ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1014 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 20261 - 20280 จากข้อมูลทั้งหมด 124282 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20261 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2559) | นร05 | 26/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ซึ่งที่ประชุมมีมติ ดังนี้ ๑.๑ ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๑.๒ ให้เสนอข้อแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยประชุมที่ ๙๙-๑๐๑ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๕) และสมัยประชุมที่ ๑๐๓-๑๐๔ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘) จำนวน ๕ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบ ๑.๓ เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20262 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 26/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการพัฒนาและยกระดับสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ให้ได้มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศ เช่น การพัฒนาทักษะฝีมือของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ OTOP ตามความต้องการของตลาด การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ๑.๒ ให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก เช่น ก๊าซแอลพีจี ไบโอดีเซล เอทานอล ตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่กระบวนการผลิต การจำหน่าย และโครงสร้างต้นทุน ๑.๓ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินสถานการณ์การตลาดเอทานอลทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งพิจารณากำหนดมาตรการส่งเสริมการนำผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร เช่น อ้อย มาใช้ในการผลิตเอทานอล ๒. ด้านสังคม มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พิจารณาแนวทางการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ในการได้รับบริการด้านสุขภาพของผู้พิการที่มีงานทำและเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และผู้พิการที่ยังไม่มีงานทำและเป็นผู้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีความสอดคล้องเท่าเทียมกัน ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการรวบรวมผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่สำคัญในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา โดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและต่างประเทศได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ๓.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี โดยมีการกำหนดแผนงานหรือโครงการสำคัญและตัวชี้วัดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งให้กำหนดกรอบการประเมินผลการดำเนินงานทุก ๑ ปี และ ๕ ปี เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลต่อไป ๓.๓ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนในระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้สอดคล้องและเหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียนและสภาพสังคมของแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการใช้ภาษาท้องถิ่นของตนเองอยู่มาก ๓.๔ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการทำลายแผง Solar Cell ที่ไม่ใช้งานแล้ว นั้น เนื่องด้วยปัจจุบันยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายใช้บังคับสำหรับการกำจัดวัตถุหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งานแล้วเป็นการเฉพาะ เช่น Solar Cell จึงให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดมาตรการทางกฎหมายสำหรับการทำลายวัตถุดังกล่าวที่หมดอายุจากการใช้งาน เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายต่อสุขอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20263 | การเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2559 | นร05 | 26/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ เป็นวันพุธที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุม International Conference on Blue Ocean Strategy for Development ณ ประเทศมาเลเซีย ในวันอังคารที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20264 | ลงนามและแถลงการณ์ร่วมกันในข้อตกลงเบื้องต้นการจัดตั้งสภานักธุรกิจไทย - อังกฤษ (Thai - UK Business Leadership Council) | นร04 | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) การจัดตั้งสภานักธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร (Thai-UK Business Leadership Council) และการลงนามในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในวันอังคารที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ณ Lancaster House กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20265 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ (เพิ่มเติม) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการให้กรมการปกครองเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปี ๒๕๕๙ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูป จำนวน ๒๕๘,๐๑๙,๒๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ (เพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มคนพิการ เช่น บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น และบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้รับรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฯ และการลงประชามติอย่างทั่วถึงต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20266 | ขออนุมัติบรรจุกลับและแต่งตั้งบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร) | ศธ | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติบรรจุกลับ รองศาสตราจารย์บัณฑิต ทิพากร พนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20267 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร05 | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้
๑. ตามที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อพิจารณาข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ นั้น ในการหารือดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเชิญผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมด้วย เพื่อให้มีการพิจารณาในประเด็นที่ครอบคลุมถึงเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสุขภาพของผู้บริโภคด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การใช้ประโยชน์จากน้ำในแม่น้ำโขงเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้า การร่วมลงทุนด้านสายส่งไฟฟ้า ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการดำเนินการ ความต้องการพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ และภาระงบประมาณที่เกิดขึ้นด้วย ๓. ตามที่กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำข้อมูลประมาณการความต้องการกำลังคนในสาขาต่าง ๆ แล้ว นั้น ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง เร่งผลิตแรงงานให้ตรงกับความต้องการดังกล่าว และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการในอนาคตด้วย รวมทั้งเร่งผลิตแรงงานในสาขาที่ต่างประเทศมีความต้องการ เช่น แม่ครัว คนเลี้ยงเด็ก คนดูแลคนชรา โดยอาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อให้แก่แรงงานกลุ่มดังกล่าวในรูปของกองทุนหมุนเวียน ๔. ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ปรับปรุงฐานข้อมูลแรงงานทั้งระบบให้เป็นปัจจุบัน โดยจำแนกประเภทแรงงานให้ชัดเจน เช่น แรงงานต่างด้าว แรงงานผู้พิการ ๕. ให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจความเหมาะสมในการจัดให้มีพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น เช่น ตลาดชุมชนในระดับตำบลและอำเภอ ตลาดกลางระดับจังหวัด ทั้งนี้ ให้นำเสนอข้อมูลและแผนการดำเนินงานดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20268 | ร่างกฎกระทรวงให้ใชับังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดสมุทรสาคร) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20269 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดศรีสะเกษ) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20270 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดนครพนม) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20271 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดสุพรรณบุรี) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20272 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดหนองคาย) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20273 | ร่างกฎกระทรวงให้ใชับังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดอุตรดิตถ์) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20274 | การพิจารณาเงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลังแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร01 | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ่ายเงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลังแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพจนถึงขั้นปลดออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ จำนวน ๑,๒๒๘ คน คนละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ภายในกรอบวงเงิน ๖๑๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยนำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงิน “เงินทดแทนการประกันชีวิต” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ๒. ในกรณีที่พบว่ามีผู้มีสิทธิในการรับเงินทดแทนการประกันชีวิตเพิ่มเติมจากที่เสนอในครั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขออนุมัติการจ่ายเงินต่อคณะรัฐมนตรีเป็นคราว ๆ ไป โดยมีความเห็นของสำนักงบประมาณประกอบเรื่องนี้ด้วย ๓. ในกรณีตามข้อ ๒ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหรือเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20275 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดลำพูน) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20276 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดอำนาจเจริญ) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20277 | ร่างกฎกระทรวงให้ใชับังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดเพชรบูรณ์) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20278 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดตาก) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20279 | ร่างกฎกระทรวงให้ใชับังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดขอนแก่น) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20280 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม 35 ฉบับ (จังหวัดอุดรธานี) | มท | 12/07/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัด รวม ๓๕ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครพนม จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดตาก จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสกลนคร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดลำพูน จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยนาท จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้แก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ ตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ (๑) การกำหนดยกเว้นไม่ให้ใช้ข้อบังคับข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสำหรับบางพื้นที่ (๒) การยกเว้นหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเอกชนเป็นการเฉพาะราย และ (๓) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการยกเว้นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินบางประเภทให้สามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนบางประเภทซึ่งมีลักษณะเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ส่วนข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงฯ อาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งหรือขยายโรงงานได้ รวมทั้งการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ และการตรวจสอบพื้นที่เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ นอกจากนี้ เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว ควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ความสำคัญต่อการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงฯ รวม ๓๕ ฉบับดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดตามแนวทางการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป |