ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 13 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 252 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 201 | สรุปผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 202 | โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3) | กค. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการโครงการบ้านล้านหลัง
ระยะที่ ๓ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารอาคารสงเคราะห์)
รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ควรจัดทำแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงของโครงการ
และติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(Non-Formming Loans : NPLs) รวมทั้งควรมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มลูกค้ารายย่อยไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการให้ความช่วยเหลืออื่นในลักษณะเดียวกันด้วย
ควรจัดลำดับความสำคัญให้กับประชาชนในกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน ๒๕,๐๐๐ บาท ต่อเดือน เป็นลำดับแรก
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินโครงการในระยะที่ ๑-๒ ควรมีช่องทางการเข้าร่วมโครงการที่หลากหลายเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
ไม่จำกัดเฉพาะช่องทางใดช่องทางหนึ่ง และควรบริหารจัดการความเสี่ยง
จัดทำฐานข้อมูลและติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่องแบบครบวงจร
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับภาระงบประมาณในการชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากโครงการบ้านล้านหลัง
ระยะที่ ๓ ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ในการดำเนินโครงการสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชนและการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของประชาชน
ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับพื้นที่/ทำเลในการก่อสร้างที่เหมาะสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในเขตนอกเมืองของกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ
และพื้นที่ในเส้นทางที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งไว้แล้ว
เพื่อกระจายความเจริญและสร้างความเป็นชุมชนใหม่ ๆ
ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 203 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2565 ทั้งปี 2565 และแนวโน้มปี 2566 | นร.11 สศช | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 204 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 1 | กค. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ครั้งที่ ๑ ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๙
มกราคม ๒๕๖๖ ดังนี้ (๑) อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ครั้งที่ ๑ ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ ปรับเพิ่ม ๘๑,๒๔๒.๘๙ ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ปรับเพิ่ม ๘๒๕.๓๑
ล้านบาท รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย
โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดในการประเมินหน่วยงานที่รับผิดชอบ
และให้มีกระบวนการพิจารณาตัวชี้วัดของการดำเนินโครงการที่สำคัญ อนุมัติการบรรจุโครงการพัฒนา
โครงการ และรายการเพิ่มในการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ครั้งที่ ๑ จำนวน
๑๙ โครงการ/รายการ และรับทราบการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ครั้งที่ ๑
ได้แก่ แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับลด ๖,๒๘๒.๕๑ ล้านบาท และ (๒) อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่
การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖
ปรับปรุงครั้งที่ ๑ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน
เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน
การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะและกระทรวงการคลังเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรกำกับ
ติดตาม
และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ควรมีแนวทางในการจัดหารายได้เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ที่ชัดเจน
เพื่อเสริมสร้างให้ฐานะการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีความเข้มแข็ง
สามารถบรรเทาผลกระทบของราคาพลังงานที่อาจมีความผันผวนมากขึ้นได้
โดยในระยะต่อไปเมื่อเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งและแรงกดดันต่อค่าครองชีพของประชาชนเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
รัฐบาลควรพิจารณาทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานเพื่อลดความเสี่ยงต่อฐานะการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเสริมสร้างความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาว
รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ
(energy efficiency)
และสอดคล้องกับการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ของไทยในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 205 | ข้อเสนอแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมปศุสัตว์เพื่อโอกาสในการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจประเทศอย่างเป็นธรรม | ยธ. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 206 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน (เรือชุดที่ 1) | นร.52 | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเยียวยาซื้อเรือประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน
(เรือชุดที่ ๑) จำนวน ๙๖ ลำ งบประมาณรวม ๑๖๓,๓๖๓,๔๐๐ บาท ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
ทั้งนี้ ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าในส่วนวงเงินงบประมาณและแหล่งดำเนินการ
ควรให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และให้ความสำคัญกับกระบวนการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มเรือประมงที่ประสงค์จะเลิกอาชีพประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานีกับภาครวมของประเทศ
และพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการนำเรือประมงออกนอกระบบเช่นเดียวกับโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบที่มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 207 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีอากรสำหรับการร่วมทุนในบริษัท LNG Receiving Terminal (แห่งที่ 2) ณ บ้านหนองแฟบ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง) | กค. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 208 | การพิจารณามีมติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของบรรดาภารกิจที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 นี้ใช้บังคับ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ | สกมช. | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 209 | ขออนุมัติการดำเนินโครงการ Country Programme (CP) ระยะที่ 2 และการลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการต่ออายุโครงการ Country Programme ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) | นร.11 สศช | 21/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการต่ออายุโครงการ Country Programme ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
(OECD) และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๖๖.๗๒๐๑ ล้านบาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ Country Programme ระยะที่ ๒
โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน จำนวน ๑๑๙.๑๐๔๑ ล้านบาท และงบดำเนินงาน จำนวน ๔๗.๖๑๖๐
ล้านบาท
โดยในส่วนของงบเงินอุดหนุนจะจัดสรรให้กับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจำนวนทั้งหมด
เพื่อดำเนินการมอบให้กับ OECD และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
โดยอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
เป็นผู้ลงนามเอกสารดังกล่าวข้างต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการต่ออายุโครงการ
Country Programme ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์กรแห่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา
(OECD)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 210 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนธันวาคม 2565 | นร.11 สศช | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ
เดือนธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑)
ความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) (๒) การดำเนินการของหน่วยงานรัฐในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
(๓) การติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และ (๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 211 | รายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2565 | นร.11 สศช | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี ๒๕๖๕ สรุปสาระสำคัญ
ดังนี้ (๑) การประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ๒๓ ประเด็น
๓๗ เป้าหมาย และเป้าหมายระดับแผนแม่บทย่อย ๑๔๐ เป้าหมาย ได้แก่
การประเมินผลในภาพรวม ๖ มิติ เช่น ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ภาพรวมมีทิศทางที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ
มีการพัฒนาที่ดีขึ้น เป็นต้นการประเมินผลการพัฒนายุทธศาสตร์ ๖ ด้าน เช่น
ภาพรวมการพัฒนาในช่วง ๕ ปีแรก (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) เช่น ความมั่นคงมีการพัฒนาค่อนข้างคงที่จากความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
และการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
โดยการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
และผลการประเมินสถานการณ์บรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๓ ประเด็น
พบว่า สถานะการบรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทฯ ระดับประเด็นมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี
๒๕๖๔ โดยบรรลุค่าเป้าหมายที่กำหนด ๑๒ เป้าหมาย ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด ๙
เป้าหมาย ระดับต่ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง ๖ เป้าหมาย
และระดับต่ำกว่าค่าเป้าหมายขั้นวิกฤต ๑๐ เป้าหมาย (๒)
ประเด็นท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ เช่น
ข้อมูลขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาในด้านต่าง
ๆ และ (๓) ข้อเสนอแนะในการดำเนินการระยะต่อไป เช่น
หน่วยงานของรัฐต้องปรับกระบวนทัศน์และมองเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทฯ
เป็นเป้าหมายการทำงานร่วมกัน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 212 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 | กษ. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 213 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ให้สามารถดำเนินการและสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
ตลอดจนการลงทุน ร่วมลงทุนกับหน่วยงานภาคทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
เพื่อนำผลงานการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบกิจการให้เกิดรายได้ในเชิงพาณิชย์
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. .เช่น
ควรจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทจัดตั้งหรือร่วมทุนดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดต้องดำเนินการตามกฎ
ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมบุคลากรภายในหน่วยงานและจัดทำแผนการดำเนินงานองค์กรที่มีความชัดเจน
รวมทั้งมีระบบติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้การดำเนินการของหน่วยงานในระยะต่อไปมีประสิทธิภาพและสามารถสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาของประเทศต่อไปได้อย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 214 | การเสนอวิธีและขั้นตอนยุติการดำเนินการของกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ต่อคณะรัฐมนตรี | กค. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 215 | แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้เงินผลประโยชน์พิเศษโครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียน | อก. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้เงินผลประโยชน์พิเศษโครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียน
โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรม
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และเงินค่าปรับของโครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียน
พร้อมทั้งให้ถอนฟ้องคดีศาลปกครองคดีหมายเลขดำที่ ๒๐๓๓/๖๕ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
และให้โครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียนผ่อนชำระหนี้ด้วยผลผลิตแร่โพแทชตามเงื่อนไขที่กำหนด
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานรับและบริหารจัดการผลผลิตแร่โพแทชที่ได้จากการชำระหนี้ของโครงการ
และพิจารณาแนวทางการผลักดันการจัดหาวัตถุดิบในการผลิตแม่ปุ๋ยโพแทชเซียมให้แก่ภาคเกษตรกรรมของประเทศ
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคเกษตรกรรมและประเทศชาติต่อไป
และให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยคำนึงถึงผลประโยชน์/ผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนเป็นสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในภาคการเกษตรที่ควรจะได้ใช้ปุ๋ยเคมีในราคาที่ถูกลงจากปัจจุบันที่มีนัยสำคัญ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น กรณีผ่อนชำระหนี้สินด้วยแร่โพแทชต้องพิจารณาดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้
และควรวิเคราะห์ความเป็นไปได้ และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นของโครงการฯ
อย่างรอบด้าน และคณะรัฐมนตรีสามารถทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ เงินผลประโยชน์พิเศษโครงการเหมืองแร่โพแทชของอาเซียนได้
เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 216 | ความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ | มท. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 217 | ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พ.ศ. .... | กก. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ
เรื่อง
การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางอากาศ
ช่องทางบกและช่องทางน้ำ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
ดำเนินการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการตรวจลงตราและกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ออกตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง
พ.ศ. ๒๕๒๒
โดยกำหนดให้ใช้หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นเอกสารประกอบการอนุญาตเข้าเมืองและผู้ตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมเพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตเข้าเมือง ๓.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น
ควรมีการพิจารณาประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าธรรมเนียมตามร่างประกาศฯ เป็นระยะ
โดยคำนึงถึงภาระของภาคเอกชน การบริหารจัดการ และความสะดวกของผู้เดินทาง
พร้อมจัดทำรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามและทบทวนปรับแนวทางได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทย ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
รวมทั้งให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้วย ควรมีการกำหนดแนวทางและแผนการใช้จ่ายประโยชน์จากค่าธรรมเนียมให้มีความชัดเจน
เพื่อให้การใช้เงินค่าธรรมเนียมเกิดประโยชน์ต่อภาคการท่องเที่ยวสูงสุด
ควรเตรียมความพร้อมและดำเนินการทดสอบระบบการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมและการเชื่อมโยงข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 218 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทาสบเส้า จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท. | 07/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทาสบเส้า จังหวัดลำพูน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา
จังหวัดลำพูน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมือง
และบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน
การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค การบริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนทาสบเส้าให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร
การค้าและการบริการในระดับอำเภอ ส่งเสริมและพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม
รวมทั้งสงวนและรักษาพื้นที่เกษตรกรรม
และพื้นที่โล่งของชุมชนให้มีความอุดมสมบูรณ์ตามแนวทางการพัฒนาแบบยั่งยืน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล
เกิดผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ โรงงานลำดับที่ ๑๐๕
ที่กำหนดไว้ในท้ายประกาศกระทรวงฯ
ควรกำหนดให้ดำเนินการได้เฉพาะในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม
และให้ความสำคัญกับการจัดทำข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น
ในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินหลัก
เพื่อใช้ประกอบการประเมินผลการบังคับใช้ผังเมืองรวมในอนาคต
การพิจารณาอนุญาตต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตปกติสุขของประชาชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อรักษาพื้นที่เกษตรกรรมและสภาพแวดล้อม
รวมถึงพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 219 | ร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย | กต. | 07/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 220 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS) ครั้งที่ 25 (The 25th GMS Ministerial Conference) | นร.11 สศช | 07/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
