ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 121 | มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 (มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565) | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและรับทราบมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี ๒๕๖๕
(มาตรการของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการ ๒.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๔ ร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. .... )
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ๒.๕ ร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. .... )
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการ ๓.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์หรือที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๓ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ๓.๔ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. การจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยและมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า กรณีจะให้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรการดังกล่าว
ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไปนั้น ตามวินัยการคลังภาครัฐ และวิธีการงบประมาณ
การจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยรับงบประมาณต่าง ๆ
ต้องมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับ
ความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน
และต้องคำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณเป็นสำคัญ
โดยเฉพาะกรณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลและจัดทำบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
โดยคำนึงถึงความสามารถในการจัดหารายได้
ซึ่งรายได้ที่จะได้มานั้นรัฐต้องดำเนินการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ของตนเองผ่านระบบภาษีหรือการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม
รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาการหารายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เพียงพอกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า
ภาระการคลังและงบประมาณ
รวมทั้งความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่การคลังของรัฐอย่างยั่งยืนและรอบคอบ
การสูญเสียรายได้และภาระทางการคลังในอนาคตจะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็น
โดยระบบภาษีหรือการจัดเก็บภาษีจะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
สอดคล้องกับสถานการณ์และภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปีงบประมาณด้วย ๕. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ ๕.๑ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ๕.๑.๑ เห็นควรให้ความเห็นชอบมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา
ยาสูบและไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐
เพื่อช่วยเหลือและลดภาระในการดำเนินกิจการให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของภาครัฐ ๕.๑.๒ เห็นควรให้ความเห็นชอบมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการสายการบิน
และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสายการบินในประเทศ
อย่างไรก็ตาม
เพื่อให้ผู้ประกอบการสายการบินสามารถรักษาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและรักษาระดับการจ้างงานไว้ได้
ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-๑๙
เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ๕.๑.๓ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการช้อปดีมีคืน
ปี ๒๕๖๕ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
ตลอดจนเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีและผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังควรมีการประเมินผลการดำเนินมาตรการ
"ชิมช้อปใช้" ทั้งในด้านจำนวนผู้ที่ใช้สิทธิ์ ความคุ้มค่า
และการเพิ่มขึ้นของตัวทวีคูณ (Multiplier Effect ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจากการดำเนินมาตรการ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการจัดทำมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา
นอกจากนั้น สำนักงานฯ มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การใช้จ่ายในประเทศในปี ๒๕๖๕ ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙
สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ในขณะที่ฐานะการคลังเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น
ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนระยะเวลาดำเนินการ
เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขความเสี่ยงจากการระบาดของโรคและมีความยืดหยุ่นต่อการดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-๑๙ ๕.๑.๔ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย
เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งส่งเสริมการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งที่อยู่อาศัยใหม่สร้างเสร็จพร้อมขายและที่อยู่อาศัยเก่ามือสอง
รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสาขาก่อสร้างโดยเฉพาะหมวดการก่อสร้างที่อยู่อาศัย
ซึ่งจะสนับสนุนการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง. ๕.๑.๕ เห็นควรให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือลูกหนี้ตามศักยภาพของลูกหนี้แต่ละรายและช่วยให้ลูกหนี้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น
รวมทั้งสนับสนุนขีดความสามารถในการให้สินเชื่อของเจ้าหนี้และสถาบันการเงินอย่างไรก็ดี
สำนักงานฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า เห็นควรกำหนดระยะเวลาในการดำเนินมาตรการเป็นคราวละ
๑ ปี และให้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินมาตรการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ
เพื่อให้การดำเนินมาตรการมีความยืดหยุ่น
สามารถรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ได้ ๕.๑.๖ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อันเนื่องมาจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่
การดำเนินการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย และมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานๆ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า
เพื่อลดข้อจำกัดในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีและการดำเนินมาตรการด้านการคลังในระยะถัดไปในภาพรวม
อันเนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ลดลงจากการดำเนินมาตรการทางการคลัง
เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาประเมินผลของการดำเนินมาตรการทางภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เพื่อนำมาทบทวน/ปรับปรุง /หรือยกเลิกมาตรการทางภาษีที่หมดความจำเป็น
เพื่อให้การดำเนินมาตรการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
และเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังสำหรับการดำเนินมาตรการที่มีความจำเป็นต่อไป ๕.๒ ธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า
โครงการของขวัญปีใหม่ปี ๒๕๖๕ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่าง ๆ
จะสามารถช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของลูกหนี้
สร้างโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับสินเชื่อใหม่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ ตลอดจนจูงใจให้ลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ระยะสั้น
สถาบันการเงินเฉพาะกิจควรพิจารณาการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้โดยเฉพาะเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาจัดเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและอาจมีความเสี่ยงเกิดขึ้น
ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
รวมทั้งควรจัดเก็บข้อมูลเพื่อติดตามประสิทธิภาพในการดำเนินมาตรการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 122 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2563 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๓ ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
ทั้งนี้ รายงานประจำปีฯ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ ด้วยแล้ว
โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑) การทบทวนและจัดทำ (ร่าง)
แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ และ
(ร่าง) แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ ๒)
การกำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล
และการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ และ ๓) การจัดทำร่างกฎหมายที่แก้ไขให้เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจฯ
และแผนปฏิบัติการฯ
รวมทั้งการวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 123 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... | กค. | 07/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม
ตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๙๔ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒
สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ และในปี ๒๕๖๗
กระทรวงการคลังจะพิจารณาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้มีความเหมาะสม
และสอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเดิม ตามบทเฉพาะกาล
มาตรา ๙๔ แห่งพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
โดยใช้อัตราภาษีตามมูลค่าของฐานภาษี ดังนี้ ๒.๑
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษี ร้อยละ
๐.๐๑-๐.๑ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๒ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย
อัตราภาษีร้อยละ ๐.๐๒-๐.๑ ตามมูลค่าที่ดินและ/หรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๓
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่น นอกจาก ๒.๑ และ ๒.๒ อัตราภาษีร้อยละ
๐.๓-๐.๗ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ๒.๔
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ
อัตราภาษีร้อยละ ๐.๓-๐.๗ ตามมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจะต้องพิจารณาถึงแหล่งเงินรายได้อื่น
และเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกอบด้วย
รวมทั้งการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ ตลอดจนการรายงานผลการดำเนินงานและผลกระทบตามมาตรการภาษีที่ผ่านมา
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย
และเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนถึงภาระภาษีที่แท้จริงตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ควบคู่กับการดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
และระบบการบริหารจัดการฐานข้อมูลการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ให้มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เพื่อให้สามารถประกาศใช้อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีความเหมาะสมได้ในปี
๒๕๖๗ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงการคลังได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 124 | แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ มีสาระสำคัญ เช่น (๑) ดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (๒)
ดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (๓) ให้ความสำคัญกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพิ่มศักยภาพการถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำ
รวมทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ (๔)
เพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน (๕)
ดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน และปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖
เป็นการกำหนดแผนและขั้นตอนการปฏิบัติงานในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่บทบัญญัติของกฎหมายที่กำหนดไว้ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 125 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... | คค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่
อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่
อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒๑๔ สายบางเตย-คลองเจ็ด ตอน
บางเตย-บ้านพร้าว จังหวัดปทุมธานี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัย
ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง
เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่อำเภอสามโคกและพื้นที่ใกล้เคียง
รวมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อก่อสร้างหรือขยายถนนอย่างเคร่งครัดต่อไป
และพิจารณาความสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและต้องมีผลเป็นการกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติเพียงเท่าที่จำเป็น
รวมทั้งต้องสร้างระบบการระบายน้ำที่เพียงพอต่อการขยายตัวของชุมชนหรือเมืองในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอีก
๑๐-๑๕ ปี ข้างหน้าไปพร้อมกันด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 126 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 5 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 | มท. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๕
โดยให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แล้วแต่กรณี
ในฐานะหน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๕ รวม ๑๑ จังหวัด จำนวน ๑,๐๑๓ โครงการ ภายในกรอบวงเงิน ๓,๔๘๔,๒๗๐,๓๘๑ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุดที่ นร ๐๗๑๕/๑๙๔๗๓
ลงวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๔) และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔)
ที่ให้ประเมินผลการดำเนินโครงการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ รวมทั้งกำกับ ดูแล
การดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด
และจัดเตรียมแผนรองรับการดำเนินโครงการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และดำเนินโครงการแล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 127 | การแก้ไขปัญหาขยะติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระยะเร่งด่วน | อก. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๓ จนถึงปัจจุบัน
ส่งผลให้มีขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม
ศูนย์พักคอย และการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งจำนวนขยะติดเชื้อดังกล่าวในภาพรวมทั้งหมดเกินศักยภาพของเตาเผาขยะทั้งประเทศที่มีอยู่
ประกอบกับกฎเกณฑ์ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดขยะติดเชื้อที่มีอยู่ยังไม่เอื้ออำนวยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการกำจัดขยะติดเชื้อได้อย่างเหมาะสมเท่าทันสถานการณ์
ทำให้มีขยะติดเชื้อตกค้างอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง
การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. ๒๕๔๘
ให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้โดยด่วน เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานผลิตไฟฟ้าสามารถขออนุญาตใช้ขยะติดเชื้อเป็นเชื้อเพลิงได้
ซึ่งจะทำให้ขยะติดเชื้อที่ตกค้างหน้าเตาเผาถูกนำไปเผาทำลายให้หมดไป ๒. ให้กระทรวงพลังงาน
กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการออกกฎกระทรวง/ประกาศ
ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๒
และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้สามารถจัดหาแหล่งรับกำจัดขยะติดเชื้อและจัดหายานพาหนะขนส่งขยะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 128 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 4 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 | มท. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๔
โดยให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
แล้วแต่กรณี ในฐานะหน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๔ รวม ๑๔ จังหวัด จำนวน ๑,๔๓๔ โครงการ ภายในกรอบวงเงิน ๓,๗๕๓,๗๘๒,๒๗๘ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุดที่ นร ๐๗๑๕/๑๘๗๗๑
ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔) และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔)
ที่ให้ประเมินผลการดำเนินโครงการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ รวมทั้งกำกับ ดูแล การดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด
และจัดเตรียมแผนรองรับการดำเนินโครงการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการเพื่อให้โครงการแล้วเสร็จและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 129 | การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ซึ่งคาดว่าจะให้มีการเลือกตั้งภายในวันที่ ๒๘
พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ไว้แล้ว ตลอดจนองค์การบริหารส่วนตำบล
กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ได้กำหนดรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นไว้ในข้อบัญญัติ
รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติม
สำหรับกรณีการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ไว้พร้อมแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 130 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 | มท. | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ รวม ๑๒ จังหวัด จำนวน ๒,๑๘๖ โครงการ ภายในกรอบวงเงิน ๓,๕๘๗,๒๑๘,๕๑๔ บาท โดยให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ในฐานะหน่วยรับงบประมาณ เป็นผู้ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติต่อไป และเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ
เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๗๑๕๑ ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔)
และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
สิงหาคม ๒๕๖๔) อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ดำเนินโครงการได้แล้วเสร็จและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยเร็วต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 131 | การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 | นร.14 | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน
๒๕๖๔ เพื่อให้การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบรรลุตามวัตถุประสงค์ของแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกอบด้วย มาตรการรับมือฤดูฝน
๑๐ มาตรการ การจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบบริหารจัดการแผนงาน
โครงการและฐานข้อมูล
สำหรับบูรณาการแผนงานเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ หรือระบบ Thai Water Plan (TWP) การจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำ
แนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการโครงการขนาดเล็กด้านทรัพยากรน้ำ รวมถึงการทบทวนบทบาทภารกิจหน่วยงานในการบริหารทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นเป้าหมายและหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่เกษตรน้ำฝน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยในส่วนของการดำเนินการเพิ่มศักยภาพการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่เกษตรน้ำฝนนอกเขตชลประทานเป้าหมายจำนวน
๘๗ ล้านไร่ กำหนดให้มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ร่วมเป็นหน่วยงานปฏิบัติในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เห็นว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีให้ถูกต้องครบถ้วน
รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความประหยัด และการเตรียมความพร้อม ช่วยเหลือ สนับสนุน แนะนำ และคำปรึกษาทางเทคนิค
ตลอดจนการสนับสนุนงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการ
โดยมีการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่าที่จำเป็นตามที่กฎหมายบัญญัติ และให้หน่วยงานที่ดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านแหล่งน้ำไม่ว่าจะรับงบประมาณจากแหล่งใดนำข้อมูลเข้าในระบบทะเบียนแหล่งน้ำเพื่อเป็นการบูรณาการข้อมูลแหล่งน้ำของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 132 | การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี | นร.12 | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงบประมาณ
สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ
ดังนี้ ๑.๑.
เห็นชอบการปรับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงบประมาณ
สำนักนายกรัฐมนตรี
โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๐
เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานราชการส่วนกลางในภูมิภาค และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ มกราคม ๒๕๖๒ เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่ต้องมีข้อเสนอให้ยุบเลิกหรือยุบรวมหน่วยงานที่มีอยู่เดิม
เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนทั้งในด้านภารกิจและงบประมาณ
และรับทราบการกำหนดตัวชี้วัดสำคัญเพื่อวัดความสำเร็จการแบ่งส่วนราชการใหม่
โดยให้สำนักงบประมาณรายงานผลประเมินตัวชี้วัดดังกล่าว
เสนอคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการพิจารณาทบทวนและปรับบทบาทภารกิจของสำนักงบประมาณ
ให้สอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อไป ๑.๒.
เห็นชอบให้มีการทบทวนและปรับบทบาท ภารกิจ หน้าที่และอำนาจ
และโครงสร้างของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
ภายใน ๑ ปี นับแต่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงบประมาณ มีผลใช้บังคับ ๑.๓. เห็นชอบให้เพิ่มหลักการการจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่ของส่วนราชการให้มีข้อเสนอยุบเลิกภารกิจหรือยุบรวมหน่วยงานของส่วนราชการอื่น(X-in, Y-out) สำหรับกรณีภารกิจที่มี Value Chain เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ
ซึ่งไม่อาจพิจารณาเฉพาะส่วนราชการใดส่วนราชการหนึ่งได้ ๒. ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการพิจารณาในสาระสำคัญตลอดจนรายละเอียดในการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงบประมาณ
สำนักนายกรัฐมนตรี
ต้องให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการ
และร่วมกันพิจารณาอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความชัดเจน
และลดอุปสรรคในการดำเนินการในอนาคต มีการศึกษาวิเคราะห์ภารกิจและโครงสร้างของหน่วยงานที่มีอยู่ในภาพรวมทั้งระบบราชการ
ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง หรือมีความทับซ้อนของภารกิจอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งในราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนกลางในภูมิภาค ราชการบริหารส่วนกลางส่วนภูมิภาค
เพื่อนำไปสู่การทบทวนบทบาทภารกิจ และปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงานในระบบราชการให้มีขนาดที่เหมาะสม
มีการใช้ทรัพยากรและบุคลากรภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
และพิจารณาแนวทางการรับโอนอัตรากำลัง
หรือบุคลากรจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อาจส่งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอัตรากำลังส่วนเกิน
ดังนั้น หากโอนอัตรากำลังและบุคลากรจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในระดับพื้นที่
ซึ่งจะสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจของสำนักงบประมาณเขตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รวมทั้งช่วยลดภาระงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐและสอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ที่กำหนดเป้าหมายให้ภาครัฐมีขนาดเล็กลง เหมาะสมกับภารกิจ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 133 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ | ปช. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต
กรณีศึกษา โครงการ ๑ หมู่บ้าน ๑ กิโลเมตร ถนนพาราซอยล์ซีเมนต์ ให้รัฐบาลควรทบทวนนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง
โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสร้างถนนพาราซอยล์ซีเมนต์
เพื่อทำการศึกษาในด้านต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 134 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.09 | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการคลัง ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ และกำหนดเป็นการทั่วไปให้หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้ครอบคลุมถึงสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นส่วนราชการแต่ไม่มีฐานะเป็นกรม
และที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รวมทั้งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะที่เป็นองค์การมหาชน
ตามมติคณะรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน
เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 135 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริการสุขภาพปฐมภูมิ (Primary Health Care) ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา | สว. | 17/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริการสุขภาพปฐมภูมิ
(Primary Health Care)
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่าการจัดทำแผนปฏิบัติการระบบสุขภาพปฐมภูมิ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๓)
ตามพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อกำหนดทิศทางและนโยบายระบบสุขภาพปฐมภูมิให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
และอยู่ระหว่างจัดตั้ง “กองทุนสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ” และได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ
เช่น พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในระบบสุขภาพปฐมภูมิ
พัฒนาศักยภาพแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญในระบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นต้น
นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๔๒ อยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวให้มีความเหมาะสมมากขึ้นต่อไป
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 136 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม และผังเมืองเฉพาะ พ.ศ. .... | มท. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม
และผังเมืองเฉพาะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์
คณะกรรมการผังเมืองจังหวัด และคณะกรรมการบริหารการผังเมืองส่วนท้องถิ่น
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการเกี่ยวกับการอุทธรณ์ในกรณีผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาตามประเด็นข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของกรุงเทพมหานคร ที่เห็นว่าควรแก้ไขข้อความ ร่างข้อ ๒ (๑)
และวรรคสอง เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ยื่นอุทธรณ์ และแก้ไขร่างข้อ ๓
เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับแก้ไขในข้อ ๒ (๑) และแก้ไขร่างข้อ ๔ และร่างข้อ ๕ เพื่อระบุคณะกรรมการให้ครบถ้วนตามมาตรา
๙๕ แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 137 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ในการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา | สว. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน
ในการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น
ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงมหาดไทย
เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเห็นชอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
และข้อเสนอแนะด้านนโยบาย
ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม
และจารีตประเพณีท้องถิ่น เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และได้เร่งรัดปรับปรุงพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔
เพื่อกระจายอำนาจและกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูล (Big
data) ทางด้านวัฒนธรรมควรประกอบด้วย
เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลด้านวัฒนธรรม ระบบเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ระบบตรวจสอบและรับฟังเสียงสื่อสังคมออนไลน์และแอปพลิเคชัน
การบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรม ควรกำหนดกลไกให้ภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในท้องที่
ด้านการเสริมสร้างสมรรถภาพของผู้มีส่วนได้เสียและด้านแหล่งรายได้และกองทุนทางด้านวัฒนธรรม
การปลูกฝังจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ บริหารจัดการ
และสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
และด้านการออกแบบการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน
ในการบริหารจัดการทางวัฒนธรรม
ได้มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคณะกรรมการชุมชนของเทศบาล พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเองและมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน
เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 138 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.) (1.นายวัลลภ พริ้งพงษ์) | มท. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายวัลลภ พริ้งพงษ์ ด้านการบริหารงานท้องถิ่น ๒. นายวสันต์ วรรณวโรทร ด้านการบริหารงานบุคคล ๓. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ด้านระบบราชการ ๔. นายธวัชชัย ฟักอังกูร ด้านบริหารและการจัดการ
๕. นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ ด้านกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 139 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 20/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานประจำเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๔
โดยมีผลการดำเนินงานของ คณะกรรมการผู้ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น (๑) กระทรวงกลาโหม
จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา จิตอาสาเฉพาะกิจ และจิตอาสาภัยพิบัติ (๒) กระทรวงการคลัง
จัดกิจกรรมจิตอาสากระทรวงการคลังร่วมใจบริจาคโลหิต ครั้งที่ ๑-๓
และกิจกรรมมอบอาหารปรุงสุกและน้ำดื่มแก่ประชาชนในพื้นที่เขตจตุจักร (๓)
กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมจัดทำถุงใส่ของจากห่อกระดาษ A4 เพื่อนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ) (๔) กระทรวงมหาดไทย จัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.)
และจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในโอกาสวันสำคัญของชาติไทย
และ (๕) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
จัดกิจกรรมโครงการสนับสนุนจิตอาสาพระราชทานกิจกรรมฝึกอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน
(CPR) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 140 | ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.14 | 13/07/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำหนดบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
