คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังขยายอายุพันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้  
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 วงเงินไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท เฉพาะที่ถือกรรมสิทธิ์โดยธนาคารแห่งประเทศ    
ไทยและธนาคารพาณิชย์  เพื่อชดใช้ความเสียหายและปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ 
พัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ดำเนินการ
ต่อไปได้ ดังนี้
          1. รับทราบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง  หลักเกณฑ์   วิธีการและเงื่อนไขสำหรับสถาบัน  
การเงินที่ประสงค์จะขอเข้ารับความช่วยเหลือจากกระทรวงการคลังตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้น  
ที่ 1 และโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2  
          2. เห็นชอบหลักการเรื่อง บุริมสิทธิ์เกี่ยวกับผลขาดดุลจากการดำเนินงาน และเรื่อง การขายหุ้น
ของกระทรวงการคลังคืนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนเอกชนที่ได้ปรับปรุงจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่14 สิงหาคม
2541 และวันที่ 25 สิงหาคม 2541
          3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินการขายหุ้นบุริมสิทธิของกระทรวงการคลัง  คืนให้ผู้ร่วมลง  
ทุนเอกชน   โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการ 
หรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504  กรณีที่มีการขายคืนช่วง  6  เดือน  โดย 
กรณีขายคืนช่วง 3 ปีแรก ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ในร่างประกาศกระทรวงการคลัง  ส่วนกรณีขาย
คืนช่วง 4 - 6 ปีหลัง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ในร่างประกาศกระทรวงการคลัง  โดยให้นำระเบียบ  
กระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ  พ.ศ.  2535   มาบังคับใช้โดยอนุ 
โลมในส่วนที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ด้วย 

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ  แก้ไขเพิ่มเติม  
พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ  (ฉบับที่ 6)  พ.ศ. 2541 พ.ศ. ..... (เพื่อยกเลิกสิทธิการเบิก  
จ่ายเงินค่าเช่าบ้านของข้าราชการที่ไปปฏิบัติราชการประจำสำนักงานในต่างท้องที่ เนื่องจากสำนัก    
งานที่ปฏิบัติราชการประจำอยู่เดิมได้ย้ายสถานที่ทำการไปตั้งในท้องที่ใหม่   โดยท้องที่ที่สำนักงาน  
ได้ย้ายไปนั้นอยู่ใกล้เคียงกับท้องที่ที่ตั้งสำนักงานเดิมตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด แม้  
จะเป็นการย้ายสำนักงานก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 6)  พ.ศ. 2541   
ใช้บังคับ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
เป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
          1. เห็นชอบหลักการการยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรต่าง ๆ   ที่เกิดขึ้นจากการโอนกิจการในโครง 
การและสินทรัพย์ของสถาบันการเงินทั้งหมดที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2541  
และเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกประกาศให้ความเห็นชอบโครงการ ฯ ของสถาบันการเงินรายใด   
ก็ให้ลงประกาศให้การยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรต่าง ๆ  ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ 
แล้วควบคู่ไปด้วย   โดยไม่ต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก  เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา
และให้มีผลใช้บังคับพร้อมกันกับประกาศกระทรวงการคลังที่ให้ความเห็นชอบโครงการโอนกิจการดังกล่าว 
          2. เห็นชอบการยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสำหรับ 2 โครงการที่รัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว  พร้อมกับยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการ   
โอนสินทรัพย์ของสถาบันการเงินแก่บริษัทบริหารสินทรัพย์    ตามร่างประกาศกระทรวงการคลัง  เรื่อง   ให้ยก  
เว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรในการโอนกิจการของธนาคารกรุงเทพ ฯ  พาณิชยการ  จำกัด  (มหาชน)  และ   
ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) ไปให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)   และโอนสินทรัพย์จากสถาบันการ 
เงินไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ รวม 3 ฉบับ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานจำหน่าย  
สินทรัพย์สถาบันการเงิน  56  แห่ง  ที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ  ขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบัน  
การเงิน (ปรส.) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2540 ดังนี้ 
          1. หลักการจำหน่ายสินทรัพย์ กำหนดหลักการรวม  9  ข้อ  โดยยึดหลักการขั้นพื้นฐานจำหน่ายสิน     
ทรัพย์ให้ได้มูลค่าสูงสุด เพื่อชำระคืนแก่เจ้าหนี้ด้วยความรวดเร็ว  โดยไม่เลือกปฏิบัติ   มีความยุติธรรม   และ 
โปร่งใสในกระบวนการจำหน่าย 
          2. การสร้างตลาดสำหรับสินทรัพย์สถาบันการเงินกำหนดแนวทางการประชาสัมพันธ์สินทรัพย์ที่จะ 
จำหน่าย  พบปะและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางจัดกลุ่มสิน 
ทรัพย์ออกจำหน่าย   จัดลำดับประเภทของสินทรัพย์ที่จะนำออกจำหน่าย   และจัดกระบวนการจำหน่ายให้ 
ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ลงทุน สถาบันการเงิน รวมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ของสถาบันการเงิน
         3. วิธีการจำหน่ายสินทรัพย์ แบ่งสินทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายออกเป็น 2 ประเภท คือ สินทรัพย์หลัก  
และสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก     ส่วนสินทรัพย์หลักประเภทสินเชื่อเช่าซื้อ สามารถนำออกจำหน่ายได้   
หมดทั้งจำนวนโดยไม่แยกคุณภาพของสินทรัพย์ออกเป็นสินทรัพย์ดีและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ   ซึ่งการเปิด 
ประมูลสินทรัพย์ดังกล่าว ผู้ประมูลแต่ละรายเสนอราคาใกล้เคียงกัน และสูงพอสมควร     คาดว่าจะสามารถ 
จำหน่ายสินทรัพย์ได้เสร็จสิ้นภายในปี 2541  ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการแก้ไขปัญหาระบบสถาบัน 
การเงินของประเทศไทยให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
           1. เห็นชอบร่างความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐ 
อุซเบกิสถาน โดยมีสาระสำคัญเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนภาษีเงินได้และป้องกันการหลีก  
เลี่ยงภาษีระหว่างประเทศคู่สัญญา 
           2. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปดำเนินการทางการทูตเพื่อให้มีการลงนามอย่าง 
เป็นทางการ และแลกเปลี่ยนหนังสือระหว่างกันต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ...... (เพื่อให้   
อธิบดีมีอำนาจยกเว้นภาษีให้เป็นการเฉพาะราย เพื่อประโยชน์ในการบริหารภาษี   การอำนวยความสะดวก  
และลดภาระของผู้มีหน้าที่เสียภาษี กรณีที่อธิบดีเห็นว่ามีหลักประกันที่จะไม่เกิดการรั่วไหล) ตามที่กระทรวง   
การคลังเสนอ      โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อเสนอเพิ่มเติมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง   
การคลังเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต  พ.ศ. 2527   เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์     
และเงื่อนไขในการประกาศลดอัตรา หรือยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าหรือบริการ ไปพิจารณา     หากจำเป็นที่  
จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติดังกล่าว      ก็ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่าง    
พระราชบัญญัติ ฯ   แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา   ก่อนเสนอสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณาต่อไป  

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก.  /2541 เรื่อง การกำหนดให้ของได้ 
รับการยกเว้นอากร (เพื่อยกเว้นอากรขาเข้าแก่เมล็ดพันธุ์ผักชีในพิกัดประเภทย่อยที่ 0909.20   จากอัตรา   
ร้อยละ 30 หรือ กก.ละ 4.20 บาท  เฉพาะที่พิสูจน์ให้เป็นที่พอใจอธิบดีกรมศุลกากรว่า นำเข้ามาเพื่อใช้เพาะ   
ปลูกและมีจำนวนพอสมควร) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ดำเนินการต่อไปได้  โดยให้รับข้อสังเกต 
ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการตรวจสอบการนำเข้าโดยให้เป็นไปตามวัตถุ   
ประสงค์ในการยกเว้นอากร  คือ  เพื่อใช้ในการเพาะปลูกเท่านั้น ไม่รวมถึงการนำเข้าเพื่อการอื่น    และการ  
กำหนดมาตรการตรวจสอบการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสมหลังจากได้รับยกเว้นแล้ว 
ไปประกอบการดำเนินการด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
          1. เห็นชอบอนุสัญญาว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันประกันการลงทุนพหุภาคี   โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ   
การจัดตั้งสถาบันประกันการลงทุน ฯ  มีสถานภาพเป็นนิติบุคคล   มีวัตถุประสงค์สนับสนุนการเคลื่อนย้าย    
การลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการผลิตระหว่างประเทศสมาชิก      การกำหนดองค์ประกอบของสมาชิก   
ภาพ  รวมทั้งโครงสร้างและการดำเนินการของสถาบัน ฯ และให้เสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อ 
ไป
         2. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสถาบันประกันการลงทุนพหุภาคี   
พ.ศ. .... (เพื่อคุ้มครองการดำเนินงานในราชอาณาจักรไทยของสถาบัน ฯ ให้บรรลุตามความประสงค์  การ   
กำหนดให้คำชี้ขาดมีผลผูกพันคู่พิพาท และใช้บังคับได้ในราชอาณาจักรไทยเสมือนหนึ่งเป็นคำพิพากษาถึง  
ที่สุดแล้วของศาล  รวมทั้งการบังคับตามคำชี้ขาด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ      และให้สำนักงานคณะ   
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป   เมื่อรัฐสภาให้ความเห็น 
ชอบในอนุสัญญาดังกล่าวแล้ว

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี 
พ.ศ. 2541 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม 2541 (ณ วันที่ 15 สิงหาคม 
2541) มีการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 525,528.4 ล้านบาท   เปรียบเทียบกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณช่วง 
ระยะเวลาเดียวกันกับปีงบประมาณที่ผ่านมา มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำลง

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบ
ตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายเงินกู้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อปรับ 
โครงสร้างเศรษฐกิจ (SAL)  และเสริมสภาพคล่อง  ครั้งที่ 7   โดยให้กระทรวงการคลังรับข้อเสนอของ  
รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย  รัตตกุล) เกี่ยวกับการพิจารณาคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ  มีประสบ  
การณ์และว่างงานเนื่องจากสถาบันการเงินต่าง ๆ  ถูกปิดกิจการมาช่วยในการประเมินการปล่อยกู้ให้ 
แก่ลูกหนี้ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมทั้งการใช้ข้อมูลประวัติผลการดำเนินการของลูกหนี้ 
เพื่อการประเมินการปล่อยสินเชื่อ ไปพิจารณาต่อไปด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ เรื่อง การพิจารณา 
รวมกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้ 
          1. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการเพื่อรวม ยุบหรือขยายวัตถุประสงค์กองทุนหรือเงิน  
ทุนหมุนเวียน   โดยให้ออกเป็นพระราชบัญญัติเฉพาะที่ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจการพิจารณาขยายวัตถุ 
ประสงค์ รวมทั้งพิจารณารวมหรือยุบกองทุนหรือเงินทุนหมุนเวียนต่อไป
          2. ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาว่า  มีกองทุนหรือเงินทุนหมุนเวียนใดบ้างที่มีวัตถุประสงค์ใกล้  
เคียงกันและควรจะรวมกันได้ หรือมีกองทุนหรือเงินทุนหมุนเวียนใดบ้างที่หมดความจำเป็นและควรยุบเลิก  
          3. ให้กระทรวงการคลังกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาการทำงานดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  และให้ 
รายงานความก้าวหน้าให้คณะกรรมการ ฯ ทราบเป็นระยะ ๆ    

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบตามที่ 
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) รายงานผลการดำเนินงาของ ปรส. เกี่ยวกับการแก้ไข  
ฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ  การประนอมหนี้   การช่วยเหลือผู้ฝากเงินและเจ้าหน้าที่   
สุจริตของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ  และการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ กรณีที่  
บริษัทดังกล่าวไม่อาจดำเนินกิจการต่อไปได้    โดยให้ ปรส. รับความเห็นของคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับการ 
เร่งรัดการดำเนินงานของ ปรส.  ให้เป็นไปตามแผนงานและระยะเวลาที่กำหนด  โดยให้เน้นความเป็นกลาง  
โปร่งใส  และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด     โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประมูลขายสินทรัพย์โดยผ่านกระบวนการ 
เสนอราคาเป็นกรณีพิเศษ  (Unsolicited  Bid)   การประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานให้สาธารณชนทราบ 
รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวทางลบเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อให้ทราบและเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง  ไป 
พิจารณาดำเนินการด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
          1. รับทราบการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2541 (ปรับปรุงครั้งที่ 1)   
ประกอบด้วย โครงการหลัก จำนวน 29 โครงการ วงเงินเทียบเท่า 6,540.48 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และโครงการ  
สำรอง จำนวน 1 โครงการ วงเงินเทียบเท่า 27.46 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ 
          2. อนุมัติให้โครงการหลักในแผนการก่อหนี้ ฯ ประจำปีงบประมาณ 2541  (ปรับปรุงครั้งที่  1)  จำนวน  
12 โครงการ และบางส่วนของโครงการหลักอีก 3 โครงการ วงเงินเทียบเท่า 1,122.02 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ   ที่ 
ไม่สามารถจะลงนามสัญญาเงินกู้ได้ทันภายในกันยายน 2541 ใช้สิทธิของวงเงินกู้ในแผนการก่อหนี้ ฯ  ประจำปี 
งบประมาณ 2541 ไปลงนามในสัญญาเงินกู้ปีงบประมาณ 2542 ได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
          1. รับหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับ  
รัฐบาลญี่ปุ่น และรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้ สำหรับโครงการเงินกู้    
รัฐบาลญี่ปุ่น  ครั้งที่ 23   ส่วนที่ 1 สำหรับใช้ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของส่วนราชการและ   
รัฐวิสาหกิจ จำนวน 5 โครงการ  และส่วนที่ 2 สำหรับใช้เป็นสินเชื่อสำหรับสถาบันการเงินที่มีกฎหมาย  
จัดตั้งโดยเฉพาะ จำนวน 2 โครงการ
          2. ให้กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจาก OECF  สำหรับโครงการส่วนที่ 1 ได้แก่ การ  
ส่งเสริมการท่องเที่ยว     การวางแผนและจัดระบบจราจร     การจัดตั้งศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อ 
อุตสาหกรรม และการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมในเขตปฏิรูปที่ดิน  กับให้รัฐวิสาหกิจและสถาบัน  
การเงิน ฯ เจ้าของโครงการกู้เงินจาก  OECF  สำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร  ระยะแรก   สายหัวลำ   
โพง - ศูนย์ประชุมสิริกิติ์  บางซื่อ  (สายสีน้ำเงิน)    และโครงการส่วนที่ 2  ได้แก่  โครงการสินเชื่อเพื่อ   
พัฒนาชนบท  และโครงการเงินกู้จาก OECF ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย     โดยมี 
รัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน
          3. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย 
กับรัฐบาลญี่ปุ่น สำหรับหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ และกับ OECF สำหรับสัญญาเงินกู้ สัญญาค้ำประกันเงิน 
กู้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำ 
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ราย 2 สัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
          1. ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึง ณ วันที่ 15 กันยายน 2541  มีการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 624,196.9 
ล้านบาท
          2. ให้กรมบัญชีกลางปรับปรุงบทบาทของสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ให้ทำหน้าที่ประมวลข้อ    
มูลวิเคราะห์และเสนอแนะแนว ทางการบริหารเงินงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินระดับจังหวัด ให้แก่ผู้ว่า    
ราชการจังหวัด  เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถให้คำแนะนำและเสนอแนะส่วนราชการต่าง ๆ   ภายใน 
จังหวัดให้สามารถบริหารงบประมาณระดับจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับ
นโยบายของรัฐบาล

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 
         1. เห็นชอบการขอยกเว้นให้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา   
ระบบสถาบันการเงินเข้าแทรกแซงถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กฎ ระเบียบและมติคณะ   
รัฐมนตรีที่ใช้บังคับรัฐวิสาหกิจทั่วไป เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินงาน   โดยให้กลุ่มหน่วยงานต่าง ๆ ที่เห็น    
ควรได้รับการยกเว้น ได้แก่  กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และกลุ่มสถาบันการเงินที่  
เป็นรัฐวิสาหกิจเนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ เข้าแทรกแซง   โดยให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบ  
บัญชี  ตามพระราชบัญญัติการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2522  และระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐ  
วิสาหกิจ พ.ศ. 2520   โดยให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังซึ่งเป็นข้าราชการประจำร่วมเป็นกรรมการอยู่ในคณะ  
กรรมการตามระเบียบว่าด้วยการบัญชีและการเงิน ฯ   รวมทั้งระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการตรวจสอบ  
ภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2538  ทั้งนี้  ให้ถือปฏิบัตินับตั้งแต่วันที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ เข้าแทรกแซงจน 
เป็นรัฐวิสาหกิจ  และให้ถือเป็นหลักการสำหรับสถาบันการเงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ จะเข้าแทรกแซงจน  
เป็นรัฐวิสาหกิจในภายหลังด้วย  
          2. สำหรับเรื่องให้สถาบันการเงิน ฯ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ  ใน   
เรื่องเงินสวัสดิการและผลประโยชน์ค่าตอบแทนของพนักงานแล้ว ให้เพิ่มเรื่องการกำหนดอัตรากำลัง ตามที่ 
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม) เสนอเพิ่มเติมด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำ 
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ราย 2 สัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
          1. ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึง ณ วันที่ 15 กันยายน 2541  มีการเบิกจ่ายเงินทั้งสิ้น 624,196.9
ล้านบาท 
          2. ให้กรมบัญชีกลางปรับปรุงบทบาทของสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ให้ทำหน้าที่ประมวลข้อ   
มูล วิเคราะห์และเสนอแนะแนวทางการบริหารเงินงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินระดับจังหวัด ให้แก่ผู้ว่า   
ราชการจังหวัด  เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถให้คำแนะนำและเสนอแนะส่วนราชการต่าง ๆ   ภายใน  
จังหวัดให้สามารถบริหารงบประมาณระดับจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับ
นโยบายของรัฐบาล

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราช
บัญญัติศุลกากร  พุทธศักราช 2469 (กำหนดให้ด่านศุลกากรสิชล  จังหวัดนครศรีธรรมราช  เป็นท่าหรือ  
ที่สำหรับนำของเข้าและส่งของออกทุกประเภท รวมทั้งส่งออกซึ่งของที่ขอคืนอากรขาเข้าหรือของที่มีทัณฑ์ 
บนทุกประเภท) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 
แล้วดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง  ฉบับที่ ..  (พ.ศ. .....)  ออกตามความในพระราช 
บัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469  และพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 8) พุทธศักราช 2480 (กำหนด 
ให้สนามบินนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา  สนามบินตรัง  จังหวัดตรัง  สนามบินหัวหิน  จังหวัดประจวบ  
คีรีขันธ์ เป็นสนามบินศุลกากร  เพื่อให้อากาศยานไทยและอากาศยานระหว่างประเทศขึ้นลงและนำของเข้า  
หรือส่งของออกทางสนามบินดังกล่าวได้) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้