ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 28 จากทั้งหมด 169 หน้า แสดงรายการที่ 541 - 560 จากข้อมูลทั้งหมด 3379 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
541 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2564 | นร.11 สศช | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๑๒ ล้านโดส (Sinovac) ของกรมควบคุมโรค มอบหมายให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน อนุมัติโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ๑๓
จังหวัด เพิ่มเติม ๑ เดือน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายวัน และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เร่งพิจารณาความเหมาะสมในการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา
๔๐ เนื่องจากอายุเกินคุณสมบัติที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนเร่งรัดประชาสัมพันธ์
เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน เร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมทั้งให้ดำเนินการตามข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
542 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 | มท. | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๘๑๐๑ ลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๔) และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑ ตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔) ที่ให้ประเมินผลการดำเนินโครงการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ รวมทั้งกำกับ ดูแล การดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด และจัดเตรียมแผนรองรับการดำเนินโครงการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่โดยเร็วต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
543 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง) | กค. | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในอัตราดอกเบี้ยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และอนุมัติงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๗๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ ๒) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าควรมีกระบวนการคัดกรองการให้สินเชื่อ และพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างเหมาะสม รวมถึงติดตามคุณภาพสินเชื่อและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย สำหรับภาระงบประมาณในการชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากโครงการฯ ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการพิจารณาผลการดำเนินโครงการและนำข้อมูลสถานะทางการเงินมาประกอบการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป และให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงของโครงการ และติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากการปรับกรอบวงเงินของโครงการเพิ่มขึ้น รวมทั้งควรมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มลูกค้ารายย่อยไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการให้ความช่วยเหลืออื่นในลักษณะเดียวกันด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
544 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 6/2564 | นร.11 สศช | 30/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (Covid-๑๙)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๙,๙๙๘,๘๒๐ โดส (Pfizer) ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้กรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา
๓๙ และมาตรา ๔๐ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ
ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม
พิจารณาความเหมาะสมในการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา
๔๐ เนื่องจากอายุเกินคุณสมบัติที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ครบถ้วนถูกต้องอย่างเคร่งครัด ตลอดจนเร่งรัดประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
และเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้ง ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินการตามข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ในการดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย
เพิ่มเติม จำนวน ๙,๙๙๘,๘๒๐ โดส (Pfizer) ให้กระทรวงสาธารณสุข
(กรมควบคุมโรค) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน
เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด โดยเร่งกระจายวัคซีนอย่างเป็นระบบ ทั่วถึง
และเป็นธรรม
รวมทั้งให้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและการป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย ๓. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอย่างเป็นระบบ
ครอบคลุมในทุกมิติ พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
ๆ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
545 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 | มท. | 30/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ รวม ๑๒ จังหวัด จำนวน ๒,๑๘๖ โครงการ ภายในกรอบวงเงิน ๓,๕๘๗,๒๑๘,๕๑๔ บาท โดยให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ในฐานะหน่วยรับงบประมาณ เป็นผู้ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติต่อไป และเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ
เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๗๑๕๑ ลงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔)
และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
สิงหาคม ๒๕๖๔) อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ดำเนินโครงการได้แล้วเสร็จและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยเร็วต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
546 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 30/2564 | นร.11 สศช | 24/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ รวม ๑๒ จังหวัด จำนวน ๒,๑๘๖ โครงการ กรอบวงเงินรวม ๓,๕๘๗,๒๑๘,๕๑๔ บาท และให้กระทรวงมหาดไทย
(สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) เร่งรวบรวมโครงการที่ผ่านการพิจารณาแล้ว ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ และมอบหมายให้จังหวัดรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔
ไปประกอบการดำเนินการตามขั้นตอน รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงศักยภาพและความสามารถในการใช้จ่าย ความคุ้มค่า ประหยัด เป้าหมาย
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนได้รับเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ๒. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการกำลังใจ จากเดิม สิ้นสุดระยะเวลาเบิกจ่ายในเดือนสิงหาคม
๒๕๖๔ เป็น เดือนธันวาคม ๒๕๖๔
มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รับไปพิจารณาความเหมาะสมของช่วงระยะเวลาที่จะเริ่มดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันและโครงการทัวร์เที่ยวไทย
อนุมัติให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการยกระดับหน่วยบริการกรมอนามัยรองรับการระบาดของโรค
COVID-๑๙
จากเดิม เดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๖๔ เป็น เดือนมิถุนายน-ธันวาคม ๒๕๖๔
และอนุมัติให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการ Gastronomy
Tourism : LANNA Gastronomy “คิดถึงเชียงใหม่”
จากเดิม ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เป็น ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึง ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ
และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่ได้กำหนดไว้
ตลอดจนการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ ให้เป็นไปตามข้อ ๑ ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
547 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 1 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 | มท. | 24/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ รวม ๒๓ จังหวัด จำนวน ๒,๑๑๗ โครงการ วงเงินรวม ๖,๑๗๐,๖๔๗,๙๑๕ บาท โดยให้หน่วยรับงบประมาณ ได้แก่ จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ซึ่งมีฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ
เป็นผู้ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอนของระเบียบ และแนวทางปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะได้แจ้งให้หน่วยรับงบประมาณปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๖๔๓๑
ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔) และให้กระทรวงมหาดไทยกำกับ ดูแล ให้หน่วยรับงบประมาณ
เช่น จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลเมือง ดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๑ ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด
รวมทั้งจัดเตรียมแผนรองรับการดำเนินโครงการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้งนี้
ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งรัดการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
548 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า
มีประสิทธิภาพ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่กำหนดไว้
ให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ครบถ้วนถูกต้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ
ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้การดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย
เพิ่มเติม ๒๐,๐๐๑,๑๕๐ โดส (PFizer) ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค)
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนร่วมดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
โดยเร่งกระจายวัคซีนให้รวดเร็ว เป็นระบบ ทั่วถึง โปร่งใส และเป็นธรรม
รวมทั้งให้สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนให้ชัดเจนและทั่วถึงด้วย ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
549 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 29/2564 | นร.11 สศช | 17/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุม ครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากครั้งที่
รวม ๒๓ จังหวัด จำนวน ๒,๑๑๗
โครงการ กรอบวงเงิน ๖,๑๗๐,๖๔๗,๙๑๕ บาท ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้กระทรวงมหาดไทย
(สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ๒. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ
และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่กำหนดไว้
ให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด สำหรับการบริหารจัดการภาระหนี้ภายใต้พระราชกำหนดฯ
นั้นกระทรวงการคลังจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
อย่างเคร่งครัด และหน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานและแผนเบิกจ่ายตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๑
ให้เป็นไปตามข้อ ๑ ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
550 | ขออนุมัติปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณจากรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่ได้กันเงินไว้และไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน มาดำเนินรายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดินเพื่อการชลประทาน | กษ. | 17/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กรมชลประทานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณจากรายการที่ได้มีการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และได้กันเงินไว้ตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลัง (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓)
ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ จำนวน ๑๑ รายการ วงเงินรวม
๒๖๖,๙๔๑,๐๑๖.๐๐ บาท มาดำเนินการในงบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง รายการค่าซื้อที่ดิน
ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน จำนวน ๑๑ รายการ วงเงินรวม ๒๖๖,๙๔๑,๐๑๖.๐๐ บาท
โดยให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การบริหารวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับรายการผูกพันข้ามปี
และค่าใช้จ่ายรายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน
เพื่อการชลประทานดังกล่าว ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี
แล้วแต่กรณี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ โดยให้นำมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ และ/หรือ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พร้อมเงื่อนไขประกอบการเห็นชอบไปประกอบการดำเนินงานโครงการทั้งในระยะก่อสร้างและระยะดำเนินการอย่างเคร่งครัดไปพิจารณาด้วย ๒. ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในระยะต่อไป ให้กระทรวงเกษตรมละสหกรณ์
(กรมชลประทาน)ดำเนินการตามมติเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
หรือโครงการพิจารณาความจำเป็น เหมาะสม คุ้มค่า
ตลอดจนตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการนั้น ๆ
อย่างละเอียด รอบคอบ ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อน
เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการได้อย่างบรรลุผล
เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
551 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2564 เพื่อดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ | ทส. | 17/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จำนวน ๙ โครงการ วงเงินงบประมาณ ๔๙๐,๖๐๓,๙๐๐ บาท โดยมีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นหน่วยงานดำเนินการ
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน ๔๙๐,๖๐๓,๙๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จำนวน ๙ โครงการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
ในส่วนของการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลัง
การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
(ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๘/๑๕๔๙๖ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
552 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ของสำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน กรอบวงเงินจำนวน ๓๓,๔๗๑.๐๐๕๐ ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่
๒ เพื่อช่วยเหลือเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๕ ฉบับที่
๒๘ และฉบับที่ ๓๐) ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม ๒๙ จังหวัด ทั้งนี้
เห็นควรให้สำนักงานประกันสังคม รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยให้เร่งดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมาย
พิจารณาดำเนินการต่าง ๆ ให้สามารถโอนเงินให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา
๓๙ และมาตรา ๔๐ ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน ๑๐ จังหวัดก่อน กำหนดเงื่อนไขของกลุ่มเป้าหมายตามโครงการฯ
โดยเฉพาะในส่วนของผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ เพิ่มเติม
จัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-๑๙
ในพื้นที่ ๑๓ จังหวัด การดำเนินโครงการนี้ทำให้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา
๔๐ จำนวนเพิ่มขึ้น จึงควรต้องประมาณการภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นให้ชัดเจน
พร้อมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน
กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ไปดำเนินการโดยเคร่งครัด
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)
รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด สร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
รวมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือแก่สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องและทั่วถึงเป็นระยะ
ๆ ต่อไป ตลอดจนประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนประเภทต่าง ๆ
เพื่อจูงใจให้ผู้ประกันตนอยู่ในระบบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
(เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
553 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง | กษ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) จ่ายเงินชดเชยให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำแม่หมอก
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง
จากการเข้าทำประโยชน์ในแปลงจัดสรรที่ดินไม่ได้ จำนวน ๑๐๓ ราย ในอัตรา ๒๐,๐๐๐ บาทต่อราย
ตามความเห็นของคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐ
ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ แนวทางที่ ๒
ที่ให้มีการเยียวยาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ อ.๕๖๔/๒๕๖๐ ในส่วนของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้กรมชลประทานพิจารณาให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยให้เริ่มนับระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันที่ราษฎรยื่นคำร้องเรียนไปจนกว่าจะชำระเงินค่าชดเชยเสร็จสิ้น ๒. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
รวม ๑๔ราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานกรรมการ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงขั้นตอน
ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และควรเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการด้วย
ให้กรมชลประทานดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (เกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยคราวต่อไปหากมี)
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม
๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา)
ที่กำหนดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทและวิธีการคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรเร่งจัดทำหลักเกณฑ์
เงื่อนไข
และวิธีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่ประชาชนที่เกิดจากการดำเนินโครงการของรัฐ
ตามขั้นตอนของกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และจะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม การไม่เลือกปฏิบัติ มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
554 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 28/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลดกรอบวงเงินโครงการเราชนะ
เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินโครงการ อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม
ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด
และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุมัติให้จังหวัดลำพูน
ปรับลดกิจกรรมสร้างแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในชุมชน
(แปลงเรียนรู้ด้านปศุสัตว์) ภายใต้โครงการขยายผลการดำเนินงานเกษตรกรรม อนุมัติให้จังหวัดยุติหรือยกเลิกโครงการของจังหวัดที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๘ โครงการ
และมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ
เช่น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการปรับปรุงแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้รายเดือน/รายสัปดาห์ให้เป็นปัจจุบัน
ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง ๆ
โดยใช้วงเงินตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
555 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินทั้งสิ้น
๑,๘๗๗,๔๕๕,๐๐๐
บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประเมินผลและพิจารณาปรับเป้าหมายของโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่
: กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข
ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นระบบและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
556 | โครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | ศธ. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๒ ในกรอบวงเงินงบประมาณ ๑๘๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการทุนอุดหนุนนักเรียนเรียนดีมีความสามารถในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้เสนอตั้งรองรับไว้แล้วเป็นลำดับแรก
และหากไม่เพียงพอให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม
สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณพร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน
เพื่อเสนอขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็น เหมาะสม และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามขั้นตอนต่อไป
และติดตามผลการดำเนินงานและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการในทุกปีการศึกษา
เพื่อนำผลการติดตามและประเมินผลดังกล่าวมาใช้เป็นแนวทางในการเสนอขอตั้งงบประมาณและการดำเนินงานโครงการในระยะต่อไปด้วย
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา)
รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรมีการประเมินคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษาในแต่ละปี
ให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล โครงการดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนให้เกิดโครงการในลักษณะศูนย์เพาะกล้าคุณธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่
และควรสนับสนุนทุนแก่นักเรียนที่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่
โดยเน้นการสร้าง “คนดี” นำ “คนเก่ง”
ควรมีการกำหนดแนวทางการประเมินผลอย่างมีส่วนร่วมเป็นระยะ และกำหนดตัวชี้วัด และให้กระทรวงศึกษาธิการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะภาคเอกชนและสถานประกอบการในพื้นที่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อยอดและมีอาชีพรองรับภายหลังจากจบการศึกษาต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
557 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 3/2564 | นร.11 สศช | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑)
โครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามมาตรการที่ ๑
โดยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา จำนวน ๒,๐๐๐ บาทต่อคน ในภาคการศึกษาที่ ๑/๒๕๖๔ กรอบวงเงิน ๒๑,๙๐๕.๙๒๐๐ ล้านบาท (๒)
ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ (๓) ให้สถานศึกษาของรัฐ
เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอนและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ตามระเบียบของทางราชการ (๔) โครงการตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิต
นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในภาครัฐและเอกชน ของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงิน
๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (๕) ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
และเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน
รวมทั้งการพิจารณาแนวทางการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการในภาพรวม
โดยรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อให้ภาครัฐมีข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายหรือแนวทางที่เกี่ยวข้องในลักษณะมุ่งเป้า
ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในภาพรวมต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
558 | รายงานความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai และสถานะด้านงบประมาณ | ดศ. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai และสถานะงบประมาณ เพื่อรายงานความก้าวหน้าของโครงการดังกล่าว
และข้อมูลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดงาน World Expo
2020 Dubai ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-๑๙
เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบแนวปฏิบัติของเจ้าภาพ
และสอดคล้องกับกำหนดการจัดงานใหม่ซึ่งมีการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการเพิ่มอีก
๓๕๔ วัน
โดยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นแผนงานที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๕ กรอบวงเงิน ๑๑,๑๑๑,๘๕๐ บาท
และแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมพิเศษเพื่อแสดงศักยภาพประเทศไทย
โดยหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ (๑) กรมส่งเสริมการเกษตร กะทรวงเกษตรและสหกรณ์ (๒)
กระทรวงวัฒนธรรม และ (๓) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
และงบประมาณที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๕ กรอบวงเงิน ๑๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าควรดำเนินการติดตั้งระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ภายในอาคารแสดงประเทศไทย งาน World
Expo 2020 Dubai ในรูปแบบเสมือนจริงเห็นครบทุกมุมมอง
(Virtual Reality) ผ่านออนไลน์ เพื่อให้ผู้ชมงานทั่วโลก สามารถเข้าชมงานได้อย่างทั่วถึง
ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถแสดงศักยภาพด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในงานได้อย่างเต็มประสิทธิผลและคุ้มค่ากับเงินงบประมาณที่ได้ลงทุน
และให้ดำเนินการต่อรองค่าใช้จ่าย เช่น ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ค่าดูแลรักษาอาคาร
ค่ารักษาความปลอดภัย เป็นต้น กับประเทศเจ้าภาพและผู้ให้บริการที่ Expo
เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในห้วงระยะเวลาที่มีการเลื่อนกำหนดจัดงานในโอกาสแรก
ตลอดจนแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมกิจกรรมพิเศษจากแหล่งเงินอื่น เช่น
เงินรายได้ หรือภาคเอกชนสมทบ รวมถึงการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีผลใช้บังคับ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประโยชน์ที่จะได้รับอย่างสมเหตุสมผลต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
559 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการอัยการ | อส. | 03/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการอัยการ จำนวน ๒๐ คัน
อัตราค่าเช่าคันละ ๔๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน
ระยะเวลา ๕ ปี (๖๐ เดือน) ตั้งแต่ปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ถึงปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๙,๒๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
สำหรับรายละเอียดงบประมาณในการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามความเห็นชอบของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๒๗/๕๙๔ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔)
โดยค่าเช่าในปี ๒๕๖๔ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ที่ได้รับการจัดสรรภายใต้แผนงานพื้นฐาน ด้วยการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
และสำนักงานอัยการสูงสุดควรคำนึงถึงงบประมาณและระยะเวลาที่คงเหลือในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
ให้สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
560 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 26/2564 | นร.11 สศช | 27/07/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๖/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้แก่ (๑) ให้กรมส่งเสริมการเกษตร
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด
(๒) ให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา ๕ (๓) มาใช้เพื่อการตามมาตรา ๕ (๑) เพิ่มเติม จำนวน ๑๓,๐๒๖.๑๒๐๐ ล้านบาท และมาตรา ๕ (๒) เพิ่มเติม จำนวน ๑,๕๒๒.๙๙๐๐ ล้านบาท รวมวงเงิน ๑๔,๕๔๙.๑๑๐๐
ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
(๓) โครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ
ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กรอบวงเงิน ๑๓,๐๒๖.๑๒๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการ
สถานพยาบาลที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สำหรับประชาชนทุกสิทธิ
(๔) ให้สำนักงานประกันสังคม
ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓
ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยขยายพื้นที่การดำเนินโครงการฯ จากเดิม ๑๐ จังหวัด เป็น ๑๓ จังหวัด
ทำให้กรอบวงเงินโครงการฯ เพิ่มขึ้นจาก ๑๓,๕๐๔.๖๙๖๐ ล้านบาท เป็น ๑๕,๐๒๗.๖๘๖๐
ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ๑,๕๒๒.๙๙๐๐ ล้านบาท (๕)
ให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการชีวนิรภัย
ระดับ ๓ เพื่อรองรับการเป็นเครือข่ายห้องปฏิบัติการวินิจฉัยการติดเชื้อโรคโควิด-๑๙
และเชื้อโรคระบาดอื่น ๆ ในเขตภาคเหนือ (๖) ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการคนละครึ่ง
และโครงการคนละครึ่งระยะที่ ๒ ให้แก่ร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิ จำนวน ๒๙๖ ราย
วงเงินที่ระงับการจ่ายจำนวน ๙๗๒,๕๑๖ บาท จนกว่าการตรวจจะแล้วเสร็จ
และ (๗) ให้จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดยะลา ปรับแผนดำเนินงาน
แผนการใช้จ่ายงบประมาณโครงการฯ และให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปรับแผนดำเนินงานโครงการพัฒนาผ้าทอละว้า
เป็นต้น ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเร่งรัดการจ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |