ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 679 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13561 - 13580 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13561 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 2 คน 1. นายพีระ รัตนวิจิตร ฯลฯ) | ศธ | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายพีระ รัตนวิจิตร ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒. นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13562 | การรับโอนข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศาสตราจารย์สัมพันธ์ ฤทธิเดช) | ศธ | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน ศาสตราจารย์สัมพันธ์ ฤทธิเดช ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13563 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 13 คน 1. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ฯลฯ) | กค | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวม ๑๓ คน แทนรองประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ รองประธานกรรมการ ๒. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๔. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กรรมการ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๕. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข กรรมการ ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๖. นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม กรรมการ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ๗. นายทองลักษณ์ หาญศึก กรรมการ ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น ๘. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการ ๙. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการ ๑๐. นายวัชระ ฉัตรวิริยะ กรรมการ ๑๑. นายลือชัย ชัยปริญญา กรรมการ ๑๒. นายสุวิชญ โรจนวานิช กรรมการ ๑๓. นางอมรา กลับประทุม กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13564 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (จำนวน 2 คน 1. พันเอก เจียรนัย วงศ์สอาด ฯลฯ) | กค | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ แทนผู้ที่ลาออก จำนวน ๒ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. พันเอก เจียรนัย วงศ์สอาด เป็นกรรมการ แทน นายอวยชัย คูหากาญจน์ ๒. นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร เป็นกรรมการ แทน ศาสตราจารย์นฤมล สอาดโฉม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13565 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (จำนวน 3 คน 1. นายสุรพล สร้างสมวงษ์ ฯลฯ) | คค | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จำนวน ๓ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายสุรพล สร้างสมวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๒. นายฐิติศักดิ์ สกุลครู กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินหรือการคลัง ๓. นายพงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารจัดการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13566 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์) | สธ | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่น เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13567 | การแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (จำนวน 7 คน 1. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ฯลฯ) | สธ | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว รวม ๗ คน แทนประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการ ๒. นายชัชวาล เตละวาณิชย์ กรรมการผู้แทนชุมชน ๓. นายณัชธพงศ์ ลีกิจแสงเจริญกุล กรรมการผู้แทนชุมชน ๔. นายจิโรจน์ ทองเต็ม กรรมการผู้แทนชุมชน ๕. นายวิศิษฎ์ ตั้งนภากร กรรมการผู้แทนชุมชน ๖. นางวชิราวรรณ อิทธิถาวร กรรมการผู้แทนชุมชน ๗. นายเรวัตชัย พลับประสิทธิ์ กรรมการผู้แทนชุมชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13568 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นายสมคิด กฤษณะวณิช) | กก | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสมคิด กฤษณะวณิช เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13569 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร) | นร04 | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13570 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านเศรษฐกิจ โดยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเร่งประสานงานและบูรณาการการบริหารจัดการน้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลงเป็นลำดับ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเร่งดำเนินการบูรณะฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติต่าง ๆ ในพื้นที่ ให้สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งให้รณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนและเกษตรกรในการใช้น้ำอย่างประหยัด โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก และให้ควบคุมดูแลการบริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสมโดยขอความร่วมมือเกษตรกรให้หลีกเลี่ยงการทำการเกษตรในพื้นที่นอกเขตชลประทานด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13571 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 11/2562 เป็นพิเศษ ครั้งที่ 12/2562 เป็นพิเศษ และครั้งที่ 13/2562 เป็นพิเศษ | นร | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ และครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13572 | กำหนดให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ | นร | 12/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นกลไกหลักร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13573 | สรุปรายงานการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว World Travel Market (WTM) 2018 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร | กก | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยว World Travel Market (WTM) 2018 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ ๕-๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยงาน WTM 2018 เป็นการส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในตลาดท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และเจรจาธุรกิจระหว่างกัน โดยในส่วนของประเทศไทยได้ชูจุดขายอเมซิ่งไทยแลนด์ “วิถีกิน วิถีถิ่น” ซึ่งได้มีการจัดพื้นที่ภายในงานสำหรับการเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย การนำเสนอภาพแหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Eat Thai Visit Thai” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เป็นต้น สำหรับพิธีเปิดคูหาประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เป็นประธานในพิธีนำดอกไม้ที่ทำเป็นรูป “รอยยิ้ม” ที่สื่อถึงรอยยิ้มของคนไทยที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี นำไปวางติดใต้โลโก้ Amazing Thailand เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ประเทศไทย ทั้งนี้ ประโยชน์จากการเข้าร่วมงาน WTM 2018 เป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้กับภาคเอกชนไทยได้พบปะเจรจาซื้อขายธุรกิจท่องเที่ยวกับคู่ค้า ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนได้รับทราบแนวโน้มทางการท่องเที่ยวของโลก และสามารถใช้โอกาสในการเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นเวทีในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และนำเสนอขายการท่องเที่ยวจังหวัดรอง เพื่อช่วยเพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรและประเทศต่าง ๆ เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13574 | รัฐบาลสาธารณรัฐสิงคโปร์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย (นายเควิน ฉ็อก) | กต | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเควิน ฉ็อก (Mr. Kevin Cheok) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางฉั่ว ซิ่ว ซาน (Mrs. Chua Siew San) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13575 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนธันวาคม 2561 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๕ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง และเป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๑๖ เรื่อง โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๑๕ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมายต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๔ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนว ๔ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรมนูญมีทั้งหมด จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมายที่ต้องจัดทำทั้งหมด จำนวน ๗๘ เรื่อง โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างจัดทำ จำนวน ๔๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๗ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ มีทั้งหมด จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๘ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13576 | ผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ | กห | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) พร้อมคณะ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ มกราคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าเยี่ยมคำนับ นายเหวียน ฝู จ่อง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยได้หารือถึงการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านแรงงาน การประมง และการส่งออกสินค้าประเภทรถยนต์ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยฝ่ายไทยกล่าวย้ำถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๒ ซึ่งรัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) ๒. การเข้าเยี่ยมคำนับ พลเอก โง ซวน หลิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยฝ่ายเวียดนามขอให้มีการจัดทำแผนพัฒนาความร่วมมือทางทหาร ระยะเวลา ๓ ปี (ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๕) ภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามที่ได้ลงนามไว้แล้ว รวมทั้งพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนของไทย และขอให้ไทยสนับสนุนการจัดกิจกรรมทางทหารอาเซียน เช่น การสวนสนามทางเรือ และการประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ในโอกาสที่เวียดนามจะเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนในปี ๒๕๖๓ และได้เชิญให้ไทยเข้าร่วมโครงการพรมแดนมิตรภาพ ๖ ประเทศด้วย ๓. การเยี่ยมชมกองบัญชาการทหารเรือที่ ๕ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และการร่วมหารือกับ นาวาเอกพิเศษ เกวียน ซวย ตี่ ผู้บัญชาการภาคทหารเรือที่ ๕ ในประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการบูรณาการความร่วมมือทางทหารในประเด็นต่าง ๆ เช่น การจัดระเบียบทางทะเล การแก้ปัญหาความมั่นคงทางทะเล และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและการไว้เนื้อเชื่อใจกันจะทำให้บรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13577 | รายงานผลการเข้าร่วมการประชุม Abu Dhabi International Petroleum Exhibition and Conference 2018 (ADIPEC) ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | พน | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมการประชุม Abu Dhabi International Petroleum Exhibition and Conference 2018 (ADIPEC) ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายศิริ จิระพงษ์พันธ์) ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุม ADIPEC ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย รวมทั้งร่วมกันอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนในอนาคต โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เข้าร่วมอภิปรายร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ราชอาณาจักรฮัซไมต์จอร์แดน และสาธารณรัฐซูดาน ในหัวข้อ “Building Foundations and Expanding Collaborations for a United Sustainable Global Energy Industry” โดยนำเสนอประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ (๑) ควรกำหนดราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพและสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มประเทศต่าง ๆ โดยคำนึงถึงการเติบโตของอุปสงค์และอุปทานด้านพลังงาน รวมถึงก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas : LNG) (๒) ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบพลังงานไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น และเล็งเห็นถึงความสำคัญและการใช้ประโยชน์ของพื้นที่อ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนในการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ (๓) ประเทศไทยมีแผนที่จะเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานโดยสร้างการเชื่อมโยงด้านพลังงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ๒. ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันทั้งที่เป็นสมาชิก OPEC และประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก OPEC ได้หารือร่วมกันและรายงานให้ที่ประชุม ADIPEC ทราบว่า กลุ่มประเทศ OPEC และกลุ่มประเทศผู้บริโภคน้ำมันจะร่วมมือกันรักษาความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานด้านราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องและมีราคาสมเหตุสมผล โดยกำหนดเป้าหมายราคาขั้นต่ำที่ ๖๐ ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และให้กำลังการผลิตน้ำมันสูงขึ้นไปถึง ๑๐๐-๑๑๐ ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าน้ำมันจะไม่ขาดตลาด ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกะทรวงพลังงานและอุตสาหกรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานในมิติต่าง ๆ เช่น ปิโตรเลียม พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป และการหารือทวิภาคีกับประธานบริหารบริษัท CEPSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันเอกชนแบบครบวงจรของราชอาณาจักรสเปน โดยประธานบริหารบริษัท CEPSA ได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานของบริษัท CEPSA ในประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13578 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน พ.ศ. .... | นร01 | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนและที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตรวจราชการและติดตามการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และบรรลุเป้าหมาย วัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การสรรหาที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ควรมีความโปร่งใสและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลครอบคลุมทุกสหวิชาชีพ รวมทั้งร่างระเบียบดังกล่าวควรกำหนดนิยามของที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนในการสะท้อนข้อเท็จจริงและประเด็นปัญหาในพื้นที่ได้อย่างสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส โดยในขั้นตอนการตรวจราชการในพื้นที่ ควรประมวลข้อมูลความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูล ความเห็น ข้อเท็จจริงจากประชาชนผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างรอบด้านตามเจตนารมณ์ของการตรวจราชการ นอกจากนี้ การกำหนดให้ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนมีหน้าที่เข้าร่วมการตรวจราชการกับผู้ตรวจราชการภาคประชาชนอาจมีผลทำให้ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลบางประการที่เป็นความลับของทางราชการ จึงควรเพิ่มมาตรการรักษาความลับของทางราชการในหมวดที่ ๓ มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่และจริยธรรมของที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนในร่างระเบียบดังกล่าว ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13579 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง "การพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีข้อมูล (Data Science and Technology) เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม" ของคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง “การพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีข้อมูล (Data Science and Technology) เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ โดยมีความเห็นต่อข้อเสนอแนะว่า มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในด้านการบริหารจัดการงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมในสาขาเป้าหมาย และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และมีผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลจากส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวทางการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของทุกหน่วยงานเพื่อจัดทำเป็นภาพรวม ได้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ www.codingthailand.org เพื่อสนับสนุนการพัฒนากำลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในการเรียนรู้ตรรกะการเขียนโปรแกรมและการใช้ข้อมูลขั้นพื้นฐานได้ด้วยตนเอง เป็นต้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำรายงานเชิงลึก เรื่อง การพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจฐานดิจิทัลของประเทศไทย (Insights on Digitalization of Thailand Industry White Paper) ได้เสนอแนะแนวทางการพัฒนา ๓๙ แนวทาง ครอบคลุมถึงการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และทุนมนุษย์ นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้วิทยาการข้อมูลเพื่อการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ โดยรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรน้ำและภูมิอากาศ จำนวน ๓๕ หน่วยงาน ปัจจุบันมีข้อมูลทั้งหมด ๓๘๘ รายการ ทั้งข้อมูลติดตามสภาพอากาศและข้อมูลติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
13580 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 05/02/2562 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีข้อสังเกตว่าการเพิ่มหน้าที่และอำนาจให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกระเบียบกำหนดเบี้ยประชุมสำหรับข้าราชการตุลาการซึ่งเข้าร่วมการประชุมใหญ่ในศาลชั้นอุทธรณ์หรือศาลฎีกานั้น คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมควรกำหนดจำนวนขั้นสูงของการจัดประชุมต่อเดือนไว้ให้ชัดเจน รวมทั้งควรกำหนดเบี้ยประชุมมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับภาพรวมของค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐด้วย ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้พิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้ยกร่างระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยเบี้ยประชุมในการประชุมใหญ่ในศาลฎีกาและศาลชั้นอุทธรณ์ พ.ศ. .... โดยพิจารณาถึงเนื้อหาของร่างระเบียบฯ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาเห็นชอบ รวมถึงได้คำนึงถึงประเด็นตามข้อสังเกตดังกล่าวด้วยแล้ว ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....