ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 671 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13401 - 13420 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13401 | รายงานสถานการณ์ภัยแล้งและมาตรการรับมือ | นร | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานการณ์ภัยแล้งและมาตรการรับมือ ประกอบด้วย (๑) สรุปสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ (๒) พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง (๓) การติดตามผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี ๒๕๖๑/๒๕๖๒ และ (๔) การกำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13402 | ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง | กต | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Project of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund) มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้กองทุนอย่างสูงสุด และร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Memorandum of Understanding between Ministry of Foreign Affairs and Mekong Institute) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประสานงานระดับชาติของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างของประเทศสมาชิก โดยจะมีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ในวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อฉลองสัปดาห์แม่โขง-ล้านช้าง (MLC Week) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๘-๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กระทรวงการต่างประเทศ ๑.๒ อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ๑.๓ อนุมัติให้อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสถาบันความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในขั้นตอนการประเมินผลโครงการ ขอให้พิจารณาประเด็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันของโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างกับโครงการภายใต้แผนงานความร่วมมืออื่น ๆ ที่มีอยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อให้การดำเนินงานของประเทศไทยเป็นไปอย่างมีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13403 | ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 7 | คค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๗ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ซี่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CBTA) การขยายพิธีสาร ๑ ของความตกลง CBTA (เส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ จุดข้ามแดน) สถานะของการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (IICABTAs) และการติดตามและประเมินผล โดยจะมีการลงนามร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๗ ในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13404 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (IICABTA) ในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย-เมียนมา และร่างบทเพิ่มเติม (Addendum) | คค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (IICBTA) ในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย-เมียนมา และร่างบทเพิ่มเติม (Addendum) รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา ส่วนร่างบทเพิ่มเติม มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในการประชุมคณะกรรมการร่วมสำหรับความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๗ ในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ภายหลังจากที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว ในลำดับต่อไปควรเร่งรัดการเจรจาความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมาในการดำเนินงานตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (CBTA) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้มีการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย-เมียนมา ผ่านจุดผ่านแดนและเส้นทางที่สำคัญตามแนวระเบียงเศรษฐกิจอื่นระหว่างไทย-เมียนมาต่อไป อาทิ ณ จุดผ่านแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก และตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (NSEC) และ ณ จุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อน-บ้านทีกิ เมืองทวาย และตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (SEC) ที่เชื่อมโยงกับโครงการทวาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13405 | ขอความเห็นชอบเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2561/62 (เพิ่มเติม) | พณ | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการเพิ่มกรอบวงเงินในการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๑/๖๒ จำนวน ๕,๐๖๘.๗๓ ล้านบาท ประกอบด้วย (๑) เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวฯ จำนวน ๔,๙๕๙.๔๗ ล้านบาท และ (๒) ค่าบริหารจัดการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน ๑๐๙.๒๖ ล้านบาท ได้แก่ ค่าชดเชยต้นทุนเงิน จำนวน ๑๐๗.๘๗ ล้านบาท และค่าบริหารจัดการฯ จำนวน ๑.๓๙ ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับกรอบวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้วเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑ จำนวน ๕๗,๗๒๒.๖๒ ล้านบาท รวมเป็นกรอบวงเงินทั้งสิ้น ๖๒,๗๙๑.๓๕ ล้านบาท โดยให้ ธ.ก.ส. จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามผลการดำเนินการจริงเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้ ธ.ก.ส. จะต้องจัดทำบัญชีสำหรับการดำเนินโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๑/๖๒ แยกต่างหากจากบัญชีการดำเนินงานทั่วไป โดยแยกเป็นบัญชีโครงการตามนโยบายของรัฐบาล (Public Service Account : PSA) พร้อมทั้งเสนอรายงานผลการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและผลสัมฤทธิ์ต่อรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และควรมีการติดตามผลการดำเนินงานและประเมินผลสำเร็จของโครงการในการบริหารจัดการสินค้าข้าวทั้งหมดอย่างเป็นระบบในภาพรวม เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในปีต่อ ๆ ไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13406 | งบประมาณโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก | พณ | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๕๖,๒๐๒,๖๙๘.๓๕ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการจัดเก็บเอกสารหลักฐานการรับและจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยโครงการฯ ให้ครบถ้วน เพื่อความถูกต้อง โปร่งใส และสามารถติดตามตรวจสอบการดำเนินงานในระยะต่อไปได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13407 | ทบทวนโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบเฉพาะฤดูการผลิต 2561/2562 | กค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณรับซื้อใบยาสูบเฉพาะฤดูการผลิต ๒๕๖๑/๒๕๖๒ โดยให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบภายใต้สังกัดผู้บ่มอิสระ และผู้บ่มอิสระซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยา มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการฯ ในสัดส่วนตามต้นทุนดำเนินการระหว่างผู้บ่มอิสระกับเกษตรกรผู้เพาะปลูกขายใบยาสด ๗๐ : ๓๐ ของเงินช่วยเหลือสำหรับใบยาเวอร์ยิเนีย ๑๗.๕๐ บาทต่อกิโลกรัม โดยผู้บ่มอิสระได้รับเงินช่วยเหลือ ๑๒.๒๕ บาทต่อกิโลกรัม และเกษตรกรผู้เพาะปลูกขายใบยาสดได้รับเงินช่วยเหลือ ๕.๒๕ บาทต่อกิโลกรัม รวมทั้งการจัดสรรค่าธรรมเนียมการบริการโอนเงินแก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รายละ ๕ บาท โดยเจียดจ่ายจากกรอบวงเงินงบประมาณของโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย และ ธ.ก.ส. รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้การยาสูบแห่งประเทศไทยปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. ๒๕๕๙ อย่างเคร่งครัด และในระยะต่อไป หากมีการดำเนินโครงการในลักษณะให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส. ควรให้ ธ.ก.ส. ส่งเสริมการใช้บริการพร้อมเพย์ (PromptPay) ให้สามารถดำเนินการในโครงการของรัฐได้ เพื่อลดภาระงบประมาณในการจัดสรรค่าธรรมเนียมและบริการโอนเงินให้แก่ ธ.ก.ส. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13408 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (นายนรินทร์ กัลยาณมิตร) | กค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนรินทร์ กัลยาณมิตร เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ แทน นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่มีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13409 | การแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (นายสุทธิพล ทวีชัยการ) | กค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ต่ออีกหนึ่งวาระ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13410 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร (จำนวน 5 คน 1. ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ฯลฯ) | กค | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร จำนวน ๕ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ๒. นายนำชัย เอกพัฒนพานิชย์ ๓. นายวิชญายุทธ บุญชิต ๔. นายเศกสรรค์ เรืองโวหาร ๕. นายสุรชาติ จันทวัชรากร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13411 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 25/2562 เป็นพิเศษ ครั้งที่ 26/2562 เป็นพิเศษ และครั้งที่ 27/2562 | นร | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๒๖/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๒ และครั้งที่ ๒๗/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13412 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. ....) | มท | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสนับสนุนให้เจ้าพนักงานของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง หรือดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13413 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางเทพีวรรณ จิตรวัชรโกมล) | วท | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเทพีวรรณ จิตรวัชรโกมล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ทรงคุณวุฒิ (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิเคราะห์ทดสอบ) กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13414 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex บางละมุง) | พม | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex บางละมุง) ภายใต้กลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินโครงการฯ เมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๑ กรมธนารักษ์มีหนังสืออนุญาตให้กรมกิจการผู้สูงอายุใช้ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.๒๑๙ (บางส่วน) ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ ๔๘-๑-๔๒ ไร่ เพื่อดำเนินโครงการฯ และเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๒ กรมกิจการผู้สูงอายุได้ลงนามในบันทึกรับทราบแนวเขตที่ราชพัสดุ และยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ที่ราชพัสดุ ๒. พื้นที่ที่จะดำเนินโครงการฯ เป็นที่ดินราชพัสดุ ชบ.๒๑๙ ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นประเภทสถาบันราชการการสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ (พื้นที่สีน้ำเงิน) ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการเสนอเรื่องเพื่อขอแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมและชุมชนแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยเพิ่มข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ได้ในที่ดินบริเวณดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. งบประมาณในการดำเนินโครงการฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการฯ เพื่อวิเคราะห์โครงการฯ ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ใช้ระยะเวลาในการศึกษา ๕ เดือน (ตุลาคม ๒๕๖๑-กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบความสนใจของนักลงทุนภาคเอกชน (Market Sounding) ร่างประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุน ร่างขอบเขตโครงการ และร่างสัญญาตามมาตรา ๓๓ ภายใต้พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13415 | ผลการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 26 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 30 | กต | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๖ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ โดยมีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม รวมทั้งผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๓๐ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ (นางสาวอรุณี พูลแก้ว) เข้าร่วมการประชุม โดยสาระสำคัญของการประชุมได้มีการหารือถึงประเด็นขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจเอเปค เช่น การสนับสนุนการค้าพหุภาคีภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อนำไปสู่การเจริญเติบโตที่ครอบคลุม เป็นต้น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องตามนัยตารางสรุปประเด็นติดตามผลการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๖ ตารางสรุปประเด็นติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๓๐ และตารางสรุปการติดตามผลการหารือทวิภาคีของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เช่น การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล การเสริมสร้างขีดความสามารถของ MSMEs และการจัดทำวิสัยทัศน์เอเปคหลังปี ๒๕๖๓ และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรเอเปค เป็นต้น ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปในโอกาสแรก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13416 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนมกราคม 2562 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ ฉบับ ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง และเป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๑๕ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๔ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๔ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๗๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างจัดทำ จำนวน ๔๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๗ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๘ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13417 | สรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 47 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2561-31 ตุลาคม 2561) และสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 48 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2561-30 พฤศจิกายน 2561) (ครั้งที่ 47) | นร04 | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๔๗ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๑) และสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๔๘ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) ซึ่งมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์และส่งเสริมความสามัคคีสมานฉันท์ในพื้นที่ และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ของศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และ (๒) การบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย ด้านความมั่นคง ด้านสังคมจิตวิทยา ด้านเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้านการต่างประเทศ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13418 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 8/2561 | นร04 | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ ๘/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ ตามที่ กขร. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการจัดทำโครงการกำหนดเขตป่าชายเลนและอนุรักษ์ในพื้นที่ป่าชายเลน และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๒ เดือน ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบต่อไป ๒. ที่ประชุมรับทราบแนวคิดการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์รวบรวมพันธุ์และจัดแสดงกล้วยไม้บริเวณพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปพิจารณาปรับปรุงและจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน ๒ เดือน โดยให้ดำเนินตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓. ที่ประชุมรับทราบแนวคิดการดำเนินโครงการโชห่วยออนไลน์ และเห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรรับความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการ โดยให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๔. ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ และเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ และเห็นควรให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) เร่งรัดนำ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ เสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๒ เดือน ๕. ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มจัดหางาน (Job Demand Open Platform) และเห็นควรให้กระทรวงแรงงานพิจารณาปรับปรุงและจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน ๒ เดือน และดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๖. ที่ประชุมรับทราบหลักการของโครงการเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานส่งเสริมวิสาหกิจขุมชน และเห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปพิจารณาปรับปรุงและจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน ๒ เดือน ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหารือในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๗. ที่ประชุมรับทราบหลักการของโครงการนักบริหารชุมชน และเห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย รับความเห็นและข้อสังเกตที่ประชุมไปพิจารณาปรับปรุงและจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม และเร่งรัดนำโครงการดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาภายใน ๒ เดือน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13419 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 24 - 26 ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | คค | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ ๒๔-๒๖ ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ โดยผลการประชุมที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ ๒ ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย การเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ การฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านรถไฟความเร็วสูง และความร่วมมือด้านการเงิน ตามที่คณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีนเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13420 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 (เพิ่มเติม) | ทส | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ (เพิ่มเติม) เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๕ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำนวน ๒ เรื่อง ๑.๑ โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๒ ของการเคหะแห่งชาติ ๑.๒ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ของการไฟรถแห่งประเทศไทย ๒. เรื่องเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด จำนวน ๓ เรื่อง ๒.๑ รายงานความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณในการจัดการขยะมูลฝอยภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ๒.๒ รายงานการติดตามประเมินผลแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ๒.๓ แนวทางการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการอุดหนุนงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการฯ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ
|
.....