ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 140 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 2781 - 2800 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2781 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทย และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทยในฐานะหัวหน้าสถานทำการทางกงสุล (นายวราทิตย์ เบ็ญจวิลาส) | กต. | 26/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายนิพันธ์ เบ็ญจวิลาส
กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลตาประจำประเทศไทย เนื่องจากถึงแก่กรรม
เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2782 | การแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ | ดศ. | 26/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑. ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานกรรมการ ๒. ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง รองประธานกรรมการ ประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๓. ผู้แทนสำนักงบประมาณ กรรมการ ๔. ผู้แทนสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กรรมการ (องค์การมหาชน) ๕. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการรักษา กรรมการ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ๖. รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ กรรมการ ๗. นายไชยเจริญ อติแพทย์ กรรมการ ๘. นายยรรยง เต็งอำนวย กรรมการ ๙. รองศาสตราจารย์วรา วราวิทย์ กรรมการ ๑๐. นายวิษณุ ตัณฑวิรุฬห์ กรรมการ ๑๑. ศาสตราจารย์พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กรรมการ ๑๒. นายสุพงษ์พิธ รุ่งเป้า กรรมการ ๑๓. นายคมสัน ศรีวนิชย์ กรรมการ ๑๔. นายศักดา นาคเลื่อน กรรมการ ๑๕. นายศุภกร คงสมจิตต์ กรรมการ ๑๖. นายอัมภัส ปิ่นวนิชย์กุล กรรมการ ๑๗. นายกฤษณะ สมทรัพย์ กรรมการ ๑๘. นายอภิชาติ ประเสริฐ กรรมการ ๑๙. ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรรมการและเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒๐. ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒๑. ผู้อำนวยการกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหาร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒๒. ผู้แทนศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2783 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว. | 26/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2784 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย และการปรับสถานะสถานทำการทางกงสุลจากสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชียเป็นสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย (นายสเตียปัน ชูริช) | กต. | 26/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. แต่งตั้ง นายสเตียปัน ชูริช (Mr. Stjepan Curic) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมสาธารณรัฐโครเอเชีย สืบแทน นายอะลอยซีเย ปัพโลวิช (Mr.
Alojzije Pavlovic) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย
ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2785 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายโกวิท ผกามาศ และนายประสพ เรียงเงิน) | วธ. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายโกวิท ผกามาศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2786 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางชนิดา เกษมศุข) | นร.04 | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางชนิดา เกษมศุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2787 | ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด | นร.11 สศช | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ
เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด
และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด
มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด
โดยจัดตั้งภาค จำนวน ๖ ภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก
ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน) กลุ่มจังหวัด จำนวน ๑๘ กลุ่มจังหวัด
(กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑-๒ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑-๒, กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑-๒ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ๑-๒, กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล
กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑-๒, กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ๑-๒, กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน) และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด
เพื่อให้การบริหารงานและพัฒนาเชิงพื้นที่ระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด
และภาคเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ
ตามที่สำนักสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารเชิงพื้นที่แบบบูรณาการเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2788 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. .... | กษ. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
พ.ศ. ๒๕๖๒ และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และการอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ กำหนดหลักเกณฑ์การโอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และใบอนุญาตในลักษณะควบรวมปริมาณสัตว์น้ำ
การแก้ไขรายการในใบอนุญาต การยกเลิกสิทธิการทำการประมงให้ผู้รับใบอนุญาตรายอื่น และกำหนดหลักเกณฑ์การทดแทนเรือประมง
เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการทำประมงของชาวประมงในปัจจุบันควบคู่ไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างยั่งยืน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2789 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐเช็กว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหาร | กห. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐเช็กว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหาร
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ร่วมลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารระหว่างกัน
โดยสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เข้าร่วมแต่ละฝ่าย และหลักการของความเสมอภาค
ต่างตอบแทน
และผลประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ก่อให้เกิดสิทธิและพันธะภายใต้กฎหมายภายในและระหว่างประเทศ
และจะถูกนำไปปฏิบัติโดยสอดคล้องกับกฎหมายภายในและระเบียบของแต่ละประเทศ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐเช็กว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหารในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่าการจัดทำแผนปฏิบัติงานควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมและการฝึกเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์รวมทั้งความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง
ๆ โดยควรมีการติดตามผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
และในระยะต่อไปอาจพิจารณาความร่วมมือทางทหารและทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
อากาศและอวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ในบริบทความมั่นคง (Artificial Intelligence) ที่มีผลต่อการรบและการป้องกันประเทศรวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2790 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567) | ปสส. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพุธที่
๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑
ครั้งที่ ๒๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มีนาคม
๒๕๖๗ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๙
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๗
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2791 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าตอบแทนที่กระทรวงสาธารณสุขจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง) | กค. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ.
....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าตอบแทนที่กระทรวงสาธารณสุขจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ โดยเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
ออกไปอีก ๑ ปีภาษี (สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี ๒๕๖๖) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2792 | ขอความเห็นชอบแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571 | อว. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๑ ของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน ๗๓๑ งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๒๐๘,๐๗๕,๓๒๐ บาท และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและมหาวิทยาลัยพะเยารับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
และข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักการและแนวทางการบริหารจัดการอัตรากำลัง
การจ้างงานบุคลากรในสายสนับสนุนควรพิจารณารูปแบบตามความจำเป็นและความเหมาะสมสอดคล้องกับภารกิจ
โดยใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยมาสมทบเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรดังกล่าวให้สอดคล้องกับศักยภาพในการจัดการศึกษาและรายได้ของมหาวิทยาลัย
การขยายศักยภาพของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยาในการให้บริการจาก ๕๖ เตียง เป็น ๒๖๔
เตียง ภายในปี ๒๕๗๑ ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การจัดตั้งและปรับศักยภาพของหน่วยบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับงบประมาณรองรับแผนอัตรากำลังดังกล่าว
ให้มหาวิทยาลัยพะเยาขอรับการจัดสรรงบประมาณโดยพิจารณาดำเนินการเท่าที่จำเป็นตามภารกิจหลักอย่างประหยัดและคุ้มค่า
และคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงินที่จะนำมาใช้จ่าย
โดยเฉพาะรายได้หรือเงินนอกงบประมาณอื่นใดที่มหาวิทยาลัยมีอยู่หรือสามารถนำมาใช้จ่ายเป็นลำดับแรก
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ
และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐอย่างยั่งยืน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2793 | ร่างแผนการความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร (Thailand-UK Strategic Partnership Roadmap) | กต. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนการความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร
(Thailand-UK Strategic
Partnership Roadmap) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เป็นผู้ลงนามในร่างแผนฯ โดยร่างแผนฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันของทั้งสองประเทศในการประกาศยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สหราชอาณาจักรสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ
เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือในสาขาที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
ซึ่งครอบคลุมมิติรอบด้าน เช่น เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การเมือง ความมั่นคง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว เกษตรกรรม ความสัมพันธ์ระดับประชาชน
และการศึกษา รวมทั้ง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม
อันจะเป็นกรอบแนวทางสำคัญสำหรับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานอื่น ๆ ของไทยในการดำเนินความร่วมมือกับสหราชอาณาจักรในอนาคต ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนการความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ประเด็นการเมือง รัฐสภา และพหุภาคี
ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเสถียรภาพและสันติภาพในระดับภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศท่ามกลางการแข่งขันและความขัดแย้งระหว่างประเทศในทางภูมิรัฐศาสตร์
ภูมิเศรษฐศาสตร์ และสนับสนุนการส่งเสริมการมีระบบพหุภาคี กรณีที่ต้องมีการปรับแก้ร่างแผนการฯ
เพื่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
โดยให้รวบรวมผลการปรับแก้ร่างแผนการดังกล่าวกับผลการปรับแก้เอกสารผลลัพธ์ความตกลงระหว่างประเทศของกรอบความร่วมมืออื่น
ๆ พร้อมทั้งผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้
กระทรวงการต่างประเทศควรสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2794 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 31 (Joint Statement of the Thirty - First ASEAN Socio - Cultural Community (ASCC) Council) | พม. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๑ [Joint Statement of the Thirty-First
ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Council] และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๑ ให้การรับรอง (adopt) ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๑ ในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองหลวงพระบาง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
พ.ศ. ๒๕๖๘ (ASCC Blueprint 2025) และสนับสนุนการดำเนินการด้านสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างเต็มที่ภายใต้หัวข้อหลัก
“อาเซียน : การยกระดับความเชื่อมโยงและความยืดหยุ่น” (ASEAN :
Enhancing Connectivity and Resilience) ผ่านการให้ความสำคัญไปที่หัวข้อย่อย
๒ ประเด็น คือ “การยกระดับการเชื่อมโยง” และ “การยกระดับความยืดหยุ่น”
ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของ สปป. ลาว โดยหัวข้อย่อย “การยกระดับการเชื่อมโยง”
มีการให้ความสำคัญใน ๔ ประการ ได้แก่ (๑) การบูรณาการและการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ
(๒) การสร้างอนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืน (3) การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลแห่งอนาคต (๔)
วัฒนธรรมและศิลปะ : การส่งสริมบทบาทของวัฒนธรรมและศิลปะของอาเซียนเพื่อให้เกิดความบูรณาการและความยั่งยืน
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๑
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2795 | การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในกลุ่มประเทศแอฟริกา | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่าโดยที่ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนของประเทศไทยไปยังกลุ่มประเทศแอฟริกา
เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย สาธารณรัฐซิมบับเว เนื่องจากกลุ่มประเทศนี้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมีความมั่นคงทางการเมือง
และมีความพร้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านพลังงานและด้านประมง
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าของทวีป
มีตลาดขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับสินค้าประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศแอฟริกา
ให้เสร็จโดยเร็ว แล้วรายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2796 | มาตรการในการให้เอกชนสามารถทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาและคณะ
ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งฝ่ายสหรัฐอเมริกาได้แสดงความสนใจในการเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน
ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศ
และฝ่ายไทยได้ตอบรับไว้แล้วว่าจะพิจารณากำหนดมาตรการในการอนุญาตและส่งเสริมให้เอกชนสามารถทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้ากับผู้ผลิตพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนได้โดยตรง
(Direct
Power Purchase Agreement : Direct PPA) ให้ชัดเจนก่อนสิ้นปี
๒๕๖๗ ดังนั้น
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงพลังงานรับเรื่องนี้ไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
แล้วนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2797 | การพัฒนาอุทยานการเรียนรู้พะเยา (TK Park Phayao) | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการลงพื้นที่เยี่ยมชมนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ชุมชน
ณ อุทยานการเรียนรู้พะเยา (TK Park Phayao) เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับประชาชนทุกช่วงวัย
โดยมีการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมและการเรียนรู้ที่หลากหลาย
รวมถึงกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพและรายได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม
ในส่วนของการหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุง และพัฒนาอุทยานการเรียนรู้พะเยา
นั้น พบว่า ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ หลายประการ เช่น
การห้ามจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากการฝึกอาชีพ
การไม่เก็บค่าสมาชิกห้องสมุดและค่าปรับกรณีคืนหนังสือล่าช้า ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อส่งเสริมให้อุทยานการเรียนรู้ทุกแห่งสามารถบริหารจัดการและดำเนินภารกิจต่าง ๆ
ในกรอบหน้าที่และอำนาจของตนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2798 | การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากการเผา | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗)
มอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับแนวทางเพิ่มเติมในเรื่องต่าง ๆ
ไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสิทธิในการรับความช่วยเหลือจากรัฐ
ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อกำหนดมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา
นั้น โดยที่ปัจจุบันประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบข้ามแดนจากการเผาแปลงเพาะปลูกข้าวโพดในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและรวดเร็ว
รวมทั้งไม่ให้ขัดต่อข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศที่จะเกิดขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2799 | การส่งเสริมการส่งออกเนื้อโคและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องไปยังต่างประเทศ | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การส่งออกเนื้อโคและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องไปยังต่างประเทศมีคุณภาพ
มาตรฐาน
เป็นที่ยอมรับของประเทศผู้สั่งซื้อและสามารถจะขยายตลาดการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมปศุสัตว์) กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับ ดูแล
และติดตามการดำเนินการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบให้ถูกต้อง เหมาะสม
รวมทั้งการควบคุมคุณภาพของวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคสำหรับโคให้เป็นไปตามมาตรฐานสุขอนามัย
เพื่อให้สามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการกำกับ ดูแล
การส่งออกเนื้อโคและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2800 | การเพิ่มมูลค่าของลำไยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ | นร. | 19/03/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ
(กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ (จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน)
เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗
หลายจังหวัดมีข้อเสนอให้ผลักดันเรื่องการเพิ่มมูลค่าของลำไย
เนื่องจากลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคเหนือที่มีตลาดรองรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
และจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมากในอีก ๓ เดือนข้างหน้า ดังนั้น
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเร่งบูรณาการการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการผลผลิตลำไยให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพและปลอดภัย
(Food Safety)
มีปริมาณและการกระจายผลผลิตที่สมดุลกับความต้องการของตลาดทั้งเพื่อการบริโภคในประเทศและเพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ
รวมทั้งมีการส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลำไยที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ราคาลำไยมีเสถียรภาพและไม่เกิดปัญหาลำไยล้นตลาดด้วย
|