ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 43 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 841 - 860 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
841 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย | นร.11 สศช | 18/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
ในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
และรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
842 | การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยอย่างยั่งยืน | นร. | 18/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
(จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช
และจังหวัดพัทลุง)
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็ดำเนินการในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นคราว
ๆ ไป ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร
จึงมีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้ ๑. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเร่งพิจารณาจัดทำแผนการบริหารจัดการอุทกภัยในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยอย่างยั่งยืน
ให้เป็นระบบ ครบถ้วนทุกมิติ เช่น การวางแผนพื้นที่รองรับน้ำ การลดความเสี่ยงจากอุทกภัย
การขุดลอกคูคลองและกำจัดวัชพืช การบริหารจัดการการใช้ที่ดินให้สอดคล้องกับสภาพตามธรรมชาติและไม่กีดขวางทางน้ำไหล
เพื่อใช้เป็นกรอบ/แนวทางในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวต่อไป ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ ๓ จังหวัด (จังหวัดสงขลา
จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช) บริเวณริมทะเลสาบสงขลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่
เพื่อสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่ช่วยกระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
843 | การกำหนดพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคง | นร. | 18/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการป้องกัน แก้ไขปัญหา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในส่วนของพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นไปอย่างเหมาะสม
สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และตอบสนองต่อความต้องการของทุกภาคส่วนในพื้นที่ในภาพรวมมากยิ่งขึ้น
จึงมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
รับเรื่องการกำหนดพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงในส่วนของพื้นที่จังหวัดสงขลา
ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ให้ชัดเจน โดยให้คำนึงถึงผลกระทบในด้านต่าง ๆ ให้ครบถ้วน
รอบด้านทั้งในทางความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม
แล้วรายงานผลต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็วด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
844 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายบรรณรักษ์ เสริมทอง และนายนิกร ศิรโรจนานนท์) | ทส. | 18/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
845 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายมงคล วิมลรัตน์) | กก. | 18/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมงคล วิมลรัตน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
846 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. .... | คค. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศในส่วนมูลค่าความเสียหายที่ผู้ขนส่งต้องรับผิดต่อคนโดยสาร
สัมภาระของคนโดยสาร และของตามสัญญารับขน ในกรณีที่คนโดยสารถึงแก่ความตาย
บาดเจ็บทางร่างกาย การล่าช้าในการรับขนคนโดยสาร สัมภาระถูกทำลาย สูญหาย เสียหายหรือสัมภาระล่าช้า
และในกรณีที่ของที่ขนส่งถูกทำลาย สูญหาย เสียหายหรือขนส่งของล่าช้า
เพื่อให้เป็นไปตามการพิจารณาทบทวนเกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามอนุสัญญามอนตริออล
ค.ศ. ๑๙๙๙ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International
Civil Aviation Organization : ICAO) ตามรอบระยะเวลา ๕ ปี (ตั้งแต่ ปี ค.ศ. ๒๐๑๙
ถึง ค.ศ. ๒๐๒๓) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
847 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 | กค. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดในวันที่
๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ จำนวน ๓,๕๗๕ ล้านบาท ได้แก่ ๑)
การชำระคืนต้นเงินตั๋วสัญญาใช้เงินจากเงินในบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท และ ๒)
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตามพระราชกำหนดช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง
พ.ศ. ๒๕๔๕) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๑,๕๗๕
ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
848 | รายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 | กค. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
849 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในวันที่ 17 ธันวาคม 2567 | กค. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นหนี้ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง
พ.ศ. ๒๕๔๕ จำนวน ๓๐,๐๐๐
ล้านบาท ด้วยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
850 | รายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ประจำปี 2566 | สสส. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
851 | รายงานผลการเดินทางเยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนนครเซี่ยงไฮ้
สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารระดับสูง กระทรวงพาณิชย์
ระหว่างวันที่ ๔ - ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ เช่น ๑)
เข้าร่วมพิธีเปิดและเยี่ยมชมงาน China International Import Expo (CIIE) ครั้งที่
๗ หรือ CIIE 2024 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้นำผู้ประกอบการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมแสดงสินค้าโดยจัดเป็นคูหา
Thai Food and Agricultural Products Pavilion มีมูลค่าสั่งซื้อทันทีและมูลค่าคาดการณ์ภายใน ๑ ปี รวม ๖๔.๙๗ ล้านบาท
และคูหา Thailand Pavilion เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้า/บริการของไทย
๒) หารือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โดยบริษัท หัวเว่ยฯ
ได้เสนอแนวทางความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เช่น
การรวมแพลตฟอร์มคลาวด์ของกระทรวงพาณิชย์เป็นแพลตฟอร์มเดียว การจัดตั้งศูนย์พัฒนาทักษะดิจิทัล
SMEs เป็นต้น และ(๓)
หารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับหอการค้าไทยในจีนและกลุ่มนักธุรกิจไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
852 | ผลการพิจารณารายงานผลการศึกษา เรื่อง รายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมาธิการ รายไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
853 | แนวทางปฏิบัติในการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง) | นร.09 | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการพิจารณาข้อหารือ เรื่อง การเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์
:
กรณีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (เรื่องเสร็จที่ ๓๗๘/๒๕๖๗)
และผลการพิจารณาข้อหารือ เรื่อง การเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นประเภทตำแหน่งผู้บริหาร :
กรณีคำสั่งแต่งตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ของคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะพิเศษ) (เรื่องเสร็จที่ ๑๒๘๗/๒๕๖๗) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อสังเกตของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
และคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)
รวมถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
854 | รายงานงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของการยางแห่งประเทศไทย | กษ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของการยางแห่งประเทศไทย ในส่วนงบทำการ จำนวนทั้งสิ้น ๑๓,๒๘๖.๙๓๕๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
855 | ขอเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันรายการค่าควบคุมงานก่อสร้าง อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ | ตผ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ
จากวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันไว้เดิม จำนวน ๗๖,๘๐๐,๐๐๐ บาท
เป็น ๘๔,๓๗๑,๙๑๖ บาท ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับวงเงินของรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
ให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสมทบเงินงบประมาณรายจ่าย
ร้อยละ ๓๐ และใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย ร้อยละ ๗๐
โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และสัญญาที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
และต่อรองราคาตามสัดส่วนผลงานที่ผู้ให้บริการได้เข้าควบคุมงานจริงจนถึงที่สุดด้วย
เพื่อจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
856 | ผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐอิตาลี | กษ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ณ กรุงโรม อิตาลี ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑) การลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทุนระหว่างประเทศ
เพื่อพัฒนาการเกษตร (IFAD) ซึ่งทำให้ไทยเป็นที่ตั้ง
สำนักงาน IFAD ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพียงหนึ่งเดียว ๒)
การประชุมอาหารโลก (WFF) ซึ่งมีรายละเอียดการประชุมย่อย ดังนี้
(๑) การประชุม WFF 2024 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขึ้นกล่าวในหัวข้อวิสัยทัศน์ด้านระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน
และตัวอย่างความสำเร็จในการดำเนินงานของไทย และ (๒)
การประชุมความร่วมมือด้านการลงทุนขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งเน้นย้ำว่าไทยกำลังเร่งปรับเปลี่ยนระบบเกษตรและอาหารเพื่อความยั่งยืน
และ ๓) การประชุมหารือทวิภาคี เช่น (๑) ไทย - อิตาลี
ที่ฝ่ายไทยขอรับการสนับสนุนจากอิตาลี เพื่อผลักดันการดำเนินการเคลื่อนย้ายม้าจากไทยไปยังสหภาพยุโรป
(๒) ไทย - ลาว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมุ่งดำเนินนโยบาย/มาตรการที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
เช่น การขนส่งทุเรียนไทยโดยใช้เส้นทางผ่านลาวไปจีน และ (๓) ไทย - สภาเศรษฐกิจโลก
โดยมีการนำเสนอการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนข้อริเริ่มแนวร่วมเพื่อเคลื่อนไหวครั้งแรกที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมต่าง
ๆ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
857 | แนวทางปฏิบัติในการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา [คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)] | นร.09 | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการพิจารณาข้อหารือ เรื่อง การเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์
:
กรณีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (เรื่องเสร็จที่ ๓๗๘/๒๕๖๗)
และผลการพิจารณาข้อหารือ เรื่อง การเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นประเภทตำแหน่งผู้บริหาร :
กรณีคำสั่งแต่งตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ของคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะพิเศษ) (เรื่องเสร็จที่ ๑๒๘๗/๒๕๖๗) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อสังเกตของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
และคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)
รวมถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
858 | รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ดศ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ได้แก่ รายงานสถานะทางการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
และการบริหารกองทุนฯ ได้มีการจัดสรรงบประมาณของกองทุนฯ ไปใช้ในการดำเนินโครงการ/กิจกรรม
ดังนี้ (๑)
เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐและเอกชนหรือบุคคลทั่วไปในการดำเนินการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
จำนวน ๒๓ โครงการ วงเงิน ๑,๔๔๔.๙๑ ล้านบาท (๒)
จัดสรรเงินให้แก่สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำนวน ๓ โครงการ วงเงิน
๑,๒๘๘.๙๐ ล้านบาท และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวน
๑ โครงการ วงเงิน ๒๒๕.๓๘ ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
859 | (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติ พ.ศ. 2560-2570 ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 | สธ. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
860 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม พ.ศ. .... | กค. | 11/02/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม
ปีงบประมาณ พุทธศักราช ๒๕๖๘ - ๒๕๗๐
รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งนี้
เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหมเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าสิทธิประโยชน์ที่จะจ่ายให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เห็นควรให้กระทรวงกลาโหมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ แผนงานบุคลากรภาครัฐที่ได้รับจัดสรร สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ - ๒๕๙๐ และจัดทำแผนการบริหารอัตรากำลังพลที่ว่างลงจากการมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ
และแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งรายงานผลการดำเนินโครงการฯ
ในแต่ละปีให้สำนักงบประมาณทราบ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี
แผนงานบุคลากรภาครัฐของกระทรวงกลาโหมต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งจัดทำกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องให้มีรายละเอียดของหลักเกณฑ์
เงื่อนไข และวิธีการในการดำเนินการที่ชัดเจน
โดยให้ยึดหลักการของประเด็นการปฏิรูปประเทศที่ต้องจัดทำโครงสร้างเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นที่ได้มาตรฐานและเกิดความเป็นธรรม
ตลอดจนคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
|