoY) ตามการลดลงของปริมาณการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม แม้ยังหดตัวที่ร้อยละ ๒.๘ แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบที่กลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลต่อการหดตัวอย่างต่อเนื่องของสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ๔. แนวทางการขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ปี ๒๕๕๙ ได้แก่ ขยายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะตลาดอินโดจีนหรือ CLMV เร่งรัดขยายตลาดส่งออกเชิงรุก โดยใช้ความต้องการตลาดเป็นตัวนำการผลิต (Demand Driven) ผลักดันและแก้ปัญหาทางการค้าร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เร่งเจรจาการค้าผ่านการเยือนตลาดคู่ค้าที่มีศักยภาพ รวมทั้งปรับบทบาทสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้ทำงานเชิงลึก ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และการส่งเสริมการค้าบริการ (Trade in Services)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20210 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังถอนร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20211 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... | มท | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลนนทรี ตำบลเมืองเก่า ตำบลกบินทร์ ตำบลวังดาล ตำบลนาแขม ตำบลบ้านนา และตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรมีการตรวจสอบรูปแผนที่ให้ชัดเจนก่อนมีการดำเนินการ และกำหนดให้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ รวมทั้งการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงฯ ต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงาน นอกจากนี้ การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ลุ่มน้ำ และแหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ ตลอดจนการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเภท เมื่อมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละบริเวณแล้ว ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมือง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20212 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน จำนวน 3 ฉบับ | มท | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนราษฎร์อุทิศกับถนนเลียบวารี พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนฉลองกรุง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล ๕ (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาก่อสร้างทางสายต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้างด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต และให้กรุงเทพมหานครร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดระเบียบการใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะการหยุดรถและจอดรถให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรในเขตเมืองและบริเวณชุมชน ยังจะช่วยลดภาระการลงทุนพัฒนาโครงข่ายทางถนนของประเทศในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20213 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการเป็นพาณิชยกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการเป็นพาณิชยกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการเป็นพาณิชยกิจ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยกำหนดให้ธุรกิจบริการด้านวิชาชีพ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขภาพและสังคม ด้านคอมพิวเตอร์และที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจบริการอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เป็นพาณิชยกิจต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ตัดร่างมาตรา ๓ (๙) ออกตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์ให้กิจการต่าง ๆ ที่สอดคล้องตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้รับทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการจดทะเบียนพาณิชย์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ภาครัฐจัดให้ และควรกำหนดให้ผู้ประกอบการรายงานเป็นประจำทุกปีว่ากิจการยังดำเนินการอยู่หรือไม่ เพื่อให้ข้อมูลที่มีความแม่นยำและสามารถวิเคราะห์การคงอยู่และการเจริญเติบโตของผู้ประกอบการได้ รวมทั้งทราบถึงสถานการณ์และใช้กำหนดเป็นนโยบายเพื่อให้การส่งเสริมต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20214 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยลักษณะของสถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า สถานที่ขาย หรือสถานที่เก็บอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ พ.ศ. .... | กษ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยลักษณะของสถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า สถานที่ขาย หรือสถานที่เก็บอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะอาคารและสถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า สถานที่ขายหรือสถานที่เก็บอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ ตลอดจนการเก็บรักษา เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20215 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทรายสว่าง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทรายสว่าง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทรายสว่าง ในท้องที่ตำบลสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำเพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่เกษตรกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20216 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 9 ฉบับ | กษ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ... จำนวน ๙ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานเป็นทางน้ำที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และทำให้เกิดประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองหลา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองจำไหร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานกระบี่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเปลวเงือก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองหัวช้าง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๘. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๙. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองโพล้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20217 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือระนอง จังหวัดระนอง พ.ศ. .... | คค | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือระนอง จังหวัดระนอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตท่าเรือระนอง จังหวัดระนอง ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกิจกรรมการขนส่งทางน้ำที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เพื่อจัดระเบียบการจราจรทางน้ำและระบบการขนส่งทางน้ำ เพื่อให้การคมนาคมขนส่งทางน้ำมีความปลอดภัยและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการควบคุมมลภาวะทางทะเล ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ให้กรมเจ้าท่าต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ระนองของกรมเจ้าท่า ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20218 | ร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. การจัดประเภทตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง การให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค. (๒) เพิ่มอีก ๑ ประเภท คือ ประเภทอำนวยการ และกำหนดอัตราเงินประจำตำแหน่งตามประเภทและระดับในแต่ละสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งตามบัญชีแนบท้ายกฎ ก.ค.ศ. โดยเพิ่มตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น และระดับสูง รวมทั้งเพิ่มสายงานในตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญอีก ๑ สายงาน คือ สายงานทรัพยากรบุคคล ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกำหนดให้มีตำแหน่งประเภทอำนวยการในหน่วยงานการศึกษาอื่น ควรกำหนดเฉพาะในส่วนราชการที่เทียบเท่าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกองหรือเทียบกองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ และในการพิจารณาให้หัวหน้าส่วนราชการที่จัดตั้งโดยกฎหมายที่ต่ำกว่าระดับกฎกระทรวงมีเงินประจำตำแหน่ง ควรกำหนดให้มีกลไกการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมให้มีความใกล้เคียงกับกลไกพิจารณาการจัดตั้งส่วนราชการที่เป็นกฎหมายระดับกฎกระทรวงด้วย เพื่อควบคุมไม่ให้ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐในภาพรวมเพิ่มขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณกรณีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินประจำตำแหน่งที่จะเกิดขึ้น ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดังกล่าว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20219 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพนักงานราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพนักงานราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อยกเว้นลักษณะต้องห้ามของพนักงานราชการกรณีเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเมื่อผู้นั้นได้พ้นโทษมาแล้วเกินห้าปี รวมทั้งกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อกลั่นกรองบุคคลดังกล่าวก่อนการจ้างเป็นพนักงานราชการ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่าการจะจ้างควรต้องพิจารณาลักษณะความผิดที่ถูกลงโทษประกอบกับลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20220 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การฟื้นฟูกิจการ) | ยธ | 26/07/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การฟื้นฟูกิจการ) โดยกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ จัดอบรมความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้แก่หน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สถาบันการเงิน สำนักงานกฎหมาย และเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวให้แก่ผู้พิพากษา ตลอดจนการจัดให้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดทำรูปแบบแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จรูป และคำอธิบายการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....