ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 131 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 2601 - 2620 จากข้อมูลทั้งหมด 124242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2601 | รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 18/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมว่า ในส่วนที่สำนักงบประมาณเสนอให้มีการพิจารณาผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet
(โครงการ Digital Wallet) ที่เป็นประชาชนกลุ่มเปราะบาง
นั้น
เนื่องจากตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งสิ้นสุดภายในวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๗ ดังนั้น
จึงอาจพิจารณาให้มีการใช้จ่ายงบประมาณกับประชาชนกลุ่มเปราะบางก่อนเพื่อให้สามารถใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ได้ตามวัตถุประสงค์และสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ชี้แจงว่า
กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับข้อเสนอของสำนักงบประมาณข้างต้นไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการ
Digital Wallet ต่อไป โดยจะดำเนินการให้เหมาะสม ถูกต้อง
เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ และให้สำนักงบประมาณนำรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ตามข้อ ๑)
ไปรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (เรื่อง
การดำเนินการเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒
และสำนักงบประมาณจะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นระยะเวลา ๗ วัน ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
2602 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์) | กค. | 18/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งรองอธิบดีกรมศุลกากร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร
(นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม
๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2603 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวสุภาภรณ์ โรจนรุ่งทวี) | กค. | 18/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสุภาภรณ์ โรจนรุ่งทวี
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการคลัง)
สูง] กองกฎหมาย กรมบัญชีกลาง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมายและระเบียบการคลัง
(นิติกรทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2604 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรียประจำจังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายมนต์ทวี หงษ์หยก) | กต. | 18/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นางวนิดา หงษ์หยก
กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรียประจำจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีกำหนดเกษียณอายุในวันที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๒. ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนชื่อเรียกสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรียประจำจังหวัดภูเก็ต
เป็นสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรีย ณ จังหวัดภูเก็ต
และให้กงสุลกิตติมศักดิ์คนใหม่ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรีย ณ
จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเรียกชื่อสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ของต่างประเทศในประเทศไทย ๓. ให้ความเห็นชอบการแต่งตั้ง นายมนต์ทวี หงษ์หยก
ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรีย ณ จังหวัดภูเก็ต คนใหม่
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดกระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา
พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพงัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2605 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือน (1. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ฯลฯ จำนวน 7 คน) | คค. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือน
จำนวน ๗ คนเนื่องจากกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายชัยศักดิ์
อังค์สุวรรณ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๒. นายชัยวัฒน์
ทองคำคูณ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๓. นายโชติชัย เจริญงาม ๔. นางชาริตา ลีลายุทธ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๕. นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ๖. พลตำรวจตรี อุกฤษฏ์
ศรีเสือขาม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2606 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (1. นายกุลิศ สมบัติศิริ ฯลฯ รวม 6 คน) | ดศ. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่
ตามความในมาตรา ๑๓ (๑) และ (๓)
แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) พ.ศ.๒๕๖๖
ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ รวม ๖ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการ ๒. นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านวิทยาการข้อมูล) ๓. นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ๔. นายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเศรษฐศาสตร์) ๕. นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการตลาด) ๖. นายศักดา นาคเลื่อน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหาร)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2607 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่ และภาพรวม ปี 2566 | นร.11 สศช | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่
และภาพรวม ปี ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสี่ และภาพรวม ปี ๒๕๖๖ เช่น (๑) การจ้างงาน
มีจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น ๔o.๓
ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ ๑.๗
จากการขยายตัวของการจ้างงานทั้งในภาคเกษตรกรรม ร้อยละ ๑.๐ และนอกภาคเกษตรกรรม
ร้อยละ ๒.๐ (๒) หนี้สินครัวเรือน โดยไตรมาสสาม ปี ๒๕๖๖ มีมูลค่า ๑๖.๒ ล้านล้านบาท
ขยายตัวร้อยละ ๓.๓ ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (๓)
การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๗o โดยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สูงสุด
(๔) การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๘ (๕)
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คดีอาญาโดยรวมลดลงร้อยละ ๑๐.๕
จากการลดลงของคดียาเสพติดที่ร้อยละ ๑๖.๗ (๖) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการลดลงร้อยละ ๑๕.๒ และร้อยละ ๑๔.๑
ตามลำดับ ๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ เช่น
การไม่มีกฎระเบียบสำหรับกลุ่ม Influencer อย่างชัดเจน
การเจาะเหตุพฤติกรรมเพื่อป้องกันความรุนแรงจากการกระทำผิดของเด็ก
และการเพิ่มประสิทธิภาพข้าวไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ๓) ปัจจัยที่กระทบต่อคุณภาพการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กไทย
ซึ่งทำให้ไทยมีคะแนนเฉลี่ย PISA ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ของ OECD ได้แก่ (๑)
ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ (๒)
การกระจายทรัพยากรทางการศึกษามีความแตกต่างกันตามขนาดโรงเรียนและสังกัด (๓)
บทบาทของครอบครัวที่น้อยลง (๔) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับเด็กลดลง (๕)
ความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่โรงเรียน และ (๖)
บรรยากาศในการเรียนที่ไม่เหมาะสมและไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2608 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๕ ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี ๒๕๖๕ ประกอบด้วย ๑.๑
การกำกับกิจการพลังงาน เช่น (๑) กำกับอัตราค่าไฟฟ้าและอัตราค่าบริการกิจการก๊าซธรรมชาติ
(ปรับอัตราค่าบริการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อผ่านระบบส่งก๊าซธรรมชาติในส่วนของต้นทุนคงที่)
และ (๒) โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาสำหรับภาคประชาชน
ซึ่งเป็นการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยรับซื้อไฟฟ้าที่ ๒.๒๐
บาทต่อหน่วย และได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว ๓,๒๒๐ ราย กำลังการผลิตติดตั้ง ๑๗,๖๔๒ กิโลวัตต์สูงสุด ๑.๒
การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เช่น (๑) อนุมัติกรอบวงเงินจำนวน ๒,๓๕๒.๕๓ ล้านบาท
เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และ (๒) การทบทวนอัตราการนำเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า
โดยเรียกเก็บจากผู้ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตราศูนย์บาทต่อหน่วยจำหน่ายสุทธิ
เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนจากวิกฤตราคาพลังานที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2609 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... | มท. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหลังสวน จังหวัดชุมพร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลวังตะกอ
ตำบลนาขา ตำบลแหลมทราย ตำบลขันเงิน ตำบลหลังสวน ตำบลท่ามะพลา และตำบลพ้อแดง
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา
การดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
การคมนาคม และการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎ หรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล
เกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการจัดทำข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นในเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินหลัก กระทรวงสาธารณสุข
เห็นว่าการพิจารณาอนุญาตกิจการจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน |
||||||||||||||||||||||||||||||
2610 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 | กค. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ
ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๑
มีนาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ
กำหนดไม่เกินร้อยละ ๗๐) สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริง ร้อยละ ๖๓.๖๗ ๒. สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ
(คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ กำหนดไม่เกินร้อยละ ๓๕) สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริง
ร้อยละ ๑๙.๐๑ ๓.
สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด (คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ
กำหนดไม่เกินร้อยละ ๑๐) สัดส่วนหนี้ที่เกิดขึ้นจริง ร้อยละ ๑.๒๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2611 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน (สำนักงาน ก.พ.ร.) | นร.12 | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓
กันยายน ๒๕๖๖ เรื่อง
การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน
รวมถึงการอนุมัติ อนุญาตแก่ภาคเอกชนที่สมควรให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
โดยมีมติคณะรัฐมนตรีในความรับผิดชอบของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่จะต้องยืนยันการคงอยู่ต่อไป
จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่ ๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๓ เรื่อง
แนวทางการทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาตของทางราชการ ๒)
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ เรื่อง
การขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e Service) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๓)
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
การปรับปรุงระยะเวลาการพิจารณาอนุญาตและการทบทวนกฎหมายตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และ ๔) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เรื่อง
แนวทางวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2612 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2566 ทั้งปี 2566 และแนวโน้มปี 2567 | นร.11 สศช | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี
๒๕๖๖ ทั้งปี ๒๕๖๖ และแนวโน้มปี ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑) เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๖๖ มูลค่า GDP ขยายตัวร้อยละ ๑.๗
เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ ๑.๔ ในไตรมาสที่สาม ๒) เศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๖ ขยายตัวร้อยละ ๑.๙
ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ ๒.๕ ในปี ๒๕๖๕ อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ ๑.๒ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ
๑.๓ ของ GDP และ ๓) แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๗
คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ ๒.๒ - ๓.๒
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการกลับมาขยายตัวของการส่งออกสินค้า การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนและการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว
โดยคาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ ๓.๐ และร้อยละ ๓.๕
ตามลำดับ ส่วนการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหาภาคในปี ๒๕๖๗
รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เช่น (๑)
การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเพิ่มขึ้น (๒)
การเร่งรัดผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมการลงทุนในช่วงปี ๒๕๖๔ -
๒๕๖๖ (๓) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และ (๔)
การรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2613 | รายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | มท. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกอบด้วย ๑) สถานการณ์ด้านการผังเมืองของประเทศไทยในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒) ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๓)
ผลการดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของการวางและจัดทำผังเมือง ๔) การดำเนินการอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕) การพัฒนาเมือง และ ๖)
การดำเนินงานเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการผังเมืองและการพัฒนาเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2614 | รายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | มท. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการผังเมือง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑) สถานการณ์ด้านการผังเมืองของประเทศไทยในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ (๒) ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ (๓)
ผลการดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของการวางและจัดทำผังเมือง (๔) การพัฒนาเมือง และ (๕) การดำเนินการอื่น
ๆ ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2615 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. .... | นร 05 | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง
พ.ศ. .... (ตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗)
ตามแนวทางการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2616 | มาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในบัญชีนวัตกรรมไทย | กค. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ เมษายน ๒๕๖๗ (เรื่อง
มาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในบัญชีนวัตกรรมไทย)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ เมษายน ๒๕๖๗ (เรื่อง
มาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในบัญชีนวัตกรรมไทย)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้กระทรวงการคลังสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปภายใน ๒ สัปดาห์
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2617 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ (แอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน)
ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพใหม่
เพื่อให้การกำหนดปริมาณยาเสพติดดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นว่าหากมีการประกาศใช้บังคับแล้ว
ควรพิจารณาให้มีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางให้ประชาชนและสังคมรับทราบ
เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องถึงเจตนารมณ์ในการออกกฎกระทรวง
ตลอดจนควรพิจารณาให้มีการเก็บข้อมูลผลลัพธ์หลังการประกาศใช้ในประเด็นต่าง ๆ เช่น
สังคม เศรษฐกิจ และการแพทย์ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายต่อไป ๓.
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด
ดังนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2618 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
สามารถดำเนินการธุรกิจและนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ในรูปแบบต่าง
ๆ ได้เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ
เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ให้สามารถจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งนิติบุคคล
ควรคำนึงถึงผลการดำเนินงานที่ไม่ควรก่อให้เกิดภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นแก่รัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||
2619 | การกำหนดให้การไหว้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย | นร.01 | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้การไหว้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย ตามมติคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ
เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานราชบัณฑิตยสภาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นควรพิจารณาการจำแนกลักษณะการไหว้ประเภทต่าง ๆ ความหมาย
และการปฏิบัติให้ชัดเจนเพื่อให้เห็นความแตกต่างจากการไหว้ที่ปฏิบัติกันในประเทศต่าง
ๆ ที่มีการแสดงความเคารพโดยการไหว้แบบเดียวกัน
อันจะทำให้เกิดความชัดเจนในรูปแบบการไหว้ของไทย
และไม่ก่อให้เกิดปัญหาต้านวัฒนธรรมการไหว้กับประเทศต่าง ๆ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา เห็นว่า
เนื่องจากการไหว้เป็นวัฒนธรรมร่วมในภูมิภาค จึงควรประกาศโดยแสดงความเป็นอัตลักษณ์ของการไหว้แบบไทยอย่างชัดเจน |
||||||||||||||||||||||||||||||
2620 | การเสนอศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks: AHP) | กห. | 11/06/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู)
เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ
ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN
Heritage Parks : AHP) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าในกรณีที่มีการปรับแก้ไข
(ร่าง) เอกสารการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าว
ขอให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องพิจารณาให้มีความสอดคล้องกับนโยบายและผลประโยชน์ของประเทศไทย
สามารถปฏิบัติได้ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ เห็นควรให้กองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ
ๆ ไป ให้จัดทำเผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป |