ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 577 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 11521 - 11540 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11521 | การลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของหน่วยงานภาครัฐ | นร05 | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติกำชับให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการให้มีการใช้สาธารณูปโภคประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำประปาและไฟฟ้าอย่างประหยัดเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดภาระงบประมาณภาครัฐในภาพรวม ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปด้วย เช่น การรณรงค์สร้างค่านิยมและจิตสำนึกในการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ การปรับปรุงเครื่องมือ/อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความสิ้นเปลืองของพลังงาน การเลือกใช้ทรัพยากรทางเลือกหรือพลังงานทดแทนเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้เหมาะสมกับสถานที่ตั้งและสภาพแวดล้อมของหน่วยงาน และให้ติดตามประเมินผลการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงแก้ไขแนวทางและมาตรการในการใช้สาธารณูปโภคของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นระยะ ๆ ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11522 | การเข้าร่วม NDC Partnership ของประเทศไทย | ทส | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ประเทศไทยเข้าร่วม Nationally Determined Contribution Partnership (NDC Partnership) โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยประสานงานหลัก (Focal Point) ของประเทศร่วมกัน โดยการเข้าร่วม NDC Partnership จะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านวิชาการ (Technical Assistance) ด้านผลิตผลทางความรู้ (Knowledge Products) และด้านการสนับสนุนทางการเงิน (Facilitating Finance) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาพใหญ่ (Large-scale Climate Target) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ (พ.ศ. ๒๕๗๓) ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๖๒-มกราคม ๒๕๖๓ ๑.๒ ร่างหนังสือแสดงความจำนงอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วม NDC Partnership และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยื่นหนังสือดังกล่าวเพื่อแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วม NDC Partnership ตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานมายังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อสอบทานชื่อและหมายเลขติดต่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ในกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องและอาจมีผลกระทบด้านความมั่นคง ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามแต่กรณี ประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กระทรวงกลาโหม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ก่อนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11523 | ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและอนุกรรมการที่คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง | ศธ | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและอนุกรรมการที่คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแต่ละคณะภายใต้คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ควรพิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนในทางปฏิบัติและเกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11524 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนตุลาคม 2562 | นร02 | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ได้แก่ (๑) มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (๒) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี ๒๕๖๒ (มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้") (๓) พระราชพิธีบรมราชาภิเษก : การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวน “พยุหยาตราทางชลมารค" และ (๔) ประเด็นการประชาสัมพันธ์เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี ๒๕๖๒ คณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ “ราชบุรี-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี” และโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางและขยายเวลาสินเชื่อผู้ประกอบกิจการยาง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11525 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้ นายอภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์ เป็นโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามคำสั่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ ๑๑๖/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สั่ง ณ วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11526 | การจัดกิจกรรม "ความสุขแบบวิถีไทย" ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2563 | วธ | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดกิจกรรม “ความสุขแบบวิถีไทย” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนในมิติทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม จำนวน ๔ กิจกรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมทำความดีช่วงปีใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล อาทิ สวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ๒๕๖๓ จัดช่องทางพิเศษและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาไหว้พระช่วงปีใหม่ และสักการะพระพุทธรูปสำคัญ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ๒. กิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ในแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิ เปิดแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ให้เข้าชมฟรี และเปิดหอศิลป์ร่วมสมัยให้ประชาชนเข้าชมฟรี และหอศิลป์ภาคเอกชนในส่วนภูมิภาคเข้าฟรี หรือลดค่าเข้าชมเป็นกรณีพิเศษ ๓. กิจกรรมความหลากหลายทางวัฒนธรรมนำความสุข อาทิ กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรม ทึ่ง! หนังโลก โดยฉายภาพยนตร์เรื่อง “Seven Samurai : เจ็ดเซียนซามูไร” ในวันเสาร์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ โรงภาพยนตร์สกาลา กรุงเทพมหานคร ๔. กิจกรรมส่งความสุขปีใหม่ด้วยของขวัญวิถีไทย อาทิ ให้บริการบัตรอวยพรส่งความสุขปีใหม่รูปแบบ e-card และสอนวิธีการจัดทำผ่านออนไลน์ รวมทั้งจัดอบรมให้แก่ผู้ที่สนใจ และกิจกรรม “ของขวัญ ของฝาก จากวัฒนธรรมไทย” และจัดงานออกร้านจำหน่าย สาธิต และจัดแสดงในรูปแบบ Road Show
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11527 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาววิลาวัลย์ ตาน้อย และคณะ) | นร12 | 17/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ดังนี้
๑. นางสาววิลาวัลย์ ตาน้อย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. นางศิริพร วัยวัฒนะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ๓. นางสาววิริยา เนตรน้อย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11528 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน ๑๐ คณะ (คณะกรรมการคงอยู่ไม่ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ จำนวน ๖ คณะ และคณะกรรมการคงอยู่ แต่ขอปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ จำนวน ๔ คณะ) ๑.๒ ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน ๗ คณะ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมในการขอให้คงอยู่ของคณะกรรมการดังกล่าวที่ไม่มีการจัดประชุมเลย หรือที่มีการจัดประชุมเพียง ๑-๒ ครั้ง ในรอบ ๓ ปี ที่ผ่านมา (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒) อีกครั้งหนึ่ง และให้แจ้งยืนยันไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11529 | รายงานผลการเข้าร่วมประชุม Global Ministerial Conference on System Integration of Renewables ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี | พน | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมการประชุม Global Ministerial Conference on System Integration of Renewables ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระหว่างวันที่ ๒๙ กันยายน-๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและพลังงานของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (The German Federal Ministry for Economic Affairs) และทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) ร่วมกันจัดการประชุมขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทาง นโยบาย ข้อคิดเห็นในการส่งเสริมให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพ สามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การหาจุดสมดลในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ๓ ประการ ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน การพัฒนาที่ยั่งยืน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ แนวโน้มการพัฒนาพลังงานโลกที่ ๓ ทิศทางหลัก ได้แก่ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานมากขึ้น โดยประชุมฯ ได้มีการหารือในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การแบ่งปันความสำเร็จด้านพลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อเร่งการลดการปล่อยคาร์บอน และพัฒนาความยืดหยุ่นของระบบ นวัตกรรมในด้านนโยบาย การออกแบบตลาด และกฎระเบียบ การวางแผน ระบบและนวัตกรรมทางการตลาด รวมถึงนโยบายริเริ่มเพื่อยกระดับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ชัดเจน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11530 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่อง การป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Special ASEAN Ministerial Meeting on Illegal Wildlife Trade: SAMM - IWT) | ทส | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่อง การป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Special ASEAN Ministerial Meeting on Illegal Wildlife Trade : SAMM-IWT) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งการประชุมออกเป็น ๒ กิจกรรมหลัก ได้แก่ (๑) การประชุมแบบเต็มคณะ (Plenary) และ (๒) กิจกรรมพิเศษระหว่างการประชุม (Side Events) โดยการประชุมแบบเต็มคณะ (Plenary) ที่ประชุมได้รับรอง (Adopted) “แถลงการณ์รัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Statement of ASEAN Ministers Responsible for CITES and Wildlife Enforcement on Illegal Wildlife Trade)” และที่ประชุมได้เห็นชอบให้เพิ่มเติมคำว่า “Chiang Mai” ในชื่อของแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อสื่อถึงสถานที่ที่ได้มีการประกาศ (Issued) แถลงการณ์นี้ขึ้น เป็น “แถลงการณ์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Chiang Mai Statement of ASEAN Ministers Responsible for CITES and Wildlife Enforcement on Illegal Wildlife Trade)” ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวจะเป็นกรอบนโยบายหลักที่จะใช้กำหนดโครงการ/แผนงาน/กิจกรรมของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า ภายใต้สาขาความร่วมมืออาเซียนที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับกิจกรรมพิเศษระหว่างการประชุม (Side Events) เช่น การประชุมทวิภาคี การประชุมพันธมิตรด้านการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย การจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11531 | รายงานผลการเตรียมความพร้อมในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 | กสทช | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนการดำเนินการและกรอบระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สรุปได้ว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเรื่องการกำกับดูแลเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อให้สามารถรองรับประเด็นการหลอมรวม (Convergence) โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ ส่วนที่ ๓ การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และส่วนที่ ๔ การกำกับการประกอบกิจการ ในหมวด ๒ การกำกับดูแลการประกอบกิจการ ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวจะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อบังคับใช้ ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11532 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหินเป็นหินประดับหรือหินอุตสาหกรรม และดินหรือทรายเป็นดินอุตสาหกรรมหรือทรายอุตสาหกรรม พ.ศ. .... | อก | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหินเป็นหินประดับหรือหินอุตสาหกรรม และดินหรือทรายเป็นดินอุตสาหกรรมหรือทรายอุตสาหกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิดของหิน ดิน และทราย ให้เป็นหิน ดิน หรือทรายอุตสาหกรรม และกำหนดคุณสมบัติ คุณลักษณะ และลักษณะการนำไปใช้ประโยชน์ของดินอุตสาหกรรมและทรายอุตสาหกรรมบางประเภท เพื่อให้มีผลใช้บังคับตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11533 | ขอส่งหนังสือรายงานประจำปี พ.ศ. 2561 ศาลรัฐธรรมนูญ | ศร | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ทำการตรวจสอบรับรองบัญชีและการเงินทุกประเภทของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ ๒. สำหรับในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอรายงานการเงินประจำปีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ทำการตรวจสอบแล้วต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๒ และตามนัยมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในคราวเดียวกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11534 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเพิ่มกรอบอัตรากำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 2,247 อัตรา | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้มีการปรับเพิ่มกรอบอัตรากำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนให้แก่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน) พิจารณาเกี่ยวกับการคัดกรองสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โดยคำนึงถึงศักยภาพและความสามารถของบุคลากรให้สอดคล้องกับภารกิจงานที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน) รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เช่น ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาในเรื่องดังกล่าว โดยคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนและความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่และบริหารอัตรากำลังที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อควบคุมงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐ หรืออาจเกลี่ยอัตรากำลังหรือการมอบหมายให้ช่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความจำเป็น รวมทั้งควรติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานหลังจากเพิ่มกรอบอัตรากำลังด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรจุสั่งใช้กำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เห็นควรให้ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มอัตรากำลังในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ใช้จ่ายจากกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้เสนอตั้งไว้ในขั้นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีผลบังคับใช้หรือเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เท่าที่จำเป็นอย่างประหยัดตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11535 | การรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา | วธ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ เพื่อเข้าร่วมพิธีปิดโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๒ ตามคำเชิญของสภาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เข้าร่วมพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ วัดเทพโพธิวงศ์ เมืองเสียมราฐ โดยมีสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี เทพ วงศ์ สมเด็จพระสังฆราชแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และสมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และเข้าร่วมพิธีมอบเสาเสมาธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ให้แก่สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รวมทั้งเข้าร่วมพิธีปิดโครงการธรรมยาตรา ๕ แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๒ ณ โรงแรมโซฟิเทล โพคีธารา เมืองเสียมราฐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11536 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) | พศ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๒ คณะ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ ๒. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11537 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๓ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมทางหลวงบูรณาการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11538 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษ | กต | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (The Government of the United Arab Emirates : UAE) ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่างความตกลงฯ แล้ว โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการอนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ (กรณีคนชาติไทย) และผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ (กรณีคนชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เดินทางเข้า ออก และแวะผ่านดินแดนของแต่ละฝ่าย โดยไม่ต้องมีการตรวจลงตราและค่าธรรมเนียม โดยให้พำนักอยู่ในดินแดนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือราชอาณาจักรไทยเป็นระยะเวลาไม่เกินกว่า ๙๐ วันนับจากวันที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือราชอาณาจักรไทย ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทนให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าว ๑.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11539 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สวพส. | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานและการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงและการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11540 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... | อก | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียม หรือค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตให้แก่ผู้ถือประทานบัตร ผู้รับใบอนุญาตแต่งแร่ หรือผู้รับใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ที่ประกอบกิจการที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และสถานประกอบกิจการที่ประสบเหตุภัยพิบัติตามธรรมชาติหรืออุบัติภัย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองได้ภายในกำหนดสองปีนับแต่พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ใช้บังคับ เนื่องจากอนุบัญญัติที่ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ ฉบับ และมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๖๘ ฉบับ ซึ่งอนุบัญญัติทั้ง ๖๘ ฉบับดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการบริหารจัดการแร่ การพิจารณาอนุมัติอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ และกำกับดูแลการประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับคณะกรรมการแร่มีอำนาจและหน้าที่หลักในการให้ความเห็นชอบในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต การโอน การต่ออายุ การเพิกถอน และการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ เกี่ยวกับอาชญาบัตรพิเศษและประทานบัตรสำหรับการทำเหมืองแร่ประเภทที่ ๒ และที่ ๓ ซึ่งในช่วงรอยต่อของการบังคับใช้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ คำขอดังกล่าวค้างการพิจารณาจำนวนมาก ด้วยเหตุมีบทเฉพาะกาลตามมาตรา ๑๘๘ และมาตรา ๑๘๙ แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งกำหนดให้คำขอที่ได้ยื่นไว้ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ให้ถือเป็นคำขอตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ดังนั้น ในวาระแรกที่มีการประชุมคณะกรรมการแร่จึงต้องเร่งพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตหรือไม่อนุญาตคำขออาชญาบัตรพิเศษหรือคำขอประทานบัตร การต่ออายุ รวมถึงการโอนประทานบัตรให้แล้วเสร็จ เนื่องจากเป็นภารกิจที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและเพื่อมิให้ผู้ประกอบการต้องได้รับความเสียหายจากการพิจารณาอนุญาตที่ล่าช้าของภาครัฐ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
.....