ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 292 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 5821 - 5840 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5821 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นางสุพร ตรีนรินทร์ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | กปร. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(สำนักงาน กปร.) ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่สำนักงาน กปร. เสนอ ดังนี้ ๑. นางสุพร ตรีนรินทร์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน กปร. ตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ๒. นางพิชญดา หัศภาค ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน กปร. ตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ๓. นายหทัย วสุนันต์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน กปร. ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5822 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีบริษัทเอกชนให้ผู้สมัครงานตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับเข้าทำงาน | สม. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย
กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
กรณีบริษัทเอกชนให้ผู้สมัครงานตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับเข้าทำงาน
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕
โดยที่ประชุมมีมติให้รอการบังคับใช้พระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ.
.... ที่เสนอโดยกระทรวงยุติธรรม
เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวมีหลักการที่สำคัญในการขจัดการปฏิบัติต่อผู้คนในหลายรูปแบบโดยตรง
ซึ่งรวมถึงการขจัดการเลือกปฏิบัติจากการติดเชื้อเอสไอวีด้วย
โดยในระหว่างที่พระราชบัญญัติดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้
กระทรวงแรงงานได้ปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานประกอบกิจการ
ลงวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. ....
รวมทั้งได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการและแนวทางในการส่งเสริมการลดปัญหาการเลือกปฏิบัติผู้ติดเชื้อเอสไอวีในการสมัครงานให้กับหน่วยปฏิบัติหรือตัวแทนจัดหางานที่อยู่ในความดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและสถานประกอบกิจการจัดหางานผ่านเครือข่ายองค์กรด้านแรงงานให้ทราบแล้วในทุกช่องทาง
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5823 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 15 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 - 30 มิถุนายน 2565) | นร.04 | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๖ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๐ มิถุนายน
๒๕๖๕) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๙ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม
และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๘ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม
การยกระดับศักยภาพแรงงาน การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5824 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานประจำเดือน
เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๕
โดยมีผลการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ เช่น (๑)
การรายงานผลการลงทะเบียนเป็นจิตอาสาพระราชทาน (มท.)
โดยมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๖,๙๔๐,๘๔๔ คน จำแนกเป็นกรุงเทพมหานคร ๔๕๔,๙๗๘ คน
และส่วนภูมิภาค ๖,๔๘๖,๐๖๖ คน (๒)
การจัดกิจกรรมจิตอาสาของส่วนราชการต่าง ๆ ๑๙ หน่วยงาน ประกอบด้วย จิตอาสาพัฒนา
จิตอาสาภัยพิบัติ จิตอาสาเฉพาะกิจ และวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๑,๒๑๐,๑๒๔ คน และ (๓) การติดตามความก้าวหน้าโครงการในภารกิจของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เช่น โครงการที่ได้รับเงินพระราชทานบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติภาคใต้โครงการจิตอาสาพระราชทานในการดูแลป่าชุมชนของประชาชนจิตอาสาประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จังหวัดขอนแก่น กิจกรรมจิตอาสาฝึกอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องกระดุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) และกิจกรรมอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และบำเพ็ญสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม
๒๕๖๕ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5825 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี 2564 --------------------------------------------- | พน. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
(องค์กรร่วมฯ) ประจำปี ๒๕๖๔ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว
โดยงบการเงินขององค์กรร่วมฯ แสดงข้อมูลถูกต้อง สอดคล้องกับสถานการณ์ดำเนินงาน
รายรับและรายจ่าย และงบกระแสเงินสดขององค์กรร่วมฯ ณ สิ้นปี ๒๕๖๔
และได้รับความเห็นจากคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ ในการประชุม ครั้งที่ ๑๓๘
และการประชุมสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ ๓๐ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ แล้ว
โดยมีรายรับสุทธิขององค์กรร่วมฯ จำนวน ๕๔๑.๗๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สถานะกองทุนองค์กรร่วมฯ มียอดรวมจำนวน ๙๑๘.๘๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และนำส่งรายได้ให้รัฐบาลทั้งสองประเทศ จากการขายปิโตรเลียมเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓-ตุลาคม
๒๕๖๔ รวมจำนวน ๗๓๘.๓๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5826 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 3/2565 | ศอบต. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๕
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
เรื่องเพื่อทราบ จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ (๑) ผลการขับเคลื่อนสนามบินเบตงให้เปิดบริการเชิงพาณิชย์
และ (๒) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ไตรมาส ๑ ปี ๒๕๖๕ ๒.
เรื่องการติดตามความก้าวหน้าตามมติ กพต. จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่ (๑)
รายงานผลการดำเนินโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle
Trail” (๒) รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการตำบลมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ภายใต้ระบบ ๑ ข้าราชการ ๑ ครัวเรือนยากจน ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
(๓) รายงานความคืบหน้าโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นกรณีเร่งด่วน และการจัดทำปะการังเทียมพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๔) ผลการจัดกิจกรรมมหกรรมการอ่านแห่งชาติ “มหัศจรรย์สร้างสรรค์
และการอ่านเพื่อเด็กปฐมวัยชายแดนใต้” ภูมิภาษา วิถีพหุวัฒนธรรม
นวัตกรรมเพื่อสุขภาวะเด็กปฐมวัย ๓.
เรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) ขออนุมัติกรอบแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
หาดใหญ่-สงขลา ระยะ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ (๒) ขออนุมัติกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้
ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๓) ขอความเห็นชอบกรอบข้อเสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5827 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1455-1472/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ.418-435/2565 ระหว่างนายนิพนธ์ เซ๊ะวิเศษ กับพวกรวม 19 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อ.๑๔๕๕-๑๔๗๒/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่
อ.๔๑๘-๔๓๕/๒๕๖๕ ระหว่างนายนิพนธ์
เซ๊ะวิเศษ กับพวกรวม ๑๙ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม
๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
และความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี ทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5828 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 762 - 786/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 1295 - 1297/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 461 - 482/2565 ระหว่างนางสาวงามชื่น คูอมรพัฒนะ กับพวกรวม 30 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 6) เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และความรับผิดอย่างอื่น ของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจ ตามกฎหมาย | อส. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๗๖๒-๗๘๖/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๑๒๙๕-๑๒๙๗/๒๕๖๔ และคดีหมายเลขแดงที่ อ. ๔๖๑-๔๘๒/๒๕๖๕ ระหว่างนางสาวงามชื่น คูอมรพัฒนะ กับพวกรวม
๓๐ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน
ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
และความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคดี
ทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5829 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี | พม. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงินทั้งสิ้น
๒๗๙,๓๘๑,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นเงินอุดหนุนสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี
ที่ค้างจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวนทั้งสิ้น ๙๓,๑๒๗ ราย
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5830 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการสร้างรายได้ด้วยการรับงานไปทำที่บ้านเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางการสร้างรายได้ด้วยการรับงานไปทำที่บ้านเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานผลการศึกษาดังกล่าว
สรุปได้ว่า กระทรวงแรงงานได้มีกลขับเคลื่อนขับเคลื่อนแรงงานนอกระบบไปสู่การปฏิบัติผ่านศูนย์ประสานและสนับสนุนเครือข่ายแรงงานนอกระบบ
๗๖ จังหวัด ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบจังหวัดภาคประชาชน ๗๖ แห่ง หน่วยบริการชุมชนจังหวัดภาคประชาชน
๒๖๑ แห่ง
และมีการผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
พ.ศ. ....
ให้มีผลใช้บังคับในการรขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
รวมถึงได้กำหนดค่าตอบแทนในการรับงานไปทำที่บ้านอย่างเป็นธรรมตามพระราชบัญญัติผู้รับงานไปทำที่บ้าน
พ.ศ. ๒๕๕๓ และได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... โดยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้เป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับสภาพการจ้างงานที่รับงานไปทำที่บ้าน
และสอดคล้องกับหลักการมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
ตลอดจนได้มีการดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน
เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือแรงงาน
โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้กับพนักงานไปยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
และสิทธิอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5831 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน กรณีการชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2563 | สม. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
กรณีการชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๓ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔ และวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า
เห็นควรให้นำหลักการสำคัญสำหรับการบริหารจัดการการชุมนุมอย่างเหมาะสม ๑๐ ประการ
มาปรับใช้กับกรณีการชุมนุมทางการเมืองเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
และไม่ควรนำพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
มาใช้ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม
ส่วนประเด็นการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว
โดยได้กำหนดเวลาในการประเมินความเหมาะสมของกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๘
นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้กำหนดมาตรในการป้องกัน แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยแล้ว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5832 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การพิจารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูประบบด้านทันตสาธารณสุขไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุข ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา | สว. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การพิจารณาศึกษา ติดตาม เสนอแนะ
และเร่งรัดการปฏิรูประบบด้านทันตสาธารณสุขไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุข
ของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานผลการศึกษาดังกล่าว
สรุปได้ว่า การจัดตั้งกรมทันตสุขภาพเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามแผนยุทธศาสตร์ด้านทันตสาธารณสุขของประเทศอาจกระทบกับงบประมาณและรายจ่ายบุคลากรภาครัฐในระยะยาว
ประกอบกับการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒
มกราคม๒๕๖๒ ในการณีที่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งหน่วยงานใหม่ ควรระบุข้อเสนอให้ยุบเลิกหรือยุบรวมหน่วยงานที่มีอยู่เดิม
เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนทั้งในด้านภารกิจและงบประมาณ ทั้งนี้
กระทรวงสาธารณสุขจะรับไปพิจารณาเพื่อให้มีกลไกในการขับเคลื่อน จัดแผน
หรือแนวทางการพัฒนาระบบทันตสาธารณสุขที่มีความชัดเจนและมีส่วนร่วมตลอดจนการดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาศึกษานี้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5833 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2565 และวันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565) | ปสส. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ และวันจันทร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๕
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน
พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑๕
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันอังคารที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๕ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๑๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน
๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5834 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2565 และวันจันทร์ที่ 5 กันยายน 256)] | ปสส. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน
พ.ศ. .... ต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5835 | รายงานงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2546 ของการยางแห่งประเทศไทย | กษ. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของการยางแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้วเห็นว่างบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินและมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ในการรายงานครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (การยางแห่งประเทศไทย)
เร่งรัดการเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนพัฒนายางพารา
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดด้วย
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5836 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... | คค. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท ถนนสาย ก
ตามโครงการผังเมืองรวมสระแก้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าก่อนการก่อสร้างทางหลวงชนบททุกเส้นทาง
ควรให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางหลวงชนบทกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทันและอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรืออุทกภัยต่อไปในอนาคต
หากโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบทถนนสาย ก ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว
เป็นถนนผังเมืองรวมตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองรวม จะไม่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ
หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒
ควรตระหนักและให้ความสำคัญต่อระยะเวลาในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาในครั้งต่อไปด้วย
รวมทั้งควรเร่งรัดการดำเนินการสำรวจพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งทางบกอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5837 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการจัดหาเครื่องจักรกลสูบน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง | กษ. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖๖๓,๘๗๙,๓๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการจัดหาเครื่องจักรกลสูบน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
รวม ๓ รายการ จำนวน ๒๐๓ เครื่อง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรวางแผนการบริหารจัดการและบำรุงรักษาเครื่องจักรกลสูบน้ำให้เพียงพอ ตลอดจนบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
รวมทั้งขอให้กรมชลประทานจัดทำแผนบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำ สถานที่ติดตั้ง
และบูรณาการร่วมกับเครื่องจักรเครื่องมือที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5838 | ขอปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันของนักเรียน | ศธ. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่อง การขอปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันของนักเรียนออกไปก่อน
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5839 | รายงานประจำปี 2564 ของกองทุนการออมแห่งชาติ | กค. | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๔ ของกองทุนการออมแห่งชาติ
ประกอบด้วย ผลการดำเนินงาน แผนการดำเนินงาน รายงานการกำกับดูแลกิจการ และรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5840 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 15/2565 | นร.11 สศช | 06/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
เห็นชอบ และรับทราบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑๕/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ดังนี้ (๑) อนุมัติให้จังหวัดสกลนคร
จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดชัยนาท
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
ภายใต้เงื่อนไขว่าในกรณีที่จังหวัดไม่สามารถลงนามและผูกพันสัญญาในโครงการที่ได้รับอนุมัติภายในเดือนกันยายน
๒๕๖๕ ให้จังหวัดเสนอขอยกเลิกโครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป (๒)
อนุมัติให้จังหวัดสกลนคร จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่
ยกเลิกการดำเนินโครงการ จำนวน ๑๔ โครงการ และ ๕ กิจกรรมย่อย กรอบวงเงิน ๔๘,๗๖๘,๕๗๔.๗๕ บาท (๓)
อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน (เฟส ๓)
โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการฯ จากเดิมเดือนสิงหาคม ๒๕๖๕
เป็นเดือนธันวาคม ๒๕๖๕ (๔) มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการฯ เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ
eMENSCR ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็ว
และเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนข้อ
๑๙ และข้อ ๒๐ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ (๕) มอบหมายให้กระทรวงการคลัง
(สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ)
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
และพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ พิจารณาจัดเตรียมแหล่งเงินและกรอบวงเงินเพื่อรองรับกรณีการตรวจสอบเหตุทุจริต
(Fraud List) ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการอื่น ๆ
ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบการทุจริต อาทิ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการเราชนะ
โครงการคนละครึ่ง เสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๘ (๓)
แห่งพระราชกำหนดฯ และ (๖) รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ราย ๓ เดือน ครั้งที่ ๙ (๑ พฤษภาคม-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕) พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ตามขั้นตอนของระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
ข้อ ๑๙ และ ๒๐ สำหรับโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกู้ตามโครงการอีก
หากมีเงินกู้เหลือจ่ายของโครงการนั้น
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานเงินกู้เหลือจ่ายให้กระทรวงการคลังทราบ
และส่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายเข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังในโอกาสแรก เพื่อให้การบริหารจัดการเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกำกับติดตามหน่วยงานในสังกัดให้ดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนด
ให้เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|