ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 507 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 10121 - 10140 จากข้อมูลทั้งหมด 124251 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10121 | ผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการหาบเร่แผงลอยในกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างเสริมเศรษฐกิจฐานราก ชีวิต และชุมชน ของคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการหาบเร่แผงลอยในกรุงเทพมหานครเพื่อสร้างเสริมเศรษฐกิจฐานราก
ชีวิต และชุมชน ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา โดยการดำเนินการตามมาตรการระยะเร่งด่วน
(๑-๖ เดือน) เช่น การให้ทุกสำนักงานเขตที่จะยกเลิกจุดผ่อนผันนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต
การจัดทำโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand สู่ Online และการให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย
ผู้ด้อยโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุน และมาตรการระยะกลาง (๖-๑๒ เดือน) เช่น
การพิจารณาจัดให้มีกลไกเพื่อปรับสมดุลระหว่างผู้ใช้รถกับผู้สัญจรบนทางเท้า
และการพิจารณาจุดผ่อนผันในพื้นที่ว่างของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
สำหรับมาตรการระยะยาว (๑-๓ ปี) เช่น การพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การปรับภูมิทัศน์ที่มีเอกลักษณ์อันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว
และการออกแบบแผงค้าหรืออุปกรณ์การค้าให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10122 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประทีป ทรงลำยอง และนางสาวบุปผา เรืองสุด) | รง. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายประทีป ทรงลำยอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวบุปผา เรืองสุด ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10123 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม) | อว. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10124 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาต พ.ศ. .... | ดศ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ต้องได้รับใบอนุญาต
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมดูแลธุรกิจบริการเกี่ยวกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
ตลอดจนประเภทธุรกิจบริการที่ควรมีการควบคุมดูแล เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
รวมทั้งเพื่อป้องกันความเสียหายแก่สาธารณชนหรือประชาชนที่ใช้บริการ โดยเฉพาะเมื่อเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของบุคคลในโลกออนไลน์
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาในประเด็นเกี่ยวกับการให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ
ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นว่า
เพื่อให้การให้บริการระบบการพิสูจน์และยืนยันตนที่ภาครัฐได้จัดทำขึ้นมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
ควรมีการกำหนดกลไกในการควบคุมดูแลอย่างเหมาะสมเช่นเดียวกับผู้ให้บริการภาคเอกชนด้วย
ควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ที่ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวต้องปฏิบัติมิให้ซ้ำซ้อนกับหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจที่กำหนดโดยหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลหลัก
(Lead Regulators) เพื่อมิให้เป็นภาระแก่ผู้ประกอบกิจที่ถูกกำกับดูแลเกินสมควร
และควรกำหนดว่าหากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้มีการให้บริการหรือประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลใด
ๆ เป็นการเฉพาะ และหากหน่วยงานกำกับดูแลนั้นมีการกำหนดกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานในรายละเอียดที่เกี่ยวกับบริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
ก็ให้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์เฉพาะนั้นด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในการดำเนินการของหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล ควรคำนึงถึงผลกระทบด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญประกอบด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10125 | ผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 | ดศ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยมีเรื่องที่สำคัญ เช่น
ผลการดำเนินงานด้านกิจการอวกาศของประเทศไทย
การดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and
Cloud Services : GDCC) โครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
การดำเนินงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
Covid-19 และโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน เป็นต้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10126 | รายงานประจำปี 2562 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร.01 | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
๒๕๖๒ ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ แล้ว
โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกระจายอำนาจด้านการถ่ายโอนภารกิจ
การกระจายอำนาจด้านการเงิน การคลัง และงบประมาณ การดำเนินการแก้ไขกฎหมาย
การส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของประชาชน การติดตามและประเมินผล
และการเผยแพร่ข้อมูลด้านการกระจายอำนาจ ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10127 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. .... | นร 05 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง
พ.ศ. .... โดยให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองสำหรับปี
๒๕๖๓ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10128 | การเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี (วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563) | นร 05 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า
โดยที่วันอังคารที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายกรัฐมนตรีจึงมีบัญชาให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๓ ตุลาคม
๒๕๖๓ ไปเป็นวันจันทร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10129 | การให้เงินสนับสนุนผ่านโครงการ Project - Based Programme ให้แก่ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน | กห. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้กระทรวงกลาโหมสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน ๕๖๕,๘๔๐ บาท ผ่านโครงการ Project-Based Programme ให้แก่ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน (ASEAN
Center of Military Medicine : ACMM) สำหรับโครงการพัฒนาความร่วมมือด้านการแพทย์ทหารกับประเทศเพื่อนบ้าน
ในการจัดทำห้องแยกผู้ป่วยเคลื่อนที่ (ตู้ความดันลบ) กรณีติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา
2019 (Mobile Isolation Room for COVID-19 Patient) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรดำเนินการตามนัยมาตรา
๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงกลาโหมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10130 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดหารถสูบส่งน้ำ ไม่น้อยกว่า 35,000 ลิตร/นาที และส่งน้ำระยะไกล ไม่น้อยกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมอุปกรณ์ (เพิ่มเติม) | มท. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๘๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
เพื่อจัดหารถสูบส่งน้ำ ไม่น้อยกว่า ๓๕,๐๐๐ ลิตร/นาที และส่งน้ำระยะไกลไม่น้อยกว่า
๑๐ กิโลเมตร พร้อมอุปกรณ์ ที่เหลืออีกจำนวน ๑๘ คัน คันละ ๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10131 | การบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | นร.07 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้หน่วยรับงบประมาณชะลอการดำเนินการ
ในกรณีดังต่อไปนี้ (๑) รายการที่หน่วยรับงบประมาณได้รับอนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรีแล้ว
แต่ไม่สามารถขอรับจัดสรรงบประมาณได้ภายในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ และ (๒)
รายการที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรให้หน่วยรับงบประมาณแล้ว
แต่ไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันหรือออกประกาศเชิญชวนได้ภายในวันที่ ๒๘ กันยายน
๒๕๖๓ ทั้งนี้ ให้หน่วยรับงบประมาณแจ้งส่งคืนงบประมาณดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณภายในวันที่
๑๘ กันยายน ๒๕๖๓ เพื่อนำไปใช้ในโครงการที่มีความสำคัญและเร่งด่วนต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒.
ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10132 | หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน | นร.07 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพลางก่อน เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ จะประกาศใช้บังคับไม่ทันในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ โดยมีสาระสำคัญ เช่น
แนวทางการจัดสรรงบประมาณ แนวทางการจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน และการกำหนดหลักเกณฑ์
เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติในการอนุมัติเงินจัดสรร การบริหารงบประมาณรายจ่าย
และการหักงบประมาณรายจ่ายออกจากงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้น
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10133 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๖๕/๒๕๖๓ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ
และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๐
กันยายน ๒๕๖๓ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10134 | องค์กรร่วมไทย-มาเลเซียขอคความเห็นชอบร่างสัญญาแบ่งปันผลผลิตเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) แปลง B-17 & C - 19 เพื่อการเปลี่ยนแปลงอัตราการหักค่าใช้จ่ายตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย | พน. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในร่างสัญญาแบ่งปันผลผลิตเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) แปลง B-17 & C-19 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
ระหว่างองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา คือ บริษัท PC JDA
Limited (PC JDAL) และบริษัท PTTEP
International Limited
โดยมีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงอัตราการหักค่าใช้จ่ายตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตปิโตรเลียม
(น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ) ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
จากเดิมกำหนดให้ผู้รับสัญญาสามารถหักค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นต้นทุนการประกอบกิจการได้ไม่เกินกว่าร้อยละ
๕๐ ของผลผลิตปิโตรเลียมทั้งหมด เป็นไม่เกินร้อยละ ๖๐ ของผลผลิตปิโตรเลียมทั้งหมด
เนื่องจากบริษัทผู้ได้รับสัญญาได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมระยะที่ ๕
ของแปลง B-17 & C-19 ตามมติที่ประชุมองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ทำให้ต้องมีการลงทุนเพิ่มขึ้น
บริษัทผู้ได้รับสัญญาจึงขอเปลี่ยนแปลงอัตราการหักค่าใช้จ่ายเพื่อให้สามารถหักค่าใช้จ่ายในการลงทุนทั้งหมดได้ครบเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการแบ่งปันผลผลิตสิ้นสุด
ณ วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๗๒ ๒. เห็นชอบให้องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
ลงนามในร่างสัญญาแบ่งปันผลผลิตเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) แปลง B-17 & C-19 กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา
เมื่อร่างสัญญาฯ ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10135 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ช่วง กม.4 + 100.000 - กม.9 + 000.000 (ช่วง 3) | คค. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี
ช่วง กม.๔+๑๐๐.๐๐๐-กม.๙+๐๐๐.๐๐๐ (ช่วงที่ ๓) ระยะทางยาวประมาณ ๔.๙๐๐ กิโลเมตร
ในวงเงินค่าก่อสร้าง ๑,๔๗๙.๗๕ ล้านบาท กำหนดเวลาทำการ ๙๓๐ วัน
โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๖
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแลโครงการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณที่มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10136 | รายงานผลการดำเนินการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม ระหว่างวันที่ 12 - 14 กันยายน 2563 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการดำเนินการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
กาญจนบุรี และนครปฐม ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๔ กันยายน ๒๕๖๓
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งได้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม
เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ ประเด็นปัญหา
รวมทั้งกำหนดแนวทางและแผนปฏิบัติการการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10137 | การปรับแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร.12 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยจะไม่มีการประเมินส่วนราชการ แต่ให้ส่วนราชการรายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดเดิมเพื่อใช้ในการติดตาม
(monitoring) และให้ถอดบทเรียนในการบริหารจัดการผลกระทบและการแก้ไขปัญหาในกรณีที่ส่วนราชการเสนอตัวชี้วัดใหม่
ตามมติ ก.พ.ร. ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓
โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) และสำนักงบประมาณ เช่น ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
รายงานผลการสรุปบทเรียนการบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ในภาพรวมของส่วนราชการต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 ในอนาคต เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10138 | ปฏิญญาการรำลึกถึงการครบรอบ 75 ปี สหประชาชาติ (Declaration for the Commemoration of the 75th Anniversary of the United Nations) | กต. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบปฏิญญาการรำลึกถึงการครบรอบ
75 ปี สหประชาชาติ (Declaration for the Commemoration of the 75th
Anniversary of the United Nations) และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนให้การรับรองปฏิญญาฯ
โดยร่างปฏิญญาฯ เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในที่ประชุมระดับสูงเพื่อฉลองครบรอบ ๗๕
ปี สหประชาชาติ (High-level Meeting of the General Assembly to
Commemorate the 75th Anniversary of the United Nations) ในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญเพี่อรำลึกถึงการครบรอบ ๗๕
ปีของการก่อตั้งสหประชาชาติ
เป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองและความมุ่งมั่นของรัฐสมาชิกเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของกลไกสหประชาชาติ
และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เพื่อรับมือกับความท้าทายที่โลกประสบอยู่ในปัจจุบันและอนาคต อาทิ ความไม่เท่าเทียม
ความยากจน ความหิวโหย ความขัดแย้งทางอาวุธ การก่อการร้าย ความไม่มั่นคงปลอดภัย
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโรคระบาด
โดยมีกลไกของสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวนัที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10139 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและสถานะบุคคลของกลุ่มชาติพันธุ์ กรณีขอให้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล รวมทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์ซาไกหรือมานิ) | สม. | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
(เรื่อง สิทธิและสถานะบุคคลของกลุ่มชาติพันธุ์
กรณีขอให้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสถานะบุคคล
รวมทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์ซาไกหรือมานิ)
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10140 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง) | นร.04 | 15/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|