ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 83 จากทั้งหมด 84 หน้า แสดงรายการที่ 1641 - 1660 จากข้อมูลทั้งหมด 1664 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1641 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ และขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์ หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย และโครงการร้อยใจรักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ | กห. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กระทรวงกลาโหมได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ (เรื่อง ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง
การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
ในการดำเนินโครงการพัฒนาดอยดุง จังหวัดเชียงราย และโครงการร้อยใจรักษ์
จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(หนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๒๒๐.๒/๑
ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๕) สำนักงบประมาณ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน
โดยมุ่งเน้นให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ควบคู่กันไป
หากมีความจำเป็นที่จะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่
กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้โครงการจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ
เช่น การบำรุงรักษาป่าธรรมชาติ
การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างเข้มงวด
และบริเวณที่ราษฎรดั้งเดิมให้จัดที่ทำกินให้เป็นการถาวร เพื่อมิให้มีการโยกย้ายและทำลายป่าขยายขอบเขตออกไปอีก
เป็นต้น ตลอดจนควรมีแผนการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการและข้อเสนอแนะต่าง
ๆ พร้อมทั้งแผนการบำรุงรักษาและแผนการสร้างจิตสำนึกของชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
และให้กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ควรประสานการดำเนินงานร่วมกับกรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชนในพื้นที่โครงการต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ (เรื่อง การดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า)
เกี่ยวกับการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ นั้น
ให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปหารือร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ชัดเจน
แล้วดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1642 | วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑. เพื่อให้การบริหารจัดการภาครัฐมีความคล่องตัวและทันต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ให้มีกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
ในการติดตามสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและจัดทำข้อเสนอแนะมาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินการ
รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงทั้งระยะสั้นและระยะปานกลางสำหรับในแต่ละกรณี (Scenario)
เป็นการล่วงหน้า ๒. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งติดตามการขับเคลื่อนมาตรการของรัฐบาลในประเด็นดังต่อไปนี้ ๒.๑ การเร่งสร้างรายได้ใหม่ตามมาตรการของรัฐบาล
(New Growth Engine) เพื่อขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ
เช่น มาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย (Long -
Term Resident Visa : LTR) มาตรการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(Eastern Economic Corridor: EEC) และอุตสาหกรรมอนาคต (New
S - curve) มาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเกิดใหม่
(Startup) และการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ
- เศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy: BCG Model) เป็นต้น ๒.๒ การติดตามการจัดเก็บรายได้ของรัฐ
โดยพิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีจากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจรูปแบบใหม่
เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งจัดทำแนวทางการดำเนินการหากแนวโน้มการจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามประมาณการ ๒.๓ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยหน่วยรับงบประมาณต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่กำหนดไว้และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยเฉพาะรายจ่ายประจำ รวมทั้งประเมินความเหมาะสมของโครงการ/มาตรการต่าง ๆ ว่าสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน
และมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อให้มีการปรับปรุงโครงการและมาตรการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ๒.๔ การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานและต้นทุนโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้
เพื่อไม่ให้เป็นภาระเพิ่มขึ้นแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ๒.๕ การดำเนินมาตรการเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งในด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ด้านแรงงาน รวมทั้งการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1643 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 1 | กค. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๑
ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ตามมติที่ประชุม
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เช่น การปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่
การบรรจุโครงการพัฒนา โครงการ
และรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
ครั้งที่ ๑ จำนวน ๘ โครงการ/รายการ เป็นต้น
และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และตามมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๕ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน
เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่เห็นว่าควรกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ของหน่วยงานในสังกัดให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
การรถไฟแห่งประเทศไทยควรเร่งดำเนินการหารายได้จากแหล่งอื่นเพิ่มเติม
การกู้เงินควรพิจารณาให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละช่วงเวลา
ควรติดตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
รวมถึงพิจารณาประสิทธิผลและความคุ้มค่าของการตรึงราคาพลังงาน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1644 | การเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 | ทส. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๔๖ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำ
(ร่าง) ข้อเสนอโครงการ รายละเอียดแผนงานและกิจกรรม
และประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลก
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำข้อมูลผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม
เพื่อแสดงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ความประหยัด และประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมและควรมีการติดตามประเมินผลหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับความคุ้มค่าในการดำเนินการจัดประชุมระดับนานาชาติลักษณะเดียวกันในครั้งต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1645 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) | กค. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เป็นกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเพิ่มเติมในตำแหน่งที่ว่าง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มกราคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1646 | การออกกฎกระทรวงเพื่อยกเลิกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และกฎกระทรวงเพื่อรองรับการควบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ | นร.09 | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ
และค่าธรรมเนียมในการขอรับใบอนุญาต และการออกใบอนุญาตให้ประกอบหลักทรัพย์สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากันเป็นบริษัทใหม่
ของกระทรวงการคลัง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1647 | รัฐบาลสาธารณรัฐอุซเบกิสถานเสนอแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย (นายฟาคริดดิน ซุลตานอฟ) | กต. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฟาคริดดิน ซุลตานอฟ (Mr. Fakhriddin Sultanov) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย
สืบแทน นายอะซีซ อะลีเยฟ (Mr. Aziz Aliev) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1648 | รายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2563 | ศป. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง
(ศป.)ประจำปี ๒๕๖๓ ตามมาตรา ๙๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
พ.ศ. ๒๕๔๒ มีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑) การพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว
และเป็นธรรม (๒)
การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครองและการวางหลักกฎหมายและแนวทางปฏิบัติราชการที่ดี
(๓) การเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงความยุติธรรมทางปกครอง ศป.
ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลปกครองแห่งใหม่ และอาคารที่ทำการศาลปกครองในภูมิภาค (๔)
การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนในสังคม ศป.
ได้ดำเนินภารกิจสนับสนุนแผนแม่บทด้านที่ ๒ การเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสังคม
และภารกิจสนับสนุนแผนแม่บทด้านที่ ๔ การบริหารจัดการองค์กรให้มีมาตรฐานในระดับสากล
(๕) การพัฒนาศาลปกครองอิเล็กทรอนิกส์ ศป.
ได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง
และปรับปรุงการให้บริการประชาชน (๖) การเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ศาลปกครองได้ดำเนินการเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาชนศาลปกครอง
องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศและการรับรองคณะผู้แทนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ (๗) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรศาลปกครอง
ประกอบด้วย การพัฒนาตุลาการศาลปกครอง และการพัฒนาข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง (๘)
การเสริมสร้างวัฒนธรรมศาลปกครอง และองค์กรแห่งความสุข และ (๙)
การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ ศป. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1649 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 20/2564 | นร.11 สศช | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๒๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย จำนวน ๑๐,๔๖๘,๑๐๐ โดส (AstraZeneca) ของกรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข กรอบวงเงิน ๑,๔๑๖.๕๔๓๒ ล้านบาท
โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการ กลุ่มที่ ๑ ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้สามารถจัดหาวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
สามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ ๑๕
ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม
พ.ศ. ๒๕๖๔ พ.ศ. ๒๕๖๔ อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป ๒. มอบหมายให้กรมควบคุมโรค
ดำเนินการปรับแผนการใช้จ่ายเงินโครงการฯ ให้สอดคล้องกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไป และจัดทำแผนบริหารจัดการและแผนการใช้วัคซีนในแต่ละประเภทสำหรับแต่ละกลุ่มประชากร
เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนที่จัดหามาเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมทั้งเร่งดำเนินการคืนเงินกู้เหลือจ่ายและจัดทำรายงานการประเมินผลการดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม
จำนวน ๓๕ ล้านโดส ตามขั้นตอนข้อ ๑๙ และ ๒๐ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๓. อนุมัติให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของกระทรวงศึกษาธิการ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการฯ
โดยขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ จาก เดือนสิงหาคม - ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็น เดือนสิงหาคม
๒๕๖๔ - กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ เร่งดำเนินการเบิกจ่ายและแก้ไขข้อมูลโครงการฯ
ในระบบ eMENSCR โดยเร็วต่อไป และให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค)
และหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้มีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์อัตราค่าใช้จ่าย
และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด รวมทั้งรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายและให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผล
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เห็นควรมอบหมายให้กรมควบคุมโรค
และหน่วยงานรับผิดชอบภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ของกระทรวงศึกษาธิการ เร่งดำเนินการตามความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1650 | ขออนุมัติกรอบงบประมาณและผู้มีอานาจลงนามโครงการประมูลสิทธิ์งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2572 | กษ. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติกรอบงบประมาณและผู้มีอำนาจลงนามโครงการประมูลสิทธิ์งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. ๒๕๖๙ วงเงินงบประมาณ ๒,๕๐๐
ล้านบาท และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๗๒ วงเงินงบประมาณ ๔,๒๘๑
ล้านบาท และเห็นชอบผู้ลงนามการยื่นเสนอตัวประมูลสิทธิ์ ตามข้อกำหนดของ AIPH
โดยมีรายละเอียดเอกสาร จำนวน ๕ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑ หนังสือแสดงเจตจำนงการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน
(Formal Letter requesting approval from the
organization or authority making the application) ของ ๒ จังหวัด
ได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑.๒ แบบสอบถาม International Horticultural Exhibitions Questionnarie จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร (AIPH Member) จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อธิบดีกรมวิชาการเกษตร (AIPH Member) ๑.๓
หนังสือยืนยันการสนับสนุนการจัดงานและงบประมาณจัดงานจากรัฐบาลไทย (Formal Letter of Support from National
Govermment & Financial Confirmation) จังหวัดอุดรธานี ได้แก่
ปลัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ นายกรัฐมนตรี ๑.๔ หนังสือสนับสนุนการจัดงานจากสมาชิก AIPH (Formal
Letter of Support from (AIPH Member) ของทั้ง ๒ จังหวัด ได้แก่
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ๑.๕
หนังสือยืนยันการสนับสนุนค่าประกันสิทธิ์และค่าลิขสิทธิ์การจัดงานการจัดงาน ( Financial Guarantee and License Fee) ของทั้ง ๒
จังหวัด ได้แก่ ผู้อำนวยการ สสปน. ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ยกเว้นในส่วนของผู้ลงนามในเอกสารการยื่นเสนอตัวประมูลสิทธิ์ฯ จำนวน ๒ ฉบับ
ให้เป็นไปตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี โดยคำนึงถึงภารกิจความจำเป็น
ความคุ้มค่า ความประหยัด
และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่ายร่วมกับภาครัฐด้วย
ควรจัดทำข้อมูลและขั้นตอนแสดงถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าใช้พื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์โคกหนองรังกา
ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา และควรมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังจากเสร็จสิ้นการจัดงานพืชสวนโลกด้วย
ควรพิจารณาหัวข้อด้าน BCG ในการจัดสัมมนาวิชาการ
สัมมนาเชิงปฏิบัติการด้วย โดยอาจสอดแทรกหัวข้อสัมมนาต่าง ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม
เพื่อสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1651 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ ระยะเวลา
และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ
พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ
ตั้งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับข้อเสนอแนะและความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ
ที่ควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคมอย่างเหมาะสมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต ตามนัยของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1652 | แนวทางการยกร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. .... | นร.09 | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบแนวทางการยกร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ.
.... ของคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะที่ ๒) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกลไกในการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรไม่แสวงหากำไร
เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน
รวมทั้งกำหนดกลไกในการกำกับดูแลการดำเนินงานขององค์กรไม่แสวงหากำไรให้เป็นไปอย่างเปิดเผย
โปร่งใส และเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบของร่างกฎหมายตามมาตรา
๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๓.
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เช่น ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับหน้าที่และอำนาจ
ตลอดจนภารกิจหลักของหน่วยงานนั้น ๆ เป็นสำคัญ กำหนดกลไกการกำกับดูแลให้เปิดเผย
โปร่งใส สนับสนุนหลักการ “การส่งเสริมและพัฒนาและพัฒนาองค์กรไม่แสวงหากำไร”
เพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกับราชการและภาคส่วนอื่น รวมทั้งกำหนดให้มีการจดแจ้งแหล่งเงินทุน
บัญชีธนาคารที่จะรับเงิน จำนวนเงินที่จะได้รับ และวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงิน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1653 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย – แคนาดา | คค. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบันทึกข้อตกลงระหว่างไทย - แคนาดา เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งแคนาดาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการขนส่งทางอากาศ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญ
หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ขอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งแคนาดาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการขนส่งทางอากาศและให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full
Powers) ให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวด้วย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1654 | กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | อว. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๑๑๔,๖๓๔.๗๖๘๒ ล้านบาท และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๒๙,๑๐๐ ล้านบาท และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์
ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ และให้สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับข้อเสนอของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ควรพิจารณาถึงข้อกำหนดทางด้านการคลังของประเทศในระยะต่อไป
และควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการร่วมลงทุนจัดการศึกษามากยิ่งขึ้น
ควรกำหนดบทเฉพาะกาลประเด็นที่มีความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาและกำหนดหลักเกณฑ์
และรูปแบบการดำเนินงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้มีความชัดเจน และควรมีการจัดทำแนวทางการพัฒนา
(Roadmap) การพัฒนาวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมขั้นแนวหน้า (Frontier) เพื่อสร้างความชัดเจนในการส่งเสริมภาคเอกชนในการร่วมลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1655 | รัฐบาลสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสเสนอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสประจำประเทศไทย (นายเควิน เอ็ม. ไอแซก) | กต. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายเควิน เอ็ม. ไอแซก (Mr. Kevin M. Isaac) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสประจำประเทศไทยคนแรก
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1656 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ และนางสาวธิดารัช ธนภรรคภวิน) | มท. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
รวม ๒ คน แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออกและมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ มกราคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายอรรษิษฐ์
สัมพันธรัตน์ ประธานกรรมการ ๒. นางสาวธิดารัช
ธนภรรคภวิน กรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อฯ และผู้ทรงคุณวุฒิในภาคธุรกิจ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1657 | การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เรื่อง ขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า | นร.01 | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ ในการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบการเสนอขอตั้งงบประมาณการดำเนินโครงการพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ
และหอประชุมอเนกประสงค์นานาชาติเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ดังนี้ (๑) ให้กองทัพบก เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเสนอขอตั้งงบประมาณโครงการจัดสร้างหอประชุมอเนกประสงค์นานาชาติเฉลิมพระเกียรติ
ในส่วนที่กองทัพบกได้มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว
และส่วนคงเหลืองบประมาณที่ต้องเสนอขอตามภาระหนี้ผูกพันและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
ทั้งนี้
รวมถึงงบประมาณในการบริหารจัดการและบำรุงรักษารายปีภายหลังจากที่โครงการแล้วเสร็จด้วย
และ (๒) ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเสนอขอตั้งงบประมาณโครงการพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติ
ตั้งแต่ปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป จนกว่าจะแล้วเสร็จ
รวมทั้งงบประมาณในการบริหารจัดการและบำรุงรักษารายปีต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าการดำเนินงานยังคงอยู่ภายใต้กรอบวงเงินภาระผูกพันเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้
เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๑ จึงไม่เป็นการเพิ่มภาระงบประมาณตามนัยมาตรา ๒๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1658 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,125.56 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย (จำนวน 17 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท | คค. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๒,๑๒๕.๕๖ ล้านบาท ประกอบด้วย กรมทางหลวง
จำนวน ๑,๖๔๙.๑๒ ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท จำนวน ๔๗๖.๔๔ ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
(จำนวน ๑๗ จังหวัด) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1659 | การดำเนินโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 | กค. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดสร้างสวนป่า
“เบญจกิติ” ระยะที่ ๒-๓ สรุปได้ ดังนี้ (๑) คณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนป่า
“เบญจกิติ” ในคราวประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔
ได้มีมติเห็นชอบการปรับแผนงานการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ ๒-๓ โดยขยายระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์จากเดิมภายในเดือนกุมภาพันธ์
๒๕๖๕ เป็นภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยจะมีพิธีเปิดโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ ๒-๓ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (๒) ผลการก่อสร้างสวนป่า“เบญจกิติ” ระยะที่ ๒-๓ มีผลการดำเนินงานในภาพรวมร้อยละ ๖๓.๗๑
ของปริมาณงานตามแผนงานล่าช้ากว่าแผนร้อยละ ๓.๕๐ ณ วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1660 | รัฐบาลนิวซีแลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย (นายโจนาทาน เดล คิงส์) | กต. | 04/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโจนาทาน เดล คิงส์ (Mr. Jonathan Dale Kings)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร
สืบแทน นายทาฮาโมอานา ไอเซอา คลูนี แมกเฟอร์ซัน (Mr.
Tahamoana Aisea Cluny Macpherson) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|